อาจซำกับพี่ๆป๋าๆ กราบขออภัยคับ
มิตชูบิชิ MITSUBISHI
ชื่อ มิตซูบิชิ เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “ THREEDIAMONDS” ในภาษาอังกฤษ หรือ “เพชรสามเม็ด” ใน ภาษาไทย สัญลักษณ์ของมิตซูบิชิจึงให้ความหมายตรงกับชื่อทุกประการ เพราะเป็นรูปเพชรสีแดงสาม เม็ดวางเรียงกันเป็นรูปใบไม้สามแฉกมิตซูบิชิใช้สัญลักษณ์นี้มาตั้งแต่ปี1908 โดยดัดแปลงมาจากตรา ประจำตระกูลของมร. ยาตาโร อิวาซากิ (YATARO IWASAKE) ผู้ก่อตั้งกิจการซึ่งเป็นรูปเพชรสามเม็ด วางซ้อนกันอยู่ภายในรูปแปดเหลี่ยม กับตราประจำตระกูลของ มร. ยาราโร อิวาซากิ(TOSA YAMAUCHI) ซึ่งเป็นรูปใบโอ๊ดสามใบวางเรียงกันเป็นสามแฉกประวัติความเป็นมาของมิตซูบิชื มอเต อร์ส คอร์พอเรชั่น (MITSUBISHE MOTORS CORPORA TION) ผู้ผลิตรถมิตซูบิชิสามารถย้อนหลังไป ได้ถึงปี1870 อันเป็นปีที่ มร. ยาตาโร อิวาซากิก่อตั้งบริษัทรับส่งสินค้าขึ้นในเมืองโอซากา มีชื่อว่าบริษัท ทสึคูโม โชกาอิ (TSUKUMO SHOKAI) สามปีหลังจากนั้นชื่อ มิตซูบิชิ ก็กำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ มร. อิ วาซากิเปลี่ยนชื่อกิจการของเขาเป็น มิตซูบิชิโชกาอิ (MITSUBISHI SHODAI)
ในช่วง 6 ทศวรรษหลังจากนั้นกิจการของมิตซูบิชิขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการก่อตั้งบริษัทในเครือขึ้น หลายบริษัทและมีการผลิตรถยนต์4 ล้อออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 1917 มีชื่อว่ารถมิซูบิชิโมเดล-เอ (MITSUBISHI MODEL-A ) โดยผลิตขึ้นตามแบบรถ เฟียต ของอิตาลีในช่วงเวลา 5 ปีระหว่างปี1917-1921 มิตซูบิชิผลิตรถแบบนั้นออกจำหน่ายเพียงประมาณ 20 คัน ก่อนเปลี่ยนกิจการจากการผลิตรถ บรรทุกและรถโดยสารโดยใช้ชื่อ ฟูโซ (FUSO) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มิตซูบิชิเป็นผู้ผลิตรถถัง เรือรบและยุทธภัณฑ์ประเภทต่างๆ ให้แก่กองทัพญี่ปุ่น ดังนั้นเมื่อสงครามสงบและกองทัพพันธมิตรเข้า ยึดครองญี่ปุ่น มิตซูบิชิจึงถูกบีบบังคับให้แยกกิจการออกเป็น 3 ส่วนคือ มิตซูบิชิชิพบิลดิง แอนด์ เอนจิ เนีย (MITSUBISHI SHIPBUILDINGAND ENGINEER CO;LTD.) และมิตซูบิชิ นิปปอน เฮฟวี่อินดัสตรัส์ (MITSUBISHI HEAVYINDUSTRIES LTD.)
อย่างไรก็ตาม 12 ปีหลัง จากนั้นคือในปี 1964 ทั้งสามบริษัทก็รวมตัวเป็นบริษัทเดียวกันอีกครั้งหนึ่งภาย ใต้ชื่อ มิตซูบิชิเฮฟวี่อินดัสตรัส์ โดยที่ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกจำหน่ายมีตั้งแต่ เบียร์กล้องถ่ายภาพ อากาศยาน คอมพิวเตอร์ ไปจนถึง รถขุดดิน เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ รถยนต์และเรือใบ และมีฐานะเป็น บริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในโลกรายหนึ่ง ในปี 1970 กิจการผลิตรถยนต์ซึ่งกำลังขยายตัวอย่าง รวดเร็วก็ถูกแยกออกมาเป็นบริษัทต่างหากมีชื่อว่าบริษัท มิตซูบิชิมอเตอร์ส คอร์พอเรชัน (MITSUBISHI MOTORS CORPORATION) และหนึ่งปีหลังจากนั้น มิตซูบิชิก็ตัดสินใจร่วมมือกับ ไครสเลอร์คอร์พอเร ชัน (CHRYSLER CORPORATION) บริษัทผู้ผลิต รถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐอเมริกาโดย ยอมให้ไครสเลอร์เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 35 ของมิตซูบิชิมอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ผลลัพธ์จากความร่วมมือ ดังกล่าวทำให้กิจการผลิตรถยนต์ของมิซูบิชิเติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถขยายกำลังผลิตถึงระดับ 1 ล้านดันต่อปีได้เป็นครั้งแรกในปี 1979 ปัจจุบัน มิตซูบิขิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ราย ใหญ่อันดับ12 ของโลก รถยนต์ที่ผลิตออกจำหน่ายมีตั้งแต่รถยนต์นั่ง รถบรรทุกรถจีพขับ 4 ล้อ ไป จนถึง รถบัส รถเทรเลอร์และรถที่ใช้ในงานก่อสร้าง ในรอบปี1990 ผลิตรถยนต์ได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,335,000 คันและทำยอดขายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 434,000ล้าน ชื่อบริษัท: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน (MITSUBISHI MOTORS CORP.) ก่อตั้ง: ค.ศ. 1917 สำนักงานใหญ่: 33-8, SHIBA 5-CHOME, MINATO-KU, TOKYO, JAPAN โรงงานในญี่ปุ่น: 8 โรงงาน กิจการในต่างประเทศ: สหรัฐอเมริกา เยอรมนีตะวันตก สาธารณรัฐประชาชนจีน ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ออสเตรเลีย นิซีแลนด์ มาเลเชีย ฯลฯ เว็บไซต์:
www.mitsubishimotor.comรถรุ่นสำคัญ: มิตซูบิชิซัปโปโร (1976) มิตซูบิซิ โคลท์ขับล้อหน้า (1978) มิตซูบิชิ แอล 200 (1978) มิตซูบิชิ แอล 300 (1979) มิตซูบิชิ ปาเจโร มอนเตโร (1982) มิตซูบิชิ กาแลนท์วีอาร์4 (1988) มิตซูบิชิ ไดอะมันเต (1990) เอคสิพส์ (ECLIPSE) กาแลนท์ซิกมา (GALANT SIGMA) อีเทอร์นา ซิกมา(ETERNA SIGMA) กาแลนท์(GALANT) อีเทอร์นา (ETERNA) มิราจ (MIRAGE) แลนเซอร์ (LANCER) ชาริโอต์(CHARIOT) มินิคา (MINICA) ฯลฯ