หัวข้อ: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: S.SOMPARN ที่ เมษายน 21, 2014, 04:59:37 pm อยากปรึกษาผู้รู้ ผมใช้ปาเจโร่ 2.5 GT ปี2013
ขับรถความเร็วประมาณ 110+ เสียงเครื่องดัง เสียงคล้ายๆเสียงรอบเครื่องทำงานสัก3,000รอบแต่หน้าไมค์อยู่ที่2,000กว่าๆ เสียงดังกรณีแบบนี้ไม่ได้เป็นทุกครั้งที่ขับ อยากทราบว่าดังจากเครื่องยนต์หรือเทอร์โบครับ เสียงแบบนี้ปกติหรือป่าวครับ มีวิธีแก้ไขไหมครับ หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: นายสบาย ที่ เมษายน 21, 2014, 08:22:09 pm ไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงพัดลมหน้าเครื่องหรือเปล่าครับ ขับตอนกลางวันเป็นแต่กลางคืนไม่เป็นครับ (ของผมเป็นแบบนี้ครับ)
หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: tee_noi ที่ เมษายน 21, 2014, 08:45:18 pm ไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงพัดลมหน้าเครื่องหรือเปล่าครับ ขับตอนกลางวันเป็นแต่กลางคืนไม่เป็นครับ (ของผมเป็นแบบนี้ครับ) ช่วงนี้อากาศร้อน ของผมก็ครางหึ่งๆๆ พัดลมคงทำงานหนัก smile.. หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: S.SOMPARN ที่ เมษายน 21, 2014, 10:42:09 pm เวลายกเท้าคันเร่งเครื่อง เสียงก็จะเบาตามครับ
ไม่น่าจะใช้เสียงพัดลมครับ หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่ง ปาคาราเมล ที่ เมษายน 22, 2014, 07:57:15 am ช่างเคยบอกว่าพัดลม Turbo ครับ ดังที่ประมาณ 100-110 เกินกว่านั้นเงียบ เสียงมาจากทางหน้ารถ ผมก็เป็น eie eie eie
ผิดถูกช่วยแนะนำด้วยครับ หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: kob_pjs_2012 ที่ เมษายน 22, 2014, 03:52:30 pm ป๋าครับ อาการนี้ผมเคยเป็นและเคยโพสสอบถามป๋า ๆ ในนี้แล้วครับ เวลาผ่านไปและปะติดปะต่อเหตุการณ์ ดังนี้ครับ
1.น้ำมันที่เติมคุณภาพไม่ดีพอ 2.Mitsubishi วิ่งกลางวันร้อน ๆ ระยะทางไกล ๆ หรือแม้แต่วิ่งกลางคืน ระยะทางไกล ๆ คือ มากกว่า 300 กิโลขึ้นไป มันจะมีอาการเครื่องอืด สรุปคือ ถ้าเครื่องร้อนมาก ๆ จะอื้ดรถวิ่งไม่ออก มีแต่เสียงเครื่องครางฮืม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ .. 3.ให้ป๋า ลองใช้น้ำมันเครื่องเกรดดี ๆ หน่อยน่ะครับ แบบสังเคาะห์ 100% เลยน่ะครับป๋า ที่นี้หายสนิท .. แต่ถ้า 500 กิโลขึ้นไป ตามคล้ายอื่น ๆ เขาไม่ทันจริง ๆ ผับผ่าเฮอะ..555555555 ผิดถูกประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับป๋า ๆ ... เคสนี้เฉพาะรถผมน่ะคร๊าฟฟฟฟฟฟ.... หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: Ton Korat ที่ เมษายน 22, 2014, 09:32:52 pm เสียงเกียร์ออโต้หรือเปล่านะ ถ้าเสียงเครื่องยังไงก็ดังตามรอบนะผมว่า มันอาจหาจังหวะสับเกียร์อยู่ รอฟังท่านต่อไปดูครับ
หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: S.SOMPARN ที่ เมษายน 23, 2014, 08:55:47 am เสียงเครื่องคล้ายๆเกียร์ออโต้รอจัวหวะเปลื่ยนเกียร์ครับ
แต่เหยียบ100+เกียร์น่าจะเข้าสุดแล้ว กรณีแบบนี้ถือว่าปกติหรือป่าวครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: nongnoy : นองนอย ที่ เมษายน 23, 2014, 09:41:03 am เป็นเสียงเครื่องคางอือๆ หรือป่าวครับ รถผมจะเป็นช่วงความเร็วประมาณ 100-120 กม/ชม เป็นมาตั้งแต่ตอนออกรถแล้วครับ
เป็นบางครั้ง นานๆ ครั้ง แต่ตอนนี้เป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ ผมแก้โดยถอนคันเร่งลง แล้วกดไปอีกครั้ง หรือเรียกว่า "คลิกดาวน์" ครับ แล้วจะหายไปสักพัก หรือไม่ก็หายไปเลย หลับ.. ถ้าอาการเครื่องร้องอือๆ ก็แก้ไขประมาณนี้ครับ แต่ถ้ากรณีอื่นต้องรอป๋าๆ เข้ามาตอบอีกทีครับ eie หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: Pa9011 ที่ เมษายน 26, 2014, 11:54:08 am ผมเป็นหมือนกันครับแต่ว่ามันไม่เป็นตลอดครับ บางครั้งรู้สึกได้เลยว่าเครื่องอืด ไม่ไหลลื่น เลยลองปิดแอร์ขับ ปรากฎว่าเสียงเบาลงและเครื่องยนต์ไหลลื่นขึ้น ขับกลางคืนเปิดแอร์ไม่เป็นครับ กำลังสงสัยระบบแอร์อยู่ เพราะเช็คฟรีปั๊มพัดลมแล้วปกติครับ
หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: IMTOM ที่ เมษายน 30, 2014, 05:01:43 pm เป็นเหมือนกันครับ สังเกตุอาการ
- เวลากลางวันอากาศร้อนๆวิ่งไกลวิ่งใกล้ก็ดัง - บรรทุกเยอะๆนั่งหลายๆคนเปิดแอร์ทุกตัวอากาศข้างนอกร้อนๆ ก็ดัง ดังอื้อๆเหมือนลากเกียร์ บางทีก็หายไปเองบางทีก็ดังจนชิน ไม่รู้จะแก้ไงครับใครมีแนวทางบ้าง good หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: Pongapan ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 04:50:23 pm เป็นเหมือนกันครับอีกเสียง เหมือนวิ่งไกลเครื่องร้อนหรือป่าว ผมใช้น้ำมันสังเคราะห์ก็ยังเป็น พึ่งเปลี่ยนมาได้ไม่กี่วันก็ยังเป็นครับ
หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: Ton Korat ที่ พฤษภาคม 15, 2014, 07:53:32 pm ผมว่าออยล์ เกียร์ คูลเลอร์น่าจะช่วยท่านได้ครับ ปัญหามาจากการลดต้นทุนโดยตัดเอาออยล์เกียร์ออก น้ำมันเกียร์ร้อนเกินไปครับ เกียร์ทำงานเพี้ยน
หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: apichai 139 ที่ พฤษภาคม 15, 2014, 10:06:34 pm ผมว่าออยล์ เกียร์ คูลเลอร์น่าจะช่วยท่านได้ครับ ปัญหามาจากการลดต้นทุนโดยตัดเอาออยล์เกียร์ออก น้ำมันเกียร์ร้อนเกินไปครับ เกียร์ทำงานเพี้ยน ป๋าครับ ขออนุญาตถามต่อนิดนึง ถ้าน้ำมันเกียร์ร้อนไฟหน้าปัดจะโชว์มั้ยครับ รถผมก็เป็นๆหายๆหัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: Ton Korat ที่ พฤษภาคม 16, 2014, 09:07:55 am ผมว่าออยล์ เกียร์ คูลเลอร์น่าจะช่วยท่านได้ครับ ปัญหามาจากการลดต้นทุนโดยตัดเอาออยล์เกียร์ออก น้ำมันเกียร์ร้อนเกินไปครับ เกียร์ทำงานเพี้ยน ป๋าครับ ขออนุญาตถามต่อนิดนึง ถ้าน้ำมันเกียร์ร้อนไฟหน้าปัดจะโชว์มั้ยครับ รถผมก็เป็นๆหายๆใช่ครับถ้าร้อนเกินมันจะโชว์ แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้ายังไม่ร้อนขนาดไฟโชว์มันจะเหมาะสมพอดี ถ้าเทียบกับอุณหภูมิหม้อน้ำคงใกล้ขีดแดงโน่นแหละผมว่า หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: ตั้ม ที่ พฤษภาคม 16, 2014, 09:25:09 am ทำไมผมขับจากพัทยาถึงอุบลรวดเดียว นั่ง 5 คนกระเป๋าคนละใบ ความเร็วเฉลี่ย 110-120 ไม่เห็นมีเสียงอะไรเลยครับ ไม่อืดอะไรเลยธรรมดามาตลอดเส้นทาง ooo
หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: นายสบาย ที่ พฤษภาคม 16, 2014, 09:44:45 am เสียงพัดลมหน้าเครื่องแหละครับ ยิ่งถ้าเปิดแอร์ หลังคาด้วย พัดลมหน้าเครื่องมันจะหมุนเสียงอื้ออึงเลยครับ (พัดลมหน้าเครื่องไม่ใช่พัดลมไฟฟ้าน่ะครับ มันจะทำงานสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ ฉะนั้นเวลาผ่อนคันเร่ง เสียงมันก็จะเบาตามครับ) อาการนี้ปกติครับ (รถไม่อืดน่ะ ถ้าจะรู้สึกอืดบ้างก็น่าจะมาจาก คอมฯ แอร์ ทำงานต่อเนื่องนานครับ) สังเกตุได้ว่าเป็นเฉพาะตอนกลางวัน กลางคืนไม่เป็นครับ
หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: rayseed ที่ พฤษภาคม 16, 2014, 10:57:00 am รถผมก็เป็นครับ ปี2013 ความเร็วประมาน 100-120 ผมใช่วิธียกคันเร่ง แล้วกดให้ได้ความเร็ว 130-140 เสียงเงียบครับ ความรู้สึกส่วนตัวผมว่า เกียร์ไม่เปลี่ยน ครับ คล้ายๆเวลาเราขับเกียร์ธรรมดาที่เกียร์ 4 ครับ ความรู้สึกส่วนตัวครับ ผมก็อยากรู้วิธีแก้ไขที่จัดเจนครับ สาธุ สาธุ สาธุ
หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: pakkapon ที่ พฤษภาคม 16, 2014, 01:01:57 pm เป็นเสียงเครื่องคางอือๆ หรือป่าวครับ รถผมจะเป็นช่วงความเร็วประมาณ 100-120 กม/ชม เป็นมาตั้งแต่ตอนออกรถแล้วครับ เป็นบางครั้ง นานๆ ครั้ง แต่ตอนนี้เป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ ผมแก้โดยถอนคันเร่งลง แล้วกดไปอีกครั้ง หรือเรียกว่า "คลิกดาวน์" ครับ แล้วจะหายไปสักพัก หรือไม่ก็หายไปเลย หลับ.. ถ้าอาการเครื่องร้องอือๆ ก็แก้ไขประมาณนี้ครับ แต่ถ้ากรณีอื่นต้องรอป๋าๆ เข้ามาตอบอีกทีครับ eie [/quote ของผมเป็นแบบพี่เลยคับ เหยียบคันเร่งเสียงเครื่องดังบึ้นแต่รถไม่วิ่ง เหมือนๆเหยียบคลัชแล้วเบิ้ลเครื่องพวกเกียรธรรมาดายังไงยังงั้นเลย ผมสังเกตเวลาขับทางไกลเครื่องร้อนๆมักจะมีอาการนี้(มโนเอาเอง โอ๊ยมึน) น้องปาเวลายกคันเร่งนิดเดียว รอบเครื่องตกเร็วมาก พอกดอีกทีก็ว่าวลมแบบนี้อะคับ หลังๆรำคาญกดอย่างเดียวอาการดีขึ้นคับ..น้องปาชอบซาดิสต์นี่เอง kiki หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: ปาโลมา ที่ พฤษภาคม 29, 2014, 02:41:37 pm มายืนยันอีกเสียงว่าน่าจะเป็นที่พัดลมหน้าเครื่องครับ
อาการลักษณะนี้อยู่กับปาของผมมาตลอดตั้งแต่เริ่มใช้ (แรกๆไม่ดังมาก) ช่วงหลังเริ่มดังมากขึ้น รู้สึกรำคาญมากก็เลยหาทางแก้จนสำเร็จไปแล้ว เดี๋ยวเอาข้อมูลโดยละเอียดมาลงให้อีกทีครับ (สั้นๆก่อนว่าผมเปลี่ยนชุดฟรีปั้มครับ) หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: ปาโลมา ที่ มิถุนายน 02, 2014, 08:56:13 am กลับมาลงข้อมูลเพิ่มเติมครับ
เสียงดังในปาผมประมาณว่าอื้อๆวู้ๆ โดยเฉพาะวิ่งทางไกลช่วงกลางวันร้อนๆ ผมสงสัยมานานว่าดังมาจากไหน จากเทอร์โบ เกียร์ หรือเครื่อง เคยคุยๆกับช่างในศูนย์หลายรอบแต่ก็ไม่ได้ติดตามแก้ไขอย่างต่อเนื่อง (ดังไม่มาก แต่วิ่งทางไกลจะรำคาญพอประมาณ) ช่วงหลังๆ (ปีที่ 3) มานี่เริ่มดังมากขึ้นและรู้สึกเหมือนว่ารถไม่ค่อยวิ่งทั้งๆที่เหยียบคันเร่งลงไปลึกพอประมาณ (อันนี้เป็นความรู้สึกครับ) เท่าที่ผมสองสังเกตุดูอาการประมาณนี้ครับ วิ่งใหม่ๆไม่ดัง (อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นถึงจุดทำงานแล้ว) จะเริ่มดังเมื่อวิ่งไปซัก 20-30 นาทีแล้ว (มีความร้อนสะสมในห้องเครื่อง?) เสียงทีว่าจะเริ่มดังที่รอบเครื่องประมาณ 2000 ขึ้นไป รอบสูงมากก็จะดังมาก ช่วงสองปีแรก บางครั้งดัง บางครั้งก็เงียบ แต่วิ่งทางไกลไปซักพักจะดังตลอด ปีที่สามนี่ดังทุกครั้งที่เข้าเงื่อนไขสองข้อด้านบน ยกเท้าออกจากคันเร่ง รอบเครื่องต่ำลง เสียงเงียบ เหยียบลงไปใหม่ส่วนมากจะดังอีก เนื่องจากช่วงหลังนี้ดังมากขึ้นผมก็เลยพยายามหาทางแก้อย่างจริงจัง ลองเข้าศูนย์เข้าอู่อยู่หลายที่ ช่างว่าน่าจะเป็นที่ฟรีปั้มพัดลมหน้าเครื่อง (ไม่ใช่พัดลมไฟฟ้านะครับ) ลองกลับมาหาข้อมูลในเน็ตดูก่อนก็เจอว่า รถดีเซลหลายค่ายและรถยุโรปที่ใช้พัดลมระบายความร้อนแบบนี้เป็นอาการนี้กันเยอะเหมือนกัน ส่วนรถที่ใช้พัดลมไฟฟ้าไม่ค่อยเห็นเขาบ่นกัน หลักการสั้นๆของฟรีปั้มพัดลมคือ เมื่อเจ้าน้ำยาฟรีปั้มที่อยู่ในชุดฟรีปั้มพัดลมร้อนมากขึ้นจะมีความหนืดสูงขึ้น ทำให้ใบพัดลมกินลมมากขึ้น (ที่มาของเสียง) ซึ่งการทำงานตามนี้ก็ตรงตามความต้องการที่ผู้ผลิตเขาออกแบบไว้ละครับ คือเมื่อเครื่องร้อน พัดลมก็ต้องทำงานเต็มที่เพื่อระบายความร้อนออกไปให้มากที่สุด หากเครื่องเย็น ก็ให้พัดลมทำงานน้อยๆ เครื่องจะได้ร้อนถึงอุณหภูมิทำงานโดยเร็ว แต่ประเด็นที่เราพูดถึงอยู่คือ หากฟรีปั้มมันหนืดเกินความจำเป็นเสียงพัดลมก็จะดังเกินจนน่ารำคาญและเขาว่ากันว่ามันกินกำลังเครื่องเยอะด้วยเพราะพัดลมแบบนี้หมุนโดยเครื่องยนต์ครับ ส่วนถ้าหากมันฟรีเกินไปใบพัดลมก็จะกินลมน้อยทำให้เกิดปัญหาความร้อนขึ้นได้ เมื่อได้ข้อมูลตามนี้ก็ลองกลับไปแก้ดู รอบแรกเติมน้ำยาฟรีปั้ม (ผมไม่ได้อยู่ดูเลยไม่แน่ใจว่าช่างเอาน้ำยาเก่าออก หรือเติมเพิ่มเข้าไปเลย) ออกมาวิ่งดูเหมือนจะดี (เครื่องยังไม่ร้อนเต็มที่มั้ง) เอาไปลองใช้ดูก่อน ใช้ไปได้ซักสองอาทิตย์ สรุปว่าดังเหมือนเดิม ส่วนความร้อนไม่มีปัญหา กลับไปใหม่ เอาน้ำยาฟรีปั้มออกนิดหน่อย คราวนี้รู้สึกว่าดีขึ้น แต่วิ่งทางไกลก็ยังดังอยู่ ส่วนความร้อนยังไม่มีปัญหาเหมือนเดิม กลับไปอีกช่างว่า "ไม่น่าจะเอาออกแล้วพี่ น้ำยามันเหลือน้อยอยู่แล้ว ลองใช้ๆดูไปก่อน" โอเค ลองใช้ดู... ใช้อยู่ซักพักทนไม่ไหว จริงๆมันก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ไม่วิ่งทางไกลก็ไม่ดังมากมายอะไร แต่คิดจะทำแล้วน่าจะได้ดีกว่านี้ ก็เลยไปวิ่งหาอู่อื่นเพื่อลองแก้ดู หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นพัดลมไฟฟ้าไปเลย หาไปหามาไปเจอร้านทำพัดลมไฟฟ้า ก็เลยลองเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านดูเผื่อจะได้คำแนะนำดีๆ ซึ้งคำตอบที่ได้มาคือแก้กันไม่ค่อยหาย น่าจะต้องเปลี่ยนชุดฟรีปั้มเลยแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะหายแน่ๆไหม พอดีว่าเจ้าของร้านแกขับ triton ซึ่งแกถอดเจ้าพัดลมหน้าเครื่องออกติดพัดลมไฟฟ้าแทนตั้งแต่ป้ายแดง แกก็เลยเอามาให้ลองเปลี่ยนดู หลังจากเปลี่ยนเสร็จ ทดลองหมุนใบพัดลมดูพบว่าใบพัดหมุนฟรีได้มากกว่าฟรีปั้มเดิมของปาผมแบบรู้สึกได้ชัดเจน การหมุนทดสอบโดยเบื้องต้นคือใช้นิ้วกวาดใบพัดลม ใบจะหมุนไปได้ซักครึ่งรอบโดยประมาณ (ตรงนี้เป็นการประมาณล้วนๆนะครับ) ฟรีปั้มเดิมผมกระดิกตามนิ้วไปนิดเดียว ส่วนถ้าหากกวาดนิ้วแล้วใบพัดหมุนไปเป็นรอบนี่อาจจะฟรีเกิน อาจจะมีปัญหาความร้อนได้ (แต่ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องไปกังวลมันมากนะครับ) เอาปาออกมาทดลองขับอยู่นานมีเสียงอื้อๆกลับมาบ้างนานๆทีซึ่งน่าจะเป็นปกติ โดยรวมแล้วรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมตอนก่อนเปลี่ยนมากๆครับ O0 หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: ตั้ม ที่ พฤษภาคม 05, 2015, 05:05:05 pm กลับมาลงข้อมูลเพิ่มเติมครับ เสียงดังในปาผมประมาณว่าอื้อๆวู้ๆ โดยเฉพาะวิ่งทางไกลช่วงกลางวันร้อนๆ ผมสงสัยมานานว่าดังมาจากไหน จากเทอร์โบ เกียร์ หรือเครื่อง เคยคุยๆกับช่างในศูนย์หลายรอบแต่ก็ไม่ได้ติดตามแก้ไขอย่างต่อเนื่อง (ดังไม่มาก แต่วิ่งทางไกลจะรำคาญพอประมาณ) ช่วงหลังๆ (ปีที่ 3) มานี่เริ่มดังมากขึ้นและรู้สึกเหมือนว่ารถไม่ค่อยวิ่งทั้งๆที่เหยียบคันเร่งลงไปลึกพอประมาณ (อันนี้เป็นความรู้สึกครับ) เท่าที่ผมสองสังเกตุดูอาการประมาณนี้ครับ วิ่งใหม่ๆไม่ดัง (อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นถึงจุดทำงานแล้ว) จะเริ่มดังเมื่อวิ่งไปซัก 20-30 นาทีแล้ว (มีความร้อนสะสมในห้องเครื่อง?) เสียงทีว่าจะเริ่มดังที่รอบเครื่องประมาณ 2000 ขึ้นไป รอบสูงมากก็จะดังมาก ช่วงสองปีแรก บางครั้งดัง บางครั้งก็เงียบ แต่วิ่งทางไกลไปซักพักจะดังตลอด ปีที่สามนี่ดังทุกครั้งที่เข้าเงื่อนไขสองข้อด้านบน ยกเท้าออกจากคันเร่ง รอบเครื่องต่ำลง เสียงเงียบ เหยียบลงไปใหม่ส่วนมากจะดังอีก เนื่องจากช่วงหลังนี้ดังมากขึ้นผมก็เลยพยายามหาทางแก้อย่างจริงจัง ลองเข้าศูนย์เข้าอู่อยู่หลายที่ ช่างว่าน่าจะเป็นที่ฟรีปั้มพัดลมหน้าเครื่อง (ไม่ใช่พัดลมไฟฟ้านะครับ) ลองกลับมาหาข้อมูลในเน็ตดูก่อนก็เจอว่า รถดีเซลหลายค่ายและรถยุโรปที่ใช้พัดลมระบายความร้อนแบบนี้เป็นอาการนี้กันเยอะเหมือนกัน ส่วนรถที่ใช้พัดลมไฟฟ้าไม่ค่อยเห็นเขาบ่นกัน หลักการสั้นๆของฟรีปั้มพัดลมคือ เมื่อเจ้าน้ำยาฟรีปั้มที่อยู่ในชุดฟรีปั้มพัดลมร้อนมากขึ้นจะมีความหนืดสูงขึ้น ทำให้ใบพัดลมกินลมมากขึ้น (ที่มาของเสียง) ซึ่งการทำงานตามนี้ก็ตรงตามความต้องการที่ผู้ผลิตเขาออกแบบไว้ละครับ คือเมื่อเครื่องร้อน พัดลมก็ต้องทำงานเต็มที่เพื่อระบายความร้อนออกไปให้มากที่สุด หากเครื่องเย็น ก็ให้พัดลมทำงานน้อยๆ เครื่องจะได้ร้อนถึงอุณหภูมิทำงานโดยเร็ว แต่ประเด็นที่เราพูดถึงอยู่คือ หากฟรีปั้มมันหนืดเกินความจำเป็นเสียงพัดลมก็จะดังเกินจนน่ารำคาญและเขาว่ากันว่ามันกินกำลังเครื่องเยอะด้วยเพราะพัดลมแบบนี้หมุนโดยเครื่องยนต์ครับ ส่วนถ้าหากมันฟรีเกินไปใบพัดลมก็จะกินลมน้อยทำให้เกิดปัญหาความร้อนขึ้นได้ เมื่อได้ข้อมูลตามนี้ก็ลองกลับไปแก้ดู รอบแรกเติมน้ำยาฟรีปั้ม (ผมไม่ได้อยู่ดูเลยไม่แน่ใจว่าช่างเอาน้ำยาเก่าออก หรือเติมเพิ่มเข้าไปเลย) ออกมาวิ่งดูเหมือนจะดี (เครื่องยังไม่ร้อนเต็มที่มั้ง) เอาไปลองใช้ดูก่อน ใช้ไปได้ซักสองอาทิตย์ สรุปว่าดังเหมือนเดิม ส่วนความร้อนไม่มีปัญหา กลับไปใหม่ เอาน้ำยาฟรีปั้มออกนิดหน่อย คราวนี้รู้สึกว่าดีขึ้น แต่วิ่งทางไกลก็ยังดังอยู่ ส่วนความร้อนยังไม่มีปัญหาเหมือนเดิม กลับไปอีกช่างว่า "ไม่น่าจะเอาออกแล้วพี่ น้ำยามันเหลือน้อยอยู่แล้ว ลองใช้ๆดูไปก่อน" โอเค ลองใช้ดู... ใช้อยู่ซักพักทนไม่ไหว จริงๆมันก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ไม่วิ่งทางไกลก็ไม่ดังมากมายอะไร แต่คิดจะทำแล้วน่าจะได้ดีกว่านี้ ก็เลยไปวิ่งหาอู่อื่นเพื่อลองแก้ดู หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นพัดลมไฟฟ้าไปเลย หาไปหามาไปเจอร้านทำพัดลมไฟฟ้า ก็เลยลองเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านดูเผื่อจะได้คำแนะนำดีๆ ซึ้งคำตอบที่ได้มาคือแก้กันไม่ค่อยหาย น่าจะต้องเปลี่ยนชุดฟรีปั้มเลยแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะหายแน่ๆไหม พอดีว่าเจ้าของร้านแกขับ triton ซึ่งแกถอดเจ้าพัดลมหน้าเครื่องออกติดพัดลมไฟฟ้าแทนตั้งแต่ป้ายแดง แกก็เลยเอามาให้ลองเปลี่ยนดู หลังจากเปลี่ยนเสร็จ ทดลองหมุนใบพัดลมดูพบว่าใบพัดหมุนฟรีได้มากกว่าฟรีปั้มเดิมของปาผมแบบรู้สึกได้ชัดเจน การหมุนทดสอบโดยเบื้องต้นคือใช้นิ้วกวาดใบพัดลม ใบจะหมุนไปได้ซักครึ่งรอบโดยประมาณ (ตรงนี้เป็นการประมาณล้วนๆนะครับ) ฟรีปั้มเดิมผมกระดิกตามนิ้วไปนิดเดียว ส่วนถ้าหากกวาดนิ้วแล้วใบพัดหมุนไปเป็นรอบนี่อาจจะฟรีเกิน อาจจะมีปัญหาความร้อนได้ (แต่ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องไปกังวลมันมากนะครับ) เอาปาออกมาทดลองขับอยู่นานมีเสียงอื้อๆกลับมาบ้างนานๆทีซึ่งน่าจะเป็นปกติ โดยรวมแล้วรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมตอนก่อนเปลี่ยนมากๆครับ O0 ขอบคุณครับ สาธุ หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: ปาโลมา ที่ พฤษภาคม 06, 2015, 08:23:48 am กลับมาลงข้อมูลเพิ่มเติมครับ เสียงดังในปาผมประมาณว่าอื้อๆวู้ๆ โดยเฉพาะวิ่งทางไกลช่วงกลางวันร้อนๆ ผมสงสัยมานานว่าดังมาจากไหน จากเทอร์โบ เกียร์ หรือเครื่อง เคยคุยๆกับช่างในศูนย์หลายรอบแต่ก็ไม่ได้ติดตามแก้ไขอย่างต่อเนื่อง (ดังไม่มาก แต่วิ่งทางไกลจะรำคาญพอประมาณ) ช่วงหลังๆ (ปีที่ 3) มานี่เริ่มดังมากขึ้นและรู้สึกเหมือนว่ารถไม่ค่อยวิ่งทั้งๆที่เหยียบคันเร่งลงไปลึกพอประมาณ (อันนี้เป็นความรู้สึกครับ) เท่าที่ผมสองสังเกตุดูอาการประมาณนี้ครับ วิ่งใหม่ๆไม่ดัง (อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นถึงจุดทำงานแล้ว) จะเริ่มดังเมื่อวิ่งไปซัก 20-30 นาทีแล้ว (มีความร้อนสะสมในห้องเครื่อง?) เสียงทีว่าจะเริ่มดังที่รอบเครื่องประมาณ 2000 ขึ้นไป รอบสูงมากก็จะดังมาก ช่วงสองปีแรก บางครั้งดัง บางครั้งก็เงียบ แต่วิ่งทางไกลไปซักพักจะดังตลอด ปีที่สามนี่ดังทุกครั้งที่เข้าเงื่อนไขสองข้อด้านบน ยกเท้าออกจากคันเร่ง รอบเครื่องต่ำลง เสียงเงียบ เหยียบลงไปใหม่ส่วนมากจะดังอีก เนื่องจากช่วงหลังนี้ดังมากขึ้นผมก็เลยพยายามหาทางแก้อย่างจริงจัง ลองเข้าศูนย์เข้าอู่อยู่หลายที่ ช่างว่าน่าจะเป็นที่ฟรีปั้มพัดลมหน้าเครื่อง (ไม่ใช่พัดลมไฟฟ้านะครับ) ลองกลับมาหาข้อมูลในเน็ตดูก่อนก็เจอว่า รถดีเซลหลายค่ายและรถยุโรปที่ใช้พัดลมระบายความร้อนแบบนี้เป็นอาการนี้กันเยอะเหมือนกัน ส่วนรถที่ใช้พัดลมไฟฟ้าไม่ค่อยเห็นเขาบ่นกัน หลักการสั้นๆของฟรีปั้มพัดลมคือ เมื่อเจ้าน้ำยาฟรีปั้มที่อยู่ในชุดฟรีปั้มพัดลมร้อนมากขึ้นจะมีความหนืดสูงขึ้น ทำให้ใบพัดลมกินลมมากขึ้น (ที่มาของเสียง) ซึ่งการทำงานตามนี้ก็ตรงตามความต้องการที่ผู้ผลิตเขาออกแบบไว้ละครับ คือเมื่อเครื่องร้อน พัดลมก็ต้องทำงานเต็มที่เพื่อระบายความร้อนออกไปให้มากที่สุด หากเครื่องเย็น ก็ให้พัดลมทำงานน้อยๆ เครื่องจะได้ร้อนถึงอุณหภูมิทำงานโดยเร็ว แต่ประเด็นที่เราพูดถึงอยู่คือ หากฟรีปั้มมันหนืดเกินความจำเป็นเสียงพัดลมก็จะดังเกินจนน่ารำคาญและเขาว่ากันว่ามันกินกำลังเครื่องเยอะด้วยเพราะพัดลมแบบนี้หมุนโดยเครื่องยนต์ครับ ส่วนถ้าหากมันฟรีเกินไปใบพัดลมก็จะกินลมน้อยทำให้เกิดปัญหาความร้อนขึ้นได้ เมื่อได้ข้อมูลตามนี้ก็ลองกลับไปแก้ดู รอบแรกเติมน้ำยาฟรีปั้ม (ผมไม่ได้อยู่ดูเลยไม่แน่ใจว่าช่างเอาน้ำยาเก่าออก หรือเติมเพิ่มเข้าไปเลย) ออกมาวิ่งดูเหมือนจะดี (เครื่องยังไม่ร้อนเต็มที่มั้ง) เอาไปลองใช้ดูก่อน ใช้ไปได้ซักสองอาทิตย์ สรุปว่าดังเหมือนเดิม ส่วนความร้อนไม่มีปัญหา กลับไปใหม่ เอาน้ำยาฟรีปั้มออกนิดหน่อย คราวนี้รู้สึกว่าดีขึ้น แต่วิ่งทางไกลก็ยังดังอยู่ ส่วนความร้อนยังไม่มีปัญหาเหมือนเดิม กลับไปอีกช่างว่า "ไม่น่าจะเอาออกแล้วพี่ น้ำยามันเหลือน้อยอยู่แล้ว ลองใช้ๆดูไปก่อน" โอเค ลองใช้ดู... ใช้อยู่ซักพักทนไม่ไหว จริงๆมันก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ไม่วิ่งทางไกลก็ไม่ดังมากมายอะไร แต่คิดจะทำแล้วน่าจะได้ดีกว่านี้ ก็เลยไปวิ่งหาอู่อื่นเพื่อลองแก้ดู หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นพัดลมไฟฟ้าไปเลย หาไปหามาไปเจอร้านทำพัดลมไฟฟ้า ก็เลยลองเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านดูเผื่อจะได้คำแนะนำดีๆ ซึ้งคำตอบที่ได้มาคือแก้กันไม่ค่อยหาย น่าจะต้องเปลี่ยนชุดฟรีปั้มเลยแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะหายแน่ๆไหม พอดีว่าเจ้าของร้านแกขับ triton ซึ่งแกถอดเจ้าพัดลมหน้าเครื่องออกติดพัดลมไฟฟ้าแทนตั้งแต่ป้ายแดง แกก็เลยเอามาให้ลองเปลี่ยนดู หลังจากเปลี่ยนเสร็จ ทดลองหมุนใบพัดลมดูพบว่าใบพัดหมุนฟรีได้มากกว่าฟรีปั้มเดิมของปาผมแบบรู้สึกได้ชัดเจน การหมุนทดสอบโดยเบื้องต้นคือใช้นิ้วกวาดใบพัดลม ใบจะหมุนไปได้ซักครึ่งรอบโดยประมาณ (ตรงนี้เป็นการประมาณล้วนๆนะครับ) ฟรีปั้มเดิมผมกระดิกตามนิ้วไปนิดเดียว ส่วนถ้าหากกวาดนิ้วแล้วใบพัดหมุนไปเป็นรอบนี่อาจจะฟรีเกิน อาจจะมีปัญหาความร้อนได้ (แต่ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องไปกังวลมันมากนะครับ) เอาปาออกมาทดลองขับอยู่นานมีเสียงอื้อๆกลับมาบ้างนานๆทีซึ่งน่าจะเป็นปกติ โดยรวมแล้วรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมตอนก่อนเปลี่ยนมากๆครับ O0 ขอบคุณครับ สาธุ ขอบคุณป๋าที่ตั้มขุดกระทู้นี้ขึ้นมาผมเลยเจอว่าข้อมูลที่ผมลงไว้ไม่อัพเดท... เรื่องเสียงดังจากพัดลมฟรีปั้ม (หรือฟรีคลัทช์) ในปาผม สุดท้ายผมจัดการแบบถาวรโดยถอดออกเปลี่ยนเป็นพัดลมไฟฟ้าไปละ :D แต่ไม่แนะนำสำหรับผู้ใช้รถทั่วไปเพราะพัดลมติดรถเดิมๆนั้นทำหน้าที่ระบายความร้อนได้ดีและแทบจะไม่ต้องการการดูและรักษาเลย (พังยาก) รายละเอียดของพัดลมไฟฟ้าที่ผมใช้ หากป๋าๆสนใจอ่านดูเป็นข้อมูล ลองดูกระทู้ในห้อง DIY ครับ หัวข้อ: Re: ปรึกษาเสียงรอบเครื่อง2.5 GT ปี2013 เริ่มหัวข้อโดย: Gigalo ที่ มิถุนายน 26, 2015, 09:30:20 am ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม
ผมก็เดือนเนื้อร้อนใจกับปัญหานี้เหมือนกัน...ใช้รถมาจะ สามปีแล้ว ยิ่งนานยิ่งดังชัดขึ้นเรื่อยๆ แก้เฟืองท้ายจบแล้ว ยังหาปัญหานี้ไม่เจอ พออ่าน...เขาใจเลย โดยเฉพาะเรื่อง ฟรีคลัทช์ ขอบพระคุณหลายๆครับที่ขุดขึ้นมา smile.. smile..
|