Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

Pajerosport Room => ดูแลและบำรุงรักษา/เทคนิค/ปัญหา/การแก้ไขน้องปา => ข้อความที่เริ่มโดย: Investigation ที่ กันยายน 23, 2012, 06:00:33 pm



Languages

หัวข้อ: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Investigation ที่ กันยายน 23, 2012, 06:00:33 pm
ท่านสมาชิกครับ กระผมได้ข้อมูลมา  
รถ BMW 320d Sport
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ      
ขนาดเครื่องยนต์ 1995 ซีซี.
กำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ระหว่าง 1,900-2,750 รอบ

ทำไมรีดเเรงม้า  เเละเเรงบิดออกมาได้มากจัง  ต่างกับ   M pajero sport 2.5 vg  อย่างไร บ้างครับ
ช่วยอธิบายเเละเปรียบเทียบข้อมูลทางเทคนิค ให้สมาชิกตัวน้อยๆอย่างกระผมรู้ ด้วยครับ

ขอบคุณท่านสมาชิกมากครับ    สาธุ    สาธุ    สาธุ




หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: darkisumi ที่ กันยายน 23, 2012, 06:56:45 pm
เบื้องต้นนะครับ
แรงดันคอมมอนเรล หัวฉีด และการออกแบบห้องเผาไหม้ ใช้แนวทางและเทคโนโลยีที่ต่างกันมาก
และที่สำคัญ จุดมุ่งหมายของการออกแบบเพื่อการใช้งานต่างกันครับ
ยังไม่รวมถึงเหตุผลในการออกแบบเพื่อรองรับของน้ำหนักรถ และน้ำหนักบรรทุกครับป๋า :D


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Investigation ที่ กันยายน 23, 2012, 07:06:06 pm
เบื้องต้นนะครับ
แรงดันคอมมอนเรล หัวฉีด และการออกแบบห้องเผาไหม้ ใช้แนวทางและเทคโนโลยีที่ต่างกันมาก
และที่สำคัญ จุดมุ่งหมายของการออกแบบเพื่อการใช้งานต่างกันครับ
ยังไม่รวมถึงเหตุผลในการออกแบบเพื่อรองรับของน้ำหนักรถ และน้ำหนักบรรทุกครับป๋า :D

ท่านครับคำว่า "ใช้แนวทางและเทคโนโลยีที่ต่างกันมาก"
มีอะไรบ้างครับที่เเตกเเต่ง

ขอบคุณท่านมากครับ    สาธุ    สาธุ    สาธุ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: darkisumi ที่ กันยายน 23, 2012, 07:30:38 pm
ตอบโดยความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
"แนวทางและเทคโนโลยีที่ต่างกัน"

แนวทาง
BMW ทางที่ผ่านมาของเครื่องดีเซลในค่ายบัดพัดสีฟ้า คือรถซีดานที่มีสมรรถนะที่ค่อนไปทางสูง ขับสนุกและประหยัดน้ำมัน (ประหยัดน้ำมันเป็นจุดขายหลัก)
mitsubishi ทางที่ผ่านมาเครื่องดีเซลในค่ายนี้ คือรถบรรทุก(หรือPPV) หรือรถSUV ซึ่งไม่เน้นไปที่มรรถนะของการขับขี่ แต่มุ่งหวังไปทางภาระหรือการแบกน้ำหนัก

เทคโนโลยี
จริงๆแล้วอย่างที่รู้กันในหมู่คนเล่นรถ คือ เทียบกันไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ทีมวิจัยและพัฒนา ราคาค่าตัวที่ต่างกันมาก(เฉพาะเครื่องยนต์ และสมองกล)
ซึ่งเป็นผลมาจากแนวทาง และเป้าหมาย หรือระดับของผู้ใช้รถ
เบื้องต้นนะครับ ถ้าจะเอาทั้งหมด ผมคงไม่มีความสามารถอธิบายได้หมดครับ เพราะก็ไม่ได้ทราบอะไรมาก เพียงแต่ใช้รถดีเซลยี่ห้อข้างต้นทั้งคู่ครับ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Investigation ที่ กันยายน 23, 2012, 07:38:56 pm
ตอบโดยความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
"แนวทางและเทคโนโลยีที่ต่างกัน"

แนวทาง
BMW ทางที่ผ่านมาของเครื่องดีเซลในค่ายบัดพัดสีฟ้า คือรถซีดานที่มีสมรรถนะที่ค่อนไปทางสูง ขับสนุกและประหยัดน้ำมัน (ประหยัดน้ำมันเป็นจุดขายหลัก)
mitsubishi ทางที่ผ่านมาเครื่องดีเซลในค่ายนี้ คือรถบรรทุก(หรือPPV) หรือรถSUV ซึ่งไม่เน้นไปที่มรรถนะของการขับขี่ แต่มุ่งหวังไปทางภาระหรือการแบกน้ำหนัก

เทคโนโลยี
จริงๆแล้วอย่างที่รู้กันในหมู่คนเล่นรถ คือ เทียบกันไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ทีมวิจัยและพัฒนา ราคาค่าตัวที่ต่างกันมาก(เฉพาะเครื่องยนต์ และสมองกล)
ซึ่งเป็นผลมาจากแนวทาง และเป้าหมาย หรือระดับของผู้ใช้รถ
เบื้องต้นนะครับ ถ้าจะเอาทั้งหมด ผมคงไม่มีความสามารถอธิบายได้หมดครับ เพราะก็ไม่ได้ทราบอะไรมาก เพียงแต่ใช้รถดีเซลยี่ห้อข้างต้นทั้งคู่ครับ
ขอบคุณท่านมากครับ   สาธุ    สาธุ   สาธุ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: chan ที่ กันยายน 23, 2012, 07:42:24 pm
แค่ระบบหัวฉีดก็กินขาดแล้วอย่างอื่นไม่อย่างอธิบาย  

ระบบหัวฉีด PIEZO เทคโนโลยีดีเซลใหม่ของ บีเอม ฯ
บีเอมดับเบิลยู เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลสมรรรถนะสูง โดยร่วมกับผู้ผลิตอุปกรณ์รายใหญ่อย่าง โบช (BOSCH) แม้ปัจจุบัน เครื่องยนต์ดีเซลของ บีเอมดับเบิลยู ที่จำหน่ายทั่วไปจะพัฒนาถึงเจเนอเรชันที่ 3 แล้ว ทว่าการพัฒนาด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ก็ยังเป็นสิ่งที่หยุดนิ่งไม่ได้

บีเอมดับเบิลยู ได้ปรับปรุงระบบหัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิงและปั๊มแรงดันสูง จนประหยัดกว่าเครื่องยนต์ ทั่วไปในพิกัดเดียวกัน อย่างน้อย 10-15 % และผลพลอยได้ที่เจ๋งขึ้น คือ มลพิษยังลดลงเป็นเท่าตัว

เป้าหมายหลักของการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล คือ ต้องการให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพด้านการใช้เชื้อเพลิงอย่างสูงสุด พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องการให้ใช้เชื้อเพลิงทุกหยดอย่างคุ้มค่า และมีการเผาไหม้ที่สะอาดหมดจด แต่ผลที่ได้เพิ่มอีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น อย่างน่าพอใจ

การพัฒนาระบบควบคุมอีเลคทรอนิคส์มาใช้ในเครื่องยนต์ดีเซล กับหัวฉีดของระบบจ่ายเชื้อเพลิงแรงดันสูง 20,000 ปอนด์ ถูกพัฒนาเพื่อต้องการฉีดให้น้ำมันเชื้อเพลิงแตกตัวละเอียดมากขึ้น เพราะถ้าน้ำมันดีเซลยิ่งฉีดเป็นละอองละเอียดมากเท่าไร การเผาไหม้ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแรงดันสูงอย่าง คอมมอนเรล (COMMON RAIL) หรือแม้แต่ระบบ ยูนิท อินเจคเตอร์ (UNIT INJECTOR)

สำหรับเทคโนโลยีของคอมมอนเรล ที่ใช้ในรถยนต์ บีเอมดับเบิลยู รุ่นล่าสุด ซึ่งเปิดตัวในบ้านเราเมื่อไม่กี่วันนี้ ได้นำเทคโนโลยีที่ถือว่าเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ออกมาใช้ มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ในส่วนของระบบหัวฉีดแบบใหม่ ที่เรียกว่า PIEZO มีความสามารถในการสร้างฝอยละอองได้ละเอียดมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงในส่วนของปั๊มให้มีแรงดันสูงขึ้นอีกหน่อย ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพ สามารถลดปริมาณของมลพิษ และช่วยเพิ่มสมรรถนะได้อีกทางหนึ่ง

เทคโนโลยีของหัวฉีด PIEZO ผลิตจากผลึกเซรามิค นำมาใช้แทนโซลินอยด์เดิม การทำงานนั้นใช้หลักการยืดและหดตัวของผลึกแร่ควอร์ทซ์ที่บางมาก ทำงานร่วมกับเซรามิค เพื่อรับการกระตุ้นจากกระแสไฟฟ้า ซึ่งปฏิกิริยาดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเศษเสี้ยววินาที

หัวฉีดใหม่นี้มีประสิทธิภาพในการฉีดน้ำมันได้เร็ว และมีความถี่ในการฉีดสูงกว่าเดิมมากๆ สามารถฉีดน้ำมันได้ต่อเนื่องตั้งแต่ 2-5 ครั้ง ส่งผลให้การเผาไหม้หมดจด เนื่องจากมีความต่อเนื่องในการเผาไหม้ดีกว่า ที่สำคัญสามารถลดแรงกระแทกที่เกิดจากการจุดระเบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทียบกับหัวฉีดเดิมที่สามารถฉีดได้มากสุดเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ทำให้สามารถเพิ่มแรงม้าและแรงบิดได้ไม่น้อยกว่า 10-15 % อย่างที่กล่าวไป

ผลที่เห็นได้ชัดอีกอย่าง คือ การตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ฉับไวกว่า เพราะมีการเผาไหม้ที่รวดเร็วขึ้น และลดปัญหาการเผาไหม้ล่าช้าในจังหวะที่กดคันเร่งมิด กรณีเร่งแซง จะเห็นชัดว่าควันดำลดลง เพราะความรวดเร็วในการเผาไหม้เพิ่มขึ้น แก้ปัญหาพื้นฐานของเครื่องยนต์ดีเซล คือ ความล่าช้าในการเผาไหม้ได้ชะงัดทีเดียว

อย่างไปเทียบกันเลยค่าตัวมันต่างกันแยะ  smile..


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: darkisumi ที่ กันยายน 23, 2012, 07:49:44 pm
ขอบคุญป๋าชาญมากครับ ที่มาอธิบายอย่างละเอียดเลยครับ
ข้อมูลแน่นมากเลย ข้าน้อยขอขารวะ สาธุ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Investigation ที่ กันยายน 23, 2012, 07:51:39 pm
แค่ระบบหัวฉีดก็กินขาดแล้วอย่างอื่นไม่อย่างอธิบาย  

ระบบหัวฉีด PIEZO เทคโนโลยีดีเซลใหม่ของ บีเอม ฯ
บีเอมดับเบิลยู เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลสมรรรถนะสูง โดยร่วมกับผู้ผลิตอุปกรณ์รายใหญ่อย่าง โบช (BOSCH) แม้ปัจจุบัน เครื่องยนต์ดีเซลของ บีเอมดับเบิลยู ที่จำหน่ายทั่วไปจะพัฒนาถึงเจเนอเรชันที่ 3 แล้ว ทว่าการพัฒนาด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ก็ยังเป็นสิ่งที่หยุดนิ่งไม่ได้

บีเอมดับเบิลยู ได้ปรับปรุงระบบหัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิงและปั๊มแรงดันสูง จนประหยัดกว่าเครื่องยนต์ ทั่วไปในพิกัดเดียวกัน อย่างน้อย 10-15 % และผลพลอยได้ที่เจ๋งขึ้น คือ มลพิษยังลดลงเป็นเท่าตัว

เป้าหมายหลักของการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล คือ ต้องการให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพด้านการใช้เชื้อเพลิงอย่างสูงสุด พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องการให้ใช้เชื้อเพลิงทุกหยดอย่างคุ้มค่า และมีการเผาไหม้ที่สะอาดหมดจด แต่ผลที่ได้เพิ่มอีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น อย่างน่าพอใจ

การพัฒนาระบบควบคุมอีเลคทรอนิคส์มาใช้ในเครื่องยนต์ดีเซล กับหัวฉีดของระบบจ่ายเชื้อเพลิงแรงดันสูง 20,000 ปอนด์ ถูกพัฒนาเพื่อต้องการฉีดให้น้ำมันเชื้อเพลิงแตกตัวละเอียดมากขึ้น เพราะถ้าน้ำมันดีเซลยิ่งฉีดเป็นละอองละเอียดมากเท่าไร การเผาไหม้ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแรงดันสูงอย่าง คอมมอนเรล (COMMON RAIL) หรือแม้แต่ระบบ ยูนิท อินเจคเตอร์ (UNIT INJECTOR)

สำหรับเทคโนโลยีของคอมมอนเรล ที่ใช้ในรถยนต์ บีเอมดับเบิลยู รุ่นล่าสุด ซึ่งเปิดตัวในบ้านเราเมื่อไม่กี่วันนี้ ได้นำเทคโนโลยีที่ถือว่าเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ออกมาใช้ มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ในส่วนของระบบหัวฉีดแบบใหม่ ที่เรียกว่า PIEZO มีความสามารถในการสร้างฝอยละอองได้ละเอียดมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงในส่วนของปั๊มให้มีแรงดันสูงขึ้นอีกหน่อย ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพ สามารถลดปริมาณของมลพิษ และช่วยเพิ่มสมรรถนะได้อีกทางหนึ่ง

เทคโนโลยีของหัวฉีด PIEZO ผลิตจากผลึกเซรามิค นำมาใช้แทนโซลินอยด์เดิม การทำงานนั้นใช้หลักการยืดและหดตัวของผลึกแร่ควอร์ทซ์ที่บางมาก ทำงานร่วมกับเซรามิค เพื่อรับการกระตุ้นจากกระแสไฟฟ้า ซึ่งปฏิกิริยาดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเศษเสี้ยววินาที

หัวฉีดใหม่นี้มีประสิทธิภาพในการฉีดน้ำมันได้เร็ว และมีความถี่ในการฉีดสูงกว่าเดิมมากๆ สามารถฉีดน้ำมันได้ต่อเนื่องตั้งแต่ 2-5 ครั้ง ส่งผลให้การเผาไหม้หมดจด เนื่องจากมีความต่อเนื่องในการเผาไหม้ดีกว่า ที่สำคัญสามารถลดแรงกระแทกที่เกิดจากการจุดระเบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทียบกับหัวฉีดเดิมที่สามารถฉีดได้มากสุดเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ทำให้สามารถเพิ่มแรงม้าและแรงบิดได้ไม่น้อยกว่า 10-15 % อย่างที่กล่าวไป

ผลที่เห็นได้ชัดอีกอย่าง คือ การตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ฉับไวกว่า เพราะมีการเผาไหม้ที่รวดเร็วขึ้น และลดปัญหาการเผาไหม้ล่าช้าในจังหวะที่กดคันเร่งมิด กรณีเร่งแซง จะเห็นชัดว่าควันดำลดลง เพราะความรวดเร็วในการเผาไหม้เพิ่มขึ้น แก้ปัญหาพื้นฐานของเครื่องยนต์ดีเซล คือ ความล่าช้าในการเผาไหม้ได้ชะงัดทีเดียว

อย่างไปเทียบกันเลยค่าตัวมันต่างกันแยะ  smile..
เครื่องเล็กเเต่เเรงกว่า  ประหยัดกว่า
เทคโนโลยีสำคัญจริงๆ  
ขอบคุณท่านมากครับ   สาธุ    สาธุ   สาธุ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Lek Driller ที่ กันยายน 23, 2012, 08:40:59 pm
สเปคของเทอร์โบด้วยมั้งครับ ผมเดาเอา
แล้วถ้าเอาเข้ามาเมืองไทย พี่ไทยเราต้องอุด EGR กันอีกมั้ยครับ อยากรู้จริงๆ เหมือนรถคอมมอนเรลบ้านเราหรือเปล่า


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: darkisumi ที่ กันยายน 23, 2012, 08:42:21 pm
สเปคของเทอร์โบด้วยมั้งครับ ผมเดาเอา
แล้วถ้าเอาเข้ามาเมืองไทย พี่ไทยเราต้องอุด EGR กันอีกมั้ยครับ อยากรู้จริงๆ เหมือนรถคอมมอนเรลบ้านเราหรือเปล่า

ตัวบีเอ็มผมใช้อยู่ก้อไม่ได้อุดนะครับป๋า  smile..


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: seto16(เอก) ที่ กันยายน 23, 2012, 10:05:34 pm
ผมตอบตามป๋าชาญครับ

piezo ขั้นเทพครับ  yeh yeh


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: JAJA-RY ที่ กันยายน 23, 2012, 10:26:04 pm
แบบนี้เราก็ล้าหลังกว่า ford ranger อีกแล้วเพราะเขาใช้หัวฉีดแบบเดียวกับ BMW  ตกใจ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: seto16(เอก) ที่ กันยายน 23, 2012, 10:39:59 pm
แบบนี้เราก็ล้าหลังกว่า ford ranger อีกแล้วเพราะเขาใช้หัวฉีดแบบเดียวกับ BMW  ตกใจ
like like like


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: AGGG ที่ กันยายน 23, 2012, 11:04:02 pm
 :oเคยดูในCar magazine เขาบอกว่าเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กในรถยุโรปรุ่นใหม่ๆ
มลพิษต่ำและยังประหยัดได้ไม่แพ้ไฮบริดของญี่ปุ่นทีเดียว good


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: chanavorn ที่ กันยายน 24, 2012, 12:52:45 am
BMW Audi เรื่องดีเซลต้องยกให้เขาจริงๆครับ
BMW นี่ตัว F10 M550d กับ X6 M50d เครื่องดีเซลเขาระดับพระกาฬจริงๆครับ
3.0 6สูบแถวเรียง เทอร์โบสามตัว 381ม้า 740นิวตัน กันเลยทีเดียว

Audi Volks Porsche จะใช้เครื่องดีเซลแบบเดียวกัน
4.2V8 340ม้า 800นิวตัน (คาเยน เอส ดีเซล ใหม่ก็ใช้ตัวนี้)
6.0V12 ทวินเทอร์โบ 500ม้า 1000นิวตัน

ดีเซลเรายังเทียบชั้นพวกดีเซลยุโรปไม่ได้หรอกครับ
ทั้งความแรง ความประหยัด และความสะอาด
แค่ราคาก็ต่างกันแบบเทียบไม่ได้แล้วครับ
เราเทียบกับรถชั้นเดียวกันจะดีกว่าครับ อิอิ สบายใจดีด้วย


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Investigation ที่ กันยายน 24, 2012, 07:19:49 am
ท่านสมาชิกครับ เทคโนโลยีที่ว่า เป็นลิขสิทธิ์ หรือเปล่าครับ หรือว่าเกี่ยวกับต้นทุน
ทำไมรถโซนเอเชียจึงไม่นำมาใช้ เพราะถ้าคำนวณดูค่าใช้จ่ายที่จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงระยะยาว (เกือบ 20 กม./ลิตร )คิดว่าคุ้มค่าไหมกับราคารถ

ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่สละเวลาเข้ามาร่วมเเชร์ข้อมูล   สาธุ    สาธุ   สาธุ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Lek Driller ที่ กันยายน 24, 2012, 08:00:44 am
ราคาค่าตัวจริงๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่แพงตรงที่ภาษีนำเข้านี่แหละครับ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Dod ที่ กันยายน 24, 2012, 08:44:55 am
BMW เทคโนโลยี คุณภาพการประกอบ โรงงานที่ระยอง ใช้วัตถุดิบอะไหล่ชิ้นส่วนจากต่างประเทศเกิน 60% และเกรดสูงกว่าราคารถเลยสูงกว่า Mitsu เยอะครับ
เคยดูสารคดีประกอบรถBMW ขนาดสายไฟยังใช้แบบ อบความร้อนฉีดพลาสติกเคลือบและดัดเข้ากับตัวรถเลย ไม่มีระโยงระยางรุ่งริ่ง แม้แต่ยางก็ยังเป็นแบบรันเฟลท
ของทุกอย่างจัดมาอย่างดี เลยเป็นที่มาว่าทำไมแพงจัง แต่....... หมดประกัน เมื่อไหร่ ค่าซ่อมบำรุง บานกว่าเยอะครับ
แถมรุ่นนี้ในช่วงประกันห้ามทำอะไรกับรถแม้แต่คิดจะเปลี่ยนล้อแม็กซ์ ดัดแปลงเครื่องเสียง ....... ประกันขาดครับ

แล้วแต่มุมมองนะครับ ปัจจุบันรถยนต์บางรุ่งมันเป็นเครื่องชี้สถานะทางสังคมด้วย ราคาเลยไปกันใหญ่

ถ้าอยากหรู อยากแรง อยากสัมผัสความรู้สึกเวลาขับเลย 180 มือเดียวสบาย ๆ และมีกำลังพอทีกดไปต่อที่ 220 ได้อีกสบายๆ ก็คงต้องบีเอ็มหละครับ ( แต่ชีวิตนี้พี่จะทำแบบนี้ได้กี่ครั้ง บนสุดยอดถนนของเมืองไทย ฮ่า ๆ ๆ)

Mitsubishi VG 2.5 ของเราๆ นี่เทคโนโลยีอาจจะเก่ากว่าหน่อย แต่โดยรวมก็ไม่น่าเกลียดมาก ที่สำคัญคือใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ในบ้านเราเกินกว่า 60 % ครับ
จะทำอะไรก็ทำ ประกันยังอยู่ (ไม่ใช่แค่เปลี่ยนล้อแมกซ์ก็ยกเลิกประกันทั้งหมดแบบ รถโคตรหรู หุหุ) เสียหายกลางทางยังพอไหว้วานอู่นอกช่วยดูให้ได้

ถ้าอยากหรูอยากแรงของแต่งก็พอมี ทั้งดันราง ยกกล่อง โหลดเตี้ย ยกสูง มีมาให้กระเป๋าฉีกเพียบ......

เหมือนที่เคยตอบในหลาย ๆ บอร์ด นะคร้าบบบ   
รถแต่ละคันมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป ไม่มีคันไหนสมบูรณ์แบบหรอกครับ เลือกให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้จะเป็นการลงทุนที่คุ้มที่สุด
ถ้าคิดเปรียบเทียบ ควรเปรียบเทียบในกลุ่มของรถประเภทเดียวกัน ถ้า BMW 320d คู่ที่น่าเปรียบเทียบมากที่สุดคือ Mitsubishi EVO - X ครับ.... ขอบคุณครับ



หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: darkisumi ที่ กันยายน 24, 2012, 09:11:40 am
BMW Audi เรื่องดีเซลต้องยกให้เขาจริงๆครับ
BMW นี่ตัว F10 M550d กับ X6 M50d เครื่องดีเซลเขาระดับพระกาฬจริงๆครับ
3.0 6สูบแถวเรียง เทอร์โบสามตัว 381ม้า 740นิวตัน กันเลยทีเดียว

Audi Volks Porsche จะใช้เครื่องดีเซลแบบเดียวกัน
4.2V8 340ม้า 800นิวตัน (คาเยน เอส ดีเซล ใหม่ก็ใช้ตัวนี้)
6.0V12 ทวินเทอร์โบ 500ม้า 1000นิวตัน

ดีเซลเรายังเทียบชั้นพวกดีเซลยุโรปไม่ได้หรอกครับ
ทั้งความแรง ความประหยัด และความสะอาด
แค่ราคาก็ต่างกันแบบเทียบไม่ได้แล้วครับ
เราเทียบกับรถชั้นเดียวกันจะดีกว่าครับ อิอิ สบายใจดีด้วย
นี่ก้อตัวจริงเรื่องข้อมูล ข้าน้อยนับถือๆ สาธุ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: chan ที่ กันยายน 24, 2012, 09:30:38 am
ท่านสมาชิกครับ เทคโนโลยีที่ว่า เป็นลิขสิทธิ์ หรือเปล่าครับ หรือว่าเกี่ยวกับต้นทุน
ทำไมรถโซนเอเชียจึงไม่นำมาใช้ เพราะถ้าคำนวณดูค่าใช้จ่ายที่จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงระยะยาว (เกือบ 20 กม./ลิตร )คิดว่าคุ้มค่าไหมกับราคารถ

ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่สละเวลาเข้ามาร่วมเเชร์ข้อมูล   สาธุ    สาธุ   สาธุ

เทคโนโลยีนี้ คิดว่าไม่นานอาจจะเห็นในรถโซนเอเซีย  เพราะดีเซลคอมมอนเรลฝั่งยุโรปเค้ามีกว่า 20 ปีแล้ว เทคโนโลยีเค้าจึงไปไกลกว่า
แต่เดี๋ยวนี้เอเชียมีคนเก่งๆอยู่มาก หากมีการพัฒนาแบบไม่มีธุรกิจมาผูกมัด  อาจได้เห็นอะไรที่ใหม่กว่า 
ปล.ขนาดแรงดันปั้มคอมมอนเรลฝั่งยุโรปมากับรถก็ 220 -240 Mpa แล้ว บ้านเราแค่ 180 Mpa เอง ใช้งานจริงถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ (เคยวัดได้แค่ 170 Mpa เอง) smile..


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Investigation ที่ กันยายน 24, 2012, 11:58:30 am
BMW เทคโนโลยี คุณภาพการประกอบ โรงงานที่ระยอง ใช้วัตถุดิบอะไหล่ชิ้นส่วนจากต่างประเทศเกิน 60% และเกรดสูงกว่าราคารถเลยสูงกว่า Mitsu เยอะครับ
เคยดูสารคดีประกอบรถBMW ขนาดสายไฟยังใช้แบบ อบความร้อนฉีดพลาสติกเคลือบและดัดเข้ากับตัวรถเลย ไม่มีระโยงระยางรุ่งริ่ง แม้แต่ยางก็ยังเป็นแบบรันเฟลท
ของทุกอย่างจัดมาอย่างดี เลยเป็นที่มาว่าทำไมแพงจัง แต่....... หมดประกัน เมื่อไหร่ ค่าซ่อมบำรุง บานกว่าเยอะครับ
แถมรุ่นนี้ในช่วงประกันห้ามทำอะไรกับรถแม้แต่คิดจะเปลี่ยนล้อแม็กซ์ ดัดแปลงเครื่องเสียง ....... ประกันขาดครับ

แล้วแต่มุมมองนะครับ ปัจจุบันรถยนต์บางรุ่งมันเป็นเครื่องชี้สถานะทางสังคมด้วย ราคาเลยไปกันใหญ่

ถ้าอยากหรู อยากแรง อยากสัมผัสความรู้สึกเวลาขับเลย 180 มือเดียวสบาย ๆ และมีกำลังพอทีกดไปต่อที่ 220 ได้อีกสบายๆ ก็คงต้องบีเอ็มหละครับ ( แต่ชีวิตนี้พี่จะทำแบบนี้ได้กี่ครั้ง บนสุดยอดถนนของเมืองไทย ฮ่า ๆ ๆ)

Mitsubishi VG 2.5 ของเราๆ นี่เทคโนโลยีอาจจะเก่ากว่าหน่อย แต่โดยรวมก็ไม่น่าเกลียดมาก ที่สำคัญคือใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ในบ้านเราเกินกว่า 60 % ครับ
จะทำอะไรก็ทำ ประกันยังอยู่ (ไม่ใช่แค่เปลี่ยนล้อแมกซ์ก็ยกเลิกประกันทั้งหมดแบบ รถโคตรหรู หุหุ) เสียหายกลางทางยังพอไหว้วานอู่นอกช่วยดูให้ได้

ถ้าอยากหรูอยากแรงของแต่งก็พอมี ทั้งดันราง ยกกล่อง โหลดเตี้ย ยกสูง มีมาให้กระเป๋าฉีกเพียบ......

เหมือนที่เคยตอบในหลาย ๆ บอร์ด นะคร้าบบบ   
รถแต่ละคันมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป ไม่มีคันไหนสมบูรณ์แบบหรอกครับ เลือกให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้จะเป็นการลงทุนที่คุ้มที่สุด
ถ้าคิดเปรียบเทียบ ควรเปรียบเทียบในกลุ่มของรถประเภทเดียวกัน ถ้า BMW 320d คู่ที่น่าเปรียบเทียบมากที่สุดคือ Mitsubishi EVO - X ครับ.... ขอบคุณครับ




ทำให้รู้มากขึ้น
ขอบคุณมากครับท่านที่เข้ามาร่วมเเชร์ข้อมูล     สาธุ   สาธุ    สาธุ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Investigation ที่ กันยายน 24, 2012, 12:01:07 pm
ท่านสมาชิกครับ เทคโนโลยีที่ว่า เป็นลิขสิทธิ์ หรือเปล่าครับ หรือว่าเกี่ยวกับต้นทุน
ทำไมรถโซนเอเชียจึงไม่นำมาใช้ เพราะถ้าคำนวณดูค่าใช้จ่ายที่จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงระยะยาว (เกือบ 20 กม./ลิตร )คิดว่าคุ้มค่าไหมกับราคารถ

ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่สละเวลาเข้ามาร่วมเเชร์ข้อมูล   สาธุ    สาธุ   สาธุ

เทคโนโลยีนี้ คิดว่าไม่นานอาจจะเห็นในรถโซนเอเซีย  เพราะดีเซลคอมมอนเรลฝั่งยุโรปเค้ามีกว่า 20 ปีแล้ว เทคโนโลยีเค้าจึงไปไกลกว่า
แต่เดี๋ยวนี้เอเชียมีคนเก่งๆอยู่มาก หากมีการพัฒนาแบบไม่มีธุรกิจมาผูกมัด  อาจได้เห็นอะไรที่ใหม่กว่า 
ปล.ขนาดแรงดันปั้มคอมมอนเรลฝั่งยุโรปมากับรถก็ 220 -240 Mpa แล้ว บ้านเราแค่ 180 Mpa เอง ใช้งานจริงถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ (เคยวัดได้แค่ 170 Mpa เอง) smile..


เก็บข้อมูลเเล้ว
ขอบคุณมากครับท่านหากมีข้อมูลใดเพิ่มเติมยินดีครับท่าน  สาธุ  สาธุ  สาธุ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: chanavorn ที่ กันยายน 24, 2012, 12:02:43 pm
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับป๋าน้อง ผมดูมาจากวิกิพีเดียครับ 55+

ในเรื่องลิขสิทธิ์นั้นมีแน่นอนครับ
อย่างFordก็เลยร่วมมือกับVolvo ทำให้ได้รถที่เยี่ยมทั้งคู่ WINWIN
Fordออกแบบเครื่องกับเกียร์ให้Volvo ดูจากS60ตัวใหม่ที่ใช้1.6EcoBoostกับเกียร์PowerShiftครับ
Volvoออกแบบระบบต่างๆให้Ford ดูจากFocusใหม่ที่มีระบบ ช่วยจอด ช่วยเบรค ครับ

อย่าง Volks Audi Porsche ก็ร่วมมือกันเกือบทุกอย่าง
Volkswagen มีบริษัทลูกเยอะมากๆครับ
Audi Lamborghini Bentley Bugatti Ducati MAN Porsche Scania Seat Skoda Suzuki
เห็นรึเปล่าครับ มีแต่ยี่ห้อเทพๆทั้งนั้นเลยที่อยู่ในมือของ Volkswagen
พวกนี้ได้เปรียบทุกบริษัทครับเพราะแชร์เทคโนโลยีร่วมกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์
แถมลดต้นทุนในการออกแบบและผลิตไปได้อีกเยอะเลย
จนตอนนี้ในตลาดโลก BMW กลัว Audi ที่ยอดขายกำลังจะแซงหน้าแล้วครับ
ไม่รวมในไทยนะครับ เพราะผู้นำเข้ามันห่วยแตก 55+

Mitsubishi ที่เคยมีข่าวว่าจะร่วมมือกับ Nissan ก็เพิ่งมีข่าวมาว่า ยกเลิกไปแล้วเรียบร้อย
ก็น่าเสียดายมากครับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงยกเลิกกันดื้อๆแบบนี้


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: seto16(เอก) ที่ กันยายน 24, 2012, 12:29:00 pm
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับป๋าน้อง ผมดูมาจากวิกิพีเดียครับ 55+

ในเรื่องลิขสิทธิ์นั้นมีแน่นอนครับ
อย่างFordก็เลยร่วมมือกับVolvo ทำให้ได้รถที่เยี่ยมทั้งคู่ WINWIN
Fordออกแบบเครื่องกับเกียร์ให้Volvo ดูจากS60ตัวใหม่ที่ใช้1.6EcoBoostกับเกียร์PowerShiftครับ
Volvoออกแบบระบบต่างๆให้Ford ดูจากFocusใหม่ที่มีระบบ ช่วยจอด ช่วยเบรค ครับ

อย่าง Volks Audi Porsche ก็ร่วมมือกันเกือบทุกอย่าง
Volkswagen มีบริษัทลูกเยอะมากๆครับ
Audi Lamborghini Bentley Bugatti Ducati MAN Porsche Scania Seat Skoda Suzuki
เห็นรึเปล่าครับ มีแต่ยี่ห้อเทพๆทั้งนั้นเลยที่อยู่ในมือของ Volkswagen
พวกนี้ได้เปรียบทุกบริษัทครับเพราะแชร์เทคโนโลยีร่วมกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์
แถมลดต้นทุนในการออกแบบและผลิตไปได้อีกเยอะเลย
จนตอนนี้ในตลาดโลก BMW กลัว Audi ที่ยอดขายกำลังจะแซงหน้าแล้วครับ
ไม่รวมในไทยนะครับ เพราะผู้นำเข้ามันห่วยแตก 55+

Mitsubishi ที่เคยมีข่าวว่าจะร่วมมือกับ Nissan ก็เพิ่งมีข่าวมาว่า ยกเลิกไปแล้วเรียบร้อย
ก็น่าเสียดายมากครับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงยกเลิกกันดื้อๆแบบนี้

กด  like +1 เลย สุดยอดข้อมูลครับ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: srnw7 ที่ กันยายน 24, 2012, 03:48:11 pm
มาแอบดูเขาคุยกัน อิอิ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: PattySG80 ที่ กันยายน 24, 2012, 04:28:12 pm
อยากเเรงเหมือนบีเอ็มง่ะคับ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: darkisumi ที่ กันยายน 24, 2012, 04:39:57 pm
อยากเเรงเหมือนบีเอ็มง่ะคับ
แมพ4 ช่วยท่านได้  ;) >:D


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: ปาอ้วน ที่ กันยายน 24, 2012, 06:02:04 pm
 :P เพื่อนที่ทำงานใช้ BMW X1 sdrive20d(2ล้านเจ็ด) เล่าให้ฟังว่าประหยัดมาก เกือบ 20 โล/ลิตร ลองขับ ไป-กลับ ภูเก็ต - นครศรี - ภูเก็ต 1 ถังยังเหลือๆ ส่วน ฟอร์ trd sportivo 2 ถังขึ้น :-\
ปล.ทั้งสองคันเป็นเจ้าของเดียวกันครับ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Investigation ที่ กันยายน 24, 2012, 06:24:48 pm
:P เพื่อนที่ทำงานใช้ BMW X1 sdrive20d(2ล้านเจ็ด) เล่าให้ฟังว่าประหยัดมาก เกือบ 20 โล/ลิตร ลองขับ ไป-กลับ ภูเก็ต - นครศรี - ภูเก็ต 1 ถังยังเหลือๆ ส่วน ฟอร์ trd sportivo 2 ถังขึ้น :-\
ปล.ทั้งสองคันเป็นเจ้าของเดียวกันครับ

จากข้อมูลที่ท่านเเชร์มา  
ตัวอย่าง การขับรถที่มีลักษณะทางกายภาพคล้ายๆกัน
  A  ขับรถปีละ 20000  กิโลเมตร ที่ 20 กม./ลิตร
  B  ขับรถปีละ 20000 กิโลเมตร ที่ 10 กม./ลิตร
น้ำมันลิตรละ 30 บาท A จ่ายค่าเชื้อเพลิงน้อยกว่า B ปีละ 30000 บาท

ขอบคุณท่านมากครับถ้ามีข้อมูลเเชร์เพิ่มเติมยินดีครับท่าน   สาธุ    สาธุ    สาธุ


หัวข้อ: Re: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ
เริ่มหัวข้อโดย: Investigation ที่ กันยายน 24, 2012, 07:50:24 pm
ท่านสมาชิกครับ ไปเจอข้อมูลมาจาก ลิ้งนี้ครับ http://www.audittthailand.com/forum/index.php?topic=963.0

จากข้อมูล สามารถนำมาใช้  เเละมีประโยชน์กับ M PAJERO SPORT ได้ไหมครับ 

รบกวนท่านๆ เเชร์ความรู้ด้วยครับ   สาธุ    สาธุ    สาธุ