Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

น้องปา ออกมาแค่สามเดือนเกียร์ค้างไป2ครั้งแล้วครับตอนขึ้นเขา ครั้งแรกเดือนที่แล้วพาครอบครัวไปม่อนแจ่มที่ ช ม ตอนขึ้นเขา อยู่ๆก็ค้างขึ้นมาซะงั้นเหยียบจนรอบขึ้นไปสามพันกว่า แต่หน้าจอเปลี่ยนมาเป็นเกียร์2 ค้างอยู่อย่างงั้น วิ่งไม่ออก จนคนในรถตกใจว่ารถเป็นอะไร ลากเกียร์สองไปพักใหญ่ มาเดือนนี้ไปเข้าค้อเป็นอีกแล้วตอนไต่ขึ้นเขา ใช้เกียร์ D กำลังเหยียบส่งอยู่เกียร์ค้างเองอยู่ที่เกียร์ 2 เฉยเลย รถตามหลังก็บีบแตรไล่เพราะอยู่ๆรถเราช้าลง ในจังหวะแซง พอถึงทางลงเนินเขา ก็ยังค้างอยู่อย่างงั้น จนรถสองแถวชาวบ้านขับแซงหน้าเฉยเลย... ท่านสมาชิกท่านใดมีประสบการณ์ช่วยชี้แนะทีครับ เริ่มไม่มั่นใจน้องปาแล้วละครับ คันเก่าผมใช้ไทนทัน พลัส ขึ้นเขามาตลอดกำลังส่งสุดยอดไม่มีตก แต่มาใช้น้องปา ไม่สมราคาเกือบล้านสามเลยครับ..จิงๆ painful rage scared

ป้าต้องเอาเข้า 0 แล้วไป Leaning Gear ใหม่ครับ

ขึ้นทางชันผมใช้แต่ + - ครับ เกียร์ D มันจะตื้อๆ ผมก็เคยเกียร์ค้างนะแต่ไม่เคยเข้าศูนย์ ตอนนี้ปกติอยู่ แสนโลนิดๆละ

ขึ้นทางชันใช้เกียร์ D รถมันคงคำนวณให้อยู่เกียร์ 2 เพื่อจะได้ไต่ขึ้นได้ครับ smile..  หรือลองเข้า 0 แจ้งอาการดูครับอาจจะดีขึ้น

รีบเอาไปเช็ค0ดูก่อนดีกว่าคับ...ปลอดภัยไว้ก่อนคับ

โอ้...เอาเข้าศูนย์ด่วนเลยคัพผม...

ของผมเป็นเช่นกันครับ

ในระบบเกียร์ D จะมีกล่องควบคุมเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กับความเร็วรถ
ถ้าเกียร์มีปัญหา จะแสดงโดยการ ตัว D ที่หน้าปัทกระพริบๆๆ และอาจจะ
ไม่กระพริบด้วยก้ได้ทั้ง 2 อย่าง
อาการที่ป๋าพบ เป็นได้ทั้งเรื่องปกติ ที่รถควบคุมไม่ให้เกียรืเปลี่ยน
เมื่อขับรถขึ้นทางชัน และเป็นเรื่องผิดปกติของเกียร์ เป็นได้ทั้ง 2 กรณี
ป๋าเท่านั้นครับ ที่จะจับอาการได้ดีที่สุด

ไม่ทราบว่าน้องปา เป็นแบบนี้ทุกคันเลยรึปล่าวครับ ถ้าเปรียบเทียบกับคันเดิม triton พลัสผมใช้มา5ปี ประทับแรงปีนเขามากครับ ขับผ่านมาหมดแทบทุกดอยทางเหนือ เหยียบส่งขึ้นเขาสบายมาก ทั้งๆที่เป็นเครื่องตัวเดียวกัน แต่น้องปา กลับดูด้อยกว่า triton เห็นๆ เรื่องระบบเกียร์ในการปีนเขา แค่ทางขึ้นสู่พระธาตุดอยตุง ก็คงไม่ผ่านแล้วละคับ  ถ้าน้องปาล๊อคเกียร์ 2 แบบนี่ เพราะชันมากกกก รถทุกคันต้องเหยียบส่งรวดเดียวถึงยอดพระธาตุเลย ในช่วงสุดท้าย ฝากเตือนสมาชิกท่านอื่นด้วยครับ ถ้าจะขึ้นเขาทางชันระวังเหตุการณ์แบบนี้ด้วยนะครับ อันตรายมาก.. ของผมจะรีบนำไปเข้าเช็ค o ทางภาคเหนือโดยด่วนครับ..  scared cry1 rage

ของผมก็เป็นครับเจอสองครั้งแล้ว มักจะค้างตอนขาลงเขาครับแล้วเราใช้เกียรต่ำต่อเนื่องนานๆมักจะค้าง
แต่ก็ไม่ได้แก้ไขอะไร ตอนนี้ จะสี่หมื่นโลแล้วครับ ก็ปกติดี
เท่าที่สังเกตุถ้าปรับเป็นแมนนวล แล้วเราไม่แช่ที่เกียรต่ำนานๆ สลับให้เกียรสูงบ้างลดภาระเกียรลง จะไม่ค่อยค้างที่เกียรสอง
ถ้ามันค้างก็เข้าข้างทางดับเครื่องรอสักพักแล้วสตาร์ใหม่มันก็จะกลับไปอยู่เกียร์ D ครับ

ผมเพิ่งไปแอ่วเหนือมาครับ ขึ้นทั้งดอยสุเทพ ภูพิง และก็ปาย ผมลองทั้งใช้เกียร์ D และ +-ที่คันเกียร์ครับ ถ้าใช้ตัว D ทั้งขึ้นและลงเหมือนมันจะมาที่D2 ครับและเหมือนจะค้าง เลยใช้+-ดีที่สุดครับไม่มีปัญหาวิ่งฉลุยครับ ทรอปนี้ 2000 กม หมดน้ำมันประมาณ 6000 บาทครับ กับความเร็วประมาณ 130-150 ครับ

ผมใช้ 3 ปี กลางๆ ตอนนี้ 90000 กม. เคยมีออาการ เกียร์ไม่เปลี่ยนตอนนั้น 15,000 กม สภาพการขับขี่คือขึ้นเขาแถวอุตรดิษ กับ อาคารฟอร์จูน. ตอนแลกเข้าใจว่าเกียร์ค้างนะครับแต่พอเจอครั้งที่ 2 ไปอ่านคู่มือ ผมเข้าใจว่ามันคือระบบความปลอดภัยการขับเคลื่ิอน ก็เลยไม่ห่วง. มีอการเดียวที่ห่วงเรื่องความบริสุทธิ์น้ำมันเชื้อเพลิงตอนนี้ผมโดนเปลี่ยน ตัวกรองไปแล้วครั้งหนึ่งกถ็ร่วม 5 พัน. เลือกปั้มน้ำมันหน่อยครัง

ถ้ามันเป็นระบบความปลอดภัยก็เบาใจครับ  กลัวอย่างเดียวแหละว่า เวลามันขึ้นเขาทางชันๆ ถ้าเกียร์มันมีปัญหาจริงๆ  กล้วมันจะไหลครับ  จะมีโอกาสไหมครับ 

มันเป็นปกติ สำหรับการขึ้นเขา ทางแก้มีเยอะ โพสกันไว้หลายกระทู้แล้ว ค้นหาเลยครับ ได้คำตอบ

แต่ผมว่ามันไม่ปกติแน่ๆ ผมใช้ทางขึ้นเขาบ่อย ในเส้นทางเดียวกัน บางครั้งมันก็เปลี่ยนให้ บางครั้งมันก็ไม่เปลี่ยน แม้ว่าจะใช้ +/- ก็ตามตั้งแต่ตอนขึ้นเขา ผมว่าไม่เกี่ยวกับว่าเกียร์มันอัจฉริยะที่มันรู้ว่าชันมาก  แต่สงสัยว่าระบบเกียร์มันร้อนเกินไปหรือเปล่าไอ้ระบบเกียร์อัจฉริยะมันจึงสั่งหยุดเปลี่ยนเกียร์   สำหรับคนที่ขับขึ้นเขาลองสังเกตดูว่าขณะขึ้นเขาช่วงแรกๆเกียร์มันก็เปลี่ยนให้ดีอยู่หรอก พอใช้ไปนานๆ พาลไม่เปลี่ยนซะงั้น  ไม่ทราบว่าพี่ๆเพื่อนๆมีความเห็นอย่างไร สำรับผมคิดว่าไม่ปกติทางมิตซูควรแก้ไขปัญหานี้ ไม่ใช่ให้ผู้ใช้รถเดากันไปเองนะครับ

ผมก็คิดแบบป๋าแหละครับ ว่าระบบเกียร์มันคงร้อนจัด เพราะส่วนมากจะเป็นเวลาอัดขึ้นเขา หรือวิ่งนานๆและมาขึ้นเขาชันๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่ รู้แต่นานๆมากจะเป็น(ไม่ได้เป็นบ่อย)
แต่เรื่องเกียร์อัจฉริยะ มันก็คงมีแหละครับ...ส่วนตัว คิดว่าควรใช้ + - มากกว่าเวลาขึ้นทางชัน จะได้กำลังมากกว่า ถ้าใช้ D ผมว่าแปปเดียวก็ค้าง smile..

...อาการดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับน้องปาผมมาแล้ว ตอนแรกก็เข้าใจว่าระบบเกียร์มีปัญหา ใจแป้วไปเลยครับ ขณะเกิดเกียร์ค้างที่ตำแหน่ง2  จะเปลี่ยนมา +/- ไม่ได้เลย
ต้องแก้ไขโดยการจอดรถให้สนิท แล้วเข้าตำแหน่งเกียร์ N จากนั้นก็ลองใช้ พัดเดิ้ลซิพ เกียร์ก็เปลี่ยนเป็นปกติ อัตราเร่งดีมากสั่งได้ดังใจ พอกลับมาใช้ทางราบก็กลับ
มาใช้ตำแหน่งเกียร์ D ปกติก็ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก ยอมรับตอนแรกก็เครียดครับกลัวเกียร์จะมีปัญหา พอได้เข้ามาศึกษาข้อมูลที่บ้านเราก็เข้าใจถึงการทำงานของเกียร์
ซึ่งเป็นปกติ รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที แต่ตอนนี้เวลาจะขับขึ้นลงเขาหรือภู ต้องใช้ +/- เท่านั้นถึงจะมั่นใจที่สุด ลืมบอกไปครับเหตุเกิดเกียร์ค้างขณะวิ่งขึ้นดอยอินทนนท์
ทริปผ่านมาเมื่อประมาณปลายเดือน ต.ค. นี้เอง...มาแชร์ประสบการณ์ให้ป๋า...รับทราบครับเผื่อว่าจะเกิดปัญหาเดียวกัน

ผมสัปดาห์ที่แล้วก็ไปดอยอินทนนท์เหมือนกัน ใช้เกียร์+/- นี่แหละ ขึ้นไปยอดดอยรอบแรกไม่มีปัญหาอะไร วันรุ่งขึ้นขึ้นไปรอบสอง ช่วงแรกก็เปลี่ยนได้ พอที่ชันมากๆ ผมก็ใช้เกียร์ 2 แต่พอเลยไปพอสมควรแล้วผมจะปรับเป็นเกียร์ 3 มันก็ไม่เปลี่ยน   ต้องรอทางราบมากๆหรือทางลง มันถึงจะเริ่มเปลี่ยนเป็นเกียร์ที่สูงกว่าให้   และอีกกรณีหนึ่งที่ผมพบในที่อื่นๆ เวลาเราใช้เกียร์ +/- ไปตามทางที่ลาดชัน แล้วไปเจอรถช้า และเป็นที่คับขัน ไม่สามารถแซงได้ รถเราจำเป็นต้องชะลอ จังหวะนี่แหละเกียร์มันจะปรับเป็น mode D อัตโนมัติให้ พอเลยจุดคับขันและสามารถแซงได้ เกียร์ก็ไม่เปลี่ยนให้ซะงั้น ดีว่าไม่มีรถสวนมา เลยต้องกลับเข้าเลนและคลานตามกันต่อไป   ผมเลยคิดว่าระบบเกียร์จำเป็นต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ครับ

มาแชร์ด้วยครับ มันอันตรายมาก ผมก็เจอครับ
เหตุการณืที่ 1
ผมใช้เกียร์ D ขึ้นผาตั้ง ที่ภูชี้ฟ้า มีช่วงนึงที่ชั้นมาก ก็เลยเร่งส่งขึ้นไป ตอนนั้นน่าจะเป็นเกียร์ 2 แล้วรถก็เริ่มช้าลงจนเกือบหยุด รอบเครื่องสูงมาก ตอนนั้นเริ่มตกใจแล้ว คิดอยู่ในใจว่าทำไมเกียร์ไม่เปลี่ยนลงซะที และอยู่ดีมันก็เปลื่ยนลงเป็น 1 (เสียงดังปั้ง แรงมากๆ)ผมนึกว่าเกียร์พังแล้ว แล้วมันก็ขึ้นไปจนได้ โล่งใจรอดไปได้ หลังจากนั้นผมก็ขับกลับบ้านอย่างระมัดระวัง แบบกังวล ๆ จนถึงบ้านก็ไม่มีอะไร
เหตุการณืที่ 2
ผมขับรถขึ้นอาคารที่จอดรถ ช่วง วนขึ้นไป ก็เป็นเกียร์ 2 สังเกตุดูตอนมันเปลี่ยนเป็นเกียร์ 1 มันกระตุกมาก แต่ไม่มีเสียงดังอะไร และมันก็กระตุกบ่อยมากครับ ไม่รู้ว่าใครเป็นแบบนี้บ้างตรับ
สรุปแล้วผมว่ามันแปลกๆนะ ขับรถเกียร์ออร์โต มาตั้งหลายคันเวลาเปลี่ยนเกียร์มันไม่เป็นแบบนี้อ่ะครับ รบกวนป๋าๆ ช่วยวิเคราะห์ หรือออกความเห็นด้วยครับ
 โอ๊ยมึน

ของผมก็เป็นครับเกียร์ค้าง เซ็งกันไปถ้าค้างนานๆความร้อนขึ้นนะครับอย่าขับแช่นานไม่ก็จอดข้างทาง หรือทำให้รอบต่ำๆเกียร์ก็จะกลับปกติ ที่สำคัญตอนเราขับขึ้นเขามันจะเลี้ยงให้รอบต่ำมันจะยากเพราทางมันชัน ที่จอดข้างทางก็ไม่ค่อยมีอีก แต่ผมสังเกตเวลาขับทางไกลแล้วมาขึ้นเขามันจะชอบค้างถ้าทางใกล้ไม่เป็น ถ้าเกียร์ค้างใช้เกียร์อะไรก็ไม่ขยับนะครับ ปีใหม่ว่าจะลองขึ้นเขาอีกทีว่าจะเป็นอีกเปล่า shame .

ผมะึ่
ไปดอยอินทนนท์เมื่อวาน ทริปทรอนิกใช้ได้ปกติครับ โดยเฉพาะทางลงเราจะต้องลงเหลือ 1 แต่ต้องมีจังหวะลดความเร็วเกียร์เปลี่ยนให้ ช่วยได้มากครับ

ยกคันเร่ง กดเบรค แล้วเปลี่ยนเกียร์ครับ เกียร์จะเปลี่ยนให้ง่ายๆถ้าเล่น + - ถ้ารอบสูงเกียร์จะไม่ยอมเปลี่ยนให้ตอนขึ้นเขา ลงเขา

ใช่ครับเบรกช่วยนิดนึงจะดีกว่าครับ รอบนี้ผมขึ้นไม่มีกลิ่นผ้าเบรก ใช้เกียร์ได้มีประสิทธิภาพครับ

ผมก็เพิ่งจะกลับจาก ดอยอินทนนท์ และ ดอยอ่างขาง มาครับเกียร์ผมก็ใช้งานได้ปรกตินะครับไม่มีค้างเลยครับ  ยอดเยี่ยม

ปา 4WD ไมล์ ของผมก็เป็นเมื่อวันที่ 31 ธันวา ผมไป ปาย กับ ปางอุงมาเจอเลยเหมือนกัน(เลขไมล์ ณ. ตอนนั้นอยู่ที 2500 กม.) ผมสังเกตุว่าถ้า Temp ที่ สมาทร์เกทเตือนที่ 95 องศาเป็นเวลานานเกียร์2จะค้างทันทีเลยไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่ง manaul peddel shift หรือ D ก็ค้างเป็นทังหมด3ครั้งจังหวะขึ้นเนินชันมากๆด่านแรกจากปายออกมา6กม. เจอเขาลูกแรกชันมากค้างทันที ครั้งสองขาเข้ากิ่วลมก็ชันมากๆ ทั้งสองครั้งก็เลยต้องพักกันนานเลย แต่อีกครั้งลองไม่พัก อาศัยเลื้ยงรอบต่ำๆซักพักก็เปลื่ยนเกียร์ได้ปกติ แล้วพอขากลับมาเป็นทีเนินขาเข้าลำปางจากเชียงใหม่มา อีก1ครั้งแต่ก็ไม่พัก อาศัยเลื้ยงรอบต่ำอีกก็หาย แต่ในจังหวะที่ Temp peakที่95องศาแป๊ปเดียวจะไม่ค้าง ตอนนี้ที่สมาทร์เกทติด code u1102 คืออะไรไม่ทราบลบcode ก็ไม่ได้ สงใสคงต้อง leanning ใหม่

สำหรับคนที่เจอปัญหา จะแก้กันยังไงดีครับเนี่ย....ตอนนี้บอกตรงๆไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ถ้าจะต้องไปขึ้นเขาที่ชันมากๆน่ะ
ยี่ห้ออื่นเขาเป็นกันหรือป่าวครับเนี่ย...? ว่านผู้รู้ช่วยแนะนำให้ความกระจ่างด้วยครับ  สาธุ

ระบบเกียร์ของน้องปาเรามันฉลาดเกินครับ แนะนำว่าเวลาขึ้นลงเขาที่ทางชันมากๆให้ใช้เกียร์ +- ดีกว่าครับ วนเวียนอยู่ที่ 1-3 จะแน่นอนกว่า ของผมบางครั้งเปลี่ยนเกียร์เองในความเร็วที่ต่ำกว่าระบบกำหนดก็เปลี่ยนไม่ได้ครับ....แต่ถ้าเป็นบ่อยและไม่สบายใจก็เข้าศูนย์ไปเลิร์นนิ่งเกียร์ดูครับ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ

แต่ก่อนแตะฮีตที่ 95องศา(ความร้อนของหม้อน้ำและการส่งผลถึงความร้อนทั้งระบบรวมทั้งน้ำมันเกียร์ด้วย) ได้ยินพัดลมไฟฟ้าทำงานที่ 93 หรือ94นี้แหละครับถ้าให้ทาง0แก้ให้พัดลมมาทำงานที่ 92 องศาน่าจะช่วยลดอาการเกียร์ค้างลงไปได้บ้าง ความคิดเห็นส่วนตัวน๊ะครับและไม่แน่ใจว่าที่0จะทำให้ได้ไห้
ลืมบอกไปว่าผมไม่ได้เปิดแอร์เลยในขนะขึ้นเขา Tempขนะใช้ในเมืองอยู่ที่ 89-91องศา

สอบถามทาง0มิตซูระยองแล้วครับได้คำตอบว่า ไม่สามารถเซทให้พัดลมไฟฟ้าทำงานที่92องศาได้เพราะเป็นการเขียนโปรแกรมจากกล่องหลักแต่ไฟเกียร์ที่หน้าปัดไม่ได้โชว์ว่ามีปัญหาเรื่องความร้อนแสดงว่าเกียร์มันไม่ได้ร้อนจริงแต่เป็นคำสั่งจากหม้อน้ำที่มีอุณหภูมิสูงมาทำให้มันล๊อคที่เกียร์2ในขนะขึ้นเนินชันถ้าอยากจะลองแก้ปัญหาก็เพิ่มพัดลมไฟฟ้าแล้วเปิดการทำงานตั้งแต่ตีนเขาไปเลยอาจจะพอช่วยได้บ้าง(ส่วนน้องปาของผมขนาดใช้ peddle shift มันยังกลับมาต่ำแหน่ง D และเกียร์ค้างเฉยเลย) แต่ดูแล้วว่าถ้าลากเกียร์ขึ้นทางชันทุกกรณีถ้า Temp. หม้อน้ำมาแตะที่95องศาเมื่อไหร่(นานๆ) เกียร์จะค้างทันทีทั้งสี่รอบที่เป็น แต่พอดีไม่คอยได้ไปเหนือบ่อยก็กะว่าไม่ใส่ใช้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอาคือถ้าค้างก็ลดรอบลงหรือไม่ก็จอดพัก                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                       

เข้ามาแอบฟังป๋าๆ บ่นกันเรื่องเกียร์ค้างตอนขึ้นเขาหรือ ทางชันมาก ผมก็โดนเหมือนกัน มือใหม่ครับ

ขับรถมาเกือบหมื่นกิโล อยู่แถวบ้านไม่มีภูเขาสักลูกให้ปีนเล่น ช่วงปีใหม่ไปเที่ยววังน้ำเขียวมาขับตอนแรกใช้

D ตลอดเนินนิดหน่อยไม่มีปัญหา  แต่ตอนเข้าที่พักบ้านไร่ภูแผงม้า เป็นเรื่อง เนินสูงมาก

ใชั D เกือบไม่รอด อืดสุดๆ คลานเป็นเต่า เกือบจอดคาเนินคนในรถหายใจไม่ทั่วท้อง เกือบหมดสนุก

ตอนเย็นเอาใหม่เข้า 4WD + manaul peddel shift รอบนี้ไม่มีปัญหาครับขึ้นเขาสบายมาก กำลังดีมาก

สมกับรถราคาเป็นล้านหน่อย มันอยู่ที่เราต้องทำความเคยชินกับระบบเกียร์ในการขับรถขึ้นเขาหรือที่ทางชันๆด้วยนะ

ตามความเขาใจของผมนะครับ

มันมีวิธีแก้มั้ยครับ เรื่องเกียร์ 2 ค้าง ผมก็เพิ่งเจอมาตอนขึ้นอินทนนท์ครับ

เล่นซะกลัวไปเลย ค้างตอนแซงด้วยครับ รบกวนป๋าๆ ชี้แนะด้วยนะครับ

เสียงดังปั้ง แรงมากๆ....ผมเคยได้ยินเสียงแบบนี้ ประมาณปีที่แล้ว ขับด้วยตำแหน่งเกียร์ D ไม่เร็วมาก แต่พอรู้ว่าเข้าผิดเส้นทางเบรคกระทันหัน ได้ยินเสียงดังปั้ง แรงมาก นึกว่าก้อนหินหรือท่อนไม้กระเด็นถูกตัวรถ ใจหายแว้บ จากนั้นก็เร่งต่อ แต่ว่ามีแต่รอบขึ้น เกียร์ไม่ยอมเปลี่ยน ตื้อๆอยู่ตั้งนาน งง...เกิดไรขึ้น เหลือบมองหน้าปัด เห็นเลขบอกตำแหน่งเกียร์กลายเป็น 1 ซะงั้นแต่คันเกียร์ยังอยู่ที่ D ยังนึกอยู่ว่ามือคงไปถูกคันเกียร์โดยไม่รู้ตัว (แต่ก็นึกค้านเหมือนกันว่าไม่น่าเป็นไปได้)  จากนั้นใช้ paddle shift ให้หน้าปัดเปลี่ยนจาก 1 เป็น D จึงวิ่งได้ตามปกติ เมื่อแวะเข้าปํ๊มน้ำมันได้ ตรวจสอบคันก็ไม่มีรอยบุบใดๆ อ้าว แล้วเสียงมันดังมาจากไหน .... จากนั้นมาก็ใช้เป็นปี ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนอาทิตย์ก่อนขับขึ้นสะพานข้ามแยกแถวงามวงศ์วาน ด้วยความเร็วประมาณ 90 ได้ยินเสียงปั้งแรงๆเหมือนเสียงปืน แต่ก็ขับได้เป็นปกติ ยังนึกอยู่ว่าเป็นเสียงจากที่อื่น แต่ผบ.บอกว่าเหมือนกับมาจากรถเรา..ถึงบ้านตรวจดูก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ...จนมาวันนี้มาอ่านเจอของป๋านี่แหละ ...มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

ขออภัยนะครับป๋า ในกระทู้นี้ป๋าไม่ได้บอกว่าป๋าใช้รถรุ่นไหนกันบ้าง ก็เลยไม่รู้ว่ารุ่นไหนเกียมีปัญหาเยอะสุด 3.0  2.5   2.4 ครับ  ผมใช้  2.5 GT  2WD  ขึ้นเขาค้อภูทับเบิกขาขึ้นใช้เกีย D ขึ้นกำลังเหลือเฟือไม่มีปัญหาอะไร  ขาลงไปที่ +/- ใช้เกีย 2  จอดบ้างตรงจุดพักเบรกลงมาก็ปกติครับ

ผมเหมือนกันครับ พึ่งได้ 2.5 gls มา 26 ธค จัดไป อยุธยา - พะยา - ภูชีฟ้า  -  ปาย - พะเยา -  อยุธยา  (บ้านแฟนอยู่พะเยา) เกือบ 3000 km  มีปัญหา  ตอน ไปปาย  ใช้ d ขึ้นเขา  เกียร์ค้าง เร่งแล้วรอบขึ้น แต่ไม่มีแรง  ก็เลยมาใช้ +-   แทนครับ ขากลับไม่มีปัญหา  ตกใจ  เพราะเคยใช้ isuzu ftr เกียร์ธรรมดา กะ civic fd ไม่เคยมีปัญหา  เกือบไปแล้วกว่าเกียร์ไหม้

ถ้าเป็นปาร์ 3.2และ2.5ตัวเก่า มิตซูใจดีแถม ออยคูลเลอร์เกียร์มาให้ แต่พอเป็น 2.5VG กลับไม่ไดติดมาไม่แน่ใจด้วยเหตุผลอะไรทางด้านเทคนิคของโรงงานแต่ที่แน่ๆมันสร้างปัญกาให้กับผู้ใช้รถ ก่อนอื่นต้องขออนุญาติท้วความระบบเกียร์และการระบายความร้อนขเงของเหลวในระบบ
.
เกียร์ออโต ใช้น้ำน้ำมันไฮดรอลิคที่มีความหนืดเฉพาะกับเกียร์รุ่นนั้นๆในการทำงานโดยมองหรือคิดยากสองปัจจัยในการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์
....ความต้องการเฉพาะหน้าในขณะนั้นจากผู้ขับขี่ เช่น กำลังเร่งแซง โดยมีรอบเครื่องและตำแหน่งเกียร์เป็นปัจจัยประกอบ เช่น รอบเครื่องเดินทางประมาณ 3000 ในเกียร์ 4/5เมื่อผู้ขับต้องการ กำลังเร่งแซง หรือ อื่นๆ กล่องหลักจะประมาณผล รอบเครื่อง ลิ้นเร่ง องศาแป้นคันเร่ง และ ตำแหน่งเกียร์ 
     กดลึกในทันที กล่องหลักจะส่งสัญญานไปที่กล่องเกียร์ให้ทวนจังหว่ะลงมา1-2จังหว่ะเพื่อสร้างกำลังในช่วงเวลาจำกัด
     ค่อยๆกด กล่องหลักจะปรับเปลี่ยนจังหว่ะและปริมาณเชื้อเพลิงเพื่อ สร้างกำลังตามที่ถูกโปรแกรมโดยมีเงื่อนไขตามปัจจัยต่างๆในการประมาลผล   ซึ่ง ตรงนี้คือประเด็นปัญหา "เรื่องความร้อนของระบบเกียร์อันส่งผลต่อการทำงาน"
....ถูกบังคับโดยผู้ขับ เช่น เชนเกียร์ หรือ เลือกอัตราทดเกียร์โดยผู้ขับ โดย กล่องจะมองอยู่ปัจจัยหลักอย่างเดียวเรื่องความปลอดภัยของเกียร์ นั่นคือรอบเครื่องขณะนั้นก่อนเปลี่ยนจังหว่ะเกียร์ลง  ถ้าเกินจากที่โปรแกรมไว้ก็จะไม่ยอมทำตาม(แต่ในระบบอนาล๊อคหรืออย่าวไทรทัน3.2ไม่มีตัวนี้ถ้ผู้ขับสับเกียร์ลงจังหว่ะต่ำในขณะที่ใช้เกียร์4รอบเครื่องสูง มีโอกาสพังได้มากกว่า)
.
ปัญหาเรื่องความร้อนของระบบเกียร์ออโต
        โดยปกติเกียร์ออโต จำเป็นอย่างมากที่ต้อง"คงหรือรักษาอุณหภูมิน้ำมันเกียร์"ไม่ให้สูงเกินที่กำหนด เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย ในระบบเกียร์ออโต จะนำน้ำมันเกียร์ออกมารักษาอุณภูมิให้คงที่หรืออยู่ในขอบเขตุ ด้วย ความร้อนจากน้ำหล่อเย็น ในไทรทันหรือปาร์รุ่นแรกๆ จะมีแผงออยคูลเลอร์อยู่หน้าเครื่อง โดยทำกน้าที่ลดความร้อนของน้ำมันเกียร์ก่อนเข้าระบบหล่อเย็นเครื่องหรือหม้อน้ำ(โดยมากเข้าใจกันผิดว่า น้ำมันเกียร์เข้าหม้อน้ำและผ่านแผงคูลเลอร์ก่อนวนกลับเข้าเกียร์) เมื่อใดที่เครื่องยนต์มีโหลดสูง อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นสูงขึ้น จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้น้ำมันเกียร์สูงเกินและทำงานผิดปกติในที่สุด
      .
ปัญหาความร้อนจากเครื่องยนต์ขณะรับโหลดสูงๆขณะนั้น
     ความร้อนจากเครื่องยนต์หลักๆมาจากปริมาณน้ำมันที่ใช้ในการจุดระเบิด การเสียดสีของชิ้นส่วนต่างๆ และ การถ่ายเทความร้อนนะขณะนั้น
           ปริมาณน้ำมันที่ใช้ในขณะนั้น  การโปรแกรมน้ำมันในขณะมีโหลดจะทำเพื่อให้เครื่องเกิดกำลังในริบเครื่องนั้นๆให้ได้มากที่สุด สังเกตุได้จาก การเปรียบเทียบความร้อนผ่านเครื่องวัดดิจิตอล(สมาร์ทเกจ) เครื่องที่มอนิเตอร์การทำงานของกล่องหลัก กล่องเห็นอะไรสมาร์ทเกจบอกเราอย่างนั้น  ในขณะขึ้นเขา ที่เป็นทางชันและมีระยะทาง การใช้เกียร์ D กล่องจะมอง สัญญาณจาก 1.องศาลิ้นเร่ง 2.องศาแป้นคันเร่ง(ขาคันเร่ง) 3.รอบเครื่อง 4.ตำแหน่งเกียร์            เมื่อเราต้องการกำลังในการปีนทางชัน เรามักจะกดคันเร่งในลักษณะ2ประเภท คือ ค่อยๆกด และ กดลึกในทันทีทันใด(คิ๊กดาวน์) ซึ่งประเภทหลังจะเกิดขึ้นน้อยกว่าด้วยเหตุผลของความปลอดภัย
                  การกดคันเร่ง แบบค่อยๆเติมรอบเพื่อเอาชนะโหลด กล่องจะค่อยเติมน้ำมันในรอบการจัดระเบิดเพิ่มขี้นเรื่อยๆ น้ำมันเยอะ อากาศเท่าเดิม ความร้อนในระบบจุดระบิดสูง แต่ ความสามารถในการระบายความร้อนของหม้อน้ำต่ำ เนื่องจาก การเคลื่นที่ของตัวรถและรอบเครื่องที่ไม่สูง โดยอัตราทดเกียร์ขณะนั้นยังไม่เปลี่ยน การได้เปรียบเชิงกลหรืออัตราทดเลยเป็นประเด็นรองในทันที
             ในขณะที่ อีกการเปรียบเทียบขณะขึ้นทางชันรถคันเดียวกัน ผู้ขับเลือกเกียร์ให้เหมาะสมกับสภาวะ ทางชัน ทดเกียร์ลงเพื่อกำลังและความปลอดภัย รอบเครื่องอาจจะใช้สูงกว่า แต่ปริมาณน้ำมันในการใช้ต่อรอบการจัดระเบิดกลับน้อยกว่า ผมเคยทำการทดสอบกับไทรทัน3.2ออโต ล้อ35" ระหว่างเกียร์ D กับ เกียร์ 2หรือ 1 อุณหภูมิต่างกันอย่างต่ำ 8-15องศา ตามสภาวะแวดล้อม
.
เมื่อเกียร์รับความร้อนสะสมมากๆ จนเกินค่าการทำงานตามปกติของน้ำมันเกียร์(ความหนืด) จึงเป็นปัญหาที่พบอยู่ การเลินนิ่งระบบเกียร์ใหม่ ก็เพื่อรีเซ๊ตค่าเออเรอร์ต่างๆให้กลับมาเป็นSTD
.
ในทัศนะคติปัญหารถไทรทัน/ปาร์เจโร่ จากประสบการณ์ ส่วนตัวนะครับ อาจจะมีอะไรคลาดเคลื่อนรบกวน ชี้แนะหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ

like heart good

ของผมเป็นตลอดเวลารถติดๆ ในเมือง ไฟเกียร์ D กระพริบ เข้าศูยน์เช็คคอม ในคอมโชว์ เกียร์ 2-3 ไม่สมบูรณ์
ยังหาปัญหาไม่เจอ

ระบบเครื่องยนต์ ทำอะไรเพิ่มเติมมาหรือป่าวครับ เช่น พ่วงกล่องดันรางมา เป็นต้น

แต่ตอนไต่ขึ้นเขาอย่าใช้เกียร์สูงมากนะครับ ควรเลี้ยงรอบให้ไม่ตํ่ากว่า 2000 rpm ไม่งั้นเกียร์จะรับภาระหนักครับ