Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

Pajerosport Room => พูดคุยทั่วไปเกี่ยวกับน้องปา => ข้อความที่เริ่มโดย: crv2138 ที่ ตุลาคม 11, 2012, 09:35:43 am



Languages

หัวข้อ: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: crv2138 ที่ ตุลาคม 11, 2012, 09:35:43 am
คุณรู้จัก ยางติดรถ Pajero แค่ไหน
ไปอ่านเจอใน Internet มา เลยเก็บมาฝากสมาชิก เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับใครที่กำลังอยากจะเปลี่ยนยางครับ เวลาใช้รถส่วนใหญ่วิ่งบนถนนในเมือง (ถนนปูน ลาดยาง) ควรเลือกประเภทไหน แต่ถ้ารถเราวิ่งในทางทุรกันดาร ในป่าในเขาควรจะเลือกใช้ยางแบบใด หรือใช้บรรทุกเสียเป็นส่วนมากก็จะได้เลือกยางติดรถเราได้ถูกต้อง ทั้งประหยัดเงิน น้ำมัน ฯลฯ หรือจะเปลี่ยนเพื่อความสะใจก็จะได้สบายใจ

หน้าที่ของยาง
ยางรถยนต์น่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่หนักที่สุดของรถยนต์ และยังทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในการถ่ายทอดผลจากเทคโนโลยีล้ำสมัยทั้งหลายลง สู่พื้นผิวถนน ซึ่งมีทั้งร้อน เปียก ขรุขระ กระแทกกระทั้น แหลมคม สารพัดรูปแบบ แถมยังต้องรับน้ำหนักอีกเป็นตัน และหากจะให้ยางแต่ละเส้นรับหน้าที่ได้เช่นนี้ทุกสภาพการใช้งาน เห็นที่จะเป็นได้แค่ฝันละครับ เพราะฉะนั้น จึงมีการกำหนดประเภทของยางเพื่อให้ได้สมรรถนะสูงสุด โดยเฉพาะยางสำหรับตัวลุยแล้วเห็นจะมีหลากหลายอยู่พอสมควร มาดูกันครับว่ายางแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบไหน
 
ยาง HT หรือ highway terrain
เพราะเป็นยางที่ติดรถมาจากโรงงานมากที่สุด การใช้งานก็ตามชื่อที่บอกว่าใช้บนถนนธรรมดาเป็นหลัก และเหตุที่เป็นยางติดรถมาจากโรงงานก็เพราะเป็นยาง 4x4 ที่ให้สมรรถนะบนถนนหลวง เงียบ ประหยัดน้ำมัน และเกาะถนนได้ดีที่สุด

โครงสร้างของยาง H/t ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่ายางเรเดียลทั่วไป จึงสามารถใช้งานในสภาพความเร็วสูงได้ดี เพราะโครงสร้างของยางเป็นแบบไม่มีความร้อนสะสมมากนัก แต่ไม่เหมาะกับการบรรทุกหนักมากๆ หรือเอาไปลุย เพราะดอกยางนอกจากจะไม่เหมาะแล้ว แก้มยางยังอาจฉีกขากเสียหายจากหินแหลมคม และรากไม้

ยาง AT หรือ all terrain
ที่เจ้าของตัวลุยชอบเปลี่ยนใส่ เพราะดูแล้วเท่กับดอกยางที่โต หนา หยาบ ขึ้นอีกนิด บางรายว่าใส่แล้วค่อยดูเป็นลูกผู้ชายตัวจริงขึ้นอีกนิด ถ้าจะว่ากันตามสูตรจริงจังแล้ว รถจะเหมาะสมกับยางประเภทนี้ก็ต่อเมื่อต้องใช้ตัวลุยคันเก่งบนทางออฟโร ดประมาณ 20% ของเส้นทางในแต่ละวัน แต่ด้วยเหตุผลที่ว่ามาข้างต้น แต่ไม่ต้องใช้งาน 20% ที่ว่า และเผื่อว่าจะออกไปเที่ยวป่าเที่ยวเขาบ้าง ผมจึงเป็นอีกหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่หันมาใช้ยางประเภทนี้

จริงๆ แล้วหากใช้ยางนแบบนี้ แล้วออกทริปใหญ่ๆ สักครั้งก็ถือว่าคุ้มค่าราคายางแล้ว เพราะโครงสร้างของยางชนิดนี้แข็งแรงกว่าแบบแรกมาก แถมยางก็เหมาะกับการลุยได้พอตัว ใช้งานบนถนนหลวงก็ยังดูไม่น่าเกลียด หรือมีเสียงดังรบกวนน่ารำคาญมากนัก จึงได้รับความนิยมสูงสุด ส่งผลให้มีการผลิตยางออกมาให้เลือกมากรุ่น แต่ว่าก็มีความแตกต่างกันในแต่ละรุ่น เช่น หน้ายาง ดอกยาง จำนวนชั้นผ้าใบและใยเหล็กไม่เท่ากัน ซึ่งหากจำนวนชั้นมากขึ้นก็ทำให้สมรรถนะการลุยและความทนทานเพิ่มขึ้น พร้อมกับน้ำหนักยางที่มากขึ้น แต่ก็สวนทางกับความนุ่มนวลที่จะลดลง พร้อมกับสมรรถนะในการใช้งานด้วยความเร็วสูงก็ลดลงตามความแข็งแรงของยางด้วย

ยาง MT หรือ mud terrain
ยางล้อรถมีดอกโตเป็นบั้งใหญ่ โครงสร้างแข็งแกร่งกว่ายางทั้ง 2 ชนิด อีกทั้งความหนาของแก้มยาง และดอกยางก็จะมากกว่า เพื่อความทนทานในการจิก ตะกุย พื้นผิวทาง แน่นอนความอ่อนนุ่มเป็นอันว่าไม่ต้องพูดถึงกัน การเกาะถนนบนทางหลวงก็หดหายไปอีก เพราะมันถูกออกแบบไว้ให้ใช้ในทางทุรกันดารเป็นหลัก และยิ่งดอกยางใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ เสียงรบกวนจากการบิดตัวของดอกยางเมื่อนำมาใช้บนทางหลวงก็ยิ่งดังมากขึ้นเท่า นั้น

ตัวอักษร lt บนแก้มยางคืออะไร ?

เป็นการบอกประเภทของยางว่าเป็นยางแบบ lt หรือ light truck ที่เดี๋ยวนี้กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ บางรุ่นใจถึงให้เป็นยางติดรถมาจากโรงงาน โดยปกติยางแบบนี้สามารถสูบลมได้อย่างน้อยถึง 60 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อรับกับน้ำหนักบรรทุก โครงสร้างของไลท์ทรัคจะแข็งแรงกว่าแบบ H/t แต่ความนุ่มนวลก็น้อยกว่าอีกเช่นกัน ใครที่ชอบขับแบบอัดเป็นระยะทางยาว ก็กรุณาสังเกตรหัสความเร็วบนแก้มยางด้วย มิเช่นอาจเกิดกรณีหน้ายางล่อนออกเป็นแผ่นได้

ถ้าใช้ยางแบบนี้อยู่จะรู้ได้อย่างไรว่าเติมลมได้พอดีแค่ไหน ฝรั่งเขามีหลักการกันง่ายๆ ว่า เมื่อคุณเติมลมในช่วงที่ยางยังเย็น แล้ววิ่งไปสัก 1 ชั่วโมงจนลมยางร้อนได้ที่ วัดแรงดันลมยางอีกที หากเพิ่มขึ้น 4 ปอนด์ ถือว่าใช้ได้ แต่หากเกินกว่านั้น หมายถึงเติมลมยางน้อยเกินไปจนแก้มยางให้ตัวมาก ทำให้เกิดความร้อนจนอากาศขยายตัวได้มาก ในทางกลับกัน หากลมยางเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 4 ปอนด์แสดงว่าเติมลมมากเกินไปครับ

ใครที่ใช้ลมยางไนโตรเจน ลองเทียบกับบางล้อที่ใช้ลมยางธรรมดาดูนะครับว่าแตกต่างกันแค่ไหน....

ล้อโต แฟชั่นฮิต

สมัยก่อน ตัวลุยล้อขนาด 15 นิ้ว ก็ถือกันว่าหรูสุดๆ กระทั่งไม่กี่ปีมานี้กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็ขยับขนาดกระทะล้อกันขึ้นถึง 16 นิ้ว แบบไม่เกรงใจสตางค์ในกระเป๋าลูกค้าตอนเปลี่ยนยางเส้นใหม่กันบ้าง แต่พอหันไปดูฝั่งพวกตัวลุยแบบ suv ทั้งหลาย ปรากฏว่า เริ่มกันที่ 17 นิ้วเป็นแบบเด็กๆ ส่วนใหญ่จะว่ากันที่ 18-20 นิ้วกันเสียแล้ว ยางส่วนใหญ่ที่ใช้กับล้อแบบนี้ก็เป็นยางสำหรับการใช้ความเร็วสูงบนทางหลวง เป็นหลัก สมรรถนะการยึดเกาะถนนและการเบรกจึงถือว่าเป็นเลิศ แต่ถ้าหากคิดเอาไปลุยก็ควรทำใจเสียก่อนว่าอาจไม่รอด

ทำความสะอาดยาง
จะเป็นยางชนิดใดก็ตาม ห้ามเด็ดขาดสำหรับการขัดยางด้วยแปรงและผงซักฟอก เพราะจะทำให้โมเลกุลของคาร์บอนและสารเคมีที่อยู่ในเนื้อยางเสียหาย เนื้อยางหมดอายุก่อนเวลาอันควร หรือสังเกตได้ง่ายๆ ว่าอาจแตกลายงาเพิ่มขึ้น หากต้องการทำความสะอาดควรใช้สเปรย์หรือน้ำยาทำความโดยเฉพาะเท่านั้น

และสำหรับท่านที่นิยมนำยางไปลุยจริงๆ เมื่อกลับออกมาจากทริป อย่าลืมตรวจเช็คตะกั่วถ่วงล้อที่อาจหลุดไประหว่างทาง และหากมีเวลาควรนำยางไป "ล้างขอบ" ซึ่งก็คือ ถอดยางออกจากล้อ เพื่อทำความสะอาดเศษฝุ่นทรายที่มักอัดอยู่ในร่องระหว่างล้อกับยาง จนทำให้ลมยางซึมออกมาได้

อัตราความสามารถรองรับความเร็วสูงสุดของยาง

(แสดงบนแก้มยาง) รหัส  ความเร็ว กม. / ชม.

l   120

m 130

n  140

p  150

q  160

r  170

s  180

t  190

u  200

h  210

v  240

อัตรารับน้ำหนักที่แรงดันลมยางสูงสุด

รหัส  น้ำหนักที่รับได้ (กิโลกรัม)

60    250

70    335

80    450

90    600

100  800

110  1,060

120  1,400

130  1,900

ตัวเลขขนาดยาง

225 / 70r15 80s

225 ความกว้างของหน้ายางหน่วยเป็น มม.
70 ความสูงของหน้ายาง เป็น 70 เปอร์เซ็นต์ ของหน้ายาง
r ยางเรเดียล
15 ความยาวเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ หน่วยเป็นนิ้ว
80 รหัสอัตรารับน้ำหนักสูงสุดต่อล้อ (80 เท่ากับ 450 กก.)
s อัตราความเร็วสูงสุด (s เท่ากับ 180 กม./ชม.)

30x 9.5 r15 lt

30 เส้นผ่าศูนย์กลางของยาง หน่วยเป็นนิ้ว
9.5 ความกว้างของหน้ายางเป็นนิ้ว
r ยางเรเดียล
15 ความยาวเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ หน่วยเป็นนิ้ว
lt โครงสร้างยางแบบไลท์ทรัค

เครดิต : teentoa.com
บทความโดย ไลฟ์แอนด์ออลวีลไดรฟ์



หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Nack_Nine ที่ ตุลาคม 11, 2012, 09:47:15 am
ขอบคุณสำหรับบทความดีดีครับผม...  smile..


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: POPPY ที่ ตุลาคม 11, 2012, 10:11:01 am
สุดยอดเลยครับ สาธุ


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: I•m TooN ที่ ตุลาคม 11, 2012, 10:33:11 am
 heart สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ heart


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: KengEVO5 (No.521) ที่ ตุลาคม 11, 2012, 10:59:55 am
ยังมียาง XL  หรือ Xtra Load อีกครับ   แก้มยาง เนื้อยางแข็งแรงพิเศษ รับน้ำหนักได้มากกว่า ทนทานกว่า  แต่กลับเห็นในยางเก๋งเสียเป็นส่วนใหญ่  (ผมก็ใช้อยู่)


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: weeraphart ที่ ตุลาคม 11, 2012, 11:06:29 am
 สาธุ -ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูลดีๆ


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Rider ที่ ตุลาคม 11, 2012, 11:07:48 am
ขอบคุณครับ..สำหรับความรู้..


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Noomkub ที่ ตุลาคม 11, 2012, 11:10:12 am
 like  สาธุ สาธุ สาธุ


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: อิษฏ์_สุบิน ปาศาลายา ฮาเฮ.. ที่ ตุลาคม 11, 2012, 11:11:31 am
 like


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: JATE NO.531 ที่ ตุลาคม 11, 2012, 11:50:56 am
 like like like


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: pajerosportman ที่ ตุลาคม 11, 2012, 01:30:09 pm
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลที่ดีๆ  ยอดเยี่ยม


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: rebellion ที่ ตุลาคม 11, 2012, 07:56:50 pm
ขอบคุณมากครับป๋า รอดูบทความดีๆอีกครับ
 like like like


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Bestson ที่ ตุลาคม 11, 2012, 10:33:31 pm
 สาธุ สาธุ สาธุ


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: kanapot ที่ ตุลาคม 11, 2012, 10:44:54 pm
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ ที่ป๋านำมาแบ่งปันครับ สาธุ สาธุ สาธุ


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: โอ_ทุ่งครุ ที่ ตุลาคม 11, 2012, 11:00:14 pm
 like like   สาธุ


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: plaslid ที่ ตุลาคม 11, 2012, 11:41:00 pm
ความรู้ใหม่  ขอบคุงง้าบบบบ


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Liverpool(ชาติ) ที่ ตุลาคม 11, 2012, 11:48:00 pm
 smile.. smile.. smile..


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: _TOM_ ที่ ตุลาคม 12, 2012, 07:47:00 am
ขอบคุณคับ like like


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: danai8029 ที่ ตุลาคม 12, 2012, 07:53:21 am
ขอบคุณมากๆ ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Kiat ที่ ตุลาคม 13, 2012, 08:28:26 am
 thank


หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: excellent ที่ ตุลาคม 13, 2012, 07:13:12 pm
ขอบคุณมากๆครับ