หัวข้อ: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: pataprin ที่ ธันวาคม 15, 2013, 08:57:01 pm
รบกวนความเห็น + คำแนะนำหน่อยครับ
ขอโทษทุกท่านนะครับตอนแรกลงผิดว่า GT ดีเซลลด 100,000 V6 ลด 120,000
จริงๆ ต้องตามหัวข้อใหม่นี้ครับ (พอดีไปสับสนกับ GLS)
ขอโทษทุกท่านนะครับตอนแรกลงผิดว่า GT ดีเซลลด 100,000 V6 ลด 120,000
จริงๆ ต้องตามหัวข้อใหม่นี้ครับ (พอดีไปสับสนกับ GLS)
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 100,000 กับ V6 เบนซินลด 120,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: jpuntho ที่ ธันวาคม 15, 2013, 09:10:35 pm
ดีเซลครับ..
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 100,000 กับ V6 เบนซินลด 120,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_ID.NO.4545 ที่ ธันวาคม 15, 2013, 09:15:54 pm
เงื่อนไขนี้ ถ้าไม่ได้ใช้รถมากขนาดเดือนละ 3500 กม. up เป็นผมเลือก ดีเซลครับ
ด้วยเหตุผลว่า ราคาดีเซลลดเหลือ 1,109,000 ไม่ต้องเสียค่าติดแกสอีก 50000 บาท
ราคา V6 1,305,000 ลดเหลือ 1,105,000 เสียค่าติดแกสอีก 50000 บาท เป็น 1,155,000
สรุป V6 แพงกว่า 41,000
ราคาต่อกิโลเมตร V6 กับดีเซล น่าจะประมาณ 1-1.5 บาท
ดังนั้น ใช้งานไป 40,000 กม. V6 ถึงคุ้มเท่าดีเซล
ซึ่ง 40,000 กม. ต้อง 1 ปี ถึงคุ้มค่าแกสที่ต่างจากดีเซล
ยังไม่นับรวมค่าแกสที่จะขึ้นนิดหน่อยในอนาคต
ค่าดูแลระบบแกส และเครื่องยนต์เบนซินที่มากกว่าดีเซล
และราคาขายต่อในอนาคต เบนซินยังไงก็ตกมากกว่าครับ
แต่...ผมก็จอง V6 ไปแล้วครับ
เพราะได้ลด 240,000 บาท :D
ด้วยเหตุผลว่า ราคาดีเซลลดเหลือ 1,109,000 ไม่ต้องเสียค่าติดแกสอีก 50000 บาท
ราคา V6 1,305,000 ลดเหลือ 1,105,000 เสียค่าติดแกสอีก 50000 บาท เป็น 1,155,000
สรุป V6 แพงกว่า 41,000
ราคาต่อกิโลเมตร V6 กับดีเซล น่าจะประมาณ 1-1.5 บาท
ดังนั้น ใช้งานไป 40,000 กม. V6 ถึงคุ้มเท่าดีเซล
ซึ่ง 40,000 กม. ต้อง 1 ปี ถึงคุ้มค่าแกสที่ต่างจากดีเซล
ยังไม่นับรวมค่าแกสที่จะขึ้นนิดหน่อยในอนาคต
ค่าดูแลระบบแกส และเครื่องยนต์เบนซินที่มากกว่าดีเซล
และราคาขายต่อในอนาคต เบนซินยังไงก็ตกมากกว่าครับ
แต่...ผมก็จอง V6 ไปแล้วครับ
เพราะได้ลด 240,000 บาท :D
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 100,000 กับ V6 เบนซินลด 120,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: poonnamar ที่ ธันวาคม 15, 2013, 09:34:29 pm
ทำไม V6 ลดน้อยจังอะ ปกติลด240,000 บาทน่ะ
ถ้าลดให้แค่นี้ ดีเซลน่าสนใจมากกว่านะ
ถ้าลดให้แค่นี้ ดีเซลน่าสนใจมากกว่านะ
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: tatchapong ที่ ธันวาคม 15, 2013, 11:00:01 pm
ดีเซลอีกเสียงครับ
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: โอ_ทุ่งครุ ที่ ธันวาคม 15, 2013, 11:37:27 pm
V6 ครับ เบนซินติดแก๊ส กม ละ 2 บาท ดีเซล กม ละ 3 บาท ถ้าใข้รถเดือนละ 2000-3000 โล
ค่าติดแก๊สได้คืนภายใน 1-2 ปี ที่เหลือกำไรล้วนๆ และการบำรุงรักษาแก๊สปัจจุบันไม่ได้ยุ่งยาก
เหมือนแต่ก่อนครับ
ค่าติดแก๊สได้คืนภายใน 1-2 ปี ที่เหลือกำไรล้วนๆ และการบำรุงรักษาแก๊สปัจจุบันไม่ได้ยุ่งยาก
เหมือนแต่ก่อนครับ
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: recca009 ที่ ธันวาคม 16, 2013, 02:00:18 am
ตัดสินใจเร็วๆนะครับ รถv6 ใกล้หมดแล้ว heart heart heart
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: ชายอิสระ ที่ ธันวาคม 16, 2013, 06:28:28 am
หนับหนุนดีเชลครับ eie
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: nan&name ที่ ธันวาคม 16, 2013, 07:34:39 am
ผมเชียร์ดีเซล smile..
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: Plateen ที่ ธันวาคม 16, 2013, 07:58:57 am
รับค่าน้ำมันได้ สนับสนุนดีเซลดีกว่าครับ ตลาดนิยมกว่า
ตอนจบ จบได้สวยกว่าเบนซิล
ตอนจบ จบได้สวยกว่าเบนซิล
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: arin2000 ที่ ธันวาคม 16, 2013, 08:18:02 am
ใช้รถน้อย = ดีเซล
ใช้รถเยอะ = V6+LPG
ผมเคยใช้ Triton Plus 2.5 Turbo มาก่อน รู้ดีว่า...ดีเซลแรงกว่า ทนทานกว่า ค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า แต่...ก็ต้องเติมน้ำมันอย่างเดียว ระบบดีเซลเชื้อเพลิงร่วมก็ไม่เสถียรหรือไม่ได้รับความนิยมในวงกว้าง และในอนาคตอันใกล้นี้ ดีเซลก็จะลอยตัว และเลิกชดเชยราคาเหมือนเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ โดยอาจมีการชดเชยในกลุ่มของขนส่ง หรือผู้ประกอบการเท่านั้น รถดีเซลส่วนบุคคลเช่นฟอร์จูนเนอร์ แคปติว่า ปาเจโร่ BMW ฯลฯ จะไม่ได้รับการชดเชยราคาอีกต่อไป ซึ่งราคาที่แท้จริงของดีเซลขณะนี้ตกราว 36 บาท และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างเดียว ไม่ประหยัดกว่า LPG แน่นอนครับ
ตรรกะของผมสำหรับการใช้ LPG คือ เสียก็เอาเงินส่วนที่ประหยัดจากการเติมน้ำมันนั่นแหละกลับมาซ่อม เชื่อว่าเงินยังเหลืออีกเยอะ
ผมวิ่งวันละ 180 กม. ทุกวัน
เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ลิตรละ 40 บาท (ตัวเลขกลมๆ)
อัตราสิ้นเปลือง 7-8 กม./ลิตร = กม.ละ 5.7 - 6.0 บาท/กม.
วันนึงใช้น้ำมันราว 1 พันบาท
เดือนนึงใช้น้ำมัน 30,000
ปีนึงใช้น้ำมัน 360,000
แต่ตอนนี้ใช้แก๊ส LPG....
ผมวิ่งวันละ 180 กม. ทุกวัน
เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ไว้สตาร์ท เดือนละ 1000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองแก๊ส 6-7 กม./ลิตร
ราคาแก๊สลิตละ 13 บาท กม.ละ 1.80 - 2.1 บาท/กม.
วันนึงใช้แก๊สราว 324 - 378 บาท
เดือนนึงใช้แก๊ส+น้ำมัน ประมาณ 1 หมื่นบาท
ปีนึงใช้แก๊ส+น้ำมัน 120,000 บาท
มีส่วนต่าง 240,000/ปี ถ้ามันจะพังใน 2 ปี ผมประหยัดได้ราว 480,000 ก็จะหาเครื่อง V6 ใหม่จากศูนย์มาลงคงใช้เงินราว 3 แสน ยังเหลือเงินจากการประหยัดอีกเกือบ 2 แสน
มีส่วนต่าง 240,000/ปี ถ้าพังในปีที่ 5 ปี ผมจะประหยัดได้ราว 1,000,000 (ประเมินรวมราคาจากการที่ LPG ขึ้นราคาแล้ว) และรถโทรมมาก ก็ขายซากไปสัก 4-5 แสน เอาเงินที่ขายได้ + กำไรจากค่าน้ำมันที่ประหยัดได้ไปซื้อโฉมใหม่มาอีกคัน แล้วติดแก๊สอีก
แต่...ในความเป็นจริง รถติดแก๊ส หากบำรุงรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม มันก็ทนทานใกล้เคียงเหมือนรถใช้น้ำมันนั่นหละครับ ที่กังวลกัน ได้ยินได้ฟังกันมาผิดๆจากคนไม่เคยใช้มากกว่า ดูแท๊กซี่เป็นตัวอย่างครับ วิ่งแก๊สกันไม่ต่ำกว่า 5 แสน กม. ด้วยเครื่องยนต์ตัวเดิมๆนี่แหละ
ใช้รถเยอะ = V6+LPG
ผมเคยใช้ Triton Plus 2.5 Turbo มาก่อน รู้ดีว่า...ดีเซลแรงกว่า ทนทานกว่า ค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า แต่...ก็ต้องเติมน้ำมันอย่างเดียว ระบบดีเซลเชื้อเพลิงร่วมก็ไม่เสถียรหรือไม่ได้รับความนิยมในวงกว้าง และในอนาคตอันใกล้นี้ ดีเซลก็จะลอยตัว และเลิกชดเชยราคาเหมือนเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ โดยอาจมีการชดเชยในกลุ่มของขนส่ง หรือผู้ประกอบการเท่านั้น รถดีเซลส่วนบุคคลเช่นฟอร์จูนเนอร์ แคปติว่า ปาเจโร่ BMW ฯลฯ จะไม่ได้รับการชดเชยราคาอีกต่อไป ซึ่งราคาที่แท้จริงของดีเซลขณะนี้ตกราว 36 บาท และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างเดียว ไม่ประหยัดกว่า LPG แน่นอนครับ
ตรรกะของผมสำหรับการใช้ LPG คือ เสียก็เอาเงินส่วนที่ประหยัดจากการเติมน้ำมันนั่นแหละกลับมาซ่อม เชื่อว่าเงินยังเหลืออีกเยอะ
ผมวิ่งวันละ 180 กม. ทุกวัน
เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ลิตรละ 40 บาท (ตัวเลขกลมๆ)
อัตราสิ้นเปลือง 7-8 กม./ลิตร = กม.ละ 5.7 - 6.0 บาท/กม.
วันนึงใช้น้ำมันราว 1 พันบาท
เดือนนึงใช้น้ำมัน 30,000
ปีนึงใช้น้ำมัน 360,000
แต่ตอนนี้ใช้แก๊ส LPG....
ผมวิ่งวันละ 180 กม. ทุกวัน
เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ไว้สตาร์ท เดือนละ 1000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองแก๊ส 6-7 กม./ลิตร
ราคาแก๊สลิตละ 13 บาท กม.ละ 1.80 - 2.1 บาท/กม.
วันนึงใช้แก๊สราว 324 - 378 บาท
เดือนนึงใช้แก๊ส+น้ำมัน ประมาณ 1 หมื่นบาท
ปีนึงใช้แก๊ส+น้ำมัน 120,000 บาท
มีส่วนต่าง 240,000/ปี ถ้ามันจะพังใน 2 ปี ผมประหยัดได้ราว 480,000 ก็จะหาเครื่อง V6 ใหม่จากศูนย์มาลงคงใช้เงินราว 3 แสน ยังเหลือเงินจากการประหยัดอีกเกือบ 2 แสน
มีส่วนต่าง 240,000/ปี ถ้าพังในปีที่ 5 ปี ผมจะประหยัดได้ราว 1,000,000 (ประเมินรวมราคาจากการที่ LPG ขึ้นราคาแล้ว) และรถโทรมมาก ก็ขายซากไปสัก 4-5 แสน เอาเงินที่ขายได้ + กำไรจากค่าน้ำมันที่ประหยัดได้ไปซื้อโฉมใหม่มาอีกคัน แล้วติดแก๊สอีก
แต่...ในความเป็นจริง รถติดแก๊ส หากบำรุงรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม มันก็ทนทานใกล้เคียงเหมือนรถใช้น้ำมันนั่นหละครับ ที่กังวลกัน ได้ยินได้ฟังกันมาผิดๆจากคนไม่เคยใช้มากกว่า ดูแท๊กซี่เป็นตัวอย่างครับ วิ่งแก๊สกันไม่ต่ำกว่า 5 แสน กม. ด้วยเครื่องยนต์ตัวเดิมๆนี่แหละ
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_ID.NO.4545 ที่ ธันวาคม 16, 2013, 08:47:14 am
ใช้รถน้อย = ดีเซล
ใช้รถเยอะ = V6+LPG
ผมเคยใช้ Triton Plus 2.5 Turbo มาก่อน รู้ดีว่า...ดีเซลแรงกว่า ทนทานกว่า ค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า แต่...ก็ต้องเติมน้ำมันอย่างเดียว ระบบดีเซลเชื้อเพลิงร่วมก็ไม่เสถียรหรือไม่ได้รับความนิยมในวงกว้าง และในอนาคตอันใกล้นี้ ดีเซลก็จะลอยตัว และเลิกชดเชยราคาเหมือนเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ โดยอาจมีการชดเชยในกลุ่มของขนส่ง หรือผู้ประกอบการเท่านั้น รถดีเซลส่วนบุคคลเช่นฟอร์จูนเนอร์ แคปติว่า ปาเจโร่ BMW ฯลฯ จะไม่ได้รับการชดเชยราคาอีกต่อไป ซึ่งราคาที่แท้จริงของดีเซลขณะนี้ตกราว 36 บาท และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างเดียว ไม่ประหยัดกว่า LPG แน่นอนครับ
ตรรกะของผมสำหรับการใช้ LPG คือ เสียก็เอาเงินส่วนที่ประหยัดจากการเติมน้ำมันนั่นแหละกลับมาซ่อม เชื่อว่าเงินยังเหลืออีกเยอะ
ผมวิ่งวันละ 180 กม. ทุกวัน
เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ลิตรละ 40 บาท (ตัวเลขกลมๆ)
อัตราสิ้นเปลือง 7-8 กม./ลิตร = กม.ละ 5.7 - 6.0 บาท/กม.
วันนึงใช้น้ำมันราว 1 พันบาท
เดือนนึงใช้น้ำมัน 30,000
ปีนึงใช้น้ำมัน 360,000
แต่ตอนนี้ใช้แก๊ส LPG....
ผมวิ่งวันละ 180 กม. ทุกวัน
เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ไว้สตาร์ท เดือนละ 1000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองแก๊ส 6-7 กม./ลิตร
ราคาแก๊สลิตละ 13 บาท กม.ละ 1.80 - 2.1 บาท/กม.
วันนึงใช้แก๊สราว 324 - 378 บาท
เดือนนึงใช้แก๊ส+น้ำมัน ประมาณ 1 หมื่นบาท
ปีนึงใช้แก๊ส+น้ำมัน 120,000 บาท
มีส่วนต่าง 240,000/ปี ถ้ามันจะพังใน 2 ปี ผมประหยัดได้ราว 480,000 ก็จะหาเครื่อง V6 ใหม่จากศูนย์มาลงคงใช้เงินราว 3 แสน ยังเหลือเงินจากการประหยัดอีกเกือบ 2 แสน
มีส่วนต่าง 240,000/ปี ถ้าพังในปีที่ 5 ปี ผมจะประหยัดได้ราว 1,000,000 (ประเมินรวมราคาจากการที่ LPG ขึ้นราคาแล้ว) และรถโทรมมาก ก็ขายซากไปสัก 4-5 แสน เอาเงินที่ขายได้ + กำไรจากค่าน้ำมันที่ประหยัดได้ไปซื้อโฉมใหม่มาอีกคัน แล้วติดแก๊สอีก
แต่...ในความเป็นจริง รถติดแก๊ส หากบำรุงรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม มันก็ทนทานใกล้เคียงเหมือนรถใช้น้ำมันนั่นหละครับ ที่กังวลกัน ได้ยินได้ฟังกันมาผิดๆจากคนไม่เคยใช้มากกว่า ดูแท๊กซี่เป็นตัวอย่างครับ วิ่งแก๊สกันไม่ต่ำกว่า 5 แสน กม. ด้วยเครื่องยนต์ตัวเดิมๆนี่แหละ
ใช้รถเยอะ = V6+LPG
ผมเคยใช้ Triton Plus 2.5 Turbo มาก่อน รู้ดีว่า...ดีเซลแรงกว่า ทนทานกว่า ค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า แต่...ก็ต้องเติมน้ำมันอย่างเดียว ระบบดีเซลเชื้อเพลิงร่วมก็ไม่เสถียรหรือไม่ได้รับความนิยมในวงกว้าง และในอนาคตอันใกล้นี้ ดีเซลก็จะลอยตัว และเลิกชดเชยราคาเหมือนเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ โดยอาจมีการชดเชยในกลุ่มของขนส่ง หรือผู้ประกอบการเท่านั้น รถดีเซลส่วนบุคคลเช่นฟอร์จูนเนอร์ แคปติว่า ปาเจโร่ BMW ฯลฯ จะไม่ได้รับการชดเชยราคาอีกต่อไป ซึ่งราคาที่แท้จริงของดีเซลขณะนี้ตกราว 36 บาท และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างเดียว ไม่ประหยัดกว่า LPG แน่นอนครับ
ตรรกะของผมสำหรับการใช้ LPG คือ เสียก็เอาเงินส่วนที่ประหยัดจากการเติมน้ำมันนั่นแหละกลับมาซ่อม เชื่อว่าเงินยังเหลืออีกเยอะ
ผมวิ่งวันละ 180 กม. ทุกวัน
เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ลิตรละ 40 บาท (ตัวเลขกลมๆ)
อัตราสิ้นเปลือง 7-8 กม./ลิตร = กม.ละ 5.7 - 6.0 บาท/กม.
วันนึงใช้น้ำมันราว 1 พันบาท
เดือนนึงใช้น้ำมัน 30,000
ปีนึงใช้น้ำมัน 360,000
แต่ตอนนี้ใช้แก๊ส LPG....
ผมวิ่งวันละ 180 กม. ทุกวัน
เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ไว้สตาร์ท เดือนละ 1000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองแก๊ส 6-7 กม./ลิตร
ราคาแก๊สลิตละ 13 บาท กม.ละ 1.80 - 2.1 บาท/กม.
วันนึงใช้แก๊สราว 324 - 378 บาท
เดือนนึงใช้แก๊ส+น้ำมัน ประมาณ 1 หมื่นบาท
ปีนึงใช้แก๊ส+น้ำมัน 120,000 บาท
มีส่วนต่าง 240,000/ปี ถ้ามันจะพังใน 2 ปี ผมประหยัดได้ราว 480,000 ก็จะหาเครื่อง V6 ใหม่จากศูนย์มาลงคงใช้เงินราว 3 แสน ยังเหลือเงินจากการประหยัดอีกเกือบ 2 แสน
มีส่วนต่าง 240,000/ปี ถ้าพังในปีที่ 5 ปี ผมจะประหยัดได้ราว 1,000,000 (ประเมินรวมราคาจากการที่ LPG ขึ้นราคาแล้ว) และรถโทรมมาก ก็ขายซากไปสัก 4-5 แสน เอาเงินที่ขายได้ + กำไรจากค่าน้ำมันที่ประหยัดได้ไปซื้อโฉมใหม่มาอีกคัน แล้วติดแก๊สอีก
แต่...ในความเป็นจริง รถติดแก๊ส หากบำรุงรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม มันก็ทนทานใกล้เคียงเหมือนรถใช้น้ำมันนั่นหละครับ ที่กังวลกัน ได้ยินได้ฟังกันมาผิดๆจากคนไม่เคยใช้มากกว่า ดูแท๊กซี่เป็นตัวอย่างครับ วิ่งแก๊สกันไม่ต่ำกว่า 5 แสน กม. ด้วยเครื่องยนต์ตัวเดิมๆนี่แหละ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
แต่หลายท่านมองว่าการเทียบค่าใช้จ่ายต่อกม. ควรเทียบเบนซินติดแกส กับ ดีเซล มากกว่าที่จะเทียบกับเบนซินเพียวๆ เพราะในความเป็นจริงคงไม่มีใครใช้ v6 โดยไม่ติดแกสครับ
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: Kalato ที่ ธันวาคม 16, 2013, 08:55:26 am
ละเอียดและเห็นภาพดีมากๆครับ V6 , 2.4 mt +LPG สำหรับต้องการประหยัด ส่วน ดีเซล สำหรับ คนไม่ต้องการติดแก๊ส และวิ่งไม่เยอะมาก และพอมีทุนทรัพย์ครับ eie
ผม 2.4mt+LPG ศุกร์นี้จะไปติดแล้วครับ
ผม 2.4mt+LPG ศุกร์นี้จะไปติดแล้วครับ
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: pon306 ที่ ธันวาคม 16, 2013, 10:41:14 am
ดีเซลคับส่งเสริม good
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: Petchy ที่ ธันวาคม 16, 2013, 11:49:44 am
ลองคิดแบบง่าย ๆ
ดีเซลโลละ 3 บาท
lpg โลละ 2 บาท
ประหยัดต่างกัน โลละ 1 บาท
ถ้าติด 5 หมื่น บาท ต้องวิ่ง 5 หมื่นกิโล ได้ทุนค่าแก๊สคืน
ที่เหลือกำไรล้วนๆ จะใช้รถคันนี้สักกี่แสนโลละ
ถ้าใช้แค่แสนโล ก็ประหยัด 5 หมื่น
ถ้าใช้สองแสนโล ก็ประหยัด 1.5 แสน
ข้อดี ดีเซลเติมน้ำมันอย่างเดียว
แก๊สต้องมีเชคระยะแก๊ส ตรวจกรองแก๊ส แต่ก็ไม่ได้บ่อยๆ ที่สำคัญถ้าเลือกแก๊ส ต้องใส่ใจหาร้านที่ติดจบ
ดีเซลโลละ 3 บาท
lpg โลละ 2 บาท
ประหยัดต่างกัน โลละ 1 บาท
ถ้าติด 5 หมื่น บาท ต้องวิ่ง 5 หมื่นกิโล ได้ทุนค่าแก๊สคืน
ที่เหลือกำไรล้วนๆ จะใช้รถคันนี้สักกี่แสนโลละ
ถ้าใช้แค่แสนโล ก็ประหยัด 5 หมื่น
ถ้าใช้สองแสนโล ก็ประหยัด 1.5 แสน
ข้อดี ดีเซลเติมน้ำมันอย่างเดียว
แก๊สต้องมีเชคระยะแก๊ส ตรวจกรองแก๊ส แต่ก็ไม่ได้บ่อยๆ ที่สำคัญถ้าเลือกแก๊ส ต้องใส่ใจหาร้านที่ติดจบ
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: chow ที่ ธันวาคม 16, 2013, 11:56:41 am
เมื่อวานผมไปจอง สอบถามหลายที่ 2.5GT ลดสุดๆที่100,000บาท ส่วนV6 ลดสุดๆที่ 200,000บาทครับ
สรุปผมออก2.5GT เพราะใช้ยาวๆดีเซลดูแลรักษาง่ายกว่าครับ ส่วนตัวใช้triton plus 2.5 140hp มาแสนโลยังไม่มีปัญหาเครื่องยนต์เลยครับ
ปล....2.5GT คุณแม่ขับครับ ส่วนผมเน้นลุย อิอิอิ
สรุปผมออก2.5GT เพราะใช้ยาวๆดีเซลดูแลรักษาง่ายกว่าครับ ส่วนตัวใช้triton plus 2.5 140hp มาแสนโลยังไม่มีปัญหาเครื่องยนต์เลยครับ
ปล....2.5GT คุณแม่ขับครับ ส่วนผมเน้นลุย อิอิอิ
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: nan&name ที่ ธันวาคม 16, 2013, 02:46:07 pm
เมื่อวานผมไปจอง สอบถามหลายที่ 2.5GT ลดสุดๆที่100,000บาท ส่วนV6 ลดสุดๆที่ 200,000บาทครับ
สรุปผมออก2.5GT เพราะใช้ยาวๆดีเซลดูแลรักษาง่ายกว่าครับ ส่วนตัวใช้triton plus 2.5 140hp มาแสนโลยังไม่มีปัญหาเครื่องยนต์เลยครับ
ปล....2.5GT คุณแม่ขับครับ ส่วนผมเน้นลุย อิอิอิ
ยอดเยี่ยม good ขอให้คุณแม่ขับสนุกกับน้องปาครับ (แล้วอย่าไปแย่งคุณแม่ขับละครับ) smile..สรุปผมออก2.5GT เพราะใช้ยาวๆดีเซลดูแลรักษาง่ายกว่าครับ ส่วนตัวใช้triton plus 2.5 140hp มาแสนโลยังไม่มีปัญหาเครื่องยนต์เลยครับ
ปล....2.5GT คุณแม่ขับครับ ส่วนผมเน้นลุย อิอิอิ
หัวข้อ: Re: เลือกไม่ถูกระหว่าง GT ดีเซล ลด 120,000 กับ V6 เบนซินลด 240,000 ?
เริ่มหัวข้อโดย: chow ที่ ธันวาคม 16, 2013, 03:22:07 pm
เมื่อวานผมไปจอง สอบถามหลายที่ 2.5GT ลดสุดๆที่100,000บาท ส่วนV6 ลดสุดๆที่ 200,000บาทครับ
สรุปผมออก2.5GT เพราะใช้ยาวๆดีเซลดูแลรักษาง่ายกว่าครับ ส่วนตัวใช้triton plus 2.5 140hp มาแสนโลยังไม่มีปัญหาเครื่องยนต์เลยครับ
ปล....2.5GT คุณแม่ขับครับ ส่วนผมเน้นลุย อิอิอิ
ยอดเยี่ยม good ขอให้คุณแม่ขับสนุกกับน้องปาครับ (แล้วอย่าไปแย่งคุณแม่ขับละครับ) smile..สรุปผมออก2.5GT เพราะใช้ยาวๆดีเซลดูแลรักษาง่ายกว่าครับ ส่วนตัวใช้triton plus 2.5 140hp มาแสนโลยังไม่มีปัญหาเครื่องยนต์เลยครับ
ปล....2.5GT คุณแม่ขับครับ ส่วนผมเน้นลุย อิอิอิ
