Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

Pajerosport Room => พูดคุยทั่วไปเกี่ยวกับน้องปา => ข้อความที่เริ่มโดย: chartkum ที่ ตุลาคม 16, 2012, 08:30:14 pm



Languages

หัวข้อ: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chartkum ที่ ตุลาคม 16, 2012, 08:30:14 pm
อยากเรียนถามท่านที่มีประสพการณ์นำรถปาเจโร่สปอร์ตไปติดแก๊สบ้างครับ?
อยากขอคำชี้แนะหน่อยครับ ผมใช้ Pajero sport เครื่อง 3200 4WD ใช้มาประมาณ 2 ปีกว่า ๆ คิดว่าหลังจากหมดประกันจำนำรถไปติดแก๊ส
เพราะตอนนี้ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 9-10 กม./ ลิตร ที่ความเร็ว 100-120 กม./ชม.ขับในเมือง ประมาณ 8-9 กม./ลิตร
ผมคิดว่าออกจะเปลืองน้ำมันพอสมควร หลังจากผมซื้อมาได้ประมาณ 1 ปีกว่า Mitsubishi Mortor ค่อยออกรุ่น 2500
น่าเจ็บใจจังนะครับ ขอคำแนะนำเพื่อน ๆที่มีประสพการณ์ด้วยครับ จักเป็นพระคุณอย่างสูง
 


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nong_oil ที่ ตุลาคม 16, 2012, 10:13:01 pm
หักกเดียวกัน ครับ   ทนใช้ต่อไป  เพราะซื้อมาเเล้ว


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: saranlee ที่ ตุลาคม 17, 2012, 12:05:01 am
ผมติดมาได้ประมาณ 2 หมื่นโลแล้ว (ติดตอน 5 หมื่น ตอนนี้ 7 หมื่นห้า)  ตอบแบบรวบรัดว่า "ไม่คุ้ม"  เพราะประหยัดได้นิดเดียว ไม่เกิน 50 สตางค์ต่อลิตร ยิ่งดีเซลถูกคุมราคา ในขณะที่ LPG ถูกผลักให้ขึ้นราคา อัตราความประหยัดยิ่งน้อยลงไปอีก  และจะต้องมีภาระยุ่งยากเรื่องการจูนแก๊ส ปัญหาจุกจิกกวนใจนิดหน่อยๆ ยางอะไหล่หายไป ต้องคอยเติมเชื้อเพลิงสองชนิด ฯลฯ

ผมยังคิดว่าจะไปถอดออกแล้วใช้แบบเดิมๆ อยู่เลยครับ

สนใจไม๊ครับ ผมขายต่อยกชุด ถูกๆ เลย :D


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chartkum ที่ ตุลาคม 17, 2012, 08:42:01 am
ผมติดมาได้ประมาณ 2 หมื่นโลแล้ว (ติดตอน 5 หมื่น ตอนนี้ 7 หมื่นห้า)  ตอบแบบรวบรัดว่า "ไม่คุ้ม"  เพราะประหยัดได้นิดเดียว ไม่เกิน 50 สตางค์ต่อลิตร ยิ่งดีเซลถูกคุมราคา ในขณะที่ LPG ถูกผลักให้ขึ้นราคา อัตราความประหยัดยิ่งน้อยลงไปอีก  และจะต้องมีภาระยุ่งยากเรื่องการจูนแก๊ส ปัญหาจุกจิกกวนใจนิดหน่อยๆ ยางอะไหล่หายไป ต้องคอยเติมเชื้อเพลิงสองชนิด ฯลฯ

ผมยังคิดว่าจะไปถอดออกแล้วใช้แบบเดิมๆ อยู่เลยครับ

สนใจไม๊ครับ ผมขายต่อยกชุด ถูกๆ เลย :D

ขอบคุณท่าน " saranlee" ที่ให้ความเห็นและแบ่งปันให้ทราบ
สรุปว่าใช้น้ำมันดีเซลต่อไปดีแล้ว สำหรับเรื่องระบบแก๊สที่ท่านเสนอแนะมาผมคิดว่า
หากจะตัดสินในคิดจะติดตั้งแก๊ส อยากได้ของใหม่นะครับ คงไม่ว่ากันนะ...
เพราะเท่าที่ทราบของใหม่ ( LPG) ค่าใช้จ่ายประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท

เอ... แต่ไม่ทราบว่าอัตราการสิ้นเปลืองรถของผม
อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเปล่าครับ ในเมือง 8-9 กม. / ลิตร 
วิ่งนอกเมืองประหยัดลงมานิดหน่อย อยู่ที่ 10-11 กม./ลิตร


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: panda-bmw ที่ ตุลาคม 17, 2012, 09:54:33 am
ใช่รถมา120000 โลแล้ว  ค่าน้ำมันคงออกรถเก๋งได้อีกคันแล้ว ครับ  3.2  หัวฉีดโต อิอิ


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: N0.175 ที่ ตุลาคม 17, 2012, 10:51:47 am
ผมใช้ปา2011 2.5 GT อัตราสิ้นเปลืองขับในเมืองก็พอๆกับป๋า chartkum ครับ แต่ทางไกลได้ประมาณ10-11.5 กิโลลิตร

ผมเคยคิดจะติด LPG เพราะคิดว่าจะประหยัด แต่พอปรึกษาน้องชายที่ทำอู่แก๊ส น้องบอกว่าไม่คุ้ม ติดไปก็ไม่ได้ช่วยประหยัดมากขึ้นเท่าไหร่

เพราะน้องปาเราเป็นดีเซล ติดLPG ไม่เสถียร ไหนจะค่าบำรุงรักษา แล้วเครื่องก็จะพาลมีปัญหาในระยะเวลาอันสั้น

เลยต้องก้มหน้าใช้ดีเซลต่อไป กะว่าผ่อนน้องปาหมดจะไปสอยน้องมิราจมาขับในเมือง แล้วน้องปาเอาไว้เดินทางไกลครับ :D


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaka ที่ ตุลาคม 17, 2012, 01:30:11 pm
 smile..


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kratip ที่ ตุลาคม 17, 2012, 01:45:58 pm
ผมใช้ 3200 เหมือนกันครับวิ่งมาจะ 80,000 โลแล้วก่อนหน้านี้อยู่ต่างจังหวัด วิ่งเฉลี่ย 11.3 สองเดือนมานี้อยู่ กทม. ตลอดและเข้าศูนย์ตอน 70,000 โล
รู้สึกว่าจะกินเพิ่มขึ้นเหลือประมาณ 10.4


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Suriya(PaC) ที่ ตุลาคม 17, 2012, 02:52:15 pm
ลองปรึกษาป๋าเก่ง(KengEVO5 (No.521))ดูซิครับ ป๋าเก่งติดมาแล้วเช่นกัน อาจมีข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Liverpool(ชาติ) ที่ ตุลาคม 17, 2012, 02:56:48 pm
เครื่อง 3200 ติดแก๊ส...ไหวมั้ยน้อๆๆๆๆๆๆๆ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pakob ที่ ตุลาคม 17, 2012, 03:10:55 pm
รอ สัก ปี สองปี  ยก V6 3.0 ลง น่าจะ แจ่ม


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Hommy ที่ ตุลาคม 17, 2012, 05:07:38 pm
ลองปรึกษาป๋าเก่ง(KengEVO5 (No.521))ดูซิครับ ป๋าเก่งติดมาแล้วเช่นกัน อาจมีข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม
ในห้อง LPG เห็นมีอยู่คันนึงครับ...ไม่รู้ใช่รถป๋าเก่งหรือป่าว....ลองเข้าไปดูก่อนครับ...


หัวข้อ: Re: ขอถามท่านพี่ ๆ ที่ใช้ Pajero Sport 4WD 3200 แล้วนำรถไปติดแก๊สบ้างครับขอความรู้หน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: KengEVO5 (No.521) ที่ ตุลาคม 18, 2012, 10:43:58 am
มาแล้วครับ......    ขอโทษด้วย เพิ่งจะเห็นกระทู้นี้   แต่ของผมเครื่อง 2.5 VG นะครับ   (4WD GT)

การติดแก๊สแบบฉีดผสม (DDF)  มีทั้งแบบใช้ LPG และ NGV    (แบบ NGV จะประหยัดกว่ามาก ตกกิโลเมตรละไม่ถึงบาท หรือบาทกว่าเท่านั้น  แต่ LPG ตกกิโลเมตรละ สองบาทกว่า  (ราคารวมแก๊ส,รวมน้ำมันแล้ว)  ปัจจุบันเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากบริษัทสยามราช เริ่มโฆษณาทีวีแล้ว จากเดิมที่มีใช้เพียงเฉพาะกลุ่ม และศูนย์บริการบางยี่ห้อ ก็เริ่มติดตั้งให้กับรถดีเซลตั้งแต่ออกจากศูนย์ฯ แล้ว

ระบบ DDF สมัยนี้พัฒนาขึ้นไปมากแล้ว จากเดิมใช้ระบบดูดอย่างเดียว หม้อต้มแก๊ส ปล่อยแก๊สคงที่  ให้เครื่องยนต์ดูดเนื้อแก๊สเข้าไปจุดระเบิด  ทำให้ไม่เสถียร หากแก๊สหนาไป เครื่องจะน็อค (เขก)  ดังแกร๊กๆๆ เมื่อเร่งรอบสูงขึ้น   ผู้ขับต้องรีบยกคันเร่ง   ถ้ายังกดต่อไป เครื่องยนต์อาจพังได้  หากปล่อยแก๊สบางไป ก็ไม่ประหยัดน้ำมัน  จึงหาจุดเหมาะสมได้ยาก

(ผู้ีที่ใช้รถดีเซลติดแก๊ส จำเป็นต้องรู้เรื่องรถดี มีความรู้ด้านช่างในระดับหนึ่ง ต้องรู้ว่าเสียงเครื่องยนต์ที่ปกติเป็นอย่างไร ถ้าผิดปกติเป็นอย่างไร  และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ กรณีเสียกลางทาง   ผู้ใช้รถประเภทใช้รถอย่างเดียว ไม่ควรติด)

แต่ระบบ DDF ยุคปัจจุบัน ใช้กล่อง ECU ในการควบคุมการจ่ายแก๊ส โดยคุมผ่านสเต็ปมอเตอร์  จ่ายตามแรงเหยียบคันเร่ง  เหยียบมากจ่ายมาก เหยียบน้อยจ่ายน้อย  จอดติดไฟแดง ไม่จ่ายแก๊สเลย จึงถนอมเครื่องยนต์ได้มาก และจ่ายแก๊สตามความต้องการของเครื่องยนต์อย่างแท้จริง

และยุคต่อไป ก้าวเข้าสู่ยุคดีเซลติดแก๊สหัวฉีด  ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในยุคคาบเกี่ยว อยู่ในช่วงทดลอง คนที่ติดไป ยังไม่พัง เลยยังไม่ได้ปรับปรุง (ฮา......)  จึงยังไม่ควรใช้ในช่วงนี้  รอสัก 3-5 ปี  คาดว่าจะเป็นที่นิยม  เพราะจะผ่านการพัฒนาปรับปรุึงได้เสถียรที่สุด

การติดแก๊สร่วมดีเซลนี้   อันที่จริงมันไม่ได้ส่งผลด้านการประหยัดน้ำมันโดยตรง  แต่เป็นการเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์มากกว่า   กล่าวคือ  เราวิ่งที่ความเร็วรอบเท่าเดิม แต่เหยียบคันเร่งน้อยลง   เช่น   จากเดิมเราวิ่งที่  2000 รอบ  ต้องเหยียบคันเร่งลึก 10 ซ.ม.   แต่พอติดแก๊สผสมแล้ว   วิ่งที่ 2000 รอบ  แต่เหยียบคันเร่งเพียง 5 ซ.ม.  ความประหยัดจึงตามมา     (ถ้าเราเหยียบคันเร่งที่ 10 ซ.ม. เหมือนเดิม รอบเครื่องจะพุ่งไป 3000 รอบ)

สามารถทดลองทฤษฎีนี้ได้ง่ายๆ (ถ้าใจถึง)   คือ   เอาผ้าชุบน้ำมันเบนซินให้ชุ่ม แล้วนำไปจ่อใกล้ปากทางเข้าไอดี   จะพบว่า รอบเครื่องจะสูงขึ้นทันที เนื่องจากเครื่องยนต์ดูดไอระเหยของเบนซินเข้าไป (ซึ่งไอระเหยของเบนซินติดไฟได้)  การจุดระเบิดจะรุนแรงขึ้น   ระบบ DDF ก็เช่นกัน

สรุป ในโลกนี้ ไม่มีอะไรได้เปล่า  มีได้  ก็ต้องมีเสีย   อยู่ที่เราชั่งใจ  ว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม   คนอื่นว่าไม่คุ้ม  แต่สำหรับเราอาจคุ้มก็ได้

ยกตัวอย่างกรณีของผม  ที่ผมตัดสินใจติดนั้น   เพราะผมใช้รถวิ่ง กรุงเทพ-ลำพูน (เีชียงใหม่) เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย  เนื่องจากครอบครัวแฟนอยู่ที่นั่น ต้องพาหลานกลับไปเยี่ยมทุกเดือน   จากเดิมเติมน้ำมันดีเซลล้วน  ไป-กลับ  ค่าน้ำมัน 6,000 บาท

แต่เมื่อติดแก๊สผสม   ค่าน้ำมันดีเซล + แก๊ส LPG เหลือเพียง 4,500 บาท เท่านั้น  และผลพลอยได้คือ  ระยะวิ่งยาวขึ้น   จากเดิมดีเซลถังเดียว วิ่งได้แค่ 650 ก.ม. แต่พอใช้ดีเซล+LPG  ระยะทางเพิ่มขึ้นเป็น 750-800 ก.ม.   จึงเพิ่มความสะดวกสบายอีกเรื่อง คือ ไม่ต้องแวะปั๊มเติมน้ำมันกลางทาง  สามารถวิ่งยาวได้ถึงเีชียงใหม่เลย  ทำให้การคำนวนค่าใช้จ่ายในการเดินทางง่ายขึ้น

สำหรับผม ผมคิดว่าคุ้ม  คุ้มมาก  เพราะใช้เดินทางไกล (บางเดือนผมเดินทางไกล 3 รอบ รอบละ 6,000 บาท เป็นเงิน 18,000 บาท/เดือน  ไม่ไหวแน่ครับ  พอติดแก๊สแล้ว มันทุ่นค่าใช้จ่ายไปได้เยอะมาก)   แต่สำหรับผู้ที่ใช้รถในเมืองเป็นประจำ  รถติดๆ ไม่คุ้มแน่นอน  ย้อนกลับไปอ่านข้อความที่ผมเน้นสีเหลืองไว้นะครับ   หากรถติดไฟแดง หรือรอบเดินเบา ระบบจะไม่จ่ายแก๊ส    จะจ่ายเฉพาะตอนเหยียบคันเร่งเท่านั้น   ดังนั้น  รถที่วิ่งยาวๆ ได้เปรียบกว่าครับ   ผมสอบถามพรรคพวก G-wagon ที่ติดแก๊สระบบ DDF เช่นกัน  เขาก็ว่าคุ้ม  เพราะเขาอยู่กำแพงเพชร ต้องไปเยี่ยมลูกสาวที่ ม.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย อาทิตย์ละครั้ง   ซึ่งเซฟค่าใช้จ่ายไปได้เยอะมากเช่นกัน

ส่วนที่มีคน (รู้จริงมั่ง รู้ไม่จริงมั่ง บางคนไม่เคยใช้รถติดแก๊สด้วยซ้ำ) ชอบบอกว่า "รถดีเซลติดแก๊สแล้วพังแน่นอน"  ก็ต้องถามกลับว่า "ติดแก๊สระบบอะไร ใช้อะไรคุมการจ่ายแก๊ส แล้วอาการพังที่ว่า  พังอย่างไร?"   เชื่อมั๊ยว่า เขาตอบไม่ถูกหรอก ฟังเค้ามาพูดเหมือนกัน   นี่มันสมัยไหนแล้วครับ  ยุคดิจิตอลแล้ว  หาข้อมูลในเน็ตอ่านกันมั่ง  ผมล่ะไม่ค่อยอยากจะคุยกับคนพวกนี้  ขี้เกียจเถียง  หรือติดระบบมาดีแล้ว  แต่ใช้รถไม่เป็น  เหยียบตะบี้ตะบัน  เครื่องเขกแกร๊กๆๆๆๆๆ  แล้วก็ยังเหยียบ   รถอะไรก็พังครับ

ผมศึกษาข้อมูลมาดีพอสมควรก่อนตัดสินใจ   ไม่ได้ยุยงให้ใครต้องคิดตามผม    ซึ่งหากเครื่องมันจะพัง  สมมติว่าพังที่ 5 ปี - 10 ปี  ผมก็ยอม  เพราะกว่าจะถึงตอนนั้น ผมประหยัดไปได้เท่าไหร่ครับ   พอถึงตอนนั้น อาจมีเครื่อง V6 มาจากญี่ปุ่น ยกมาวางใหม่ได้สบายๆ  หรือเครื่อง JZ ก็ยังไม่หายไปง่ายๆ  เอาไว้ตอนนั้นค่อยคิด   ส่วนตอนนี้  ผมขอมีเงินเก็บในกระเป๋ามากขึ้น มีเงินซื้อของเล่นให้ลูก พาลูกเมียกินอาหารดีๆให้ท้องอิ่มมีความสุข   ดีกว่าต้องไปจ่ายค่าน้ำมันปีละเกือบ สองแสนครับ