วันศุกร์ที่ 10 ส.ค. เดินทางกลับจากที่ทำงาน บางบ่อสมุทรปราการ พอไปถึงบ้าน บางใหญ่ นนทบุรี ก็จอดเจ้า BEN10 ม้าตัวโปรด ด้วยความทนุถนอม และผมต้องจอดให้ชิดที่สุด เพราะเช้าวันที่ 11 ส.ค. เป็นวันเสาร์ จะมีรถขยะเข้ามาในซอย ประมาณว่า ผมจอดแบบชิดที่สุด เพื่อให้ช่องกลางถนนเหลือให้เยอะ แบบว่าให้รถขยะเดินหน้า และถอยหลังออกได้สดวก ซอยบ้านผม ส่วนใหญ่จะมีรถอย่างน้อย 2 คันทุกบ้าน ส่วนบ้านผมจะเอาเจ้า HONDA City ของท่าน ผบ. จอดในบ้าน ส่วนเจ้า BEN10 จอดข้างนอก ตามรูป และคู่กรณี เป็นผู้หญิง ขับ VIGO cap ขายของตามตลาดนัด สามีขับ TAXI เป็นที่รู้กันว่า สองสามีภรรยาคู่นี้ จะขับรถเร็วทั้งคู่ ขับที่อื่นไม่ว่า แต่นี่ขับเร็วในซอย ซึ่งซอยนี้ มีรถจอดนอกบ้านทุกหลัง แถมยังมีเด็กเล็กวิ่งเล่น และเล่นบนถนนตลอด เนื่องจากเป็นซอยตัน อธิบายมาซะเยอะ
สรุปคือ เจ้แกถอยออกจากซอย และบรรทุกของเต็มกระบะ ประมาณว่า ผู้หญิงขนเยอะ แฮ่ๆ ด้วยความเร็วเหมือนหนีไฟไหม้ และสัดเข้ากับเจ้า BEN10 ของผมเข้าที่หน้าขวา อย่างจัง ปั่ง...เคร็งๆ เคร็งๆ โอ้วววว แม่เจ้า โดนอีกแล้วหรือนี่ กันเก่าก็แบบนี่ เดินออกมา เห็นคู่กรณี นั่งพิงประตูรั่วบ้านผม บวกกับแม่ยาย เอาน้ำเอาท่า ไปให้กิน แถมยาดมให้อีก เจ้แกเป็นลมเลยครับ ผมงง อะไร_่ะ ขับรถชนก็เรียกประกันซิ นี่ถึงขั้นเป็นลมเลยรึ ถามไป ถามมา เจ้แกไม่มีประกันแม้แต่ชั้นเดียว โอ้วแม่เจ้า ช่างกล้าเหลือเกิน ชั้น3ก็ยังดี
ผมจึงโทรเรียกประกันของผม พอมาก็ถ่ายรูป ตรวจสอบความเสียหายเสร็จสัพ เจ้แกก็ถามประกันว่า น่าเท่าไหล่ ประกันก็บอกว่า น่าจะหมื่นต้นๆ สีหน้าเจ้แกก็เริ่มซีดอีกครั้ง ยัง...มันยังไม่จบแค่นั้น เนื่องจากว่า ผมตรวจเช็คแล้วเห็นว่า กันชนหน้าที่เป็นเหล็กด้านใน มันยุบมาชนกับล้อ ผมจึงเอ่ะใจ ผมก็เอาเหล็กมางัุดกันชนที่มันล้อออก และบอกประกันกับ เจ้ว่าเด๋วมา ไปลองขับดูก่อน พบว่า เสียศูนย์ครับ กินซ้าย งานนี่มีเคลม ปีกนกแน่ๆ ประกันก็ตอกย้ำเจ้แกอีกดอก ด้วยคำว่า งานนี่เกิน สามหมื่นแหงมๆ แล้วผมก็หันไปมองเจ้ เฮ้ย เจ้หายไปไหนแล้ว ที่ไหนได้ แน่นิ่งกับพื้นเลย
ตอนนี้ก็รอ 0 โทรบอกว่า Spare part มาเมื่อไหร่ แต่ที่ผมซีเรียสคือ ไม่ควรโดนล้อเลย เพราะผมจะซีเรียสเรื่อง ระบบขับเคลื่อน และระบบเบรก