Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พรุ่งนี้ประกันจะหมดแล้ว ทำไงดี?  (อ่าน 2842 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
niisannn_
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2



« เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2014, 04:32:45 pm »

ช่วยด้วยคร้า.... ลืมไปเลยอ่ะ ว่าพรุ่งนี้ประกันจะหมด.. ลืมต่อไปเลย
ทำยังไงดีค่ะ  ช่วยด้วยๆ... แย่แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 12, 2014, 06:14:27 pm โดย niisannn_ » บันทึกการเข้า
nan&name
Jr. Member
**

like: 12
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 692


pajerosport-thailand ID 3949


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2014, 09:16:07 am »

วิธีต่อประกันภัยรถยนต์ การต่อประกันภัยรถยนต์

มันใจว่าทุกๆท่านที่เป็นเจ้าของรถยนต์ ก็เป็นเจ้าของกรมธรรม์ประกันภัยด้วยเช่นกัน รายละเอียดส่วนนี้ จะเป็นรายละเอียดที่ทุกๆท่านที่เป็นเจ้าของกรมธรรม์ตรึกตรองก่อนที่จะต่อประกันภัยรถยนต์

วิธีการต่อประกันรถยนต์ สมัยนี้ทำได้ง่ายมาก ปล่อยให้บริษัทประกันเป็นคนจัดการ หรือ ปล่อยให้ไฟแนนซ์เป็นคนจัดการ หรือ ต่อด้วยระบบออนไลน์ เข้าไปกรอกรายละเอียด ส่งเอกสารตามที่บริษัทขอ เซ็นต์รับ จ่ายเงิน เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย

แต่ว่าอยากให้ท่านทั้งหลายลองนำขั้นตอนที่จะกล่าวถึงนี้ไปลองใช้งานดูว่าจะสามารถช่วยเหลือท่านในการเลือกบริษัทประกัน และ ช่วยเหลือในการประหยัดค่าใช้จ่ายให้ทุกท่านได้อย่างไรบ้าง

ประการแรก คือ ให้สอบถามบริษัทประกันเกี่ยวกับรายละเอียดที่ใช้ในการคิดเบี้ยประกันประจำปี เมื่อท่านได้รับหนังสือแจ้งให้ไปชำระเบี้ยประกันจากบริษัทประกัน วิธีง่ายๆ คือ ให้ท่านโทรศัพท์ติดต่อไปที่บริษัทประกันที่ท่านใช้บริการอยู่ สอบถามรายละเอียดที่ใช้ในการคำนวนค่าเบี้ยประกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถหายจ่ายเท่าไหร่ ไฟไหม้จ่ายเท่าไหร่ ผู้ขับขี่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจ่ายเท่าไหร่ ส่วนลดอื่นๆ ฯลฯ แล้วให้นำเปอร์เซนต์เหล่านั้นมารวมกันแล้วดูว่าได้เท่ากับตัวเลขที่บริษัทประกันให้มาหรือไม่

ถ้าใกล้เคียงกันก็อาจจะไม่เป็นไร แต่ถ้าแตกต่างกันเยอะ กรณีนี้ ลองติดต่อกลับไปหาบริษัทแล้วสอบถามว่าทำไมตัวเลขไม่เท่ากัน อาจจะมีการคำนวนผิดพลาดเกิดขึ้นหรือไม่ กรณีที่บริษัทประกันแจ้งรายละเอียดและให้คำตอบที่น่าพอใจ และมีเหตุผล ก็แล้วไป แต่กรณีที่ให้คำตอบแบบขอไปที เป็นกฎใหม่ อะไรประมาณนี้ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่าอาจจะถึงเวลาที่คุณควรพิจารณาหาบริษัทประกันใหม่แล้วนั่นเอง

ประการที่สอง คือ เมื่อต้องเลือกบริษัทประกันใหม่ ให้มั่นใจเสียก่อนว่าคุณได้ศึกษารายละเอียดกรมธรรม์ที่บริษัทนั้นๆนำเสนอให้ แล้วมีความเข้าใจว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง ในกรณีใดที่คุณต้องจ่าย และ กรณีใดที่บริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบ ถ้าคุณต้องจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก จะต้องจ่ายในกรณีไหน เป็นเงินเท่าไหร่ต่อครั้ง ต่อจุด ยังไงบ้าง ขอให้ขอรายละเอียดมาให้หมด และ ไม่ต้องอายที่จะต้องถามพนักงานบริษัทประกัน แบบถามแล้วถามอีก คุณกำลังทำหน้าที่ผู้บริโภคที่ดี ให้บริษัทประกันทำหน้าที่บริการที่ดีด้วยเช่นกัน

ที่สอบถามเหล่านี้คือต้องมั่นใจว่าบริษัทประกันจะไม่พูดดีเฉพาะตอนเก็บเบี้ยประกัน แต่ว่าการบริการจะต้องสม่ำเสมอ เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ได้มีความจำเป็นว่าจะต้องเป็นบริษัทใหญ่โต มีชื่อเสียงมาเกือบร้อยปี บริษัทใหม่ ให้บริการดี ให้ราคาดี มีมากมายในปัจจุบัน

ขอให้ท่านสอบถามให้แน่ใจว่าท่านจะได้บริการที่ท่านต้องการ ได้ความคุ้มครองที่ต้องการ ในราคาที่เหมาะสม และเมื่อท่านจ่ายค่าเบี้ยประกันขอให้ท่านทราบว่าหลักๆแล้วท่านจ่ายอะไรไปบ้าง ยังไง เพราะอะไร หากมีข้อสงสัยอะไร อย่ากลัวที่จะติดต่อสอบถามพนักงานของบริษัทประกัน

ข้อคิดเพิ่มเติมก่อนต่อประกันรถยนต์

อยากจะขอฝากเกร็ดเล็กๆน้อยๆก่อนไปให้แก่ทุกๆท่าน เพื่อเอาไว้ใช้เป็นความรู้รอบตัวแก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน

เข้าใจว่าหลายๆท่านมักจะไม่สังเกตรายละเอียดย่อยเหล่านี้ การโทรศัพท์ติดต่อพนักงานบริษัทประกัน นอกจากจะเป็นที่ๆช่วยให้ท่านหาข้อมูลต่างๆได้ดีที่สุดที่หนึ่ง สามารถตอบคำถามที่อาจจะผุดขึ้นมาได้จากการสนทนา ยังสามารถช่วยให้ท่านประหยัดค่าเบี้ยประกันได้อีกหลายพันบาทอีกด้วย! รับรองว่าคุ้มค่าโทรศัพท์แน่นอน

อย่าคิดมากว่าเค้าจะคิดว่าเราจู้จี้หรือไม่ เพราะว่าเราเป็นคนจ่ายเงิน เพื่อซื้อค่าบริการ ค่าคุ้มครองเหล่านี้จากเขา เราต้องการให้สิ่งที่เราได้นั้นคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป

อีกอย่างคือผู้ที่เหมาะที่จะเปลี่ยนบริษัทประกันคือผู้ที่ไม่มีแผนที่จะขายรถยนต์คันเอาประกัน หรือ ไม่วางแผนขายรถคันเอาประกันล่วงหน้า เพราะจะทำให้ดูไม่ดีในสายตาของบริษัทประกัน โดยอาจจะดูเหมือนว่าเราจะพยายามปกปิดประวัติเสียอะไรหรือไม่ อย่างไร ดังนั้นหากคุณคิดจะเปลี่ยนบริษัทประกัน ขอให้แน่ใจก่อนว่าคุณวางแผนที่จะใช้รถคันเอาประกันไปอีกนานหลายปี กว่าจะคิดเรื่องขายรถเปลี่ยนใหม่

อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกๆท่านขับขี่ปลอดภัย มีน้ำใจในการจราจร ขอให้ศึกษารายละเอียด และ ตรึกตรองให้รอบคอบเสียก่อน ว่าบริษัทประกันบริษัทนี้เหมาะกับเราหรือไม่ก่อนต่อประกันรถยนต์ หรือ ตัดสินใจเปลี่ยนบริษัท

การต่อประกันรถยนต์ประจำปี
สิ่งแรกที่เจ้าของรถยนต์จะต้องทำเมื่อซื้อรถยนต์มาครอบครอง ได้แก่ การทำประกันพรบ. และ การ ทำ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ การต่อประกัน พรบ. นั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกๆปี โดยจะต้องต่อประกัน พรบ. ก่อนไปทำเรื่องเสียภาษีรถยนต์ประจำปี

สำหรับการต่อ พรบ. รถยนต์ คุณจะต้องใช้เอกสารต่อไปนี้

สมุดคู่มือจดทะเบียนของรถยนต์ของคุณ

สำเนาพรบ.เดิม

เงินค่าทำพรบ.ใหม่

โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ติดต่อกรมขนส่งทางบก หรือ ศูนย์รับทำเรื่องใกล้บ้านคุณพร้อมเอกสาร เท่านั้นเอง

เรื่องสำคัญที่ควรทราบก่อนต่อประกันรถยนต์

ในการทำประกันภัยรถยนต์ หากคุณไม่มีการเคลม หรือ อุบัติเหตุในปีก่อน บริษัทประกันจะมีการนำเสนอส่วนลดเพื่อชักชวนให้คุณต่อประกันกับบริษัทต่อไป โดยมีข้อเสนอหลายระดับ เช่น

ส่วนลด 20% สำหรับการต่อประกันปีที่ 2 โดยผู้เอาประกันไม่เคยเรียกร้องค่าเสียหายในปีแรก

ส่วนลด 30% สำหรับการต่อประกันปีที่ 3 โดยผู้เอาประกันไม่เคยเรียกร้องค่าเสียหายติดต่อกันสองปี

ส่วนลด 40% สำหรับการต่อประกันปีที่ 4 โดยผู้เอาประกันไม่เคยเรียกร้องค่าเสียหายติดต่อกันสามปี

ส่วนลด 50% สำหรับการต่อประกันปีที่ 5 โดยผู้เอาประกันไม่เคยเรียกร้องค่าเสียหายติดต่อกันสี่ปี หรือ กว่านั้น เป็นต้น

บริษัทประกันรถยนต์ อาจจะแจ้งท่าน ว่าท่านได้รับส่วนลดในกรณีต่างๆ แต่เมื่อท่านมาตรวจดูแล้วเหมือนกับไม่มีส่วนลดเลย กรณีนี้ท่านจะพบรายละเอียดเล็กๆที่กล่าวว่า “...ส่วนลดเบี้ยประกันนั้นเป็นส่วนลดที่คิดจากเบี้ยประกันในปีที่ต่ออายุ...” ซึ่งส่วนนี้ หมายความว่า การลดเบี้ยประกันนั้น ไม่ได้ทำการลดจากเบี้ยประกันปีก่อน หรือ เบี้ยประกันเดิม ไม่ได้ทำการลดจากกรมธรรม์ในปีปัจจุบัน แต่เป็นการนำปัจจัยดังกล่าวที่เข้าข่ายได้รับส่วนลดมาใช้เป็นปัจจัยในการพิจารณาเป็นส่วนลดเบี้ยประกันในปีต่อไปนั่นเอง

การคิดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ บริษัทประกันจะทำการคำนวนจากเบี้ยปีปัจจุบัน ไม่ได้คิดจากเบี้ยของปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีเจ้าของรถยนต์ท่านใดที่ทราบว่าเบี้ยประกันปีนั้นๆจะเพิ่มหรือลด แล้ว ยังไงบ้าง เพราะไม่มีใครบอก โดยบริษัทประกันจะแจ้งเบี้ยก็ต่อเมื่อในปีแรกเท่านั้น ส่วนมากแล้วเบี้ยประกันปีแรกจะมีราคาค่อนข้างต่ำ ทำให้ดูสมเหตุสมผล แต่ว่าเบี้ยประกันปีต่อๆไปกลับจะเพิ่มขึ้น โดยจะไม่มีการแจ้งให้ผู้เอาประกันทราบล่วงหน้าเลยแม้แต่น้อย

ถ้าผู้เอาประกันไม่ติท้วง จ่ายๆไปก็แล้วไป แต่ถ้าเกิดท้วงขึ้นมาว่าทำไมบอกเบี้ยลด แต่ไม่เห็นจะลดเลย ก็อาจจะเจอคำตอบว่ามันเป็นนโยบายของบริษัทให้ปรับอัตราเบี้ยประกันใหม่ ตามประกาศเลขที่อะไรก็ว่าไป หรือไม่ก็มีค่า VAT เพิ่มมา

การต่อประกันรถยนต์

ส่วนนี้อยากขอให้ทุกท่านลองตรวจสอบรายละเอียดเพื่อให้มั่นใจเสียก่อนว่าบริษัทประกันที่ท่านใช้บริการมีข้อจำกัดเรื่องอะไรบ้าง

เรื่องหลักๆที่อยากแนะนำ คือ เมื่อคุณได้รับหนังสือแจ้งยอดเบี้ยประกันเพื่อให้ไปชำระเบี้ยประกันในปีถัดไป หรือ สักประมาณ 1-2 เดือนก่อนหมดประกัน ให้โทรศัพท์ไปที่บริษัทประกันเพื่อติดต่อสอบถาม ว่าเบี้ยประกันต้องจ่ายเท่าไหร่ และ ความคุ้มครองมีอะไรบ้าง ถ้ารถหายจ่ายเท่าไหร่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วไฟไหม้จ่ายเท่าไหร่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วผู้ขับขี่เสียชีวิตจะจ่ายเท่าไหร่ แล้วลองนำรายละเอียดข้อมูลที่ได้มาทำการคำนวนคร่าวๆว่าได้ส่วนลดตรงตามเปอร์เซนต์ที่แจ้งมาหรือไม่ มีส่วนต่างเท่าไหร่ ถ้าใกล้เคียงประมาณบวกลบ 200-300 บาทก็อาจจะไม่เป็นไร แต่ว่าถ้ามากกว่านั้น ให้ลองสอบถามราคาจากบริษัทประกันบริษัทอื่นๆดู แจ้งบริษัทประกันที่เราต้องการสอบถามว่าเราใช้รถยี่ห้อนี้ ปีนี้ ต้องการความคุ้มครองแบบนี้ เบี้ยประกันต่อปีจะเท่าไหร่ ถ้าได้คำตอบเป็นราคาเบี้ยประกันที่ถูกกว่าบริษัทประกันที่ใช้บริการปัจจุบันละก็ ขอแนะนำให้เปลี่ยนบริษัทประกันอาจจะดีกว่า เพราะน่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล ปีต่อๆไปอาจจะเจอเบี้ยที่สูงกว่านี้ก็เป็นได้

ยิ่งถ้าเรามีการเคลม หรือ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็ต้องจ่ายเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก กรณีที่ต้องเรียกร้องค่าเสียหายเกิน 200% ของค่าดอกเบี้ยในปีนั้นๆ หมายความว่าในปีต่อไปคุณจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากเบี้ยที่กำหนดเอาไว้ แบบไม่รู้ว่ามันมาจากไหนอีก 20%

ดังนั้น ในกรณีนี้ ขอแนะนำแบบซื่อๆว่าเปลี่ยนบริษัทประกันซะเลยจะดีกว่า เพราะว่าพอเปลี่ยนแล้ว ยังไงซะราคาประกันก็จะถูกลงอยู่ดี แถมการหาบริษัทประกันที่มีเบี้ยถูกนั้นหาไม่ยากเลย เพราะมีบริษัทประกันเต็มตลาด โปรโมชั่นมากมายให้ลูกค้าได้เลือกสรร เพียงแค่ขอให้ศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์ที่ต้องการให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเท่านั้นเอง
 
 
บันทึกการเข้า

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
wanahappy
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2014, 07:15:59 pm »

ลองใช้วิธีนี้สิ ต่อประกันแบบออนไลน์ไปเลยครับ   Ok..  สะดวกรวดเร็วสุดๆ
จ่ายปุ๊ปคุ้มครองปั๊ป  ของผมเพิ่งต่อมากับธนชาต มีบัตรเติมน้ำมัน 500 ให้ด้วยนะ  สุดยอด!!
http://thanachartonlineinsurance.com <<
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 21 คำสั่ง