Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

ผบ.ได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรที่ ม.ราชภัฏรำไพพรรณี เลยถือโอกาสลางาน พร้อมกับพาลูกสาวอีก 2 คนไปเที่ยวเมืองจันทบุรีซะเลย และถือเป็นการออกทริปครั้งแรกของปาฯอ้วนด้วย ออกเดินทางจากโคราชตั้งแต่เช้าวันพฤหัสที่ 9 กพ. กลับจากจันทบุรีวันนี้ 12 กพ. ไปอยู่เมืองจันทฯมาซะ 3 คืน 4 วัน เดินทางสะดวก ทิวทัศน์สวยงาม อาหารอร่อย ราคาไม่แพง เสียดายได้เที่ยวจริงๆแค่วันเสาร์ ผบ.บอกสงสัยสงกรานต์จะขอพาที่บ้านมาอีกซักรอบ ขอรายงานการใช้ pajero sport 2.5 GT 4WD ในการใช้งานครั้งแรกคร่าวดังนี้ครับ
- ระยะทางในทริปนี้ประมาณ 1000 กม.
- เส้นทาง โคราช-จันทบุรี ผมเลือกไปทางพนมสารคาม ไม่ไปทางสระแก้ว ถึงแม้จะอ้อมไปเกือบ 60 กม. แต่ก็วิ่งได้สะดวกและปลอดภัยกว่าเพราะเป็นถนน 4 เลนตลอด ระยะทางประมาณ 380 กม.
- สภาพเส้นทางประมาณ 20% เป็นภูเขา (วังน้ำเขียว-ทับลาน-กบินทร์ฯ) ที่เหลือประมาณ 80 % เป็นทางราบ
- ความเร็วเดินทางพยายามให้อยู่ในช่วง  110-120 (แต่เผลอๆมี 140-160 เหมือนกัน)
- อัตราสิ้นเปลืองเที่ยวไปไปได้เกือบๆ 10.7-10.9 กม./ลิตร (ไปเรื่อยๆพอได้ เพราะรถไม่เยอะ) แต่เที่ยวกลับเหลือประมาณ 10.3-10.5 กม./ลิตร (รถเยอะ บางช่วงต้องออกขวาเพื่อหนีรถซ้าย และต้องขับเร็วเพื่อไม่ให้ขวางขวางรถคันหลัง)
- เฉลี่ยรวมที่ใช้วิ่งอยู่ในเมืองและเที่ยวที่จันทบุรีระยะทางประมาณ 200 ก.ม. ด้วย ได้ประมาณ 10.3 กม./ลิตร
- ปาเจโร่อัตราเร่งแซงดีมากครับ ประมาณ 110-120 เร่งแซงไปที่ 150-160 ทำได้ดีไม่รู้สึกถึงความกดดันจาก Accord 2.4 ที่ขับตามมาเลย (หรือเค้ายังไม่เหยียบก็ไม่รู้น่ะครับ)
- ถึงแม้ว่า ปาเจโร่ จะได้ขึ้นชื่อว่ามีช่วงล่างที่ดี แต่ผมว่าจะให้เข้าโค้งแคบๆที่ความเร็วสูงๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน แถวๆวังน้ำเขียวผมปล่อยให้รถเก๋งอย่าง City หรือ Vios แซงไปโดยไม่คิดจะตามเลยครับ รถสูงๆผมว่ายังไงก็เข้าโค้งได้ไม่เหมือนรถเก๋ง แต่ถ้าโค้งกว้างๆก็พอใหว
- ช่วงขึ้นทางชันมากๆที่ต้องตามรถบรรทุกหนักขึ้นเขาแล้วหาจังหวะแซงอย่างรวดเร็ว เพราะในระยะพอประมาณก็มีรถวิ่งสวนลงมา คือด้วยความที่จังหวะคันเร่งปาเจโร่จะมีจังหวะหน่วงอยู่เล็กน้อย ทำให้เผลอ kick down เหยียบคันเร่งจนมิด พอจังหวะที่ที่เครื่องยนต์เริ่มทำงานจะมีการดึงที่ค่อนข้างจะหน้ากลัวกว่าอยู่บนพื้นราบพอสมควร และหากเป็นผิวลาดยางที่เปียก หรือร่วน ผมว่าจังหวะแบบนี้อาจมีท้ายปัดได้เหมือนกัน เพราะรู้สึกว่ามีเสียงเอี๊ยดของยางดังออกมาอยูนิดนึง ดีว่าเป็นผิวถนนที่แห้งและถือพวงมาลัยตรงแล้วเลยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอผ่านตรงนั้นมาเพื่อความปลอดภัยก็เลยเข้า Mode 4H ไปตลอดช่วงที่เป็นภูเขา

ปล.
1. ง่วงนอนแล้วครับ ถ้านึกอะไรออกเดี๋ยวมาเขียนต่อพรุ่งนี้
2. ภาพที่ถ่ายกับ pajero มีอยู่ไม่กี่ภาพครับ 2 ภาพนี้เป็นการถ่ายบนสะพานตากสินมหาราชที่ข้ามจาก อ.แหลมสิงห์ และเพิ่งเห็นในภาพเมื่อกี้นี้เองว่าเค้ามีป้ายห้ามจอดรถบอกไว้ครับ  ที่ไปจอดก็ไปจอดตามๆเค้า เพราะเห็นว่ามีรถมาจอดกันเต็มนึกว่าจอดได้  สาธุ

ป๋ารุทมาจันท์ ผมไปพัทยา ไม่ได้เจอ แนะนำครั้งต่อไปมาแถวภาคตะวันออก ให้ไปหาข้าวหลามหนองมนกิน อาการที่ว่าทางโค้งแคบๆเข้าลำบาก จะหายไป  อาการตัวเบาจะเข้ามาแทนที่
มาคราวหน้าคงได้เจอกัน สงกรานต์มาเล่นน้ำกลางคืนเหรอครับ แปลกๆๆ มีไม่กี่จังหวัดเล่นสงกรานต์คืน 12 ลากยาวเช้า 13

ป๋าๆ เริ่มจัดทริปกันเเล้วอ่ะ  like like

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับผม

ลมยางเติมตาม Spec วิ่งนิ่มดีครับ แต่ว่าจะเพิ่มหน้า-หลังอีกซัก 2-3 psi วิ่งในเมืองน่าจะช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกหน่อย แต่จริงๆตอนไปเติม Nitrogen ก็เติมหน้า 31 หลัง 35 ไว้ครับแต่ผ่านไป 2 สัปดาห์ก่อนออกเดินทางวัดได้หน้า 29 หลัง 32 ไม่รู้มันหายไปไหน

ป๋ารุทงานครบรอบ 1 ปี ไปหรือเปล่า อยากเจอป๋า

ผมเติม Nitrogen 35ทุกล้อยังว่ามันนิ่มไปครับ ควรเติมเท่าไรดีครับ

ผมก็อยากเจอป๋าอู๊ด แต่น่าจะได้เจอก่อนนะ  :D :D :D

บรรยากาศดีครับ...แต่เอ้นั่นมันที่ห้ามจอดหรือป่าวครับ(ล้อเล่นขำๆๆครับ)ปาน้ำตาลสวยมากครับ... :) :) :)

   :) :)  ป๋า ruth  ไม่มาแวะ ทักทายปาระยอง เลยครับ ไหนๆๆก็ผ่านแล้ว   คราวหน้ามาใหม่ แวะบ้างนะครับ ปาระยอง ใจดี   มากส์   น่ารักทุกคนครับ   โดยเฉพาะ คนใส่เสื้อมีรู ส่วนกาแฟ ป๋าจัน ก็อร่อย คัพ    :D >:D

ไปจอดข้างป้ายห้ามจอดเต็มๆเลยล่ะครับ แต่เชื่อไหมว่าผมก็เพิ่งเห็นตอนที่มาเปิดรูปในคอมฯดูนี่แหละครับ ที่ไปจอดเพราะเห็นช่วงกลางสะพานเค้าทำทางเบี่ยงเอาไว้ เห็นรถจอดกันเต็มก็เลยจอดตามเค้า ไม่ทันได้สังเกตุป้าย

ที่จอดจิบเบียร์กับตกปลาตอนเย็นๆๆของวัยรุ่น บางวันรถติด วิ่งต่อไปอีก จะมีอีกสะพาน ข้ามทะเลเหลือนกัน ตรงปากน้ำแขมหนู ข้ามไปก้อจะเป็นชาดหาดเจ้าหลาว

ถูกต้องครับขึ้นเขาต้องใส่ขับสี่จะปลอดภัยมากลดการท้ายปัดไปเลย
และอีกอย่างถ้าขึ้นเขาใช้ขับสี่ยังไม่พอต้องใช้เกียร์ธรรมดาด้วย

ปาน้ำตาลนี้ถ่ายรูปมางามขนาดเด้อ  :D :D