Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

Pajerosport Room => น้องปากับพลังงานLPG/ NGV => ข้อความที่เริ่มโดย: StorM ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2013, 05:15:22 pm



Languages

หัวข้อ: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: StorM ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2013, 05:15:22 pm
เรียนสอบถามป๋าป๋าทุกท่านครับ Pajero 2.4 ของพวกเราติดตั้งแก๊ส LPG แล้ว จำเป็นไมที่จะต้องติดตั้งกระบอกเลี้ยงบ่าวาล์ว
รบกวนด้วยครับอยากทราบจริงจริง  eie


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: Tangpajero ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2013, 05:29:20 pm
ของผมไม่ติดครับ คันเก่าก็ไม่ติด (ESC 3.0 ใช้เกือบ 4 ปี) ส่วนตัวผมว่ามันไม่จำเป็นเลยซักนิดเดียวครับ เพราะเป็นเทคโนโลยีเก่าที่ใช้กับรถรุ่นเก่า ๆ ที่บ่าวาวล์ไม่ทนเท่าไหร่ ผมคิดว่ารถรุ่นใหม่ ๆ เดียวนี้ใันทนแก๊สได้สบาย ๆ อยู่แล้วครับ ความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ครับ ป๋า ๆ ที่มีความรู้มาแชร์ด้วยก็จะดีครับ  grin


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: xenogear ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2013, 05:34:42 pm
ผมไม่แน่ใจว่าจำเป็นไหมครับ แต่ผมไม่ได้ติดครับ ป๋าลองอ่านจาก web นี้ดูครับ

http://www.gasthai.com/article/html/206.html
http://www.newviosclub.com/forums/viewtopic.php?f=20&t=15953
http://www.rungrueng101.com/webboard/viewthread.php?tid=626

ผมใช้รถติดแก๊สมา 3 คัน ไม่เคยติดเลย แต่ผมจะใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องบำรุงรักษามากสักหน่อยครับ เปลี่ยนหัวเทียนทุก 20,000 โล ใช้น้ำมันเครื่องสำหรับรถติดแก๊ส สตาร์ทด้วยน้ำมันตอนเช้า ก่อนถึงบ้านตอนเย็นสัก 10 นาทีก็เปลี่ยนมาใช้น้ำมัน ถ้าขับระยะทางไกลๆ จะสลับแก๊สกับน้ำมันไปเรื่อยๆ ใช้แก๊ส 100 โล เปลี่ยนมาเป็นน้ำมันสัก 10 โล สลับกันไป และพยายามไม่ใช้รอบสูงเกิน 3,000 รอบ ถ้าจะขับเร็วเกิน 4,000 รอบ จะเปลี่ยนมาเป็นน้ำมัน (ปกติไม่ใช่คนขับรถเท่าหนักครับ) 3,000 รอบกว่าๆ ความเร็วก็ 120 แล้วครับ ประมาณนี้แหล่ะครับ


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: StorM ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2013, 11:16:22 am
ขอบคุณครับป๋าป๋า  smile..


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: teddyisman ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2013, 11:21:20 am
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ควรติด แต่ทุกวันนี้ไม่ติดกันแล้ว


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: @ เอ เด็กเมืองชล2.4 @ PajeroSport No.2522 ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2013, 02:11:43 pm
อย่าติดครับ อาจทำให้ลูกสูบแหวนติดได้เพราะคราบ เหนียวๆจะไปจะ ครับ  อีกอย่าง อย่าอุด EGR ครับ วาว์ลอาจพังเร็วกว่าเดิม 

เทคนิคการดูแลรถ  หมั่นเปิดฝากระโปรงเท่าที่ทำได้  ระบายความร้อน เป็น เรื่องสำคัญมาสำหรับเบนซิน 

น้ำมันเครื่อง ควรใช้เบอร์ 40 - 50      30 ใสไปครับ เพราะ น้ำมันเครื่องจะเกาะที่กระบอกสูบ ได้น้อยกว่าครับ ตามลำดับ  50น้ำมันจะเกาะได้ดีกว่า 

อีกอย่างกลับมาเรื่อง น้ำมันบ่าวาว์ล  ไม่ใช้ครับ  ใช้น้ำมันหัวเชื้อเบนซิน เติมที่ถังเบนซิน เมื่อใช้เบนซิน ก็จะไปทำงานพร้อมๆกับเบนซิน 

น้ำมันเลี้ยงบ่าวาว์ล  ใช้ได้แต่ใช้เฉพาะกิจ เปิดได้ปิดได้   เอาตอนที่กดยาวๆๆทางไกล  น่าจะดี แต่ตอนวิ่งในเมือง คงไม่ดีแน่ครับ 


เรื่องการเลี้ยงบ่าวาล์ว   มีกระทู้หลายกระทู้ไม่ให้ใช้ครับ  เราใช้ได้แต่เอาตอนที่เราคิดว่าน่าจะใช้ดีที่สุดครับ


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: khunkaew_V6 ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 12:48:55 am
http://www.flashlube.com/th/products/valve-saver-fluid.html
เราควรจะเข้าใจในสิ่งนี้ว่า "ว่าสารป้องกันวาล์วทรุด" มากกว่าที่จะเรียกมันว่า"น้ำมันเลี้ยงวาล์ว"ที่สำคัญ สิ่งนี้ไม่ใช้ AutoLube
ส่วนตัวผมใช้เจ้าสิ่งนี้ครับ เพราะ เครื่องยนต์ถึงแม้ว่าจะออกแบบบ่าวาล์วให้แข็งขึ้นแต่ก็เพื่อรองรับการใช้น้ำมันเบนซินชนิดไร้สารตะกั่ว ซึ่งในน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว ก็จะยังคงมีสารเคมีจำพวกสารทดแทนสารตะกั่ว ที่สารตะกั่วจะทำหน้าที่รับแรกกด แรงกระแทกที่บ่าวาล์ว เป็นการช่วยลดการสึกหรอที่บ่าวาล์วได้ อีกทั้งในน้ำมันเบนซินยังมีสารป้องกันการกัดกร่อน สารป้องกันสนิม และอื่นๆอีกมากมาย แต่เมื่อใดที่เราหันมาใช้ LPG หรือ CNG เครื่องยน์ก็จะได้รับความร้อนที่สูงขึ้นกว่าการใช้น้ำมันเบนซินอีกหลายเท่าตัว ความร้อนที่สูงกว่า อีกทั้งใน LPG,CNG จะไม่มีสารเคมีและจะไม่สามารถปรุงแต่สารเคมีใดใดที่จะคอยปกป้องชิ้นส่วนโลหะต่างๆของเครื่องยนต์ได้ โลหะเมื่อเจอความร้อนที่สูงขึ้นและไม่มีเคมีใด ไปช่วยโลหะที่บ่าวาล์ว เราจึงปฎิเสธไม่ได้นะครับว่าเครื่องยนต์ที่ดันแปลงมาใช้แก๊ส LPG,CNG เป็นเชื้อเพลิง จะต้องเจอปัญหา วาล์วทรุด หรือวาล์วจม หัวเทียนบอด และอื่นๆ เร็วกว่า การใช้น้ำมันเบนซิน แน่นอนครับ
แน่นอนครับ AutoLube ช่วยไม่ได้ตามที่ป๋าเข้าใจ และผู้ผลิต AutoLube ก็ไม่ได้มีคำระบุให้ใช้แก้ปัญหาความร้อนและวาล์วยัน ผมจริงไม่เคยใช้ AutoLube ครับ แต่เจ้า FlashLube มันไม่ใช้ AutoLube ครับ ส่วนมันคืออะไรหน้าเชื่อถือหรือไม่ ค่อยว่ากันอีกทีนะครับ


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: StorM ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 11:15:27 am
เอาแล้วสิครับเริ่มลังเลอีกแล้วสิครับ   ::)


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: xenogear ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 12:21:24 pm
เอาอย่างนี้สิครับป๋า...
1. ใช้รถเฉลี่ยวันละกี่กิโล (เอาแบบขับต่อเนื่องนะครับ)
2. ขับเร็วไหม
3. คิดว่าจะใช้รถคันนี้สักกี่ปี

คำตอบสำหรับ 3 คำถามนี้ที่เป็นความคิดส่วนตัวผมนะครับ
1. ถ้าใช้รถเฉลี่ยวันละไม่เกิน 50 กิโล ก็ไม่ต้องติดหรอกครับ (เพราะขับน้อยความร้อนสะสมก็คงจะไม่เยอะ)
2. ถ้าขับไม่เร็ว เท้าไม่หนัก ไม่เกิน 100 - 120 และไม่ได้ขับติดต่อกันเป้นเวลานาน ก็ไม่น่าจะต้องติดอีกเหมือนกัน (ความร้อนสะสมก็คงไม่น่าจะเยอะ)
3. ถ้าขับแบบ 2 ข้อข้างบน ผมว่ารถน่าจะใช้ได้ไม่ตำกว่า 4 ปีน่าจะยังไม่มีปัญหาอะไรที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์อันเป็นผลมาจากการติดแก๊ส  เพราะคันเก่าของผมที่เป็น Vios ก็ขับมาเกือบ 5 ปี ก็ไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็ขาย (เพราะอยากขับน้องปา เนื่องจาก vios มันเล็กไปสำหรับคนมีครอบครัวครับ) ถ้าป๋าคิดว่าใช้รถสัก 5 - 6 ปี แล้วเปลี่ยน ก็น่าจะเอาอยู่ครับ

ความคิดเห็นนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ ไม่รู้จะช่วยลดความลังเลหรือเปล่า แต่ถ้าป๋าไม่สบายใจก็ติด FlashLube ที่ไม่ใช่ AutoLube ตามที่ป๋า khunkaew_V6 แนะนำก็ได้ครับ


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: teddyisman ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 12:53:45 pm
แลนเซอร์ ผมใช้ LPG มาได้ 7 ปีกว่า (รถอายุ 10 ปีกว่า) ระยะทางอีกพันกว่าโล ก็ครบ ห้าแสนโล  ไม่ได้เลี้ยงวาล์ว
แต่ตอนนี้ รู้สึกว่าเครื่องไม่แรงเท่าเดิม ไม่รู้ว่า เป็นที่บ่าวาล์วสึกตามที่ว่ากัน หรือ เพราะอันหลวมไปหมด

ยังไงถ้าโอเวอร์ฮอล์ ก็คงต้องทำบ่าวาล์วใหม่อยู่ดี  เขามีทำบ่าแข็งด้วย เพิ่มวาล์วละห้าร้อย ไม่รู้ว่าจะแข็งกว่าเดิมๆไหม

ข้อสรุปผมไม่ติด กว่าจะสึกก็ใช้รถไปมากพอสมควร


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: Pramarn S. ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 04:45:43 pm
ไม่ต้องติดครับ ผมใช้รถติดแกสมือสอง มา 6ปี ไม่เคยมีปัญหาครับ
รถผมรุ่น kiasportage ปี 96 ติดแก๊สแบบดูดมาด้วย แค่เปลี่ยน นมค. ให้ตรงตามเสปก
ตรวจหมอน้ำเรื่องความร้อน ใช้น้ำมันบ้าง เปลี่ยนหัวเทียนทุก 2 หมื่นโล ล้างหัวฉีดบ้าง
แค่นี้ก็ใช้ไปยัน 10 ปีเลยครับ


หัวข้อ: Re: การเลี้ยงบ่าวาล์ว
เริ่มหัวข้อโดย: khunkaew_V6 ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 10:58:27 pm
เห็นด้วยกับทุกความเห็นครับ ใช้รถมากการสึกหรอก็มาก ใช้รถน้อยการสึกหรอก็น้อย ครับ
มีเรื่องจริงจะขออนุญาติเล่าให้ฟังนะครับ
ผมมีลูกค้าอยู่ 1-2 ราย เป็นเจ้าของอู่แต่รถและซ่อมรถ Mitsu Evo แปลงรถให้เป็นแนว ญี่ปุ่น ซึ่งแต่ก่อนก็ชอบแต่รถ อะไรที่ดีก็หามาใส่ น้ำมันเครื่องดีดีก็หามาใส่ สุดท้ายก็ขายไปได้ราคาตามสมควร เพราะเป็นอู่เอง
ปัจจุบัน อิ่มตัวแล้ว ซื้อรถมาใช้อย่างเดียว เปลี่ยนน้ำมันเครื่องปีละ 1 หนเท่านั้น น้ำมันก็เป็นเศษๆที่ลูกค้าเหลือทิ้งไว้ ผ่านไปไม่ถึง 5 ปีก็ขายรถแล้ว ลูกค้าผมเตือนและสอนผมให้ประหยัด เพราะเค้าก็ขับรถ แล้วก็เติมแต่เชื้อเพลิง+ล้างรถ+และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องปีละหน เท่านั้นเอง อย่างอื่นไม่เคยได้ทำอะไรเลย แถมยังเป็นรถมือ 2 ด้วย ขายรถไปก็ไม่ขาดทุน
ความคิดแบบนี้ ผมก็คิดว่า "เข้าท่าแฮะ" 555555
ส่วนผมถ้าเรื่องรถแต่ก่อนมีรายได้เท่าไหรก็หมดไปกับรถขายไปก็ขาดทุนเยอะ แต่ตอนนี้ก็เพลาเพลาลงแล้ว คงเหลือแต่ทำอย่างไรให้รถคู่ใจอยู่กับเรานานนาน เพราะคันนี้คงจะเป็นป้ายแดงคันสุดท้ายของผม ซึ่งกะว่าจะใช้ยันเกษียร อะครับ 555555