ป้ายแดงขาดแคลน ป้ายดำผลิตไม่ทัน ขนส่งประสานตร.ผ่อนผันให้รถใหม่ใช้ใบเสร็จจดทะเบียนแทนป้ายทะเบียนได้
กรมการ ขนส่งทางบก (ขบ.) ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาตรการผ่อนปรนเจ้าของรถยนต์ใหม่ ในช่วงที่ป้ายทะเบียนสีแดงหมุนเวียนไม่ทัน ให้นำใบเสร็จการจดทะเบียนมาติดหน้ารถ จากนั้นสามารถนำรถมาใช้งานได้ตามปกติโดยไม่ต้องติดป้ายทะเบียนแต่อย่างใดจน กว่าจะได้รับทะเบียนป้ายดำมาติดตั้งแทนพร้อมเตือนตัวแทนจำหน่ายอย่านำป้าย แดงปลอมมาติดให้ลูกค้า ระวังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีโดยไม่ต้องมีใครแจ้งความ
โดยเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นายอัฌษไธค์รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ ขบ.กล่าวว่า ผู้ที่ไปจดทะเบียนรถยนต์กับ ขบ.แล้วแต่ยังไม่ได้แผ่นป้ายทะเบียน สามารถนำใบเสร็จรับเงินซึ่งจะเขียนข้อความว่า "ใช้ แทนแผ่นป้ายทะเบียน" ไปติดไว้ที่บริเวณหน้ารถเพื่อใช้แทนแผ่นป้ายทะเบียนได้ โดยไม่จำเป็นต้องติดป้ายแดงหรือป้ายใดๆ ไว้บนรถอีก เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับทราบการ ดำเนินการดังกล่าวแล้วจึงจะไม่มีการจับปรับอย่างแน่นอน
"ก่อน หน้านี้ ขบ.ได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อไม่ให้จับปรับรถที่ยังไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน แต่ต้องเป็นรถที่ไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกแล้วเท่านั้น โดยจะมีใบ
เสร็จรับเงินเป็นหลักฐานใช้แทนแผ่นป้ายทะเบียน ดังนั้น ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ยังไม่ได้แผ่นป้าย
ทะเบียน แต่ได้จดทะเบียนแล้ว จึงไม่ต้องกลัวว่าจะถูกจับปรับ สามารถขับขี่รถได้ตามปกติ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบก็ยื่นใบเสร็จให้ดูเท่านั้นเอง"
นายอัฌษไธค์กล่าวว่า การใช้ใบเสร็จแทนแผ่นป้ายทะเบียน จะดำเนินไปจนกว่ากรมการ
ขน ส่งทางบกรับมอบแผ่นป้ายทะเบียนที่อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างได้แล้วเสร็จ โดยจะส่งมอบล็อตแรกได้ประมาณสิ้นเดือนสิงหาคมนี้หลังจากนั้น คาดว่าจะแจกจ่ายให้กับรถที่จดทะเบียนแล้วแต่ยังไม่มีป้ายทะเบียน ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 50,000-60,000 คัน ภายในเดือนกันยายนนี้ หลังจากที่กรมการขนส่งทางบกได้รับป้ายทะเบียนจากทางบริษัทผู้ผลิตแล้ว จะเร่งประชาสัมพันธ์และแจ้งไปยังผู้ที่จดทะเบียนแล้วให้ไปรับป้ายทะเบียนที่ กรมการขนส่งทางบกทันที มั่นใจว่าป้ายทะเบียนใหม่ที่ได้รับมาประมาณ 7 ล้านแผ่นป้าย จะเพียงพอกับความต้องการแน่นอน
"ตอน นี้กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำแผ่นป้าย ทะเบียนเข้ามาให้ได้ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมหลังจากนั้น จะเร่งปั๊มตัวอักษรเพื่อนำไปให้กับผู้ที่จดทะเบียนแล้วต่อไป"
นาย อัฌษไธค์กล่าวว่า กรณีตัวแทนจำหน่ายรถทำแผ่นป้ายแดงปลอมขึ้นมาให้กับผู้ซื้อรถใช้แทนป้ายแดง ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากมีปัญหาไม่สามารถหมุนเวียนป้ายแดงได้ตามระยะเวลาที่กำหนดนั้น ถือเป็นความผิดทางอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการเอาผิดได้ โดยไม่ต้องมีผู้แจ้งความ หรือหากผู้ซื้อรถแจ้งความ ตัวแทนจำหน่ายรายนั้นๆ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาทันที
"หาก ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มีเจตนาดีในการขายรถจริง ไม่จำเป็นต้องทำป้ายแดงปลอมออกมาให้ลูกค้า เพราะการยื่นจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อให้ได้ป้ายดำใช้เวลาเพียงไม่ กี่วันก็ได้แล้ว ดังนั้น ปัญหาป้ายทะเบียนแดงไม่พอ จึงเป็นปัญหาของตัวแทนจำหน่ายโดยตรง"
ผู้ สื่อข่าวถามว่า กรมการขนส่งทางบกจะมีมาตรการไปกำกับดูแลเรื่องการใช้ป้ายแดงของตัวแทน จำหน่ายได้หรือไม่ นายอัฌษไธค์กล่าวว่าขั้นตอนการให้ป้ายแดงกับรถยนต์ใหม่ ยังไม่เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของกรมการขนส่งทางบกและจะยังไม่เข้าสู่กระบวน การตราบเท่าที่ตัวแทนจำหน่ายยังไม่ยื่นเอกสารจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงไม่สามารถรับทราบได้ว่า ตัวแทนจำหน่ายรายนั้นๆขายรถได้กี่คัน และรถคันไหนบ้างที่ติดป้ายแดงปลอม
ด้าน พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผกก.2 บก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ (ศปจร.น.) กล่าวถึงปัญหาการนำป้ายแดงปลอมมาติดรถยนต์ว่า ที่ผ่านมามีการกวาดล้างร้านทำป้ายผิดกฎหมายอยู่บ่อยครั้งทั้งย่านเยาวราชและ จุดอื่นๆ แต่บางครั้งร้านเหล่านี้ก็รับทำทั่วไปโดยไม่ทราบว่ามีความผิดนอกจากนี้ จะเป็นพวกแก๊งมิจฉาชีพทำแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ซึ่งถือว่าปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้ต้องดูเจตนาเป็นสำคัญ เพราะหากได้รถมาใหม่ แต่ไม่ได้ป้ายทะเบียนมาใช้ เจ้าของรถก็คงต้องทำป้ายเองเหมือนที่ผ่านๆ มา กรมการขนส่งทางบกต้องเข้าไปจัดการด้วย
"หาก ใช้แผ่นป้ายปลอม เป็นความผิดแน่นอนแต่หากเป็นรถเราเอง และมีหลักฐานแสดงแน่ชัด บางครั้งเจ้าหน้าที่อาจอะลุ่มอล่วยให้บ้างต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญที่สุดว่า หากใช้แล้วมีใครเสียหายหรือไม่ แต่หากต้องการนำรถที่ไม่ใช่ป้ายแดงจริงมาใช้ ก็ยังคงเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมอยู่ดี" พ.ต.ท.อรรถพรกล่าว
แหล่ง ข่าวจากบริษัท เคมอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายรถโตโยต้า กล่าวว่า บริษัทไม่มีนโยบายผลิตป้ายแดงป้อนให้ลูกค้า เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหากับลูกค้าจนถึงต้องถูกจับ โดยต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เพิ่มป้ายแดงอีก 500 ชุดจากช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่เพิ่มไปแล้ว400 ชุด ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีป้ายแดง เพื่อใช้หมุนเวียนให้ลูกค้าประมาณ 2,500 ชุด เพียงพอกับความต้องการ เพราะกระบวนการประสานงานเอกสารต่างๆ ให้ลูกค้า เพื่อนำไปจดทะเบียนจะเฉลี่ยไม่เกิน 2 สัปดาห์ หรืออาจช้ากว่านั้นเล็กน้อย ทำให้มีป้ายแดงนำกลับมาใช้หมุนเวียนให้ลูกค้ารายใหม่ได้
"ตั้งแต่ มีงานมอเตอร์โชว์ และกำลังการผลิตของบริษัทโตโยต้าเริ่มกลับมาปกติ ช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา บริษัทได้เห็นสัญญาณว่าต้องเกิดความต้องการที่สูงมากแน่ๆ จึงเพิ่มจำนวนป้ายแดง 400 ชุด และต้นเดือนกรกฎาคม ได้เพิ่มอีก 500 ชุด ลูกค้าที่ซื้อรถจากบริษัทไม่มีปัญหาแน่นอน"
แหล่งข่าวจากผู้จำหน่ายรถยนต์รายหนึ่งกล่าวว่า ปกติค่ายรถยนต์จะสามารถจัดเอกสารให้ลูกค้าได้แล้วเสร็จภายใน 3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับแต่ละค่ายว่ามีหลักเกณฑ์อย่างไร เช่น บางบริษัทต้องติดตั้งอะไหล่เรียบร้อยแล้วค่อยได้เอกสารหรือบางบริษัทต้อง เคลียร์กระบวนการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะจำนวนความต้องการรถในท้องตลาดสูงแบบก้าวกระโดด และกรมการขนส่งทางบกอาจไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดความต้องการสูงขนาด นี้สุดท้ายทำให้ป้ายแดงไม่เพียงพอ จนกลายเป็นปัญหา
"ตอน นี้มีรถจำนวนมากที่ต้องติดป้ายขาวที่เป็นกระดาษ เพราะไปจดทะเบียนแล้วป้ายทะเบียนจริงไม่เพียงพอ เพราะผลิตไม่ทัน โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมายอดจำหน่ายรถยนต์เติบโตสูงมาก" แหล่งข่าวกล่าว และว่า อย่างไรก็ตามจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้จองรถยนต์ในโครงการรถคันแรกภายในวันที่ 31 ธันวาคม นี้และส่งมอบรถได้ไม่มีกำหนด จะไม่ทำให้ยอดจองรถยนต์ขยายตัวก้าวกระโดดไปมากกว่าที่ผ่านมา เพราะมองว่าความต้องการน่าจะถึงระดับที่มากพอสมควรแล้ว ยกเว้นมีค่ายรถยนต์ออกโปรโมชั่น หรือมีรุ่นนำเสนอแบบไม่คาดคิดซึ่งนับจากช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่กรมการขนส่งทางบกน่าจะรู้ปัญหา และสามารถจัดการแก้ปัญหาได้จนปัญหานี้ทุเลาลง
ประกันภัยรถยนต์