หัวข้อ: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: watva_alarm ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 07:42:44 am มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้างครับ
อ่านใน Triton club เห็นนิยมเปลี่ยนกัน เห็นว่าอุณหภูมิลดลงจากอัดยาวๆ 96-97 เหลือ 86-87 องศา ลดความเสี่ยงปะเก็นฝาสูบแตก กำลังชั่งใจว่าจะเปลี่ยนมั่ง เพราะตอนนี้วิ่งปกติเข็มขึ้นไปขีด 3 แล้ว อยากได้สักแค่ 2 ขีด shame . หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: ... ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 01:37:49 pm ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า ผมไม่ได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์อะไรมากมาย ข้อความต่อไปนี้ก็ฟังจากคนอื่นมาอีกที
ทั้งหาข้อมูลเองด้วย อาจมีถูกผิดบ้างก็พิจารณาดูนะครับ เรื่องวาล์วน้ำก็เป็นอย่างนึงที่แก๊งค์กระเป๋าแหกให้ความสนใจ เพราะว่าอย่างน้อยก็เห็นๆหลายๆคนเปลี่ยนกันแล้วความร้อนหม้อน้ำตอนเดินเบามันเย็นจริง แถมความร้อนก็ขึ้นไม่เยอะเวลาอัดกันยาวๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาโหด ขาซิ่งชอบนัก แต่พอได้รับทราบข้อมูล ลองค้นคว้าก็พบว่า ซึ่งจริงๆแล้วยังไม่เคยลองเปลี่ยน เอามาคิดพิจารณา สุดท้ายก็ไม่เปลี่ยนครับ ของเดิมดีอยู่แล้ว เพราะอะไร ? ? ? อย่าลืมนะครับ นี่เป็นความเห็นส่วนตัว จากคนไม่เคยเปลี่ยน เชื่อมากไม่ได้ หน้าที่ของวาล์วน้ำนะครับ อ่านมาฟังมาอีกที คือทำหน้าที่ปิดกั้นทางเดินน้ำไม่ให้ไหลเข้าเครื่องเมื่อเครื่องยนต์เย็น เพื่อที่จะทำให้เครื่องยนต์ร้อนถึงอุณหภูมิการทำงานเร็วขึ้น และรักษาอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ โดยการควบคุมการไหลวนเวียนของน้ำหล่อเย็น การทำงานของมัน เมื่ออุณหภูมิของน้ำสูงขึ้น เจ้าวาล์วมันก็จะค่อยๆเปิดขึ้นเรื่อยตามอุณหภูมิ เย็นหน่อยก็เปิดน้อยหรือปิด มากหน่อยก็เปิดมากขึ้นหรือเปิดเต็มที่ (http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/General/thermostat.jpg) ในเครื่องยนต์ของเรา เครื่อง 2.5 วาล์จะเริ่มเปิดที่อุณหภูมิ 82+-2 องศา C เปิดเต็มที่ 95 องศา C เครื่อง 3.2 วาล์จะเริ่มเปิดที่อุณหภูมิ 76.5+-2 องศา C เปิดเต็มที่ 90 องศา C ที่เครื่องยนต์ 2 ตัว ทำไมวาล์วน้ำถึงเปิดต่างกัน 3.2 ทำไมเย็นกว่า ซึ่งก็เกียวข้องกับการออกแบบเครื่องยนต์ และ Operating Temperature อุณหภูมิระดับการทำงานปกติของเครื่องยนต์ 2 ตัวนี้ต่างกัน ซึ่งช่วงอุณหภูมิปกติของเครื่องยนต์นี้เองที่จะมีการสึกหรอน้อยมาก หลังจากนั้นพวกเครื่อง 2.5 ที่เปลี่ยนวาล์วน้ำแล้ว อุณหภูมิเดินเบาก็ลดลงมา จาก 80 กว่า เหลือแค่ไม่ถึง 80 ซึ่งไม่ใช่ช่วง Operating Temperature การสึกหรอก็เกิดขึ้น รวมแม้กระทั่งเวลาเข้าศูนย์ต้องการเลินนิ่งเครื่องก็ทำไม่ได้เพราะเครื่องเย็นเกิน ต้องกดคันเร่งให้เครื่องร้อนเกิน 80 ถึงจะสั่งเลินนิ่งได้ ส่วนเวลาที่เราขับรถเร็ว รอบสูงๆ แช่นานๆ ความร้อนก็ขึ้น แต่พอเปลี่ยนแล้วความร้อนสูงสุดก็ลดลง ด้วยเห็นว่าความร้อนลดลง ไม่เพิ่มเหมือนก่อน เราก็ยังคงแช่คันเร่ง ตะบี้ตะบันอัดมันเข้าไปอีก ซึ่งเป็นการเค้นเครื่องไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งโดยธรรมชาติของเครื่องแล้ว เวลามันทำงานเต็มที่นานๆจนความร้อนขึ้น มันก็ส่งสัญญาณบอกเราแล้วว่าตรูร้อนแล้วนะ พอเถอะ ผ่อนๆบ้างๆ เราก็ผ่อนให้มันได้พักหายใจหายคอบ้าง ยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ไปในตัว แค่นี้ก็จบ ไม่ต้องเปลี่ยน ลองพิจารณาดูและกันนะครับ :) หากอยากแก้เรื่องความร้อนให้ตรงจุด ลองไปหาอ่านวิธีแก้ในกระทู้กล่องข้าวน้อยภาค 2 ดูครับ นั่นแหละถูกจุด :D หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: ... ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 02:31:11 pm ขอย้ำครับว่า ฟังๆอ่านๆเค้ามาอีกที ผมก็เลยยังไม่เปลี่ยน :D
หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: watva_alarm ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 03:41:55 pm ละเอียดมากเลยครับ ป๋าอ๊อด สาธุ
ผมก็ยังลังเล หาข้อมูลอยู่ ซึ่งในไทรทัน ก็ถกกันเรื่องเลนนิ่งพอสมควร เพราะอุณหภูมิขึ้นไม่ถึง 80 นี่แหละ ดูไปมันก็ผิดสเปคพอสมควร เรื่องน้ำมันเครื่องเป็นกรดก็น่าคิด ไว้โอกาสต่อไปขอนำ part อื่น มาขอคำแนะนำอีกนะครับ (ยังมีอีกหลายโครงการ) grimace หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: ปุ่น-ภูเก็ต ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 03:53:47 pm ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า ผมไม่ได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์อะไรมากมาย ข้อความต่อไปนี้ก็ฟังจากคนอื่นมาอีกที ทั้งหาข้อมูลเองด้วย อาจมีถูกผิดบ้างก็พิจารณาดูนะครับ เรื่องวาล์วน้ำก็เป็นอย่างนึงที่แก๊งค์กระเป๋าแหกให้ความสนใจ เพราะว่าอย่างน้อยก็เห็นๆหลายๆคนเปลี่ยนกันแล้วความร้อนหม้อน้ำตอนเดินเบามันเย็นจริง แถมความร้อนก็ขึ้นไม่เยอะเวลาอัดกันยาวๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาโหด ขาซิ่งชอบนัก แต่พอได้รับทราบข้อมูล ลองค้นคว้าก็พบว่า ซึ่งจริงๆแล้วยังไม่เคยลองเปลี่ยน เอามาคิดพิจารณา สุดท้ายก็ไม่เปลี่ยนครับ ของเดิมดีอยู่แล้ว เพราะอะไร ? ? ? อย่าลืมนะครับ นี่เป็นความเห็นส่วนตัว จากคนไม่เคยเปลี่ยน เชื่อมากไม่ได้ หน้าที่ของวาล์วน้ำนะครับ อ่านมาฟังมาอีกที คือทำหน้าที่ปิดกั้นทางเดินน้ำไม่ให้ไหลเข้าเครื่องเมื่อเครื่องยนต์เย็น เพื่อที่จะทำให้เครื่องยนต์ร้อนถึงอุณหภูมิการทำงานเร็วขึ้น และรักษาอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ โดยการควบคุมการไหลวนเวียนของน้ำหล่อเย็น การทำงานของมัน เมื่ออุณหภูมิของน้ำสูงขึ้น เจ้าวาล์วมันก็จะค่อยๆเปิดขึ้นเรื่อยตามอุณหภูมิ เย็นหน่อยก็เปิดน้อยหรือปิด มากหน่อยก็เปิดมากขึ้นหรือเปิดเต็มที่ (http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/General/thermostat.jpg) ในเครื่องยนต์ของเรา เครื่อง 2.5 วาล์จะเริ่มเปิดที่อุณหภูมิ 82+-2 องศา C เปิดเต็มที่ 95 องศา C เครื่อง 3.2 วาล์จะเริ่มเปิดที่อุณหภูมิ 76.5+-2 องศา C เปิดเต็มที่ 90 องศา C ที่เครื่องยนต์ 2 ตัว ทำไมวาล์วน้ำถึงเปิดต่างกัน 3.2 ทำไมเย็นกว่า ซึ่งก็เกียวข้องกับการออกแบบเครื่องยนต์ และ Operating Temperature อุณหภูมิระดับการทำงานปกติของเครื่องยนต์ 2 ตัวนี้ต่างกัน ซึ่งช่วงอุณหภูมิปกติของเครื่องยนต์นี้เองที่จะมีการสึกหรอน้อยมาก เครื่องเย็นแล้วเกี่ยวอะไรกับการสึกหรอ หลังจากนั้นพวกเครื่อง 2.5 ที่เปลี่ยนวาล์วน้ำแล้ว อุณหภูมิเดินเบาก็ลดลงมา จาก 80 กว่า เหลือแค่ไม่ถึง 80 ซึ่งไม่ใช่ช่วง Operating Temperature การสึกหรอก็เกิดขึ้น รวมแม้กระทั่งเวลาเข้าศูนย์ต้องการเลินนิ่งเครื่องก็ทำไม่ได้เพราะเครื่องเย็นเกิน ต้องกดคันเร่งให้เครื่องร้อนเกิน 80 ถึงจะสั่งเลินนิ่งได้ ส่วนเวลาที่เราขับรถเร็ว รอบสูงๆ แช่นานๆ ความร้อนก็ขึ้น แต่พอเปลี่ยนแล้วความร้อนสูงสุดก็ลดลง ด้วยเห็นว่าความร้อนลดลง ไม่เพิ่มเหมือนก่อน เราก็ยังคงแช่คันเร่ง ตะบี้ตะบันอัดมันเข้าไปอีก ซึ่งเป็นการเค้นเครื่องไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งโดยธรรมชาติของเครื่องแล้ว เวลามันทำงานเต็มที่นานๆจนความร้อนขึ้น มันก็ส่งสัญญาณบอกเราแล้วว่าตรูร้อนแล้วนะ พอเถอะ ผ่อนๆบ้างๆ เราก็ผ่อนให้มันได้พักหายใจหายคอบ้าง ยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ไปในตัว แค่นี้ก็จบ ไม่ต้องเปลี่ยน ลองพิจารณาดูและกันนะครับ :) หากอยากแก้เรื่องความร้อนให้ตรงจุด ลองไปหาอ่านวิธีแก้ในกระทู้กล่องข้าวน้อยภาค 2 ดูครับ นั่นแหละถูกจุด :D นี่ขนาดไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์นะเนี่ย heart heart heart heart หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: Iyaa Diesel ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 04:02:15 pm ขนาดไม่ได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์อะไรมากมาย นะเนี้ย... สุดยอดไปเลย ป๋าอ๊อด
สาธุ สาธุ good good ได้ความรู้เพิ่มเติมอีกแล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ good หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: Na ratchada ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 10:56:47 pm ผมก็เคยอยากเปลี่ยนและเคยฟังๆมาบ้าง เอาแค่ที่ตามเข้าใจนะครับ (ข้อมูลผิดถูกอย่างไร วานผู้รู้ช่วยๆกันอีกที ครับ)
เครื่องยนต์ 4D56 เป็นเครื่องที่ความจุกระบอกสูบน้อยกว่า เพียง 2500cc แต่มีช่วงชักที่สั้นกว่า จึงทำให้ได้รอบที่จัดจ้านกว่า เครื่องยนต์ 4M41 เป็นเครื่องที่ความจุกระบอกสูบมากกว่า ทำให้ได้ถึง 3200cc และมีช่วงชักของลูกสูบที่ยาวกว่า ลึกกว่า และได้กำลังมากกว่า แต่อาจจะไม่จัดจ้านเท่า4D56 ของ 2500 cc ***ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เหมือนว่า 2500 cc เอามาแต่ง ปรับ จูน แล้วเหมือนจะรู้สึกว่าจัดจ้านกว่า ก็ได้ ***ในเมือมีข้อจำกัดพวกนั้น จึงมีรายละเอียดเรื่องของการออกแบบเครื่องยนต์ ทั้ง 2รุ่น แตกต่างกันบ้าง และหากสังเกตุให้ดีว่า การออกแบบของอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ต่างกัน วาวล์น้ำจึงมีค่าที่ต่างกัน ***และด้วยประการฉะนี้ ทำไมเขาไม่เอาวาวล์น้ำของรุ่น 3.2 มาใส่ให้2.5 ทั้งที่การเปิดน้ำเร็วกว่า มันก็น่าจะมีเหตุผลของมัน พอจะจับใจความได้ว่า......การนั่งจับตา จับจ้อง ทดลอง พิสูจน์ หาค่า กำหนด spec นั้น ล้วนมาจากขั้นตอนการ break-in ของเครื่องยนต์ เพื่อหาค่าที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์ ที่จะทำงานได้ดี และการขยายตัวของวัสดุ ตามค่าเคลียแล๊นท์ ที่เผื่อไว้นั้น เบ่งบานขยายตัวเต็มที่ในขณะที่ได้หรือเจออุณหภมิทำงาน เพื่อดำเนินการออกแบบอุปกรณ์ควบคุมกันต่อไป กระบวนการ break-in นี้ทำเช่นเดียวกันกับ engine lap ของเครื่องยนต์ที่ประกอบขึ้นเพื่อการแข่งขัน เช่นเดียวกัน (ด้วยข้อจำกัดพวกนี้หรือป่าว ที่ไม่แนะนำให้เค้นเครื่องยนต์เมื่อเครื่องเย็น จะทำให้เกิดการสึกหรอสูงมากกว่าเครื่องร้อน) ในการทำงานของเครืองยนต์ ที่ save ไว้ด้วยวาวล์น่้ำนั้น เพื่อเป็นสัญญานบอกว่าสูงแล้วน่ะ พอเถอะ! แต่หากเราไปเปิดน้ำเข้าไปเพื่อให้น้ำร้อนนั้นออกไปเอาน้ำที่เย็นกว่าเติมไปเพื่อเปลี่ยนอุณหภมิการทำงานของมันให้เย็นลง เพื่อจุดประสงค์จะได้แช่ต่อไป หรือชัดกันต่อ โดยที่ความร้อนไม่สูง แบบนั้นถูกต้องหรือป่าว ผมไม่แน่ใจ(เพราะยังไม่เคยลอง เห็นเขาทำกันว่าดี แต่พอเข้าใจสาเหตุแล้ว เลยนิ่งไว้ก่อน) น้ำหนักบรรทุก ภาระload น้ำหนักรถ มากกว่าทำให้การเร่งเครื่องเพื่อฉุดลากนั้นต้องใช้กำลังมากกว่ารถกะบะ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ความร้อนสูงกว่าได้ ดังนั้น....ในมุมมอง ของ BBB! Gang มองว่า หากเราเข้าใจปัญหา เข้าใจการออกแบบ เข้าใจหลักการ จึงเกิดคำถามต่อ ?????? จึงได้คำตอบมาว่า การจะไปแก้เรื่องวาวล์น้ำนั้นเป็นเรื่องที่เห็นผลชัดทางการใช้งานจริง ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมผู้ผลิตถึงไม่แก้ไขตรงนี้เอง ปล่อยให้เป็นปัญหากันทำไม และการออกแบบของเขามันดีอยู่แล้ว แต่พวกเราไปดัดแปลงแต่งเติมจนเกิดความร้อนขึ้นมา หรือใช้งานเกินข้อจำกัดกันเอง ดังนั้นเมื่อรู้ว่าปัญหามาจากไหน ก็ไปแก้ตรงจุดที่เกิดความร้อนกันดีกว่า.........น่าจะตรงโรคมากกว่า จุดที่เราไปดัดแปลงจนเกิดการสร้างความร้อนมากกว่าปกติ 1. เค้นค่าแรงดันในระบบคอมมอลเรียล 2. จุดระเบิดรุนแรงมากกว่าปกติ 3. เทอร์โบทำงานรอบจัดกว่าปกติ 4. ใช้งานรอบเครื่องยนต์สูงกว่าปกติ 5. เค้นให้รถรอบจัดกว่าปกติ บูสมาไว กับน้ำหนักรถที่มาก ย่อมเป็นการเค้นอีกทางหนึ่ง 6. น้ำระบายความร้อนไม่ทัน เพราะความร้อนถูกสร้างมากกว่าปกติ การแก้ไข หรือเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนจากประเด็นข้างบน จากข้อ 1. ลดการจูนดันราง หรือ เปลี่ยนปลายหัวฉีดแทน การปรับแรงดันรางสูงๆ จากข้อ 2. หาทางระบายไอเสียให้เร็วและสะดวกกว่าปกติ และต้องรองรับการทำงานที่รอบต่ำได้ดีด้วย....เช่นเปลี่ยนท่อไอเสีย จากข้อ 3. ลดความร้อนจากแรงอัดอากาศได้ด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ หรือท่ออลูมิเนียม หรือร่นความยาวท่ออินเตอร์ หรือทำให้ระบบระบายอากาศอินเตอร์ สะดวกมากกว่าเดิม หรือทำความสะอาดครีบอิยเตอร์บ่อยๆ จากข้อ 4. ลดความร้อนของการเสียดสี ด้วยน้ำมันเครื่องที่เกรดสูงกว่าปกติอีกนิด จะทำให้ลดการเปลี่ยนแปลงของย่านของอุณหภูมิได้ จากข้อ 5. พยายามอย่าเค้นคันเร่ง ในช่วงฉุดลากมากเกินไป ให้รถลอยตัวก่อน จึงค่อยๆส่งออกไป (ถ้าไม่จำเป็น) จากข้อ 6. ใช้น้ำยาหล่อเย็นที่เกรดสูงขึ้น หรือทำความสะอาดครีบระบายความร้อน หรือเพิ่มความสะดวกในการไหลผ่านของอากาศ (ทดแทนการเปลี่ยนหม้อน้ำ อลูมิเนียม ถ้าไม่เล่นใน step สูงๆ) 7. ดูแลเป่ากรอกอากาศ ลดน้ำหนักบรรทุก อย่าปรับจูนเยอะ แต่งรถใน step บ้านๆ ลดการเค้นการออกตัว ****ข้อมูลเพียงเท่านี้ ก็ยังวิ่งเล่นชายฝั่ง จะมีก็เล่นน้ำชายหาด ให้เปียกหน้าเข้งบ้างก็ยังดี ถ้ามากกว่านี้ ต้องเหมาเรือเพื่อไป ไดหมึกในทะเล กันตามใจ ก็ได้ครับ good good good good good เพื่อเป็นข้อมูลยามดึก ก่อนนอน ....เมื่อยนิ้วฉิบ......5555 หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: Black Angel No.181 ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 11:10:34 pm like >:D >:D like
หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: Na ratchada ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 11:12:48 pm like >:D >:D like ไม่ช่วยพิมพ์เลยน่ะป๋า มากด icon 3 ตัว แล้วไป :( หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: Black Angel No.181 ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 11:14:56 pm like >:D >:D like ไม่ช่วยพิมพ์เลยน่ะป๋า มากด icon 3 ตัว แล้วไป :( ขี้เกียจเมื่อยนิ้วอะ :D หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: black paje ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 11:17:44 pm like >:D >:D like ไม่ช่วยพิมพ์เลยน่ะป๋า มากด icon 3 ตัว แล้วไป :( ขี้เกียจเมื่อยนิ้วอะ :D จบข่าว :) หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: Na ratchada ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 11:18:24 pm like >:D >:D like ไม่ช่วยพิมพ์เลยน่ะป๋า มากด icon 3 ตัว แล้วไป :( ขี้เกียจเมื่อยนิ้วอะ :D จบข่าว :) ซ่ะงั้น..... หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: chanavorn ที่ พฤศจิกายน 26, 2011, 01:31:53 am นิทานก่อนนอน อิอิ
หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: พ่อลูกอ่อน No.241 ที่ พฤศจิกายน 28, 2011, 05:02:19 pm ทั้งสองท่านข้อมูลแน่นปึ๊กกกกครับ :D
หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: EnGiNeEriNg No.407 ที่ พฤศจิกายน 28, 2011, 05:25:24 pm ผมก็เคยอยากเปลี่ยนและเคยฟังๆมาบ้าง เอาแค่ที่ตามเข้าใจนะครับ (ข้อมูลผิดถูกอย่างไร วานผู้รู้ช่วยๆกันอีกที ครับ) ดีดีครับจะได้ไม่ต้องทำไรมันเอาเดิมๆนี่ละจบ.... despise despise despiseเครื่องยนต์ 4D56 เป็นเครื่องที่ความจุกระบอกสูบน้อยกว่า เพียง 2500cc แต่มีช่วงชักที่สั้นกว่า จึงทำให้ได้รอบที่จัดจ้านกว่า เครื่องยนต์ 4M41 เป็นเครื่องที่ความจุกระบอกสูบมากกว่า ทำให้ได้ถึง 3200cc และมีช่วงชักของลูกสูบที่ยาวกว่า ลึกกว่า และได้กำลังมากกว่า แต่อาจจะไม่จัดจ้านเท่า4D56 ของ 2500 cc ***ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เหมือนว่า 2500 cc เอามาแต่ง ปรับ จูน แล้วเหมือนจะรู้สึกว่าจัดจ้านกว่า ก็ได้ ***ในเมือมีข้อจำกัดพวกนั้น จึงมีรายละเอียดเรื่องของการออกแบบเครื่องยนต์ ทั้ง 2รุ่น แตกต่างกันบ้าง และหากสังเกตุให้ดีว่า การออกแบบของอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ต่างกัน วาวล์น้ำจึงมีค่าที่ต่างกัน ***และด้วยประการฉะนี้ ทำไมเขาไม่เอาวาวล์น้ำของรุ่น 3.2 มาใส่ให้2.5 ทั้งที่การเปิดน้ำเร็วกว่า มันก็น่าจะมีเหตุผลของมัน พอจะจับใจความได้ว่า......การนั่งจับตา จับจ้อง ทดลอง พิสูจน์ หาค่า กำหนด spec นั้น ล้วนมาจากขั้นตอนการ break-in ของเครื่องยนต์ เพื่อหาค่าที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์ ที่จะทำงานได้ดี และการขยายตัวของวัสดุ ตามค่าเคลียแล๊นท์ ที่เผื่อไว้นั้น เบ่งบานขยายตัวเต็มที่ในขณะที่ได้หรือเจออุณหภมิทำงาน เพื่อดำเนินการออกแบบอุปกรณ์ควบคุมกันต่อไป กระบวนการ break-in นี้ทำเช่นเดียวกันกับ engine lap ของเครื่องยนต์ที่ประกอบขึ้นเพื่อการแข่งขัน เช่นเดียวกัน (ด้วยข้อจำกัดพวกนี้หรือป่าว ที่ไม่แนะนำให้เค้นเครื่องยนต์เมื่อเครื่องเย็น จะทำให้เกิดการสึกหรอสูงมากกว่าเครื่องร้อน) ในการทำงานของเครืองยนต์ ที่ save ไว้ด้วยวาวล์น่้ำนั้น เพื่อเป็นสัญญานบอกว่าสูงแล้วน่ะ พอเถอะ! แต่หากเราไปเปิดน้ำเข้าไปเพื่อให้น้ำร้อนนั้นออกไปเอาน้ำที่เย็นกว่าเติมไปเพื่อเปลี่ยนอุณหภมิการทำงานของมันให้เย็นลง เพื่อจุดประสงค์จะได้แช่ต่อไป หรือชัดกันต่อ โดยที่ความร้อนไม่สูง แบบนั้นถูกต้องหรือป่าว ผมไม่แน่ใจ(เพราะยังไม่เคยลอง เห็นเขาทำกันว่าดี แต่พอเข้าใจสาเหตุแล้ว เลยนิ่งไว้ก่อน) น้ำหนักบรรทุก ภาระload น้ำหนักรถ มากกว่าทำให้การเร่งเครื่องเพื่อฉุดลากนั้นต้องใช้กำลังมากกว่ารถกะบะ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ความร้อนสูงกว่าได้ ดังนั้น....ในมุมมอง ของ BBB! Gang มองว่า หากเราเข้าใจปัญหา เข้าใจการออกแบบ เข้าใจหลักการ จึงเกิดคำถามต่อ ?????? จึงได้คำตอบมาว่า การจะไปแก้เรื่องวาวล์น้ำนั้นเป็นเรื่องที่เห็นผลชัดทางการใช้งานจริง ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมผู้ผลิตถึงไม่แก้ไขตรงนี้เอง ปล่อยให้เป็นปัญหากันทำไม และการออกแบบของเขามันดีอยู่แล้ว แต่พวกเราไปดัดแปลงแต่งเติมจนเกิดความร้อนขึ้นมา หรือใช้งานเกินข้อจำกัดกันเอง ดังนั้นเมื่อรู้ว่าปัญหามาจากไหน ก็ไปแก้ตรงจุดที่เกิดความร้อนกันดีกว่า.........น่าจะตรงโรคมากกว่า จุดที่เราไปดัดแปลงจนเกิดการสร้างความร้อนมากกว่าปกติ 1. เค้นค่าแรงดันในระบบคอมมอลเรียล 2. จุดระเบิดรุนแรงมากกว่าปกติ 3. เทอร์โบทำงานรอบจัดกว่าปกติ 4. ใช้งานรอบเครื่องยนต์สูงกว่าปกติ 5. เค้นให้รถรอบจัดกว่าปกติ บูสมาไว กับน้ำหนักรถที่มาก ย่อมเป็นการเค้นอีกทางหนึ่ง 6. น้ำระบายความร้อนไม่ทัน เพราะความร้อนถูกสร้างมากกว่าปกติ การแก้ไข หรือเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนจากประเด็นข้างบน จากข้อ 1. ลดการจูนดันราง หรือ เปลี่ยนปลายหัวฉีดแทน การปรับแรงดันรางสูงๆ จากข้อ 2. หาทางระบายไอเสียให้เร็วและสะดวกกว่าปกติ และต้องรองรับการทำงานที่รอบต่ำได้ดีด้วย....เช่นเปลี่ยนท่อไอเสีย จากข้อ 3. ลดความร้อนจากแรงอัดอากาศได้ด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ หรือท่ออลูมิเนียม หรือร่นความยาวท่ออินเตอร์ หรือทำให้ระบบระบายอากาศอินเตอร์ สะดวกมากกว่าเดิม หรือทำความสะอาดครีบอิยเตอร์บ่อยๆ จากข้อ 4. ลดความร้อนของการเสียดสี ด้วยน้ำมันเครื่องที่เกรดสูงกว่าปกติอีกนิด จะทำให้ลดการเปลี่ยนแปลงของย่านของอุณหภูมิได้ จากข้อ 5. พยายามอย่าเค้นคันเร่ง ในช่วงฉุดลากมากเกินไป ให้รถลอยตัวก่อน จึงค่อยๆส่งออกไป (ถ้าไม่จำเป็น) จากข้อ 6. ใช้น้ำยาหล่อเย็นที่เกรดสูงขึ้น หรือทำความสะอาดครีบระบายความร้อน หรือเพิ่มความสะดวกในการไหลผ่านของอากาศ (ทดแทนการเปลี่ยนหม้อน้ำ อลูมิเนียม ถ้าไม่เล่นใน step สูงๆ) 7. ดูแลเป่ากรอกอากาศ ลดน้ำหนักบรรทุก อย่าปรับจูนเยอะ แต่งรถใน step บ้านๆ ลดการเค้นการออกตัว ****ข้อมูลเพียงเท่านี้ ก็ยังวิ่งเล่นชายฝั่ง จะมีก็เล่นน้ำชายหาด ให้เปียกหน้าเข้งบ้างก็ยังดี ถ้ามากกว่านี้ ต้องเหมาเรือเพื่อไป ไดหมึกในทะเล กันตามใจ ก็ได้ครับ good good good good good เพื่อเป็นข้อมูลยามดึก ก่อนนอน ....เมื่อยนิ้วฉิบ......5555 หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: Na ratchada ที่ พฤศจิกายน 30, 2011, 05:02:45 pm การออกแบบมันต้องมีเหตุผล ถ้าเราเข้าใจเหตุผล กับการที่เราไปเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ทำให้เหตุและผลเปลี่ยนตาม
ปรับความเข้าใจ ยอมรับ ยอมถอย หรือจะดื้อรั้น ดัดแปลง ก็ตามอารมณ์ หรือความชอบของผู้ใช้รถครับ หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: EnGiNeEriNg No.407 ที่ พฤศจิกายน 30, 2011, 07:25:43 pm การออกแบบมันต้องมีเหตุผล ถ้าเราเข้าใจเหตุผล กับการที่เราไปเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ทำให้เหตุและผลเปลี่ยนตาม ช่าย ปลงซะดีกว่า อิอิ pleasantsuprise pleasantsupriseปรับความเข้าใจ ยอมรับ ยอมถอย หรือจะดื้อรั้น ดัดแปลง ก็ตามอารมณ์ หรือความชอบของผู้ใช้รถครับ หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: pa srt ที่ ธันวาคม 04, 2011, 07:55:21 pm เข้าใจครับแต่ก็ยังอยากแรงๆๆๆ...
หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: kp3358(ปาการัง) No.184 ที่ ธันวาคม 04, 2011, 08:41:47 pm สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆๆ หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: birdyman ที่ ธันวาคม 05, 2011, 10:41:10 am ความรู้ทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: ต่าย ที่ ธันวาคม 08, 2011, 04:27:18 pm สุดยอดของความรู้ความเข้าใจ และ ... ความขยัน :)
หัวข้อ: Re: มีใครเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นของ Nisson Cefiro บ้าง เริ่มหัวข้อโดย: EnGiNeEriNg No.407 ที่ ธันวาคม 08, 2011, 09:07:30 pm ผมก็เดิมๆนี่ละครับพอใจแล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนแล้วเป็นไงบ้างก็อยากรู้นะครับ.... ;) ;) ;) ;) ;)
|