เดี๋ยวนี้ คนนั่ง ถ้าเมาก็โดนจับนะครับ ปรับ 10000 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เยอะจริงๆ
วันที่ 8 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา มีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับการตรวจจับแอลกอฮอล์บนท้องถนนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกๆ ท่านควรทราบ และน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเราๆ โดยมีรายละเอียดของกฎหมายใหม่นี้มีดังนี้ครับ
เป็นกฏหมายที่อาศัย อำนาจตามความในมาตรา 4และมาตรา 31 (7) แห่งพระราชบัญญัติควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29ประกอบกับมาตรา 41มาตรา 43 และมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย นายกรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ห้ามผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่หรือในขณะโดยสารอยู่ในรถหรือบนรถ
คำว่า “ทาง” และ “รถ” ตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า “ทาง” และ “รถ” ตามกฎหมาย ว่าด้วยการจราจรทางบก
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป(วันที่ 8 สิงหาคม 2555)
ประกาศ ณ วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ส่วน คำว่า “ทาง” ตาม พ.ร.บ.จราจร หมายความว่า “ทางเดินรถ ช่องเดินรถ ช่องเดินรถประจำทาง ไหล่ทาง ทางข้าม ทางร่วมทางแยก ทางลาด ทางโค้ง สะพาน และลานที่ประชาชนใช้ในการจราจร และให้หมายความรวมถึงทางส่วนบุคคลที่เจ้าของยินยอมให้ประชาชนใช้ในการจราจร หรือเจ้าพนักงานจราจรได้ประกาศให้เป็นทางตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย แต่ไม่รวมไปถึงทางรถไฟ” และคำว่า “รถ” หมายความถึง “ยานพาหนะทางบกทุกชนิดเว้นแต่รถไฟและรถราง
จากที่กล่าวมาแปลว่า ตอนนี้ไม่เฉพาะคนขับเท่านั้น แต่เป็นผู้โดยสาร เขาก็ห้ามดื่มแล้วนะครับผม โดยหลายคนอาจจะสับสนกับการ “เมาแล้วขับ” จริงๆแล้วมันเป็นคนละส่วนกัน เพราะกฎหมายนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ หลักๆคือ ห้ามเรื่องสถานที่ที่ดื่ม ซึ่งเดิมกฎหมายนี้ห้ามเฉพาะการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในสถานที่ต่างๆ เช่น วัด สถานที่ราชการ เป็นต้น แต่ของใหม่นี้ห้ามดื่มบนรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารหรือผู้ขับขี่ครับ (ถือว่า “รถ” เป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามดื่มครับ)
แต่กฎหมายเกี่ยวกับ “เมาแล้วขับ” เป็นไปตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ซึ่งไม่ดูว่าดื่มที่ไหน แต่ถ้าคนขับมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่า 50 มิลลิกรัมในขณะขับรถ ถือว่ามีความผิดครับ
ดังนั้น ขอฝากให้ทุกๆท่านระมัดระวังเรื่องนี้ไว้ให้มากๆนะครับ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องถนน
เกร็ดความรู้ดีๆจาก
ประกันภัยรถยนต์กฏหมายใหม่ “เมาแล้วโดยสาร” ก็ถูกจับ10 วิธีง่ายๆ ดูรถมือสองก่อนจะซื้อใครที่มีรถโปรดระวัง !!!ทำไมถึงต้องมีการตรวจสภาพรถเตือน!เปิดไฟตัดหมอกพร่ำเพรื่อผิดกฎหมายหลากทางเลือกตัวช่วย..เมื่อรถคุณยางแตกสาเหตุ หนึ่งของรถติดแก๊สไฟไหม้กรมการขนส่งแจ้ง ทะเบียนแตกลายงาเปลี่ยนฟรี วันนี้ – 30 ก.ย. 56