หัวข้อ: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: March,, ที่ พฤศจิกายน 15, 2011, 09:53:06 pm
ผมถามช่างที่มาพรีเซ้นรถวันรับรถ ช่างบอกเหยียบได้เลย รันอิน มาจากโรงงานแล้ว แต่อยากมาถามพี่ๆเพื่อความชัวครับ
ผมหมายถึง ห้ามใช้ความเร็วเกิน 3พันรอบหนะครับ
ผมหมายถึง ห้ามใช้ความเร็วเกิน 3พันรอบหนะครับ
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Black Angel No.181 ที่ พฤศจิกายน 15, 2011, 10:03:17 pm
ไม่ได้ยินคำนี้มานานแล้วครับ ก็เหมือนกับพันโลแรกไม่ต้องถ่ายนำ้มันเครื่อง แต่ถ้าไม่สบายใจจะเอาสักหน่อยก็ได้ครับ :D
อย่าขับเร็วเกินกำหนดของแต่ละเกียร์
อย่าลากรอบ
อย่าขับความเร็วคงที่นานๆ
อะไรประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้ เดี๋ยวให้ป๋าท่านอื่นมาช่วยต่อ :D
อย่าขับเร็วเกินกำหนดของแต่ละเกียร์
อย่าลากรอบ
อย่าขับความเร็วคงที่นานๆ
อะไรประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้ เดี๋ยวให้ป๋าท่านอื่นมาช่วยต่อ :D
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: March,, ที่ พฤศจิกายน 15, 2011, 10:11:02 pm
ไม่ได้ยินคำนี้มานานแล้วครับ ก็เหมือนกับพันโลแรกไม่ต้องถ่ายนำ้มันเครื่อง แต่ถ้าไม่สบายใจจะเอาสักหน่อยก็ได้ครับ :D
อย่าขับเร็วเกินกำหนดของแต่ละเกียร์
อย่าลากรอบ
อย่าขับความเร็วคงที่นานๆ
อะไรประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้ เดี๋ยวให้ป๋าท่านอื่นมาช่วยต่อ :D
อย่าขับเร็วเกินกำหนดของแต่ละเกียร์
อย่าลากรอบ
อย่าขับความเร็วคงที่นานๆ
อะไรประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้ เดี๋ยวให้ป๋าท่านอื่นมาช่วยต่อ :D
ขอบคุณมากครับ เพราะว่า เมื่อปีที่แล้ว เพิ่งออก รถยุโรปค่ายนึงมา เซลก็บอกให้รันอินนะครับ เพื่อให้ เบรค ให้อะไรมันเข้าที่ เพื่อความสบายใจ แต่มาเจอน้องปาบอกให้กดเลย ผมเลย งงๆ หนะครับ
ขอบคุณมากนะครับ ผมก็อยากจะ ทดสอบ performance ของน้องปาให้เต็มๆหนะครับพ๊มมม
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: EnGiNeEriNg No.407 ที่ พฤศจิกายน 16, 2011, 07:57:42 am
ก็รอให้พ้น1000ก่อนก็ได้ครับให้ระบบต่างๆมันเข้าที่เข้าทางก่อนครับ ใจเย็นครับ.... 8) 8) 8)
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: son_chaiwat ที่ พฤศจิกายน 16, 2011, 08:40:26 am
ขอเก็บข้อมูล ยังคงรอน้องปาคับ hi
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Nakavabi ที่ พฤศจิกายน 16, 2011, 08:46:56 am
ได้มาก็รันอินไว้ที่1000โลแรกครับ
เค้าบอกมาเหมือนกันว่ารถใหม่ๆเด่วนี้ไม่ต้องรันอินแล้ว
แต่ก็รันอินไว้ไม่เสียหายอยู่แล้ว
เค้าบอกมาเหมือนกันว่ารถใหม่ๆเด่วนี้ไม่ต้องรันอินแล้ว
แต่ก็รันอินไว้ไม่เสียหายอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: โจ..คร้าบบ..^_^ ที่ พฤศจิกายน 16, 2011, 08:57:33 am
นานาจิตตังผมไม่เคยเห็นผลทดสอบที่เป็นหลักฐานเลยว่าถ้าไม่รันอินแล้วมันจะแตกต่างกับรันอืนอย่างไร....แต่เพื่อความสบายใจกับรถราคาเป็นล้านจะรันอินไว้ก็ไม่เสียหลาย...อย่างน้อยช่วงรันอินป๋าจะได้เรียนรู้ลักษณะและคาแรคเตอร์ของรถและผู้ขับไปด้วยกัน...ผมว่าคงต้องมีการปรับตัวเข้าหากันอยู่พอสมควร...และหลังจากพ้นช่วงรันอินจะได้จัดหนักเต็มTEENได้อย่างสบายใจ... secret_smile
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: ปุ่น-ภูเก็ต ที่ พฤศจิกายน 16, 2011, 08:59:49 am
เอาสบายใจก็ 1000โลครับ heart
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: March,, ที่ พฤศจิกายน 16, 2011, 09:42:47 am
ขอบคุณป๋าๆทุกท่านนะครับ แต่เมื่อเช้าผมซัดไปแล้วครับ ขับมันส์ดีครับ รถ PPV good วิ่งได้ 60 โลละครับ
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Black Angel No.181 ที่ พฤศจิกายน 16, 2011, 09:45:03 am
นานาจิตตังผมไม่เคยเห็นผลทดสอบที่เป็นหลักฐานเลยว่าถ้าไม่รันอินแล้วมันจะแตกต่างกับรันอืนอย่างไร....แต่เพื่อความสบายใจกับรถราคาเป็นล้านจะรันอินไว้ก็ไม่เสียหลาย...อย่างน้อยช่วงรันอินป๋าจะได้เรียนรู้ลักษณะและคาแรคเตอร์ของรถและผู้ขับไปด้วยกัน...ผมว่าคงต้องมีการปรับตัวเข้าหากันอยู่พอสมควร...และหลังจากพ้นช่วงรันอินจะได้จัดหนักเต็มTEENได้อย่างสบายใจ... secret_smile
สรุปว่ารันอินคนขับ ว่างั้นเถอะ :D
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: โจ..คร้าบบ..^_^ ที่ พฤศจิกายน 16, 2011, 12:06:23 pm
นานาจิตตังผมไม่เคยเห็นผลทดสอบที่เป็นหลักฐานเลยว่าถ้าไม่รันอินแล้วมันจะแตกต่างกับรันอืนอย่างไร....แต่เพื่อความสบายใจกับรถราคาเป็นล้านจะรันอินไว้ก็ไม่เสียหลาย...อย่างน้อยช่วงรันอินป๋าจะได้เรียนรู้ลักษณะและคาแรคเตอร์ของรถและผู้ขับไปด้วยกัน...ผมว่าคงต้องมีการปรับตัวเข้าหากันอยู่พอสมควร...และหลังจากพ้นช่วงรันอินจะได้จัดหนักเต็มTEENได้อย่างสบายใจ... secret_smile
สรุปว่ารันอินคนขับ ว่างั้นเถอะ :D
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: dunservice ที่ พฤศจิกายน 17, 2011, 01:04:45 pm
ส่วยผมได้มาวันที่ 2 ก็ อัดซะ 140 กม/ชม. แล้วครับ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรครับ แบบว่าลืมตัวครับ ดูไมล์อีกทีก็ 140 ไปแล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วก็เลย กดแช่ไปอย่างอย่างงั้นเลย แต่ตอนที่ออกมา ศูนย์บอกให้รันอินก่อนเหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: NonReturneR No.412 ที่ พฤศจิกายน 17, 2011, 01:12:41 pm
ถ้าจำไม่ผิดตามคู่มือเค้าบอกว่า 120 km 1000 กิโลแรกครับ
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: March,, ที่ พฤศจิกายน 17, 2011, 05:00:56 pm
เมื่อกี้ผมไปเปิดในคู่มือเค้าบอกว่า 140km ที่เกียร์ห้า 1000km แรกครับ ผมยังยัดไม่เกิน 140 ครับ รอบเครื่องก็ยังไม่เกินสามพัน
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: ton-pjrsp-1 ที่ พฤศจิกายน 18, 2011, 07:42:59 pm
ถ้าจะให้ดีอย่าให้เกิน 100 kmต่อชั่วโมงสำหรับ 1000 กิโลแรกครับ แล้วค่อยๆไล่ขึ้นมา พอสัก 3000 กิโลไปแล้ว ซัดได้เต็มที่เลยครับ 190 km ต่อชั่วโมงครับ
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Na ratchada ที่ พฤศจิกายน 18, 2011, 08:37:45 pm
อุปกรณ์ทุกอย่าง ทั้งที่มีการเคลื่อนที่ หรือไม่มีการเคลื่อนที่ ต้องมีระยะ setตัว หรือ ระยะburn หรือ run test หรือ burn in test ต่อเนื่อง ด้วยกันทั้งนั้น เช่น
1. พื้นถนน พื้นผิวที่พ่นสี ปูนที่ฉาบ สนามดินที่บดอัด
2. เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมืออิเล็คทรอนิค สายไฟ ตัวนำสัญญาน เครื่องใช้งานที่มีอุกรณ์เกี่ยวกับความร้อน ความเย็น และอุณหภูมของอุปกรณ์
3. ลำโพง โช๊ค สปริง ยาง เบาะ ล้อ ท่อ เบรค
4. ระบบการเสียดสีของเครื่องยนต์ การเสียดสีของลูกปืน และระบบหล่อลื่นต่างๆ
***เพื่อนผม เป็น Supplier ที่รับขนส่งรถยนต์ใหม่ จากโรงงานสู่ตัวแทนจำหน่าย ผมเคยเห็นเด็กส่งรถ กดแทบหมดไมล์ แทบทุกคัน ลูกจ้างพวกนี้เขาไม่เคยสนใจอะไร เกิดปัญหามาทีไร เข้านายก็ตามรับผิดชอบไป แต่จริงแล้วเขาเล่นระยะสั้น ม้วนเดียว ถ้าสึกหรอ อาจจะยังไม่มาก อุบัติเหตุมีบ้าง ฉะนั้นถึงบอกว่าเวลารับรถใหม่ ให้เสียเวลาตรวจตราให้เรียบร้อย นิดหน่อยพอรับได้ก็จ้องพิจารณาเอา (อยากรู้ว่า คันนี้วิ่งมา หรือขึ้นเทเล่อร์มา หาอะไรล้วงไปเช็ดในท่อ ลึกๆ ครับ )
*** การเสียดสีของโลหะ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตอนวัสดุขยายตัว ด้วยความร้อน ก็ในเมื่อมันยังใหม่นัก ก็พยายามทำทุกวิถีทาง ให้การเสียดสี เกิดขึ้นในจังหวะที่ไม่เค้นมากมาย หากกดก็พอทำได้ แต่อย่าเล่นรอบสูงให้นานนัก ให้สูงกว่ารอบเดินเบาสัก 100-150 % ก็พอครับ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสัก 2 รอบ ค่อยกดยาวๆ
1. พื้นถนน พื้นผิวที่พ่นสี ปูนที่ฉาบ สนามดินที่บดอัด
2. เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมืออิเล็คทรอนิค สายไฟ ตัวนำสัญญาน เครื่องใช้งานที่มีอุกรณ์เกี่ยวกับความร้อน ความเย็น และอุณหภูมของอุปกรณ์
3. ลำโพง โช๊ค สปริง ยาง เบาะ ล้อ ท่อ เบรค
4. ระบบการเสียดสีของเครื่องยนต์ การเสียดสีของลูกปืน และระบบหล่อลื่นต่างๆ
***เพื่อนผม เป็น Supplier ที่รับขนส่งรถยนต์ใหม่ จากโรงงานสู่ตัวแทนจำหน่าย ผมเคยเห็นเด็กส่งรถ กดแทบหมดไมล์ แทบทุกคัน ลูกจ้างพวกนี้เขาไม่เคยสนใจอะไร เกิดปัญหามาทีไร เข้านายก็ตามรับผิดชอบไป แต่จริงแล้วเขาเล่นระยะสั้น ม้วนเดียว ถ้าสึกหรอ อาจจะยังไม่มาก อุบัติเหตุมีบ้าง ฉะนั้นถึงบอกว่าเวลารับรถใหม่ ให้เสียเวลาตรวจตราให้เรียบร้อย นิดหน่อยพอรับได้ก็จ้องพิจารณาเอา (อยากรู้ว่า คันนี้วิ่งมา หรือขึ้นเทเล่อร์มา หาอะไรล้วงไปเช็ดในท่อ ลึกๆ ครับ )
*** การเสียดสีของโลหะ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตอนวัสดุขยายตัว ด้วยความร้อน ก็ในเมื่อมันยังใหม่นัก ก็พยายามทำทุกวิถีทาง ให้การเสียดสี เกิดขึ้นในจังหวะที่ไม่เค้นมากมาย หากกดก็พอทำได้ แต่อย่าเล่นรอบสูงให้นานนัก ให้สูงกว่ารอบเดินเบาสัก 100-150 % ก็พอครับ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสัก 2 รอบ ค่อยกดยาวๆ
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: ton-pjrsp-1 ที่ พฤศจิกายน 18, 2011, 08:43:16 pm
อุปกรณ์ทุกอย่าง ทั้งที่มีการเคลื่อนที่ หรือไม่มีการเคลื่อนที่ ต้องมีระยะ setตัว หรือ ระยะburn หรือ run test หรือ burn in test ต่อเนื่อง ด้วยกันทั้งนั้น เช่น
1. พื้นถนน พื้นผิวที่พ่นสี ปูนที่ฉาบ สนามดินที่บดอัด
2. เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมืออิเล็คทรอนิค สายไฟ ตัวนำสัญญาน เครื่องใช้งานที่มีอุกรณ์เกี่ยวกับความร้อน ความเย็น และอุณหภูมของอุปกรณ์
3. ลำโพง โช๊ค สปริง ยาง เบาะ ล้อ ท่อ เบรค
4. ระบบการเสียดสีของเครื่องยนต์ การเสียดสีของลูกปืน และระบบหล่อลื่นต่างๆ
***เพื่อนผม เป็น Supplier ที่รับขนส่งรถยนต์ใหม่ จากโรงงานสู่ตัวแทนจำหน่าย ผมเคยเห็นเด็กส่งรถ กดแทบหมดไมล์ แทบทุกคัน ลูกจ้างพวกนี้เขาไม่เคยสนใจอะไร เกิดปัญหามาทีไร เข้านายก็ตามรับผิดชอบไป แต่จริงแล้วเขาเล่นระยะสั้น ม้วนเดียว ถ้าสึกหรอ อาจจะยังไม่มาก อุบัติเหตุมีบ้าง ฉะนั้นถึงบอกว่าเวลารับรถใหม่ ให้เสียเวลาตรวจตราให้เรียบร้อย นิดหน่อยพอรับได้ก็จ้องพิจารณาเอา (อยากรู้ว่า คันนี้วิ่งมา หรือขึ้นเทเล่อร์มา หาอะไรล้วงไปเช็ดในท่อ ลึกๆ ครับ )
*** การเสียดสีของโลหะ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตอนวัสดุขยายตัว ด้วยความร้อน ก็ในเมื่อมันยังใหม่นัก ก็พยายามทำทุกวิถีทาง ให้การเสียดสี เกิดขึ้นในจังหวะที่ไม่เค้นมากมาย หากกดก็พอทำได้ แต่อย่าเล่นรอบสูงให้นานนัก ให้สูงกว่ารอบเดินเบาสัก 100-150 % ก็พอครับ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสัก 2 รอบ ค่อยกดยาวๆ
1. พื้นถนน พื้นผิวที่พ่นสี ปูนที่ฉาบ สนามดินที่บดอัด
2. เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมืออิเล็คทรอนิค สายไฟ ตัวนำสัญญาน เครื่องใช้งานที่มีอุกรณ์เกี่ยวกับความร้อน ความเย็น และอุณหภูมของอุปกรณ์
3. ลำโพง โช๊ค สปริง ยาง เบาะ ล้อ ท่อ เบรค
4. ระบบการเสียดสีของเครื่องยนต์ การเสียดสีของลูกปืน และระบบหล่อลื่นต่างๆ
***เพื่อนผม เป็น Supplier ที่รับขนส่งรถยนต์ใหม่ จากโรงงานสู่ตัวแทนจำหน่าย ผมเคยเห็นเด็กส่งรถ กดแทบหมดไมล์ แทบทุกคัน ลูกจ้างพวกนี้เขาไม่เคยสนใจอะไร เกิดปัญหามาทีไร เข้านายก็ตามรับผิดชอบไป แต่จริงแล้วเขาเล่นระยะสั้น ม้วนเดียว ถ้าสึกหรอ อาจจะยังไม่มาก อุบัติเหตุมีบ้าง ฉะนั้นถึงบอกว่าเวลารับรถใหม่ ให้เสียเวลาตรวจตราให้เรียบร้อย นิดหน่อยพอรับได้ก็จ้องพิจารณาเอา (อยากรู้ว่า คันนี้วิ่งมา หรือขึ้นเทเล่อร์มา หาอะไรล้วงไปเช็ดในท่อ ลึกๆ ครับ )
*** การเสียดสีของโลหะ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตอนวัสดุขยายตัว ด้วยความร้อน ก็ในเมื่อมันยังใหม่นัก ก็พยายามทำทุกวิถีทาง ให้การเสียดสี เกิดขึ้นในจังหวะที่ไม่เค้นมากมาย หากกดก็พอทำได้ แต่อย่าเล่นรอบสูงให้นานนัก ให้สูงกว่ารอบเดินเบาสัก 100-150 % ก็พอครับ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสัก 2 รอบ ค่อยกดยาวๆ
มีเหตผลดีมากเลยครับป๋า Na ratchada
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Tong ที่ พฤศจิกายน 19, 2011, 03:59:03 pm
ไม่ได้ยินคำนี้มานานแล้วครับ ก็เหมือนกับพันโลแรกไม่ต้องถ่ายนำ้มันเครื่อง แต่ถ้าไม่สบายใจจะเอาสักหน่อยก็ได้ครับ :D
อย่าขับเร็วเกินกำหนดของแต่ละเกียร์
อย่าลากรอบ
อย่าขับความเร็วคงที่นานๆ
อะไรประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้ เดี๋ยวให้ป๋าท่านอื่นมาช่วยต่อ :D
อย่าขับเร็วเกินกำหนดของแต่ละเกียร์
อย่าลากรอบ
อย่าขับความเร็วคงที่นานๆ
อะไรประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้ เดี๋ยวให้ป๋าท่านอื่นมาช่วยต่อ :D
ของผมตรงกันข้ามกับป๋ากิต ที่เขียนเลย
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kraDong ที่ พฤศจิกายน 19, 2011, 06:50:49 pm
มีกำหนดในคู่มือครับ ลองเปิดดู แต่ของผมมันรุ่นปี 08 โน่น สมัยนี้ไม่รู้มีมั้ย
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Black Angel No.181 ที่ พฤศจิกายน 19, 2011, 09:10:00 pm
ไม่ได้ยินคำนี้มานานแล้วครับ ก็เหมือนกับพันโลแรกไม่ต้องถ่ายนำ้มันเครื่อง แต่ถ้าไม่สบายใจจะเอาสักหน่อยก็ได้ครับ :D
อย่าขับเร็วเกินกำหนดของแต่ละเกียร์
อย่าลากรอบ
อย่าขับความเร็วคงที่นานๆ
อะไรประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้ เดี๋ยวให้ป๋าท่านอื่นมาช่วยต่อ :D
อย่าขับเร็วเกินกำหนดของแต่ละเกียร์
อย่าลากรอบ
อย่าขับความเร็วคงที่นานๆ
อะไรประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้ เดี๋ยวให้ป๋าท่านอื่นมาช่วยต่อ :D
ของผมตรงกันข้ามกับป๋ากิต ที่เขียนเลย
ของป๋าเป็นรุ่น limited ครับ ถ้ารันอินรถจะวิ่งไม่ออก :D
หัวข้อ: Re: ได้รถใหม่มา run-in กันหรือป่าวครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Bangbor999 ปาหวาน ที่ พฤศจิกายน 19, 2011, 09:50:32 pm
อุปกรณ์ทุกอย่าง ทั้งที่มีการเคลื่อนที่ หรือไม่มีการเคลื่อนที่ ต้องมีระยะ setตัว หรือ ระยะburn หรือ run test หรือ burn in test ต่อเนื่อง ด้วยกันทั้งนั้น เช่น
1. พื้นถนน พื้นผิวที่พ่นสี ปูนที่ฉาบ สนามดินที่บดอัด
2. เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมืออิเล็คทรอนิค สายไฟ ตัวนำสัญญาน เครื่องใช้งานที่มีอุกรณ์เกี่ยวกับความร้อน ความเย็น และอุณหภูมของอุปกรณ์
3. ลำโพง โช๊ค สปริง ยาง เบาะ ล้อ ท่อ เบรค
4. ระบบการเสียดสีของเครื่องยนต์ การเสียดสีของลูกปืน และระบบหล่อลื่นต่างๆ
***เพื่อนผม เป็น Supplier ที่รับขนส่งรถยนต์ใหม่ จากโรงงานสู่ตัวแทนจำหน่าย ผมเคยเห็นเด็กส่งรถ กดแทบหมดไมล์ แทบทุกคัน ลูกจ้างพวกนี้เขาไม่เคยสนใจอะไร เกิดปัญหามาทีไร เข้านายก็ตามรับผิดชอบไป แต่จริงแล้วเขาเล่นระยะสั้น ม้วนเดียว ถ้าสึกหรอ อาจจะยังไม่มาก อุบัติเหตุมีบ้าง ฉะนั้นถึงบอกว่าเวลารับรถใหม่ ให้เสียเวลาตรวจตราให้เรียบร้อย นิดหน่อยพอรับได้ก็จ้องพิจารณาเอา (อยากรู้ว่า คันนี้วิ่งมา หรือขึ้นเทเล่อร์มา หาอะไรล้วงไปเช็ดในท่อ ลึกๆ ครับ )
*** การเสียดสีของโลหะ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตอนวัสดุขยายตัว ด้วยความร้อน ก็ในเมื่อมันยังใหม่นัก ก็พยายามทำทุกวิถีทาง ให้การเสียดสี เกิดขึ้นในจังหวะที่ไม่เค้นมากมาย หากกดก็พอทำได้ แต่อย่าเล่นรอบสูงให้นานนัก ให้สูงกว่ารอบเดินเบาสัก 100-150 % ก็พอครับ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสัก 2 รอบ ค่อยกดยาวๆ
1. พื้นถนน พื้นผิวที่พ่นสี ปูนที่ฉาบ สนามดินที่บดอัด
2. เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมืออิเล็คทรอนิค สายไฟ ตัวนำสัญญาน เครื่องใช้งานที่มีอุกรณ์เกี่ยวกับความร้อน ความเย็น และอุณหภูมของอุปกรณ์
3. ลำโพง โช๊ค สปริง ยาง เบาะ ล้อ ท่อ เบรค
4. ระบบการเสียดสีของเครื่องยนต์ การเสียดสีของลูกปืน และระบบหล่อลื่นต่างๆ
***เพื่อนผม เป็น Supplier ที่รับขนส่งรถยนต์ใหม่ จากโรงงานสู่ตัวแทนจำหน่าย ผมเคยเห็นเด็กส่งรถ กดแทบหมดไมล์ แทบทุกคัน ลูกจ้างพวกนี้เขาไม่เคยสนใจอะไร เกิดปัญหามาทีไร เข้านายก็ตามรับผิดชอบไป แต่จริงแล้วเขาเล่นระยะสั้น ม้วนเดียว ถ้าสึกหรอ อาจจะยังไม่มาก อุบัติเหตุมีบ้าง ฉะนั้นถึงบอกว่าเวลารับรถใหม่ ให้เสียเวลาตรวจตราให้เรียบร้อย นิดหน่อยพอรับได้ก็จ้องพิจารณาเอา (อยากรู้ว่า คันนี้วิ่งมา หรือขึ้นเทเล่อร์มา หาอะไรล้วงไปเช็ดในท่อ ลึกๆ ครับ )
*** การเสียดสีของโลหะ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตอนวัสดุขยายตัว ด้วยความร้อน ก็ในเมื่อมันยังใหม่นัก ก็พยายามทำทุกวิถีทาง ให้การเสียดสี เกิดขึ้นในจังหวะที่ไม่เค้นมากมาย หากกดก็พอทำได้ แต่อย่าเล่นรอบสูงให้นานนัก ให้สูงกว่ารอบเดินเบาสัก 100-150 % ก็พอครับ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสัก 2 รอบ ค่อยกดยาวๆ
มีเหตผลดีมากเลยครับป๋า Na ratchada
แต่เรื่องปรับจูนเครืองเสียงต้องยกนิ้วให้ท่านเจ้ากรมครับ ต่างกันมากกับแบเดิมๆที่มากับรถ ขอบคุณมากเด้อ สาธุ สาธุ สาธุ
