Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทดลองขับ Mitsubishi Pajero Sport V6 3.0 ลิตร 219 PS by J!MMY Headlightmag  (อ่าน 6406 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
chanavorn
Jr. Member
**

like: 20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 947



อีเมล์
« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 02:56:19 pm »

ทดลองขับ Mitsubishi Pajero Sport V6 3.0 ลิตร 219 PS : แรงสุด และกินสุด ในตลาด SUV/PPV



********** สรุป **********
ถ้าอยากได้ครบทั้งหรู และแรง แถมคิดเอาไปติดก๊าซด้วย ก็ต้องคันนี้แหละ!

ตาเอก Backseat Driver เพิ่งเล่าให้ผมฟังว่า ตัวเลขยอดขายรถยนต์ประเภท SUV / PPV ในบ้านเราตอนนี้
บ่งชี้ว่าแนวโน้มความต้องการ SUV/PPV ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แต่ตกแต่งในระดับที่ ต้องหรูหราไม่แพ้
รุ่นท็อป กำลังเพิ่มความนิยมขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งโดยเฉพาะ ถ้าเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน จะมีกลุ่มลูกค้ากลุ่มหนึ่ง ให้ความสนใจเป็นพิเศษ คนกลุ่มนี้
ตั้งใจแล้วว่า ซื้อรถปุ๊บ จะนำไปติดตั้งระบบก๊าซ ไม่ว่าจะเป็น LPG หรือ CNG โดยไม่สนใจว่า เข้าข่าย
เป็นการดัดแปลงเครื่องยนต์ และทำให้หมดอายุการรับประกันในส่วนของระบบส่งกำลังและเครื่องยนต์
ทั้งหมดได้

แต่พวกเขา ไม่แคร์ จะเพราะไม่รู้ ไม่สนใจ หรือเหตุผลใดก็ตาม ลูกค้าที่คาดว่าจะนำรถไปติดตั้งระบบก๊าซ
ทั้งหลายนั้น มีแนวโน้มว่าจะเป็นคนที่ใช้งานรถค่อนข้างหนัก ระยะทางในแต่ละวันเยอะอยู่ อัตราเร่งที่
ต้องกระฉับกระเฉง เป็นเรื่องที่ลูกค้ากลุ่มนี้ ยังคาดหวังแอบซ่อนไว้อยู่เบื้องลึก โดยใช้ความประหยัดน้ำมัน
ฉาบเคลือบความต้องการด้านอัตราเร่งของตนเองเอาไว้

ทางเลือกในตลาด เพื่อลูกค้ากลุ่มนี้ ที่ผ่านมา มีไม่มากนัก และไม่ใช่ทางเลือกที่โดนใจพวกเขาเท่าไหร่

แม้ว่า Toyota Fortuner เพิ่งจะมีรุ่นเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ 171 แรงม้า (PS) พร้อมเกียร์อัตโนมัติใหม่
5 จังหวะ เหมือนชาวบ้านเขาสักที รวมทั้งการมาถึงของ Chevrolet Trailblazer ก็ยิ่งทำให้ตลาดกลุ่มนี้
มีสีสันน่าติดตามมากยิ่งขึ้น เพราะ ลำพัง Isuzu MU-7 และ Ford Everest ไม่อาจจะท้าชิงกับคู่แข่งหลัก
ทั้ง Fortuner กับ Pajero Sport ได้อย่างที่ควรจะเป็น เพราะขาดความสดใหม่ และความน่าตื่นตาตื่นใจ
ที่จะดึงลูกค้าให้เดินเข้าโชว์รูม

แต่ในเมื่อ Fortuner 2.7 ลิตร เบนซิน ทำอัตราเร่งออกมาได้ ไม่ดีเลย อีกทั้ง Isuzu ก็ไม่คิดจะทำ MU-7
รุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน ทั้งรุ่นปัจจุบัน และรุ่นใหม่ที่จะต้องมีกำหนดคลอดในช่วงปี 2013 - 2014 ก็จะ
ไม่มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือก ขณะที่ Ford Everest เอง แม้จะมีเครื่องยนต์เบนซิน แต่ก็ยังอยู่ใน
อาการ ลูกผีลูกคน ว่าจะติดตั้งมาให้ด้วยหรือไม่ ส่วน Trailblazer เอง ก็ยังไม่มีรุ่น 2.8 ลิตร LTZ1 2WD
ซึ่งเป็นรุ่นย่อยที่เชื่อว่าน่าจะตอบโจทย์หลายๆครอบครัว ซึ่งไม่ต้องการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้ดีกว่า
พวกเขายังไม่ทำออกมาขาย รอกันอีกนานแค่ไหนก็ยังไม่รู้ ต่อให้เป็นคนของ GM ก็ไม่อาจล่วงรู้

ดังนั้น การเปิดตัว Pajero Sport รุ่น เบนซิน V6 3.0 ลิตร ในครั้งนี้ ต้องให้เครดิตกับ Mitsubishi Motors
Thailand ว่าปรับตัวต่อความต้องการของลูกค้าในตลาด ได้เร็วขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เพราะ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ติดรถ หรือสมรรถนะจากเครื่องยนต์ จะถูกใจบรรดาพ่อบ้านรุ่นใหญ่ ที่มอง
รถยนต์ตรวจการยกสูงคันใหญ่ ไว้ไปเที่ยวทางไกล แต่ไม่ได้ลุยเข้าไปในป่าในทุ่งมากนัก ขับบนถนน
ทางหลวงทางเรียบไปเรื่อยๆ เจอรถช้าวิ่งขวา ก็เหยียบครึ่งคันเร่ง แซงปรู๊ดทิ้งหายไปไม่เห็นฝุ่น

อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง คือสิ่งที่ทำให้ความน่าสนใจ หดหายไปทันที ถ้าคิดจะใช้รถคันนี้
ในแบบเดิมๆ ไม่ติดตั้งระบบเชื้อเพลิงทางเลือกใดๆ เพราะอัตราสิ้นเปลืองนั้น มันไม่ได้แตกต่างไปจาก
บรรดา SUV รุ่นใหญ่ๆ ตลอดช่วง 10 กว่าปี มานี้เลย และมันเป็นสิ่งหนึงที่ทำให้คุณงามความดีของรถ
ที่กำลังเปล่งแสงเจิศจรัส ต้องมัวหมองลงไปพอสมควร

คำถามก็คือ...แล้วคุณควรจะเลือกทางไหนดี?



เชื่อว่าหลายๆคนที่กำลังจับจ้อง Pajero Sport ไว้ แม้ว่าส่วนใหญ่จะมองรุ่น 2.5 Diesel VG Turbo เป็นหลัก
แต่ก็มีลูกค้าบางกลุ่ม ที่อยากได้เครื่องยนต์ เบนซิน เผื่อเอาไว้ว่าสักวันหนึ่ง จะนำไปติดตั้งระบบก๊าซ ทั้ง
แบบ LPG หรือ CNG ก็ตาม

ถึงจุดนี้ มันขึ้นอยู่กับคุณผู้อ่านแล้วละครับว่า อยากใช้รถในรูปแบบใด

ถ้ามั่นใจว่า จะใช้ระบบก๊าซ ยอมรับได้ในกรณีที่การรับประกันคุณภาพในส่วนระบบส่งกำลังและเครื่องยนต์
จะต้องหมดลงทันที ที่คุณไปติดตั้งระบบก๊าซ  (ส่วนอื่นๆที่เหลือ จะยังมีการรับประกันอยู่ และน่าจะเคลม
เปลี่ยนชิ้นส่วนได้ เช่นพวก เบรก หรือช่วงล่างด้านหน้า) อีกทั้งมั่นใจว่า ไม่แคร์เรื่องการซ่อมบำรุง กับงาน
บริการหลังการขาย เพราะฉันก็เอาเข้าอู่นอกอยู่ดี ไม่ซ่อมกับศูนย์บริการแน่ๆ ขอแค่ว่า ประหยัดค่าเชื้อเพลิง
แต่ได้อัตราเร่งทันอกทันใจ ขับไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องกังวลค่าน้ำมัน แต่อาจต้องหมั่นขยัน ไปเช็คปรับตั้ง
วาล์วไอดีกันทุก 40,000 กิโลเมตร อันเป็นคำแนะนำมาตรฐานสำหรับรถติดตั้งระบบก๊าซ

ที่สำคัญคือ ไม่กลัวเรื่องความเสี่ยงในการใช้ก๊าซ กับรถยนต์ ซึ่งในความจริงแล้ว ก็ยังน่ากลัวอยู่ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย
เจอ อู่ติดก๊าซที่ดีๆ ก็ดีไป เจออู่ห่วยๆ ก็ซวยกันไป ไฟไหม้ระเบิดโป้งป้างขึ้นมา อู่เขาก็ไม่ค่อยจะรับผิดชอบอะไร
เว้นแต่จะติดตั้งกับ บริษัทใหญ่ๆ ประสบการณ์ดีๆ อันนี้จะพออุ่นใจได้ เพราะบางราย มีประกันภัยแถมให้

คำตอบชัดเจนเลยครับ รุ่น V6 3.0 ลิตร ใหม่ ตอบโจทย์คุณได้ชัดเจนกว่า ในราคาแค่ 1,295,000 บาท เท่านั้น!

แต่...ถ้ายังกลัวเรื่องการติดตั้งก๊าซในรถยนต์ และยังอยากได้ความแรง รวมทั้งระยะทางแล่นที่ไกลกว่า จากการ
เติมน้ำมัน 1 ถังเต็มๆ เพียงแต่อาจต้องมานั่งเลือกสถานีบริการน้ำมัน ที่ดูใหม่ และมั่นใจได้ รวมทั้งอาจต้อง
เสียโอกสในการนำรถไปติดก๊าซ เนื่องจาก การติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ Diesel นั้น แม้จะทำได้แต่แพงมาก
กว่ารถยนต์เบนซิน และผลลัพธ์ที่ได้ ไม่คุ้มเลยกับเงินที่ต้องจ่ายออกไป.....

2.5 Diesel VG Turbo คือคำตอบที่ดีกว่าชัดเจนครับ!

J!MMY
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความ โดยผู้เขียน
ลิขสิทธิ์ภาพถ่าย รถยนต์ในประเทศไทย ทั้งหมด เป็นผลงานของผู้เขียน
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
26 สิงหาคม 2012

Copyright (c) 2012 Text and Pictures
Use of such content either in part or in whole without permission is prohibited.
First publish in www.Headlightmag.com
August 26th,2012 





http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=4261:%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A-Mitsubishi-Pajero-Sport-V6-3-0-%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3-219-PS-%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2&catid=75:midsize-suv&Itemid=94
อ่านบทความเต็มๆได้จากลิ้งก์นี้นะคร้าบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 26, 2012, 03:19:29 pm โดย chanavorn » บันทึกการเข้า
pajerosportman
PaTu (ตู๋)
Hero Member
*****

like: 201
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7902



อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 03:04:37 pm »

                                likeความรู้คื ประทีป ครับ red heart
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 03:16:15 pm »

ขอเติมเต็มหน่อยครับ เด๋วสมาชิกจะเอาข้อมูลไปไม่ตรง ด้วยความเคารพครับ

...6b31 Mivec ใช้วาวล์แบบ ปรับตั้งแบบอัตโนมัติโดยระบบใฮดรอลิค..
...และเติมอีกนิด.. แรงอัดกระบอกสูบ 10.5 :1 (ได้ใช้ประสิทธิภาพของ LPG ได้เต็ม (105))
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Seaman_4WD
Newbie
*

like: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 281



« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 03:38:02 pm »


ขอบคุณที่นำบทความดีๆมาฝากกันครับ
บันทึกการเข้า

กวนไปเรื่อย เหนื่อยก็พัก
Pooh_PJS
Jr. Member
**

like: 16
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 968


PJS No.1515


« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 07:21:10 pm »

ดูตารางตัวเลขด้านอัตราเร่ง ทั้งจากจุดหยุดนิ่ง > 100 ทั้ง 80 > 120 แล้ว อิจฉาตาร้อน
ทิ้ง 2.5 VG เป็นทุ่งเลย 
บันทึกการเข้า
veeraa332000
Jr. Member
**

like: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 788


PA ขาวมุก No.1001

veera_a332000@hotmail.com
« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 10:11:17 pm »

ขอเติมเต็มหน่อยครับ เด๋วสมาชิกจะเอาข้อมูลไปไม่ตรง ด้วยความเคารพครับ

...6b31 Mivec ใช้วาวล์แบบ ปรับตั้งแบบอัตโนมัติโดยระบบใฮดรอลิค..
...และเติมอีกนิด.. แรงอัดกระบอกสูบ 10.5 :1 (ได้ใช้ประสิทธิภาพของ LPG ได้เต็ม (105))

หมายความว่าV6ไม่ต้องตั้งวาวล์ทุก40,000โล แต่วาวล์ยันเมื่อไหร่ก็เปิดฝาบดวาวล์ถูกต้องมั้ยครับ..ป๋า ผมเคยใช้รถติดแกสและใช้วาวล์โฮดรอลิควิ่งได้ประมาณ200,000โล วาวล์ยันแล้วครับ
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 08:53:47 am »

เปิดฝาสูบ เพื่อทำบ่าวาล์วใหม่ เหรอครับ
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
gearban
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 07:47:58 pm »

9.75 ทำได้ไงอะ เต็มที่ผมทำได้แค่ 8.5 เท่านั้นเอง แค่นี้ก้อแฮปปี้แล้วครับ
บันทึกการเข้า
chanavorn
Jr. Member
**

like: 20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 947



อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 08:02:17 pm »

อัตราสิ้นเปลืองที่คุณจิมมี่ทดสอบไว้นี้ เป็นตัวเลขที่ดีที่สุดสำหรับรถเดิมๆครับ
เพราะใช้มาตรฐานของเขาที่ใช้กันตลอดคือ
น้ำมันเบนซิน95เพียวๆเติมเต็มถังรีเซตระยะทาง
นั่ง2คนเปิดแอร์ ขับ110ตลอดทาง
ใช้ทางด่วนโล่งๆตอนกลางคืน
เติมน้ำมันกลับให้เต็มถังแล้วคำนวณจากระยะทางที่วิ่งไป
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 21 คำสั่ง