จุดตัดและความกว้าง

[khwan2511]

รบกวนสอบถามป๋า ๆ พอดีได้ลองปรับแต่งเสียงตามที่ในกะทู้แนะนำแล้วเสียงดีขึ้นมาก ตามนี้
ปรับ Bass engine ให้มีจุดตัดที่ 60    ความกว้าง 2   และปรับตั้ง bass ที่ +2
ปรับ Treble ให้มีจุดตัดที่ 15.xk    ความกว้าง 1   และปรับตั้ง Treble  ที่ +5
แต่อยากทราบเพิ่มเติม เพื่อที่จะให้ตรงกับจุดประสงค์ในการฟังยิ่งขึ้นว่า
1.คำว่า "จุดตัด" มีความหมายยังไง มีประโยชน์และควรปรับแต่งแต่ละจุดตัดที่แตกต่างกันตอนไหนหรือแต่ละจุดตัดให้เสียงต่างกันยังไง
2.คำว่า "ความกว้าง" มีความหมายยังไง มีประโยชน์และควรปรับแต่งแต่ละความกว้างที่แตกต่างกันตอนไหนแต่ละความกว้างให้เสียงต่างกันยังไง
3. ถ้าเราติด BASS BOX แล้ว การปรับค่า Bass engine ที่ฟร้อน จะเป็นการปรับค่าของลำโพงติดรถอย่างเดียวหรือ ค่าของ BASS BOX  ด้วยค่ะ

ขอบคุณมาก ๆ  

[plee]

1.จุดตัด หมายถึงจุดตัดความถี่ 60 คือ 60Hz  ความถี่เสียงเบส ลงได้ 60Hz
2.ความกว้างก็น่าจะหมายถึงความกว้างของเสี่ยงเบส 1 น้อย 2 แผ่กว้างมากขึ้น 3,4 มากขึ้นตามลำดับ
3.มีผลครับ ลองฟังเปรียบเทียบดูระหว่างปรับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัย

[Koonkab]

อยากรู้เหมือนกันครับ  ค่ากลางๆต้องปรับที่เท่าไหร่ครับ(ถ้าเราเพิ่มเบสบ็อกแล้ว)แล้วต้องปรับอะไรเพิ่มอีก^¥^

[GUNT@NERY]

อัลไฟร์ สามารถต่อสายและปรับเบสบ้อคได้ที่ฟร้อนเลยครับ  ของดี  ไม่ต้องต่อรีโมทเลย   

[Punpun]

ในที่นี้
---- จุดตัดที่ป๋าในเวบเขาคงหมายถึง  Lift up ที่ความถี่ตรงประมาณนี้ ส่วนความกว้าง ? (ไม่เคยใช้ตัวเล่นตัวนี้เลยเดาไม่ออก หรือให้เดาน่าจะหมายถึง ความถี่ใกล้เคียงคือ น้อยกว่า 60 กับมากกว่า 60 ถ้าเป็นกราฟก็คง ข้างซ้ายกับข้างขวาของ 60hz ) คือดึงขึ้นมาทั้งย่านซ้ายและย่านขวา ความกว้างน่าจะหมายถึงความถี่ใกล้เคียงแบบนี้กระมังครับ  ถ้าเป็นเครื่อง equalizer แบบ Parametric ก็จะทำงานที่ย่านข้างเคียงแบบยกทั้งแผงเลย แต่ถ้าละเอียดยิบยิบก็แบบ equalizer แบบมีหลายไสลด์สวิทช์
---  ส่วนคำว่า ปรับตั้งที่ +2 นี่ มันจะเร่งความดังของย่านเสียงที่เรากำหนด +1 +2+3 เสตบนี้ ขึ้นอยู่กับเครื่องไหน จะเร่งไปกี่ db คำว่า 1 หรือ 2 ไม่ได้หมายความว่าเป็นค่า db
--------------------------------------------------------------------------------
" มีประโยชน์และควรปรับแต่งแต่ละจุดตัดที่แตกต่างกันตอนไหนหรือแต่ละจุดตัดให้เสียงต่างกันยังไง"
--- การปรับแต่งดังกล่าวที่พูดถึงในนี้ น่าจะหมายถึงอุปกรณ์ทุกอย่างเหมือนกันเช่น เครื่องเล่น ลำโพง อื่นอื่นอีก เหมือนกันเป๊ะเลย เพราะเมืออุปกรณ์ ต่างต่างไม่เหมือนกัน การปรับต้องว่ากันที่แต่ละชุดเลยทีเดียว
-- "แต่ละจุดตัดให้เสียงแตกต่างกันอย่างไร" อันนี้ต้องทำความเข้าใจกันแบบกลับไปหาพื้นถานของเสียงกันเลยว่ากันยาว เอาบีบแคบเข้ามาคุยกันนิดก็พอได้ ยกตัวอย่างเช่น เสียงร้องของนักร้องจะอยู่ที่ย่านประมาณกี่ hz เสียงกระเดื่องกลองชุด ประมาณกี่ hz ถ้าเราศึกษาแล้วว่าอยู่ย่านไหนก็เลือกปรับชดเชยแถวความถี่นั้น แต่มันออกจะกว้างมากเลยทีเดียวก็เลยต้องประมาณกันเอาจาก  ความจำของเราที่คุ้นเคยกับเสียงนั้นนั้น
"3. ถ้าเราติด BASS BOX แล้ว การปรับค่า Bass engine ที่ฟร้อน จะเป็นการปรับค่าของลำโพงติดรถอย่างเดียวหรือ ค่าของ BASS BOX  ด้วยค่ะ"  หน้ามันเต็มเด๋วขึ้นใหม่ครับ

[Punpun]

--- Bass box ก็ไม่เคยใช้อยู่ดีแต่ ขอเดาให้มันจบคำถามได้ คงไม่หนีพื้นถานไปเท่าไรอะนะครับ
Bas box ถ้ารับสัณ๊ญานมาจากภาคปรีในเครื่อง front end ก็ ก็จะได้รับผลจากการปรับแต่งสัณญานออกมาด้วย  แต่ต้องระวัง bass box แต่ละตัวก็ บางตัวอาจจะมีการ design ให้ปรับแต่งที่ internal power amp ของมันอีกชั้นหนึ่งด้วย ก่อนปรับจูนทั้งระบบ ควรจะเริ่มปรับทุกอุปกรณ์ ที่ปรับเสียงได้ให้อยู่ในโหมด Flat หรือ เดิม เดิมแบบไม่ปรับหรือลดให้หมดก่อนเช่น bass, treble volume ต่างต่าง
ให้ไปอยู่ที่ Flat  หรือ ที่ไม่ได้มีกานปรับแต่งเลยที่ 0 ....    แล้วเริ่มฟังไปเรื่อยเรื่อย ค่อยปรับทีละอย่างไปเรื่อยเรื่อย ( อันนี้ละยาก) เพราะต้องปรับหูของเราให้เป็นตัวอ้างอิงที่ดีในการปรับ
วิที upgrade หูของเราให้ได้รับรู้และคุ้นเคยกับเสียงดนตรีที่ใกล้เคียงเสียงจริง
-- หมั่นไปดูดนตรีสดสด ยกตัวอย่างใน Pub เล็กเล็ก ยิ่งเป็น Acoustic มากมากยิ่งดี
-- ไปงานโชว์เครื่องเสียง Hi-End แล้วไปฟังห้องที่แพงแพงเลยนะ (ฟรีทั้งนั้น สนุกด้วย)
-- แล้วยัดเยียดให้หูเราคุ้นเคยกับมันจนขึ้นใจ เพื่อเป็นแนวทางในการไปปรับเสียง
-- ถ้าไม่มีโอกาสเลย ทางออกที่พอไปได้คือ แค่หูฟังดีดี แล้วฟังก็ยังพอไปได้  ไม่เอาเล่นจาก MP3 หรือ เพลงที่ผ่านการลดขนาดข้อมูลต่างต่างนะ เอาเสียงจาก CD ที่ขายทั่วไปเลย
-- ทัายสุด การที่เราไปใช้การปรับแต่งเสียง  อย่าลืมว่าอุปกรณ์การปรับแต่งเสียงตัวมันเองก็อาจทำให้เสียงแย่ลงไปหลายด้านเช่นกัน แต่ในรถยนต์มีข้อยกเว้นให้พอไปได้ เพราะ จะหาชุดเครื่องเสียงที่ลงตัวโดยไม่ปรับแต่งเลย โอกาศที่ได้มักจะหายากมาก มันมีเสียงรบกวนเงื่อนไขทาง  Environment มากเลย แต่ถ้าเป็น Home use ละก็ถ้าset ดีดีแล้วแทบไม่ต้องปรับกันเลยก็ว่าได้
***** เนื่องจากเรื่องมันต้องโยงไปยาวกันเป็นหลายกระทู้ ขอตัดตอนจบแค่นี้เลยละกัน  เด๋วก็จะเพิ่ม ? กันไปยาว  เพราะถ้าจะให้เครียร์ก็ต้องอ้างไปโน้นนิด โน้นหน่อย ****

ว่าแต่ว่าคนถาม ตั้งคำถามได้เหมือนกับเข้าใจทะลุปรุโปร่งอยู่แล้วเลย หรือไม่ก็วิทีคิดเหมือนกับ Engineer อยากได้คำตอบให้ตรงประเด็นและเข้าใจได้ แต่มันต้องเป็นคำตอบที่ยาวมากมาก
  อันนี้แซวนะ ล้อเล่น   

[Punpun]

อยากคุยเรื่อง การ damp ประตู มานานแล้ว เอาความเห็นของผมเองเลยนะมาแชร์กัน
-- ผมเสียดายการแกะประตูที่ติดมาจากโรงงานมากเลย โอกาศที่แกะออกมาแดมป์แล้วจะกลับมาให้สนิทเหมือนเดิมคงเหลือน้อยกว่า 90 %
-- เมื่อรวมมูลค่าค่าเสียหายแล้ว น่าจะเยอะอยู่มากเลย
-- เงินประมาณนั้นได้ของเล่นได้อีกตั้งหลายอย่าง อาจจะเท่ากับ HD player + 2 TB Drive เลย
-- ถ้าเราตัดความถี่เสียงที่ต่ำกว่า 150 ลงไป ให้กับ sub woofer ไปแล้ว ลำโพงที่อยู่ข้างประตูแทบไม่ได้ขับเสียงย่านนั้นอีกเลย resonance ที่จะไปกระทำกับแผงประตู ( เสียงที่ประตูได้รับจากลำโพงแล้วไปเฃย่าตัวมันเองทำให้เกิดเสียงอีกย่านหนึ่งตามมา (ที่เราไม่ต้องการเสียด้วย)..)

***แค่มาแชร์ความเห็นครับ เหมือนคุยกันสนุกนะ****

[ปาอ้วน]

  ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความรู้ เอาอีกครับป๋าPunpun ชอบครับ

[Punpun]

ตายละ มีคนแอบชอบอ่านของเราสะด้วย อิ.... โค้งรับคำชมครับ