ยิ่งทำให้ Technology เรื่องระบบแก็สรถยนต์โตขึ้นแบบก้าวกระโดดใช่ไหมป๋า S เพราะทุก Dose ของแก็ส ต้องทำให้มีประสิทธิภาพของพลังงานออกมาให้มาก และประหยัดสุดสุด ไม่จ่ายเกิน ไม่จ่ายขาด ตอนนี้ ก็ทำให้ผู้คนยอมจ่ายค่า ECU และอื่นอื่นแพงได้มากขึ้นเพื่อ การใช้เนื้อแก็สอย่างคุ้มค่า
ตอนนั้นเราคงได้เห็น ECU แก้สมาพร้อมกับ Sensor มากมาย( เป็นพวงใหญ่เลย ) เอาชนิดว่า ฉลาดพอกับ ECU น้ำมันกันเลย มีการฝัง OX.Sensor ต่างหาก (ไม่ไปยุ่งกับของน้ำมัน) ที่ท่อไอเสีย + Air Flow Sensor แยกต่างหากที่ท่ออากาศมาท่อไอดี ( แยกออกจากของ ECU น้ำมันอีก)
มี ECU แยก อีกตัว คุมการจ่ายของแก็ส + อีก 1 ECU เก็บประมวลผลจาก Sensors พร้อม Firmware แบบอัจฉริยะคิดประมวลไปถึง ความหนาแน่นของอากาศที่ผ่านมาทางท่อไอดีทีเดียวเลยมัง คงไม่แค่ปรับชดเชยความหนาแน่นเนื้อแก็สในสถานะต่างอุณหภูมิอย่างเดียว ถ้าระบบหม้อต้มยังคงอยู่ก็คงเป็นแบบมี Buffer ควบคุมแรงดันแบบได้อุณหภูมิคงที่ให้นิ่งสุดสุดในทุกการเรียกใช้ ถึงตอนนั้น ระบบละ 80000 ก็ยังคงได้รับความสนใจอยู่ดี แต่ตอนนี้เท่าที่ดูระบบ DDF ได้ใช้ Technology แซงระบบ เบนซิน+LPG ไปไกลมากเลย แค่ Firmware + Sensor ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้ง Program Interface ใน DDF ของ AC ก็ล้ำหน้าไปไกลมากแล้ว อิจฉาจนอยากไปเอาดีเซลมา DDF สะเลย ลูกเล่นของมันเรื่อง Software Technology มันมันส์กว่ามากมากเลย เมื่อไร AC
Software แบบนั้นมา Upgrade ให้ ISA-2 300 ได้ใช้ Functions พวกนั้นได้มั่งนะ หรือออกพวก Stag -6 QBasic มาเลย