Pajero Sport-Thailand ปาเจโร่สปอร์ตไทยแลนด์

เช้าวันนี้ กลับจากอุดร จะไปขอนแก่น ที่แยกรอบเมืองอุดร ไปจอดรอไฟแดง ต่อท้าย
PJS สีน้ำตาล ป้ายแดง ทะเบี่ยน ก2616 ขอนแก่น ออกรถจาก ยนต์ไพบูลย์ ที่เดียวกับเรา
พอไฟเขียว เพื่อนเราเข้าเกียร์ถอย ทำเอาเราตกใจ เพราะเราจะถอยออกไปก็ไม่ได้ มีรถมา
จอดชิดท้ายเราด้วย ดีที่เว้นระยะ ไม่งั้นมีสิทธิ์หน้ายุบ

ออกจากแยกเราเร่งแซง มองหลังแล้วเลยมามากกว่าสิบเมตร จึงเข้าเลนเพราะทางบีบให้เข้า
มั่นใจว่าไม่ได้ปาดหน้า แล้วเราขับทิ้งห่างมาไกล ต้องรีบไปทำงาน พอเลยสะพานก่อนเข้า
เขาสวนกวาง มีสิบล้อขับช้าๆ และ หกล้อตีไฟรอแซง แต่หกล้อยังไม่ออกมา ปล่อยให้รถเก๋งสองคัน
แซงไปก่อน

พอเรามาถึงเขายังไม่ออก เราไม่กล้าไป เพราะเกรงว่าหกล้อจะพรวดออกมา เดี๋ยวได้ทิ่มท้าย
สักพักเขาก็ออกมาแล้วและเราก็ไปต่อท้ายหกล้อ แซงสิบล้อไป

ปรากฏว่า PJS ที่คันนั้น ตามมาทันเราอยู่เลนขวาสุดแล้ว และเขาขับไปเลนที่จะเป็น U turn โดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว
ประเมินจากความเร็วคงไม่กลับรถแน่ หวังจะแซงแน่เขาคิดหรือป่าวว่าเกาะกลางถนนอยู่ข้างหน้า
ใจคอจะเบียดเราให้เข้าซ้าย แล้วเราจะเข้าไปอย่างไร สิบล้ออยู่ด้านซ้าย และ  ยังไงก็แซงเราไม่พ้น เราต้องถอนคันเร่งให้
แล้วเขาก็แซงปาดหน้าเราไป ห่างกันแค่ ไม่ถืบ ก็หน้าทิ่งท้ายเขาแล้ว

หากเขาเป็นสมาชิกและเข้ามาอ่านในนี้ อยากจะบอกว่า  แซงแบบนั้นไม่ปลอดภัย  ถ้าเราไม่ผ่อนคันเร่งให้ เขาจะเข้าอย่างไร
รถไม่พุ่งไปเกยเกาะกลางถนนหรือ

เท่าที่อ่าน  ดูเหมือนเขาเพิ่งหัดขับนะครับ

สังเกตจากการติดไฟแดง   ถ้าเป็นเกียร์ออโต้  มักจะโยกเกียร์ไปที่ P  พอออกตัวไฟเขียว ต้องโยกลงมา D  มันจะผ่านจังหวะ R นิดนึง  ไฟถอยจะติดแว๊บนึงให้เราตกใจเล่น

ถ้าใครเผลอโยกลงไม่สุด ไปคาอยู่ที่ R  ก็ถอยกระแทกหน้าคันหลัง  มีให้เห็นอยู่บ่อยๆครับ


ส่วนเรื่องแซงในระยะกระชั้นชิด   มีให้เห็นบ่อยๆครับ   คนสมัยนี้ขับรถกันแย่อยู่แ้ล้วครับ ต้องทำใจ   สมัยนี้คนกรุงเทพเปิดไฟเลี้ยวกันไม่เป็นแล้วด้วย     เราต้องเริ่มสร้างนิสัยที่ดีกันคนละนิดคนละหน่อย   ให้คนพวกนี้มันละลายใจบ้าง

คนขับ PJS คันนั้น ติดไฟแดง น่าจะเคยชินกับการเข้า P เวลาหยุดรถแน่เลยครับ
ท่าน จขกท จึงได้เห็นไฟถอยแว๊ปปปนึง  :D

เข้าใจว่าเป็น P ครับ แต่ว่ามันนานไปหน่อย และ รถเริ่มยึกยักมาข้างหลังด้วยนี่สิ

  
   พี่มองตรงกันข้าม เข้าใจว่าเขาเข้า  N (เกียร์ว่างไว้) พอไฟเขียวออกตัวแทนที่จะดึงคันเกียร์ลงมาต่ำที่ตำแหน่ง D  กลับเผลอเรอโยกคันเกียร์ขึ้นข้างบน(กดชิบด้วย) ไปเข้าตำแหน่ง R  คิดว่าเป็นเกียร์ธรรมดามั๊ง
   ที่รู้เพราะเคยเผลอเหมือนกัน คนขับรถหลายระบบก็อย่างเนี๊ยะ
   ส่วนที่ซิ่งออกขวามา เจอเกาะกลางถนน(สถานการณ์บังคับต้องปาดซ้ายผ่านหน้าท่านไป ดีกว่าชนเกาะกลาง ดีนะที่ท่านมีจิตกุศลผ่อนคันเร่งให้เขาไป) สถานที่ และ สถานการณ์ลักษณะนี้เชิงสะพาน 2,000 ปี ก็มี
  (ทางเข้าแยกอ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีคนขับแบบนี้เยอะ)
  
   ทั้งสองเหตุ คือ ความเผลอเรอ และ ความประมาท ซึ่งนักขับรถที่ดีไม่ควรทำ
     อยากรู้จัง ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ไม่เห็นบอกเลยครับ

ติดไฟแดงไม่สมควรใส่ P เพราะเรายังต้องเคลื่อนที่ต่อ หากจังหวะไม่ดีใครมาชนท้ายเกียร์คุณพัง ค่าซ่อมแพงนะครับ  ติดไฟแดงไม่ถึง 20 วิ เหยียบเบรคไว้ก็ได้ถ้าคุณไม่เมาแล้วยกเท้าออก  ติดไฟแดงเกิน 20 วิให้ใส่ N แล้วดึงเบรคมือครับ(น้ำมันเกียร์จะได้ไม่ร้อนจัดเสื่อมสภาพเร็ว)  ไม่เข้าใจว่าทำไมชอบใส่เกียร P ตรงไฟแดง หรือว่าเวลาดึงมา N ไฟถอยจะแวบก่อนถึง D คล้ายกับส่งซิก ข้าเกียร์ออโต้เฟ้ยยยย 8)

ผมก็เคยนะ... ลืม จอดไฟแดงเข้า P (มัวแต่เลือกเพลงอยู่)
พอเขียวปุ๊บ ติดนิสัย กด shift แล้วลง R เลย เหยียบคันเร่ง ดีนะเบรคทัน... คันหลังคงตกใจ แต่ผมก็ยกมือขอโทษ...

หลังๆ สร้างนิสัยใหม่ ไม่กด shift เวลาเปลี่ยนเกียร์... มันเลยลงที่ N เวลาจอดไฟแดง...

 สาธุ  อย่างว่าหละครับ  ต่อให้เราระวังแค่ไหน  ถ้าพี่ๆน้องๆไม่ว่าตระกูลไหนไม่ระวัง  ก็อาจทำให้เราเจ็บตัวได้ทุกวินาที  crying

ใช้รถเกียร์ออโต้  แต่ไม่เคยศึกษาวิธีการใช้  ซึ่งรถที่ทำเกียร์ออโต้มาให้ใช้  เขาก็มีวิธีใช้ที่ถูกต้องมาให้  แต่เราไม่เข้าใจและพยายามไม่เข้าใจ

ลองถามซิครับ รถในกรุงเทพ ปุมที่ให้มา จะเรียกอะไรไม่รู้  แต่คนขับจะต้องกดปุมแล้วเข้าเกียร์ (ทุกเกียร์)  ถ้าถามว่าไม่กดไม่ได้หรือครับ ก็จะตอบว่าไม่กดก็เข้าเกียร์ไม่ได้

จะกดปุมตามความปลอดภัย เท้่าต้องอยู่ที่เบรด

เกียร์ที่เข้าไม่ได้ถ้าไม่กดปุม คือเกียร์ที่ต้องใช้ความระวังเป็นพิเศษ (อันตราย)  เกียร์เดินหน้าทั่วไป เกียร์ว่าง ไม่จำเป็นต้องกด

ก็คาดเดายากนะครับว่า เขาเพิ่งหัดขับรถหรือเปล่า เพราะจากที่ป๋าทิ้งห่างเขาไปหลายเมตร อยู่ๆก็ตามมาทันอยู่เลนขวาสุดแล้ว
ถ้าเพิ่งหัดขับ ก็ไม่น่าจะต้องขับเร็วขนาดนั้น แต่ก็นานาจิตตังครับ เพราะผู้คนสมัยนี้ขับรถโดยลืมคำว่า"ระมัดระวัง"กันซะเป็นส่วนใหญ่
อุบัติเหตุถึงเกิดได้ทุกวี่ทุกวัน.. :(
แต่ขอเพิ่มเติมนิดนึง ถ้าติดไฟแดง เห็นควรเข้าเกียร์ N (ดึงเบรคมือ) มากกว่า P นะครับ เพราะจากเหตุผลหลายอย่างรวมทั้งที่ป๋าๆได้บอกไว้คือ...
1. หากความซวยมาเยือน อยู่ๆมีรถมาเสยท้ายรถเรา การเข้าเกียร์ P รอ ก็อาจจะทำให้เกียร์พังได้ ทีนี้ซ่อมตัวถัง แถมได้ซ่อมเกียร์ไปด้วย
2. เมื่อไฟเขียว เราสามารถเข้าเกียร์ D โดยง่ายโดยไม่ต้องผ่าน R ให้คันหลังเสียวหัวใจเล่น
3. การเข้าเกียร์ N แล้วดึงเบรคมือ ก็อาจจะทำให้น้ำมันเบรค,เบรค และไฟเบรคทั้ง 3 ดวง ไม่ต้องทำงานหนักมากจนเกินไป
4. สร้างนิสัยไม่เผลอเรอ หากเราทำเป็นประจำ เราจะไม่ลืมจังหวะ คือ (1) ลดเบรคมือ (2) เข้าเกียร์ D เรียกว่า จังหวะ 1-2 (อันนี้ผมตั้งชื่อเอง)
5. คอยระวังคันหลัง ถ้าเขาเข้ามาดูแล้วเร็วเกินไป(อาจจะเพราะขับมาเพลินๆ) เรายังพอเหยียบเบรคเป็นจังหวะให้เขาเห็นได้ (เพราะเราเข้า N อยู่ เท้ายังไม่แตะเบรค)
เว้นเสียแต่...ทางเข้าที่จอดรถห้างสรรพสินค้าที่เป็นทางขึ้น/ลง ที่มันชันมากๆ อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของป๋าๆครับ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ป๋าๆขับรถด้วยความไม่ประมาท ถึงที่หมายด้วยความปลอดภัยทุกท่านนะครับ
เข้ามาร่วมแชร์กันนะครับ ผิดพลาดประการใด ขอคำชี้แนะด้วยครับผม สาธุ

ก็ถือว่าป๋าขับรถเป็น ส่วนอีกคันก็แค่ขับรถได้  เหอะ

ที่จริงเขาขับไม่เร็วหรอกครับ พอออกจากแยก ผมแซงแล้วก็ไปค่อนข้างเร็ว  มาได้ประมาณ 40 โล จะผ่านด่านตรวจต้อง
ลดความเร็วให้น้อยกว่า 90 กม/ชม ไม่อยากเสียเวลาโดนเรียก และมาชลออีกที เมืออีกสัก 5 กม จะถึงที่หมาย ก็ลดความเร็ว
เขาจึงตามมาทัน แต่ที่เป็นห่วงเขา ก็คือ ข้างหน้ามันคับขัน เขายังมาเร็ว จะแซงให้ได้ เขายอมเสียงตายไปเข้าเลนที่จะ U turn เพื่อจะแซงให้ได้
นี่ถ้าเราไม่ได้มองหลัง ไม่ผ่อนให้เขาคงเบียดเราออกจากเลนไม่ได้ เพราะด้านซ้ายมีสิบล้อเป็นกำแพงด้านซ้าย เราคงต้องซ่อมสีข้าง ทั้งสองข้าง
แต่เขาอาจกระแทกเกาะกลาง แล้วลอยข้ามฝั่งไปเกิดข่าวแน่

ดีแล้วครับป๋าที่ไม่ได้เป็นอะไรทั้งคนและรถ
ขับรถต้องระวังทั้งรถคัวเอง และยังต้องระวังคันรอบข้างด้วย
เราไม่ประมาท แต่คนอื่นประมาท เราก็อาจจะเสียหายด้วย

จังหวะเร่งแซงเราอย่าไปเสี่ยงเลยครับ ถ้าเราไม่หลบ เราอาจจะซวยไปด้วย

 
  วิธีการแก้อาการเผลอเรอทุกครั้งที่เข้าเกียร์
    1.  ถามตัวเองว่าขณะนี้สถานะภาพเกียร์รถอยู่ในตำแหน่งอะไร (อย่าเข้าใจเอาเอง)
         1.1  ดูหัวเกียร์ขณะรถจอด (กลางคืนถ้าเป็นวีออสหัวเกียร์เรืองแสง)
         1.2  ออกตัวรถทุกครั้งก่อนเปลี่ยนเกียร์ดูหัวเกียร์
         1.3  ดูตำแหน่งเกียร์เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษจากหน้าปัทม์
         1.4  บางครั้งจะพบว่าเท้าเหยียบเบรคอยู่ มันเป็นตำแหน่ง D หรือ N  
         1.5  เข้าเบรคมือไว้โอกาสลืมปลดเบรคมือมีสูง ลากรถติดเบรคไปหลายเมตร (เสียผ้าเบรค)

    2.  หากเป็นไปได้ เพื่อเตือนเวลาเผลอเข้าเกียร์ผิด เน้นเฉพาะเกียร์ถอยหลัง
         2.1  ติดตั้ง photo senser สัญญาณเตือนสิ่งกีดขวางเมื่อถอยหลัง
         2.2  หรือ ติดตั้งเสียงสัญญาณไฟถอยหลังทำงาน เอาแบบเสียงดังๆ โหนหวน
                รับประกันตกใจตื่นแน่นอน
    
   3.  ตื่นตัว ตื่นตา ตื่นใจ ทุกครั้งเวลาเข้าเกียร์ผิด เท้าเหยียบเบรคย้ำไวๆ (แค่นี้รถข้างหลังบีบแต่ด่าแล้ว)

   4.  กดชิปทุกครั้ง ง่ายในการเข้าเกียร์ ไม่ต้องจำว่า จะต้องกด หรือ ไม่กด (หัวเกียร์มันอยู่ในตำแหน่งไหนหว่า จะเกิดความพะวง ว่าจะต้องกด หรือ  ไม่กด เวลา เมา สติน้อย สมองมันจะไม่ทำงาน)
  
         เรื่องอย่างนี้ มันสอนกันไม่ได้มาก ได้แต่เตือนกันไว้ ไม่เกิดกับใครก็ไม่รู้สึก มีอันตรายถึงตายเกิดขึ้นมา มันแก้ไขไม่ทัน  
        

อุบัติเหตุ เป็นเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดคิด ไม่เกิดจากเรา ก็จากเขา การระมัดระวังให้มากที่สุดก็เป็นการลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ...
ขอให้ทุกท่านมีสติตลอดเวลาที่ขับรถนะครับ