Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

สวัสดีคะชื่อซูโม่นะคะ พอดีว่าเพิ่งถอยน้องปาเมื่อวันที่30 มี.ค นี่เองแต่คือใช้งานเยอะมากมีปัญหาเรื่องน้ำมัน ใช้ดีเซลอยู่คะ ตั้งแต่วันที่30มี.ค จนถึงวันนี้วิ่งไป 4300 กม.แล้วใครมีวิธีแนะนำบางหรือจะกลับไปใช้ CNG เหมือนเดิมดี แต่เครื่องยนต์เป็นดีเซลกลัวมีปัญหา หรือยกเครื่องใหม่ดี กลุ้มๆ ขอข้อเสนิแนะหน่อยคร้า  สาธุ สาธุ

eie eie ถ้าจะตอบแบบเอามันส์ .....ก็ตอบว่ารถปาเจโร คันไหนไม่กินน้ำมันบ้างครับ  :D :D :D :D
ถ้าจะให้ถูก ต้องเปลี่ยน ว่า "เปลืองน้ำมัน" ครับ
ถามต่อ ที่ว่า วิ่งใช้งาน 4,300 กิโลเมตร เติมน้ำมันไป กี่บาท เป็นจำนวนกี่ลิตร แล้วลองคำนวณดูกับระยะทางที่เราวิ่งได้
สิ้นเปลือง กี่กิโลเมตร ต่อ ลิตร โดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ 10-11 กม./ลิตร วิ่งในเมืองรถติดอาจจะ 8-9 กม./ลิตร
ธรรมดาของรถระดับนี้ ตัวถังใหญ่ น้ำหนักมากขึ้น ต้องบริโภคมากหน่อยเป็นธรรมดา ที่สำคัญคือ พฤติกรรมการขับรถ จะเปลืองมากหรือน้อยเท้าขวาของเรานั่นเอง
ลองพิจารณาดูครับ ......ส่วนเรื่องจะกลับไปใช้ CNG เหมือนเดิม นี่หมายถึงอะไรครับ ใช้รถที่เป็นเครื่องเบนซิน ติด CNG หรือเปล่า
มีหลายท่าน นำเครื่องยนต์ดีเซลไปติด ก๊าซ ร่วมก็มีครับ ช่วยประหยัดขึ้น เห็นว่า แรงขึ้นด้วย....โปรดศึกษาและใช้วิจารญาณถ้วนถี่ก่อนคิดติดตั้ง
 eie eie eie

ปาดีเซลได้ประมาณ10-11กม/ลิตร ประมาณ3บาท/กม  ถ้าติดเชื้อเพลิงร่วม เห็นมีในห้องพลังงานทางเลือก มีทั้ง  CNG  LPG ลองดูว่าประหยัดประมาณ30% จะเพิ่มเป็น18-20กม/ลิตร คุ้มไหม ถ้า4300กม ก็ประหยัดประมาณ60-70สต/กม หรือประมาณ 3 พันบาท  แต่การรับปะกันเครื่องยนต์ก็จะหมด  ถ้าเครื่องดีเซลพังค่อยหาเครื่อง2.4 gls
  เครื่อง2.4 ถ้าเดิมๆไม่ติดแกสได้ 9 กม/ลิตร( กมละ4-6บาท) ถ้านอกเมืองก็11กม/ลน  ติดแกสแล้วจะได้ประมาณ7-8กม/ล วิ่งเรื่อยๆก็1.60บาท/กิโลเมตร

ต้องถามกลับว่า ที่บอกว่ากินน้ำมันนั้น  เจ้าของกระทู้เทียบกับอะไร   เทียบกับรถเก๋ง หรือเทียบกับรถเบนซิน หรือเทียบกับรถติดแก๊ส   ถ้าเทียบกับรถพวกนั้น ย่อมรู้สึกว่ากินกว่าแน่นอนครับ  ยิ่งถ้าเทียบกับรถแก๊สด้วย ยิ่งเทียบกันไม่ติด เพราะน้ำมันดีเซลมัน 29.99 บาท ส่วนแก๊สมัน 10-12 บาท

ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่วิธีการขับ  เจ้าของกระทู้เคยใช้รถเก๋งมาก่อนใช่หรือไม่  หรือเคยใช้รถเกียร์ธรรมดามาก่อน   เมื่อมาใช้รถดีเซล เกียร์ออโต้แล้ว ยังไม่เคยชินจังหวะ พูดง่ายๆ ก็คือ ยังไม่คุ้นกับรถ  อาจเหยียบมากไป ออกตัวแรงไป  คิดว่าเหยียบแล้วจะต้องพุ่งเหมือนรถเก๋ง เลยเดินคันเร่งลึกเกินไป  ช่วงเวลาเร่งแซง กดคันเร่งกระทันหันหรือไม่ (คิกดาวน์)  ฯลฯ สาเหตุเหล่านี้ล้วนทำให้กินน้ำมันมากกว่าปกติ

เพื่อนผมคนนึงเพิ่งออก 2WD ดีเซล มาเดือนนึง ก็โทรมาบ่นกว่า รถกินน้้ำมันมาก  ผมเลยแนะนำวิธีการขับไป ว่าค่อยๆเหยียบ เวลาออกตัวอย่าเหยียบมิดเหมือนรถเก๋ง  เวลาเร่งเครื่องให้กดแบบเนิบๆ ค่อยๆกด จนเกียร์มันเปลี่ยนตามจังหวะของมัน......    หลังจากปรับตัวได้  เพื่อนผมก็ไม่เคยบ่นเรื่องกินน้ำมันอีกเลย

ส่วนถามว่าจะติดแก๊ส CNG เป็นเชื้อเพลิงร่วมดีหรือไม่ 

ขอตอบว่า "ดี" ในฐานะผู้ใช้เชื้อเพลิงร่วมเช่นกัน  แต่ผมใช้ ดีเซล+LPG ตอนนี้ใช้มา 40,000 โลแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น  จากเดิมใช้ดีเซลล้วนตกกิโลละ 4 บาท แต่พอมาใช้ ดีเซล+LPG แล้วตกกิโลละ 2.8-3 บาท เท่ากับว่าตอนนี้ประหยัดเงินไปได้ประมาณ 40,000 บาทแล้ว (ในระยะเวลา 1 ปี) ผลพลอยได้ที่ตามมา เครื่องเร่งแรงขึ้น ออกตัวดีมาก ยังกับรถเบนซิน ขึ้นเขาขึ้นดอย รถพุ่งดีมาก ควันดำน้อยลง  ซึ่งหากเครื่องจะพังตอนนี้ ผมก็ยินดีวางใหม่  (สมมติว่ามันพังตอน 100,000 โล  ผมก็ประหยัดเงินไป 100,000 บาทแล้ว)  เพราะประหยัดมาได้พอสมควร อนาคตอันใกล้อาจมีเครื่องเบนซิน V6 มือสองมาวางในเชียงกงแล้ว ซึ่งผมเตรียมแผนสองสำหรับการวางเครื่องใหม่เอาไว้แล้ว 

แต่ "ไม่ดี"  สำหรับผู้ที่วิ่งในเมือง ใน กทม. ซึ่งรถติดมากๆ  เพราะแก๊สมันจะฉีดเฉพาะตอนเหยียบคันเร่งเท่านั้น  ถ้ารถติดอยู่กับที่ มันจะเดินเบาด้วยดีเซลล้วน ก็จะไม่ได้ความประหยัด   ผมใช้วิ่งกรุงเทพ-เชียงใหม่ เป็นประจำ จึงเห็นผลครับ   ไม่เคยแนะนำเพื่อนๆในกทม.ติดเลย  เพราะจะใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่

และ "ไม่ดี" ถ้าติดตั้งกับช่างหรืออู่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีความรู้เพียงพอ อาจทำให้เครื่องยนต์โทรมเร็ว สึกหรอเร็ว เนื่องจากความร้อนในห้องเผาไหม้ที่เพิ่มขึ้น และการจ่ายแก๊สที่ไม่ตรงกับความต้องการของเครื่องยนต์ในแต่ละรอบความเร็ว ทำให้เครื่องเขกและความร้อนขึ้น  ***แต่ปัจจุบันการติดเชื่อเพลิงแก๊สร่วมดีเซล มีซอฟแวร์ออกมาหลายสำนัก ให้เลือกใช้ ผมไม่เชียร์สำนักใดทั้งสิ้น เพราะทุกสำนักต่างมีดีไม่เหมือนกัน  กล่องควบคุมแก๊สล้วนคำนวนการจ่ายแก๊สได้ค่อนข้างแม่นยำ ไม่ทำให้เครื่องร้อน หรือเขกอีกต่อไป    ไม่เหมือนการจ่ายแก๊สคงที่ ติดแก๊สแบบง่ายๆ เอาท่อจ่ายแก๊สจิ้มลงท่อไอดีดื้อๆ เหมือนแต่ก่อน  ซึ่งมักจะได้ยินพวกอนุรักษ์นิยมพูดอยู่บ่อยครั้งว่า ดีเซล+แก๊ส ไม่ดี เครื่องพังแน่นอน ฯลฯ นั่นเป็นความคิดยุคหินเก่า  ปัจจุบันเข้าสู่ยุคดิจิตอล อยู่ที่ผู้บริโภคศึกษาข้อมูลและพิจารณาครับ 

บอกตรงๆ นะครับ ผมชักเสียว สังหรณ์ใจยังไงไม่รู้ กับคำถามประเภทนี้ เหมือนๆ จะรายละเอียดไม่ครบ
ล่อเป้า แฝงมายังไงไม่รู้ครับ......วางระเบิดไว้แล้วก็ไป อิๆๆ eie eie

ใช้รถมาปีกว่า ดีเซลขับสอง
ค่าน้ำมันเฉลี่ยแบบกว้างมาก ตกปีละแสน
นี่ก็พยายามลดอยู่ ไม่ได้โทษรถนะครับ
โทษเท้าตัวเองนี่แหละ  เผลอทีไรไหลไป 140 ทู๊กกที  eie

ได้ความรู้จ้อคิดมากมาย

ขอยคุณมากๆๆครับ
ปาดีเซลขับสองครับผม

กำลังมีคว่มคิดจะติด

คะขอบคุณทุกๆคำแนะนำและข้อเสนอแนะนะคะ ข้อแรกเลย แต่ก่อนใช้รถเก๋งมิตซูบิชิแลนเซอร์ท้ายเบนซ์ปี2000 อะคะติดแกส CNG แล้วพอดีเมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งออกปาเจโร่มาใช้ได้ประมาณเดือนนึง ก็นึกถึงคันเก่าขึ้นมาทันที555 พอเปลี่ยนมาใช้รถน้ำมันเลยเข้าใจเลยว่ารายจ่ายมมันสูงมากขึ้นเลยเลยอยากจะหาผู้แชร์ประสบการณ์ว่าเราจะทำอย่างไรต่อไปดีหรือจะยกเครื่องใหม่ใช้แกสหรือก็ใช้แบบนี้แหละแต่ปรับพฤติกรรมของเราให้เข้ากับรถซึ่ง ตรงกับข้อข้างบนเลยที่บอกว่าอาจจะชินจากรถคันเก่ามา ซึ่งตอบได้เลยว่ายังไม่ชินกะคันใหม่ ยังงัยก็ขอบคุณทุกๆท่านนะคะที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์ ตอนแรกกะเอาเครื่องเบนซินวี6แต่เสียดายเครื่องเพราะต้องเอามาติดแกส ตอนซื้อไม่ได้ศึกษาอะไรเลยตัดสินใจเองคนเดียว..ยังงัยขอผู้รู้ชีแนะด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆเลย (พอดีเพิ่งสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกอะคะอยู่ฉะเชิงเทรานร้าทักได้คะ)

ในเมืองซดน่าใจหาย ทางยาวประหยัดจนน่าตกใจ ผมขับคนเดียว เลยรู้พฤติกรรมการซดครับ yeh สังเกตุรอบเครื่องและการออกตัว ช่วยได้เยอะ ( แบบง่ายๆคือปรับเปลี่ยนการกดคันเร่งโดยสังเกตุรอบเครื่อง ระยะการชะรอ & การออกตัว)

ไม่น่าเรียกว่าเปลืองนะครับ ตอนนี้ใช้ไปกลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานเฉลี่ยวันละ 100 กม เป็นช่วงในเมืองประมาณ 20 กิโล ช่วงนอกเมือง 80 กิโล เติมน้ำมันครั้งละห้าร้อยอยู่ได้สองวันครับ เฉลี่ยกิโละ 2.50 บาท ณ.ราคาน้ำมัน 30.55 บาท ต่อลิตร ที่สำคัญพยายามขับไม่เกิน 2000 รอบต่อนาที ซึ่งจะได้ความเร็วอยู่ประมาณระหว่าง 100-120 กม.ต่อชั่วโมงครับ

อ่อคะเท่าที่สังเกตุดูนะคะ ก็วิ่งอยู่ที่ไม่เกิน 2100 รอบ เพราะว่าวิ่งจากฉะเชิงเทราไประยองบ้าง หาแม่ที่สัตหีบ แล้วก็แวะพัทยาบางทีก็ถือว่าวิ่งระยะไกลอยู่รึป่าวคะแล้วเค้ามีพวกรบบติดตั้งดูเกน้ำมันหรือบอกระดับน้ำมันแบบเหมือนพวกรถฟอร์ดเรนเจอร์บ้างมั๊ยอยากได้บ้างเพราะตั้งแต่ออกรถมาใช้อยู่คนเดียวขับคนเดียวเลยไม่กล้าให้น้ำทันหมดเลยกูครึ่งค่อนถังตลอดเลยไม่รู้ว่ามันเหลือมากน้อยแค่ไหนแต่ที่วิ่งไป4300 กม.ตั้งแต่ออกจาก0มาก็เติมไปประมาณ12000 อะคะ

สมาชิกที่ใช้ปาเจโร่ต้องทำใจเรื่องค่าน้ำมันของผมโลละ2.50 บาท มาตรฐานนะ ขับไม่เกิน120กม.รอบเครื่องไม่เกิน 2000 รอบ ประหยัดที่สุดแล้ว

อ่อคะขอบพระคุณทุกคำแนะนำดีๆจากทุกๆท่านเลยใจดีที่สู๊ดดด yeh good

สภาพการขับขี่แต่ละคน แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน อย่างผมใช้ในเมือง jazz ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่เกียร์ A/T  Soluna รุ่นแรกเกียร์ M/T หมดถังเฉลี่ย 9.XX-10.xx กม. / ลิตร (E10)  Mirage A/T เฉลี่ย 11.XX กม./ลิตร Pajero 2.5 VG 4WD 7.5-7.8 กม./ลิตร วิ่งทางไกล 11.XX กม./ลิตร  ถ้าเอาอัตราสิ้นเปลืองจากรู้สึกว่าห่างกันมาก แต่อย่าลืมว่าราคาน้ำมันดีเซลมันถูกกว่า ดังนั้นสำหรับผมกินน้ำมันขนาดนี้รับได้ครับ และจริงๆแถ้าจะเอาไปเปรียบเทียบอัตราสิ้นเปลืองกับรถเก๋ง ผมว่าควรไปเทียบกับรถ Sedan ระดับเครื่อง 2.0-2.5 อย่างพวก Camry , Accord ,Teana หรือถ้าเป็น Cross over ก็ต้องเป็นพวก CRV , Captiva  หรือเพื่อนร่วม class อย่าง Fortuner หรือ trailblazer เพราะรถพวกนี้จุดขายเรื่องความประหยัดเป็นประเด็นรอง รถพวกนี้จุดขายคือเรื่องของภาพลักษณ์ ประโยชน์การใช้งานเฉพาะ สมรรถนะของรถ ที่ตรงกับลักษณะการใช้งานของผู้ซื้อเป็นหลัก มีรุ่นน้องที่ทำงาน เป็นผู้หญิง โสด อยู่คอนโด ที่บ้านค่อนข้างมีฐานะ เคยใช้แต่รถเก๋งมาก่อน การใช้งานหลักๆขับอยู่ในเมือง เห็น pajero sport คันใหญ่ แกบอกดูเทห์ดี ไม่นานก็ออกรถมา ตอนนี้ก็มีเสียงบ่นๆอยู่ว่า มันหนักๆขับไม่สบาย ไม่คล่องตัว หาที่จอดยาก และกินน้ำมัน ซึ่งก่อนจะออกผมก็ได้แนะนำไปแล้วว่าถ้าอยากได้รถที่่ดูดีกว่ารถเล็ก รถ compact sedan อย่าง altis civic focus mazda 3 ก็ยังเป็นทางเลือกที่น่าสน หรือจะเป็นพวก Sedan อย่าง Acccoard camry เครื่อง 2.0 ก็ ok แต่ถ้าชอบ suv ก็ crv หรืแ captiva น่าจะเหมาะกว่า แต่แกยืนยันว่าจะเอา pajero sport ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไง ผลสุดท้ายก็อย่างที่ว่า  

ผมว่า จำนวนคนนั่ง การเปิดแอร์ อะไรมีผลนะครับ

อย่างตอนผมไปเที่ยวน่านมา ไปกลับ 2000 โลเปะ โดนไป 6000 ค่าน้ำมัน
ตกโลละ 3 บาท พอดิบพอดี

แต่ถ้าดูเป็นถังถังที่นั่งขับ 2  คน จะวิ่งระยะทางได้เยอะกว่าถังที่นั่ง 4-7 คนครับ เพราะมีเปิดแอร์หลัง และเร่งแอร์แรงตลอดเวลา

กับล่าสุด

เพิ่งไป ชุมพรมา คราวนี้ลองขับใหม่ เดินคันเร่งเนียนๆ ขับ 100-110 รอบ ไม่ถึึง 2300 รอบ
ระยะทางไปกลับรวมประมาณ 1,100 - 1,200 โล ใช้น้ำมันไป ประมาณ 2,750 บาท ยังเหลือ ครึ่งถัง ก็ตกโลละ 2 บาทนิดๆ หรือราวๆ 12-13 กม ลิตร

ก็ถือว่าใช้ได้ครับ

ขอแชร์ข้อมูลร่วมด้วยครับ ขอผมวิ่งประมาณ 3000 กิโล / เดือน เฉลี่ยค่าน้ำมัน ( ผมเติม V-Power)

ค่าน้ำมัน 8,000 บาท/เดือนครับ ความเร็วเฉลี่ย ที่ 100 กม./ชม. ครับ เฉลี่ยตกกิโลละ 2.66 บาทครับ

ส่วนมากก็วิ่งคนเดียวตลอดไม่เกิน2100 มีครั้งนึงจัดหนักน้ำมันเต็มถังรถวิ่งแบบตื้อๆหนักเลย คราวหลังมาเลยเติมแค่ครึ่งถังตลอดแต่เดวจะลองเอาคำแนะนำจากพี่ๆเพื่อนๆไปลองปรับพฤติกรรมตัวเองก่อนมันอาจจะยังไม่รู้จังหวะกับรอบของรถ แล้วอยากจะสอบถามอีกเรื่องนึงคือเวลา รถวิ่งตกหลุมเล็กๆลองสังเกตุว่ารอบเครื่องมันจะตัดลงมาเกียร์ต่ำอันนี้ถือว่าปกติมั๊ยคะ (สอบถามเป็นความรู้พอดีใช้คนเดวไม่รู้จะปรึกษาใครดี ขอบคุณจร้า) สาธุ สาธุ

แก้ไข กระทู้ข้างบน 2100 รอบนคะ

ตกใจหมด  คงไม่ใช่แล้วมั่งป๋า ของผมวิ่งตกเฉลี่ย8-9โล ถือว่ากินมากแล้วนะคับ (เครื่อง3.2 ปี10)
ความเร็วประมาณ 120-140 
Km/L=ระยะทางวิ่งได้กี่โล/ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ไป
เช่น ใช้รถวิ่งไป400Km แล้ววิ่งเข้าไปเติมนํ้ามันมา32L
400/32=12.5Km/L
ประมาณนี้อ่ะเด่วรอป๋าท่านอื่นมาแชร์ต่อนะคับ

ถ้าวิ่งรอบเครื่องขนาดนี้ได้ยาวๆ อัตราสิ้นเปลืองระดับ 11.xx -12 กม./ลิตร ทำได้แน่นอนครับ เทคนิคขับในเมืองให้รถประหยัดน้ำมันคือพยามใช้รอบเครื่องให้น้อย การทำให้รถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้นคืออย่าเติมคันเร่งให้หนักหรือลึก เพราะ ecu จะเข้าใจว่าเราต้องการอัตราเร่งจึงไม่ยอมเปลี่ยนเกียร์ให้สูงขึ้น รอบเครื่องยนต์ก็จะสูง สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ถ้าอยากให้รถเปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้นให้ค่อยเติมคันเร่งอย่างนุมนวล ไม่เหยียบคันเร่งลึก ไม่ให้รอบสูงมากเกินไป เมื่อได้ความเร็วที่เหมาะสมให้ยกคันเร่งเล็กน้อย ecu จะเข้าใจว่าเราะกำลังจะชลอรถ ดังนั้นเพื่อให้รถเคลื่อนที่หรือไหลไปอย่าง smooth ไม่เกิดอาการดึง  ecu จะเปลี่ยนเกียร์ให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันอาการ engine เบรก เมื่อรู้สึกว่าเครื่องเปลี่ยนเกียร์แล้วจึงค่อยๆเติมคันเร่งเข้าไป โดยให้ทำลักษณะนี้ต่อเนื่องไปจนถึงความเร็วที่เราใช้งานครับ

ตั้งแต่ออกรถมา เติมน้ำมันเต็มถัง 2100 บาท
วิ่ง ตจว เหยียบมิด วิ่งเกือบ 700 กิโล (ถังแรก)

หลังจากนั้นไปเปลี่ยนยางเปน 285 เปลี่ยนแมก หน้ากว้างเท่าเดิม รุสึกได้เลยว่ากินน้ำมันมาก วิ่งไม่เคยถึง 600 กิโล บางทีได้ 500 บางทีต่ำกว่า (ในกรุงเทพ)
อาจจะเป็นเพราะยกท่อพัก ไส่ท่อแฝดด้วยหรือป่าวมะรุ แต่รุว่าน้องกินน้ำมัน  crying

อัตราการสิ้นเปลือง มันอยู่ที่เท้าขวาจริง ๆ  ครับ
เปรียบเทียบการขับระหว่างผม กับ ผบ.   ............ผมขับประหยัดกว่านะ  :D :D

555  smile..

จริงป๋าเหยียบเนียนๆนี่ประหยัดจนตกใจ ไม่กระชาก ค่อยๆกด eie

ขับได้ประหยัดสุดยอดเลยครับ เติม V-power อีกต่างหาก   อิจฉาจัง

ขนาดผมใช้ ดีเซล+LPG ยังตก กิโลละ 2.8 บาทเลย 

คือผมขับใช้เส้นทางบายพาส 36 ครับ ช่วงเครือสหพัฒน์ - แยกมาบข่า ระยอง ค่อนข้างขับด้วยความเร็วคงที่ได้คับ :) :)

    ให้ถอดรองเท้าขับครับ ใช้ฝ่าเท้าแตะเบาๆ แล้วค่อยๆเน้นน้ำหนักเท้าตามรอบ ถอยเท้าเมื่อรถออกตัววิ่งเต็มกำลัง
  เมื่อเก่าใส่รองเท้าขับ ไม่รู้น้ำหนักเท้า กดซะเต็มที่

    น้องปาออกมาใหม่ๆ อืดเอาเรื่องเหมือนกัน แถมกินน้ำมันด้วย
    ตอนนี้เข้าที่เข้าทางแล้ว

   จะแนะนำวิธีประหยัดเงินในกระเป๋า หากมีรถเล็กติดแก๊สอีกคน สลับกันวิ่งครับ โดยรวมๆรถเล็กติดแก๊สจะเป็นตัวช่วยทำให้เราไม่ต้องกังวลใจน้องปากินน้ำมันเท่าใด

น้องปาผม เบนซิน2.4 ซดน้ำมัน โลละ4.5บาท ไปกลับลำปางมารอบเดียว โดนค่าน้ำมันไปเกือบ6000บาท
เลยจับไปดมแก๊สซะเลย eie

เมื่อก่อนผมใช้ dmax ครับ ถังแรกวิ่งได้ 20 กมต่อลิตร ครับ ถังต่อๆไปได้ 12-13 ถ้าเนียนๆยังได้ 16 กมต่อลิตรไม่เคยกังวลเรื่องน้ำมัน

พอมาใช้น้องปา ถังแรกแบบเนียน ได้ 8.5 กมต่อลิตรครับ  ตกใจมาก กังวลเหมือนกัน
พอใช้ไปซะระยะหนึ่ง ก็ได้ประมาณ 10 กมต่อลิตรครับ ยังไม่เคยวิ่งทางไกลจนหมดถังซะที

ปัจจุบันนี้  ไม่ได้สนใจเรื่องน้ำมันเหมือนเดิมแล้วครับ เพราะยังงัยก็คงจะไม่ประหยัดไปมากกว่านี้ เนื่องจากตัวใหญ่มาก
ยิ่งไปเทียบกับ แลนเซอร์ น้ำหนักห่างกันเกือบ 2 เท่าเลยนะครับ

ดูหนัง เปิดแอร์ แว๊นซ์ไปเถอะครับ ใช้รถให้สนุกอย่างไปเครียด

ของผมถังแรก 9.8 ครับ วิ่งในกรุุงเทพครับ