โดยปกติแล้ว การขับรถลงน้ำแบบขับผ่านหรือผ่านอุปสรรคแบบชั่วคราว แบบผ่านแอ่ง ผ่านลำธาร พอได้
แต่หากเป็นการขับเพื่อการลุยน้ำท่วมขัง เป็นระยะเวลา หรือน้ำท่วมสูง นั้นไม่เป็นที่แนะนำ สำหรับเกียร์auto และเครื่่องคอมมอลเรียวยุคใหม่นี้
เนื่องมาจาก ปลั๊กไฟฟ้า และสารพัดsensor หากโดนน้ำไปแล้วจะเพี้ยนเตือนกันวุ่นวายไปหมด และการสั่งการผ่านกล่องสมอง ECU ทั้งหมด อาจทำให้เครื่องยนต์ดับหรือมีปัญหาได้ขณะลุยน้ำ และที่อยู่ต่ำสุดจะเป็นชุดเสื้อเกียร์ สูงขึ้นมาก็ปั๊มคอมมอนเรียล
**แต่ในสถานะการณ์ จำเป็นเช่นปัจจุบันนี้ บางพื้นที่อาจจำเป็นลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ต้องวัดดวงลุยเอา อาศัยว่าอย่าให้เครื่องดับแล้วน้ำ ย้อนเข้าท่อไอเสีย หรืออย่าลุยจนน้ำสูงกว่าไฟหน้ารถเพราะปากท่ออากาศเข้าหม้อกรองอยู่ตรงนั้น หรือหากจำเป็นอย่างยิ่งยวดก็หาอะไรต่อปากท่ออากาศขึ้นสูงเป็นสนอดเกอร์ไปก่อน เอาตัวรอดออกมาก่อนก็ได้ครับ ถึงเวลานั้นคงไม่ต้องคิดว่าอะไรจะเสียหายเอารถรอดออกมาก่อนเป็นดี
***หากกรณี จอดไว้ในที่สูงแล้ว แต่คิดว่าไม่รอดจากการจมหรือถ่วมขัง หรือรอเวลาจมแน่ๆ ให้รีบถอดเบาะ รื้อพรม รื้อผ้าผุหลังคา และรื้ออุปกรณ์ทุกอย่างที่สามารถอมน้ำได้ออกให้หมดและนำออกจากรถ แล้วถอดขั้วแบตออก เอาอะไรหุ้มปลายท่อไอเสีย และปากทางเข้าของท่ออากาศ แล้วแง้มกระจกออก เพื่อไล่อากาศหากน้ำซึมเข้าภายใน ไม่เช่นนั้นรถท่านจะลอบน้ำแบบที่เห็นในข่าว ไหลตามน้ำไปเรื่อย หลังน้ำลด ค่อยรื้อ maintenance หล่อลื่นระบบ และประกอบภายใน ก็สามารถใช้งานได้ต่อ โดยไม่มีกลิ่มเน่าเหม็นครับ
ความเห็นส่วนตัว เพื่อเป็นข้อมูล นะครับ