Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

Pajerosport Room => ดูแลและบำรุงรักษา/เทคนิค/ปัญหา/การแก้ไขน้องปา => ข้อความที่เริ่มโดย: golf5242 ที่ มกราคม 14, 2012, 07:16:01 pm



Languages

หัวข้อ: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: golf5242 ที่ มกราคม 14, 2012, 07:16:01 pm
เล่าสู่กันฟัง ผมเพิ่งเปลี่ยนแบตหลังใช้รถมา2.5ปี (ยังไม่เสียแต่เอาไปใส่คันเก่า) แบตลูกเดิม GS 95 A ลูกใหม่ผมเป็น GS 120 A (เปลี่ยนร้านข้างนอก2,800) ผมขับรถและลองจับความผิดปกติของรถดูมาเกือบสองเดือน รู้สึกว่ารถผม 3.2 รอบการเปลี่ยนเกียร์ช่วงรอยต่อเนียนขึ้นเยอะไม่มีกระตุกให้เห็น พี่ๆเพื่อนๆถ้าจะเปลี่ยนแบ๊ตลองดูนะครับหาแอมป์สูงๆหน่อย ผมถามช่างแล้วมันมีผมเหมือนกัน และก้อบังเอิญผมเปลี่ยนน้ใช้น้ำมันสังเคราะหะ100% เครื่องเดินเรียบและเงียบขึ้นเยอะครับ (ผมว่าไม่น่าใช่อุทานนะขับรถดีเซลมา20กว่าปี)
ลองดูนะครับ
 


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: Tee_Kb ที่ มกราคม 14, 2012, 09:26:21 pm
 สาธุ สาธุ victory victory


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: jib and bim ที่ มกราคม 14, 2012, 09:54:01 pm
 like สาธุ pleasantsuprise


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: yot1515 ที่ มกราคม 14, 2012, 10:42:08 pm
 goodถูกต้องครับป๋า เพราะรถเกียร์ออโต้ หัวใจสำคัญคือแบตเตอรี่ ใช้แอมป์มากๆไว้ชัวร์กว่าครับยิ้งเครืองยนต์3000 ซีซีแล้วยิ้งต้องควรใช้ครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: chanavorn ที่ มกราคม 15, 2012, 01:35:48 am
มีตัวไหนใหญ่สุดที่สามารถใส่กับช่องเดิมได้บ้างอ่ะครับ
3.2ผมใช้มาสองปีครึ่งแล้วมันยังไม่เสื่อมซะที 55+


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: makrogak (ปลาลาดพริก) NO. 396 ที่ มกราคม 15, 2012, 06:49:28 am
เลือกใช้  ให้ แอม   เท่ากัน  กับ ไดร์ชาร์ต   ครับ    ใช้เกินก้อไม่ดี    จะทำให้ไดร์ชาร์ตเสื่อมเร็ว   แล้วก้อชาร์ตไม่เต็มครับ 

 แต่ มันก้อจริงนะครับ  ที่หัวใจของ เกียร์ ออโต้คือแบต       แต่น้ำมันเครื่องก้อมีส่วนด้วยนะ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: panda-bmw ที่ มกราคม 15, 2012, 04:57:29 pm
ผมใช่  105d  เกียร์นิ่มแอร์ ลมแอร์แรง แต่ สังเกตุกันมั้ยครับ จอดรถเปิดแอร์   แล้วรอบ เบิ้ล สัก 2000รอบ แอร์จะแรงขึ้น   ^^  ไฟเป็นหัวใจเลยครับ เปลียนมา สังเกตุเลย เบส ลอยเป็นลูก รถผมทำเครื่องเสียง ^^


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: yot1515 ที่ มกราคม 15, 2012, 05:25:50 pm
ถ้าจะเปลี่ยนแบต ต้องสอบถามทางร้านว่ามียี่ห้อใหนที่ แอมป์สูงสุด(ในขนาดของตัวแบตเตอรี่ที่เท่ากับของเดิมนะครับ) ส่วนที่ว่าแอมป์มากไปรถเราจะช๊าจไม่เต็มนั้น ในขนาดตัวแบตเตอรี่ที่เท่ากันไม่มีปัญหาแน่นอนครับ ฟันธง555. ในกรณีทีช๊าจไม่เต็มน่าจะมาจากใช้แบตเตอรี่ที่ผิดประเภทมากกว่าครับ เช่น รถเก๋ง รถกระบะ แต่อยากได้แอมป์สูงเลยนำแบตรถบรรทุกมาใส่ โดยดัดแปลงที่วาง อาจจะวางด้านหลังรถบ้างนั้น รับรองไดช๊่าจรถ ช๊าจไม่เต็มแน่นอนครับ :D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: chanavorn ที่ มกราคม 15, 2012, 08:02:39 pm
http://www.fbbattery.com/product/product.asp?btID=4#
FB SUPER GOLD 115D31L-MF

ของFBรุ่นนี้ก็ดูดีนะครับ 115แอมป์ ประกันถึง24เดือนหรือ40000กม
ราคาน่าจะสามพันกว่าๆ สำหรับน้องปาโดยเฉพาะ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: ต่าย ที่ มกราคม 16, 2012, 07:39:28 am
อืมมมม อ่านแล้ว มีเหตุให้เปลี่ยนแบตซะที

อุตสาห์ถนอมแบต ด้วยการถอดขั้วแบตมาตลอด ... สงสัย ไม่ต้องถนอมแล้ว เปลี่ยนเลยดีกว่า  :)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: Na ratchada ที่ มกราคม 16, 2012, 07:49:38 am
อืมมมม อ่านแล้ว มีเหตุให้เปลี่ยนแบตซะที

อุตสาห์ถนอมแบต ด้วยการถอดขั้วแบตมาตลอด ... สงสัย ไม่ต้องถนอมแล้ว เปลี่ยนเลยดีกว่า  :)

ผมเปลี่ยนไปแล้วครับป๋าต่าย  หลงประคบประงมอยู่ตั้งนาน   พอรู้ความจริงถอดออกเปลี่ยน size ใหญ่กว่าเดิม  ถอดกล่องรองน้ำกลั่นออกด้วยเพราะใส่ไม่ได้

ผมเปลี่ยนแบตเป็น size เดียวกับ 3200    แต่เอาตัวแอมป์สูงกว่า  เป็น 3K รุ่น load 105 amp (ampใช้งาน 90-95 amp)  19แผ่านธาตุ  ราคาถูกสุดในกลุ่ม (คาดหวัง 1.5 ปี เสื่อมเปลี่ยน)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: ต่าย ที่ มกราคม 16, 2012, 08:08:16 am
อืมมมม อ่านแล้ว มีเหตุให้เปลี่ยนแบตซะที

อุตสาห์ถนอมแบต ด้วยการถอดขั้วแบตมาตลอด ... สงสัย ไม่ต้องถนอมแล้ว เปลี่ยนเลยดีกว่า  :)

ผมเปลี่ยนไปแล้วครับป๋าต่าย  หลงประคบประงมอยู่ตั้งนาน   พอรู้ความจริงถอดออกเปลี่ยน size ใหญ่กว่าเดิม  ถอดกล่องรองน้ำกลั่นออกด้วยเพราะใส่ไม่ได้

ผมเปลี่ยนแบตเป็น size เดียวกับ 3200    แต่เอาตัวแอมป์สูงกว่า  เป็น 3K รุ่น load 105 amp (ampใช้งาน 90-95 amp)  19แผ่านธาตุ

อ้าว 3.2 กับ 2.5 ขนาดแบตไม่เท่ากันเหรอครับเนี่ย

ตัวที่เปลี่ยนมา ใหญ่กว่าของ 3.2 เดิมๆ เหรอครับ แล้ว 3.2 เดิมๆ นี่ กี่ amp กี่แผ่นธษตุครับ

อ้อ ราคาเท่าไรครับ

กำลังนึกอยู่ว่า จะลองดูว่ามันจะอยู่ได้นานซักกี่ปีดี หรือเปลี่ยนมันซะเลยดี จริงๆ ตอนนี้มันก็ใช้งงานได้ดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ อย่างว่า เขาว่าเปลี่ยนแล้ววดีกว่า ก็อยากเปลี่ยนบ้าง :)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: yot1515 ที่ มกราคม 16, 2012, 08:40:19 pm
ขอเรียนป๋าๆ ดังนี้ครับ 1.เครื่องยนต์2.5ที่ใส่แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นแต่สามารถใส่ได้นั้น ไม่ต้องกลัวครับว่าไดช๊าจจะไม่พอ เพราะมันเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้กับรถในประเภทรถยนต์นั่งอยู่แล้วครับ(ขนาดไม่เกิน D31.ใช้ได้หมดเลยครับ) 2.ป๋าที่คิดจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ฟังทางนี้ก่อนครับ วิธีทดสอบแบตเตอรี่ด้วยตัวเองว่าok.อยู่หรือเปล่า ขอให้ทดสอบในตอนเช้าครับ ก่อนสต๊าทเครื่อง ขอให้เปิดอุปกรณ์ในรถทั้งหมด เช่น ไฟหน้า แอร์ วิทยุ แล้วลองสต๊าทดู ถ้าสต๊าทติดแบบเสียงที่น่าพอใจก็OK.ครับ ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้เสียตังค์นะครับ แต่ถ้าสต๊าทแล้วไม่ไหว หรือมีเสียเครื่องยนต์ที่ต้องลากยาวๆมากๆแล้วค่อยติด อย่างนี้ก็ควรหาเวลาไปเปลี่ยนใหม่ไ้ด้เลยครับ เดี่ยวจะไปกินข้าวลิงที่ไหนก็ไม่รู้นะครับ :)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: Na ratchada ที่ มกราคม 16, 2012, 09:40:01 pm
ขอบคุณสำหรับข้อมูลในการตรวจสอบและทดสอบครับ   เกรงว่าวิธีการแบบนี้จะเกิดการกระชากกระแสของไดทชาร์ทจนเครื่องใช้ในรถหรือ power amp ผมจะไปเสียก่อน   เพราะไม่มีระบบ surge protection เสียด้วย    บางส่วน fuse อาจจะไวต่อการกระชากมากว่าอาจขาดได้

เอาเป็นว่าผมขอเสริมข้อมูลแล้วกันครับ   และขออธิบายแบบน่าจะเข้าใจง่ายๆ 

**แบตที่ผมเข้าใจมีอยู่ 3 แบบ     คือ

1. แบบธรรมดา  เติมน้ำกลั่นและดูแลปกติทั่วไป   เหมาะกับการใช้งานประจำ  อยู่ในห้องเครื่อง  ให้กระแสที่เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป  หรือเพิ่มเติมค่ากำลังไฟได้ได้ประมาณ 25-35%  จากเดิม  เช่น  65-75 ไปเป็น  85-95  แอมป์

2. แบบกึ่งแห้ง    สังเกตุดูได้จากสีของจุกเติมน้ำกลั่น(จะมีสีเฉพาะรุ่นอยู่)   บางรุ่นหัวจม  บางรุ่นมีเทปปิดจุกอยู่ แบตนี้จะใช้น้ำยาผสมเฉพาะ  ทำให้ยืดอายุการใช้งานได้ดีกว่าแบบแรก    ลกการดูแลเติมน้ำกลั่น   แต่ควรตรวจสอบทุก  6 เดือน หรือ 10 เดือน

3. แบบแห้ง    ก็คือแบตที่มีน้ำยาผสมมาเลย  ปิดทึบ   จึงให้กระแสไฟที่แรง สม่ำเสมอตามรุ่นและคุณสมบัติเฉพาะรุ่น  บางรุ่นมีรับรองเรื่องการจ่ายกระแสที่เรียบ  เหมาะกับเครื่องไฟฟ้าในรถที่ต้องการคามเสถียรของระบบไฟที่ดี   ไม่ต้องดูแลเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน  หากเก็บรักษาดี  อาจอยู่ถึง 30เดือน    (ความร้อนจากห้องเครื่องและการชาร์ท มีผลต่อการเสื่อมสภาพของแบตประเภทนี้มาก)   ในรถบางรุ่นที่ใช้จะนิยม  ย้ายออกจากห้องเครื่องไปไว้ในห้องโดยสาร   จึงมีราคาค่อนข้างสูงตามคุณลักษณะเฉพาะ 

**อายุแบตทั้ง 3 รุ่น  ใกล้เคียงกัน อยู่ที่การดูแลรักษา

** แบตที่ติดรถมาในรุ่น  2.5  ปี 2010และ2011  เป็นรุ่นเล็ก(ของเก๋งใหญ่ 65-70แอมป์)   เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในเมืองนอก  แต่เมืองนอกใช้เป็นแบตคู่สำหรับรุ่นนี้     แต่ในรุ่นปี 2009 และ 2012 เป็น size เดียวกับ 3200  ขนาด  75-85 แอมป์   ซึ่งให้ค่าไฟที่จ่ายออกมาสูงกว่า

**และที่สำคัญแบตที่ติดรถ 2.5  ปี2010และ2011  เป้น GS รุ่น Plus one (กึ่งแห้ง OEM ) มากับรถ    ทีนี้ศูนย์รู้หรือป่าว  เล่นเติมน้ำกลั่นทุกครั้งที่เข้าศูนย์จนแบตเสริมเพราะน้ำยาเสื่อมจากการผสมน้ำกลั่นบ่อยไปหรือป่าว   หาข้อมูลเพิ่มเติมกันสักนิด   ก่อนดัดแปลงครับ

สรุป ... เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานประจำวัน และสิ่งที่เราต้องการจากคุณลักษณะของแบตเตอรี่(ถ้าจำเป็นต้องใช้อย่างป๋าโย)  บางสิ่งของดีเกินไป อาจใช้ไม่คุ้มค่าก็ได้ครับ   แต่ถ้าหากเพื่อสมาชิก  มีจ้อมูลที่ชัดเจนกว่า  ก็เอามาแชร์กันครับ


พิจารณาข้อมูลจากทางอื่นอีกทีนะครับ

เพื่อเป็นข้อมูล   


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: Nakavabi ที่ มกราคม 16, 2012, 11:19:48 pm
ได้ความรู้เรื่องแบตเพิ่มอีกแล้ว good

ตอนนี้แบตเริ่มเสื่อมลงมาหน่อยวัดค่าได้13.2-13.4voltเอง


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: chanavorn ที่ มกราคม 17, 2012, 12:13:39 am
GS 95แอมป์ ติดรถ 3.2 ผมว่าทนมากก
ใช้เกือบทุกวัน ติดไฟฉุกเฉินรอบคัน พร้อมกล่องเสียงลำโพง100W
เปลี่ยนลำโพงใหม่6ดอกพร้อมซับ ตั้งแต่ออกรถ
ไม่เคยเปิดเติมน้ำกลั่นน้ำกรดเอง
ดับเครื่องจอดรอชอบเปิดแอร์ให้มีแต่ลมเป่าเล่นๆพร้อมวิทยุ
ป่านนี้สองปีกว่า ยังเฉยย
ของดีๆรุ่นใหม่ๆไม่รู้จะทำได้ดีขนาดนี้รึเปล่า  faint


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: ศัตรูของมวลชน ที่ มกราคม 17, 2012, 02:13:43 am
GS 95แอมป์ ติดรถ 3.2 ผมว่าทนมากก
ใช้เกือบทุกวัน ติดไฟฉุกเฉินรอบคัน พร้อมกล่องเสียงลำโพง100W
เปลี่ยนลำโพงใหม่6ดอกพร้อมซับ ตั้งแต่ออกรถ
ไม่เคยเปิดเติมน้ำกลั่นน้ำกรดเอง
ดับเครื่องจอดรอชอบเปิดแอร์ให้มีแต่ลมเป่าเล่นๆพร้อมวิทยุ
ป่านนี้สองปีกว่า ยังเฉยย
ของดีๆรุ่นใหม่ๆไม่รู้จะทำได้ดีขนาดนี้รึเปล่า  faint
เหมือนกันเลยน้า


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: โต ที่ มกราคม 17, 2012, 08:07:32 am
เปลี่ยนแล้วเกียร์ลื่นไหล มันอาจไม่ใช่จากแบตฯใหม่โดยตรงก็ได้นะครับ... แต่อาจเพราะ ECU ถูก Reset จากการถอดแบตฯออก...

เพราะรถผมก่อนหน้านี้เคยมีอาการกระตุก แล้วลองถอดขั้วแบตฯออกทิ้งไว้ หลังจากใส่ใหม่หายกระตุกเลยครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: ต่าย ที่ มกราคม 17, 2012, 08:18:38 am
แต่ของผม (3.2) เริ่มเสื่อมตั้งแต่พึ่งจะได้ป้ายขาวแล้วครับ คือ จอดไว้นานราว 2-3 สัปดาห์ วันนั้น ติดเครื่องรถวิ่งจากบ้านตัวเองมาบ้านพ่อตา (ห่างกันแค่ 2 กิโล) จอดรอเก็บของเตรียมไปเที่ยว ก็เปิดการ์ตูนให้ลูกดู พอเก็บของเสร็จ จะติดเครื่องเตรียมออก ดันไม่ติดซะงั้น ต้องเอาคันเก่ามาจัมป์แบต

แต่ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ ยังไม่เปลี่ยน เพียงแต่ พอจอดรถแบบไม่ได้วิ่ง 2-3 วันขึ้นไปก็ถอดขั้วแบตเลยครับ ... ถ้าไม่ถอด ไม่เกินสามวัน ติดเครื่องไม่ได้ :)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: yot1515 ที่ มกราคม 17, 2012, 08:36:34 pm
ต้องขอโทษด้วยครับ สำหรับป๋าๆที่เพิ่มเครื่องเสียงที่มีพาวเวอร์แอมป์ ไม่ต้องเปิดวิทยุก็ได้ครับ เปิดไฟหน้า และแอร์ก็พอ ก็สามารถเช็คโหลดของแบตเตอรี่ได้แล้วครับ(ในสถานะที่รถใช้งานวิ้งปรกติทุกวันนะครับ)
ส่วน รถเครื่อง 2.5 ปี2010 และ2011 ที่ใช้แบตกลึ่งแห้ง OEM. นั้น ที่ศูนย์เติมน้ำกลั่นให้นั้นถูกต้องแล้วครับ เพราะสารละลายที่เติมในแบตเตอรี่ทุกยี่ห้อในประเทศไทยคือ น้ำกรดครับ และส่วยประกรอบของน้ำกรด ก็มีอยู่ แค่สองอย่างครับ คือ 1.น้ำ 2.กำมะถัน เราใช้งานไปทำให้ระดับน้ำในแบตเตอรีลดลง นั้นคือน้ำเ่ท่านั้นที่ละเหยไป ส่วนกำมะถัน ยังอยู่ในแบตเตอรี่ครับ จึงต้องเติมน้ำกลั่นเพิ่มครับ
ส่วนรถที่ใช้งานน้อย จอดมากกว่าวิ้งนั้น แน่นอนครับกระแสไฟในตัวแบตเตอรี่มีน้อยลงแน่นอนครับ เพราะแบตเตอรีถูกคลายไฟมากกว่าช๊าจเข้า หลายๆวันก็สต๊าทไม่ติดแน่ๆ ต้องนำแบตเตอรี่ถอดออกมาช๊าจกับเครืองช๊าจโดยตรงครับ เพราะถ้ารอให้ไดช๊าจรถช๊าจ ไม่เต็มแน่ๆครับ
หรือถ้าอยากทราบเรื่องแบตเตอรี่ ลองโทร เบอร์นี้ครับ 02-2699009 เป็นเบอร์ Call center. ขอนแบตเตอรี่ยี่ห้อ FB. ที่ป๋า Chanavorn แนะนำเวฟไซค์มาให้ครับ(โทรในเวลาทำการนะครับ)จะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตัวเป็นๆเลยครับ เขาตอบได้ทุกเรื่องที่อยากรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่เลยครับ thank


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: no-k ที่ มกราคม 24, 2012, 05:23:36 pm
ได้ความรู้เรื่องแบต ...เพียบ     ตะแรกเป็นกังวลอยู่ใช้PA มา 2 ปี 3 เดือน..แบตยังดีอยู่เลย?  ยังแอบคิดเองว่า มันนานไปแล้วรึเปล่า ?   
ขอบคุณกระทู้ทั้งหลายที่ให้ความรู้นะคะ   like


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: EnGiNeEriNg No.407 ที่ มกราคม 24, 2012, 06:31:36 pm
ได้ความรู้เรื่องแบต ...เพียบ     ตะแรกเป็นกังวลอยู่ใช้PA มา 2 ปี 3 เดือน..แบตยังดีอยู่เลย?  ยังแอบคิดเองว่า มันนานไปแล้วรึเปล่า ?   
ขอบคุณกระทู้ทั้งหลายที่ให้ความรู้นะคะ   like
เช่นกันครับ อิอิ.... :D :D :D :D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: J♥E ลำลูกกา ที่ มกราคม 29, 2012, 08:09:44 pm
ตามมาเก็บความรู้ครับ ใช้รถมาก็หลายคัน คันละหลายๆ ปี ไม่เคยสนใจเรื่องแบตเลย รู้ตัวทีไร ก็แชะๆๆๆๆๆๆ แล้ว ขอบคุณป๋าๆ ทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: bbenz ที่ มีนาคม 18, 2013, 03:58:35 am
ผมไม่เคยดูรถเลยครับ เข้าศูนย์ตามระยะอย่างเดียว ขับมาได้ 1 ปีกับ 5 เดือนกว่า มาวันนี้รถสตาร์ทไม่ติด สรุปว่าแบตพัง ครับ
ผมสงสัยว่าทำไม เพิ่งไปเช็คระยะมาไม่เกิน 2 เดือน แต่ทำไมแบตถึงพัง เซ็งโคตร ใครรู้ช่วยตอบหน่อย


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: Gee ที่ มีนาคม 19, 2013, 01:06:52 pm
สองปีกว่าเริ่มมีอาการเหมือนกัน พวงมาสองครับแล้ว แต่มาจากจอดนาน อาทิตย์หนึ่งวิ่งสิบกว่าโล  สมาร์ทเกจ อ่านได้ 11.3 สตาร์สไม่ติด  เลยเอาไปวิ่งยาว ๆ ให้ชาร์ตตอนนี้ปกติดีแล้ว แต่มีสายชาร์ดติดไว้ท้ายรถกันไว้   เดี๋ยวเปลี่ยนต้องจัดสัก 115 Am บ้างแล้ว ขอบคุณครับ 


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: JAJA-RY ที่ มีนาคม 19, 2013, 04:46:26 pm
สองปีกว่าเริ่มมีอาการเหมือนกัน พวงมาสองครับแล้ว แต่มาจากจอดนาน อาทิตย์หนึ่งวิ่งสิบกว่าโล  สมาร์ทเกจ อ่านได้ 11.3 สตาร์สไม่ติด  เลยเอาไปวิ่งยาว ๆ ให้ชาร์ตตอนนี้ปกติดีแล้ว แต่มีสายชาร์ดติดไว้ท้ายรถกันไว้   เดี๋ยวเปลี่ยนต้องจัดสัก 115 Am บ้างแล้ว ขอบคุณครับ 
ป๋าถ้าจอดนานก็ถอดปลั๊ก smartgauge ออกไว้ด้วยก็ดีนะครับเพราะจะมีไฟจ่ายเลี้ยงวงจร smart gauge ตลอดเวลาจอดไว้หลายวันมันกินไฟจนแบตอ่อนได้ครับ รถใหม่ๆก็เป็นนะครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: mytum ที่ มกราคม 04, 2017, 01:13:43 pm
ต้องขอโทษด้วยครับ สำหรับป๋าๆที่เพิ่มเครื่องเสียงที่มีพาวเวอร์แอมป์ ไม่ต้องเปิดวิทยุก็ได้ครับ เปิดไฟหน้า และแอร์ก็พอ ก็สามารถเช็คโหลดของแบตเตอรี่ได้แล้วครับ(ในสถานะที่รถใช้งานวิ้งปรกติทุกวันนะครับ)
ส่วน รถเครื่อง 2.5 ปี2010 และ2011 ที่ใช้แบตกลึ่งแห้ง OEM. นั้น ที่ศูนย์เติมน้ำกลั่นให้นั้นถูกต้องแล้วครับ เพราะสารละลายที่เติมในแบตเตอรี่ทุกยี่ห้อในประเทศไทยคือ น้ำกรดครับ และส่วยประกรอบของน้ำกรด ก็มีอยู่ แค่สองอย่างครับ คือ 1.น้ำ 2.กำมะถัน เราใช้งานไปทำให้ระดับน้ำในแบตเตอรีลดลง นั้นคือน้ำเ่ท่านั้นที่ละเหยไป ส่วนกำมะถัน ยังอยู่ในแบตเตอรี่ครับ จึงต้องเติมน้ำกลั่นเพิ่มครับ
ส่วนรถที่ใช้งานน้อย จอดมากกว่าวิ้งนั้น แน่นอนครับกระแสไฟในตัวแบตเตอรี่มีน้อยลงแน่นอนครับ เพราะแบตเตอรีถูกคลายไฟมากกว่าช๊าจเข้า หลายๆวันก็สต๊าทไม่ติดแน่ๆ ต้องนำแบตเตอรี่ถอดออกมาช๊าจกับเครืองช๊าจโดยตรงครับ เพราะถ้ารอให้ไดช๊าจรถช๊าจ ไม่เต็มแน่ๆครับ
หรือถ้าอยากทราบเรื่องแบตเตอรี่ ลองโทร เบอร์นี้ครับ 02-2699009 เป็นเบอร์ Call center. ขอนแบตเตอรี่ยี่ห้อ FB. ที่ป๋า Chanavorn แนะนำเวฟไซค์มาให้ครับ(โทรในเวลาทำการนะครับ)จะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตัวเป็นๆเลยครับ เขาตอบได้ทุกเรื่องที่อยากรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่เลยครับ thank
รถเครื่อง 2.5 ปี 2012 แบตติดมากับรถเป็นแบบ กึ่งแห้งป่าวครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตแล้วเกียร์ต่อลื่นไหล
เริ่มหัวข้อโดย: Adisak (โดม) ที่ มกราคม 05, 2017, 10:10:37 am
ต้องขอโทษด้วยครับ สำหรับป๋าๆที่เพิ่มเครื่องเสียงที่มีพาวเวอร์แอมป์ ไม่ต้องเปิดวิทยุก็ได้ครับ เปิดไฟหน้า และแอร์ก็พอ ก็สามารถเช็คโหลดของแบตเตอรี่ได้แล้วครับ(ในสถานะที่รถใช้งานวิ้งปรกติทุกวันนะครับ)
ส่วน รถเครื่อง 2.5 ปี2010 และ2011 ที่ใช้แบตกลึ่งแห้ง OEM. นั้น ที่ศูนย์เติมน้ำกลั่นให้นั้นถูกต้องแล้วครับ เพราะสารละลายที่เติมในแบตเตอรี่ทุกยี่ห้อในประเทศไทยคือ น้ำกรดครับ และส่วยประกรอบของน้ำกรด ก็มีอยู่ แค่สองอย่างครับ คือ 1.น้ำ 2.กำมะถัน เราใช้งานไปทำให้ระดับน้ำในแบตเตอรีลดลง นั้นคือน้ำเ่ท่านั้นที่ละเหยไป ส่วนกำมะถัน ยังอยู่ในแบตเตอรี่ครับ จึงต้องเติมน้ำกลั่นเพิ่มครับ
ส่วนรถที่ใช้งานน้อย จอดมากกว่าวิ้งนั้น แน่นอนครับกระแสไฟในตัวแบตเตอรี่มีน้อยลงแน่นอนครับ เพราะแบตเตอรีถูกคลายไฟมากกว่าช๊าจเข้า หลายๆวันก็สต๊าทไม่ติดแน่ๆ ต้องนำแบตเตอรี่ถอดออกมาช๊าจกับเครืองช๊าจโดยตรงครับ เพราะถ้ารอให้ไดช๊าจรถช๊าจ ไม่เต็มแน่ๆครับ
หรือถ้าอยากทราบเรื่องแบตเตอรี่ ลองโทร เบอร์นี้ครับ 02-2699009 เป็นเบอร์ Call center. ขอนแบตเตอรี่ยี่ห้อ FB. ที่ป๋า Chanavorn แนะนำเวฟไซค์มาให้ครับ(โทรในเวลาทำการนะครับ)จะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตัวเป็นๆเลยครับ เขาตอบได้ทุกเรื่องที่อยากรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่เลยครับ thank
รถเครื่อง 2.5 ปี 2012 แบตติดมากับรถเป็นแบบ กึ่งแห้งป่าวครับ
แบตน้ำทั่วไปแต่ผลิตมาขายให้เฉพาะ รง.