Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลูกปืนพวงมาลัยกับหยดน้ำจากท่อเย็นระบบปรับอากาศ  (อ่าน 6889 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Suriya(PaC)
อั๊ยยยย่ะ..มหานคร
Hero Member
*****

like: 598
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2506


มือถือ:๐๙๑-๗๒๙-๖๙๙๖ [สุริยา วิทยาประดิษฐ์]


อีเมล์
« เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 10:02:28 am »

ตามที่ป๋าๆสงสัยว่าพวงมาลัยล็อกที่เกิดจากลูกปืนพวงมาลัย สาเหตุอาจเกิดจากจารบีคุณภาพต่ำหรือสาเหตุที่เกิดจากหยดน้ำจากท่อเย็นระบบปรับอากาศ และยังหาข้อสรุปไม่ได้
แต่ผมได้ DIY เรื่องการส่งน้ำออกจากลูกปืนพวงมาลัย ตามกระทู้ด้านล่างนี้ (ผมไม่หุ้มท่อแอร์ คนที่มีความรู้ด้านนี้ไม่เห็นด้วย)
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=4213.0
ซึ่งอุปกรณ์หลักคือพลาสติกรูปบูมเมอแรงที่ผมยึดติดที่ท่อเย็นตามรูปที่ 1
รูปที่ 1 พลาสติกสำหรับส่งน้ำออกจากลูกปืนพวงมาลัย


ต่อมาเมื่อวาน 15 ก.ย.2555 เวลา 14:45 น.ผมตั้งระบบปรับอากาศที่อุณหภูมิ 25 องศา และระดับพัดลมเบาสุดตามรูปที่ 2
รูปที่ 2 ตั้งระบบปรับอากาศ


แล้วขับรถจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครไปทำภาระกิจที่สี่แยกหนองจอก ใช้เส้นทางถนนเชื่อมสัมพันธ์ตามรูปที่ 3 ระยะทางเพียง 5 กม.กับเวลาแค่ 12 นาที
รูปที่ 3 เส้นทางที่ใช้ทดสอบ


เมื่อถึงปลายทางผมจอดรถแล้วบิดพวงมาลัยไปตำแหน่งซ้ายมือสุด จากนั้นลงมาดูพบทางน้ำเป็นบริเวณกว้างดังในรูปที่ 4
รูปที่ 4 ทางน้ำจากระบบปรับอากาศ

จากรูปที่ 4 ที่มีลูกศรสีแดงชี้คือน้ำจากท่อเย็นระบบปรับอากาศ ส่วนวงกลมสีแดงคือหยดน้ำที่ไหลลงมา ผมลองนับอัตราการหยดของน้ำได้ประมาณ 18 วินาทีต่อหนึ่งหยด

วันต่อมาผมลองตั้งพัดลมที่ AUTO และอุณหภูมิที่ 25 องศาแล้วทดลองใหม่อีกครั้งพบว่า น้ำจากท่อเย็นของระบบปรับอากาศยังออกมามากเหมือนเดิม ถ้าป๋าๆทั้งหลายที่ยังไม่ได้ DIY ใดๆกับท่อเย็นของระบบปรับอากาศ อยากให้หาที่รองรับหยดน้ำแล้วจับเวลาดูว่าได้กี่ CC ผมว่าจะได้ความชัดเจนมากขึ้น

สำหรับผมคิดว่าถ้าวิ่งนานๆ น้ำพวกนี้คงมีปัญหากับลูกปืนพวงมาลัยแน่ๆ ป๋าๆคิดอย่างไร ผมบ้าหรือเปล่าไปนั่งนับหยดน้ำ น่าจะเป็นน้ำหรือจารบี หรือทั้งสองอย่าง
มีป๋าๆถามผมว่าพลาสติกที่นำมาใช้มีปัญหากับความร้อนหรือไม่ ผมใช้มาหลายเดือนสภาพยังปกติดี ก็คงเหมือนพลาสติกสีดำที่ใช้หุ้มสายไฟในห้องเครื่องหละครับ อายุคงพอๆกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2012, 09:46:54 am โดย Suriya(PaC) » บันทึกการเข้า

พูดคุยกับป๋าซีแบบ Chat Online ได้ที่ pajerosport-lovers.com
http://www.facebook.com/suriya.pajerolovers
เลือกหยิบของฟรีที่ห้องโชว์อ๊อฟ ในหัวข้อ GiftShop ป๋าซี(PaC)
puengnoi (นัน)
Hero Member
*****

like: 86
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3894



อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 10:10:09 am »

ขอบคุณป๋าซีมาก ๆเลยคับ สำหรับข้อมูลดี ๆ แล้วแบบนี้จะแก้ไขอย่างไรดีครับ กลุ้มใจมากครับ
บันทึกการเข้า

IMG]http://i1082.photobucket.com/albums/j379/moyamedia/aaa.jpg[/img]
rebellion
Jr. Member
**

like: 32
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 633

เพื่อนแท้ต้องใช้ใจแลกมา


« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 10:24:15 am »

ว่าจะทำตามป๋าซีผมยังหาถังน้ำอยู่เลย5555
ขอบคุณครับ
อ๊อด บางบ่อ
บันทึกการเข้า

คมแฝก
GUNT@NERY
Hero Member
*****

like: 306
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4939


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 10:44:03 am »

ช่างแอร์ขอตอบบ้างไรบ้างนะครับ  ป๋าซี ปรับความเร็วพัดลมไม่สัมพันธ์กับระบบทำความเย็นครับ  ลมตำแหน่งเบาที่สุด กับการตั้งอุณหภูมิที่ ๒๕ สำหรับประเทศไทยที่อุณหภูมิทั่วไปในประเทศไทยอยู่ที่ ๓๐ - ๓๗ องศา ความต่างอยู่ที่ ๑๐ องศา ต้องใช้ความเร็วพัดลมมากกว่านี้ครับ ถ้าปรับความเร็วเบาสุดต้องปรับอุณหภูมิไปที่ ๓๐ - ๓๒ องศาครับ  น้ำจะหมดพอดี
จากภาพถ้าคอยเย็นป๋าซี  ตัน   หรือสกปรกกว่านี้ จะมีน้ำแข็งเกาะที่ท่องกลับมาถึงคอมเพลสเซอร์เลยครับ  อันนี้รถใหม่  จึงยังสามารถเป่าออกมาได้ดี  แต่ก็ไม่หมด  จึงมีน้ำหยดมาก
ดังนั้น จึงต้องเปิดความเร็วระหว่างระบบความเย็นอุณหภูมิที่เราตั้ง  กับความเร็วพัดลมที่เอาอากาศในห้องโดยสาร มาผ่านคอยเย็นเพื่อลดอุณภูมิห้องโดยสารด้วย ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันครับ มิเช่นนั้นจะไม่เป็นการยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศ  อีกทั้งน้ำจะหยดออกมาปริมาณมากกว่าปกติครับ   hi hi
หากออโต้ ควรออโต้ทั้งหมด 
หากไม่ออโต้ ควรตั้งความเร็วพัดลมให้มีอัตราส่วนมากกว่าอุณหภูมิที่เราตั้งเสมอ
ปิดคอมเพลสเซอร์ก่อนเราถึงที่หมาย ประมาณ ๑ - ๒ ก.ม. เพื่อเป่าเอาความเย็นที่ค้างอยู่ในคอยเย็นออกให้หมด เพื่อทำความสะอาด ลดความชื้น ลดเชื้อโรค ยืดอายุการทำงานของระบบคอยเย็น คอมเพลสเซอร์ และน้ำหยดลงลูหปืกแล็กพวงมาลยครับ

     
บันทึกการเข้า
ปุ่น-ภูเก็ต
Hero Member
*****

like: 236
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11544



« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 10:53:54 am »

ช่างแอร์ขอตอบบ้างไรบ้างนะครับ  ป๋าซี ปรับความเร็วพัดลมไม่สัมพันธ์กับระบบทำความเย็นครับ  ลมตำแหน่งเบาที่สุด กับการตั้งอุณหภูมิที่ ๒๕ สำหรับประเทศไทยที่อุณหภูมิทั่วไปในประเทศไทยอยู่ที่ ๓๐ - ๓๗ องศา ความต่างอยู่ที่ ๑๐ องศา ต้องใช้ความเร็วพัดลมมากกว่านี้ครับ ถ้าปรับความเร็วเบาสุดต้องปรับอุณหภูมิไปที่ ๓๐ - ๓๒ องศาครับ  น้ำจะหมดพอดี
จากภาพถ้าคอยเย็นป๋าซี  ตัน   หรือสกปรกกว่านี้ จะมีน้ำแข็งเกาะที่ท่องกลับมาถึงคอมเพลสเซอร์เลยครับ  อันนี้รถใหม่  จึงยังสามารถเป่าออกมาได้ดี  แต่ก็ไม่หมด  จึงมีน้ำหยดมาก
ดังนั้น จึงต้องเปิดความเร็วระหว่างระบบความเย็นอุณหภูมิที่เราตั้ง  กับความเร็วพัดลมที่เอาอากาศในห้องโดยสาร มาผ่านคอยเย็นเพื่อลดอุณภูมิห้องโดยสารด้วย ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันครับ มิเช่นนั้นจะไม่เป็นการยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศ  อีกทั้งน้ำจะหยดออกมาปริมาณมากกว่าปกติครับ   hi hi
หากออโต้ ควรออโต้ทั้งหมด  
หากไม่ออโต้ ควรตั้งความเร็วพัดลมให้มีอัตราส่วนมากกว่าอุณหภูมิที่เราตั้งเสมอ
ปิดคอมเพลสเซอร์ก่อนเราถึงที่หมาย ประมาณ ๑ - ๒ ก.ม. เพื่อเป่าเอาความเย็นที่ค้างอยู่ในคอยเย็นออกให้หมด เพื่อทำความสะอาด ลดความชื้น ลดเชื้อโรค ยืดอายุการทำงานของระบบคอยเย็น คอมเพลสเซอร์ และน้ำหยดลงลูหปืกแล็กพวงมาลยครับ

     



ป๋านาย เดี๋ยว ผมขอเชิญ ป๋านาย เป็น วิทยากร + ผู้เชียวชาญเรื่องระบบปรับอากาศ ให้กับ ครอบครัว  อั๊ยยย่ะ ปา อันดามัน  เราด้วยนะครับ  bigheart



บันทึกการเข้า
Suriya(PaC)
อั๊ยยยย่ะ..มหานคร
Hero Member
*****

like: 598
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2506


มือถือ:๐๙๑-๗๒๙-๖๙๙๖ [สุริยา วิทยาประดิษฐ์]


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 10:08:19 am »

ช่างแอร์ขอตอบบ้างไรบ้างนะครับ  ป๋าซี ปรับความเร็วพัดลมไม่สัมพันธ์กับระบบทำความเย็นครับ  ลมตำแหน่งเบาที่สุด กับการตั้งอุณหภูมิที่ ๒๕ สำหรับประเทศไทยที่อุณหภูมิทั่วไปในประเทศไทยอยู่ที่ ๓๐ - ๓๗ องศา ความต่างอยู่ที่ ๑๐ องศา ต้องใช้ความเร็วพัดลมมากกว่านี้ครับ ถ้าปรับความเร็วเบาสุดต้องปรับอุณหภูมิไปที่ ๓๐ - ๓๒ องศาครับ  น้ำจะหมดพอดี
จากภาพถ้าคอยเย็นป๋าซี  ตัน   หรือสกปรกกว่านี้ จะมีน้ำแข็งเกาะที่ท่องกลับมาถึงคอมเพลสเซอร์เลยครับ  อันนี้รถใหม่  จึงยังสามารถเป่าออกมาได้ดี  แต่ก็ไม่หมด  จึงมีน้ำหยดมาก
ดังนั้น จึงต้องเปิดความเร็วระหว่างระบบความเย็นอุณหภูมิที่เราตั้ง  กับความเร็วพัดลมที่เอาอากาศในห้องโดยสาร มาผ่านคอยเย็นเพื่อลดอุณภูมิห้องโดยสารด้วย ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันครับ มิเช่นนั้นจะไม่เป็นการยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศ  อีกทั้งน้ำจะหยดออกมาปริมาณมากกว่าปกติครับ   hi hi
หากออโต้ ควรออโต้ทั้งหมด 
หากไม่ออโต้ ควรตั้งความเร็วพัดลมให้มีอัตราส่วนมากกว่าอุณหภูมิที่เราตั้งเสมอ
ปิดคอมเพลสเซอร์ก่อนเราถึงที่หมาย ประมาณ ๑ - ๒ ก.ม. เพื่อเป่าเอาความเย็นที่ค้างอยู่ในคอยเย็นออกให้หมด เพื่อทำความสะอาด ลดความชื้น ลดเชื้อโรค ยืดอายุการทำงานของระบบคอยเย็น คอมเพลสเซอร์ และน้ำหยดลงลูหปืกแล็กพวงมาลยครับ

     
ผมตั้ง AUTO แล้วน้ำก็ยังออกมามากมายอยู่เลย  Sad
บันทึกการเข้า

พูดคุยกับป๋าซีแบบ Chat Online ได้ที่ pajerosport-lovers.com
http://www.facebook.com/suriya.pajerolovers
เลือกหยิบของฟรีที่ห้องโชว์อ๊อฟ ในหัวข้อ GiftShop ป๋าซี(PaC)
GUNT@NERY
Hero Member
*****

like: 306
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4939


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 12:59:56 pm »

ช่างแอร์ขอตอบบ้างไรบ้างนะครับ  ป๋าซี ปรับความเร็วพัดลมไม่สัมพันธ์กับระบบทำความเย็นครับ  ลมตำแหน่งเบาที่สุด กับการตั้งอุณหภูมิที่ ๒๕ สำหรับประเทศไทยที่อุณหภูมิทั่วไปในประเทศไทยอยู่ที่ ๓๐ - ๓๗ องศา ความต่างอยู่ที่ ๑๐ องศา ต้องใช้ความเร็วพัดลมมากกว่านี้ครับ ถ้าปรับความเร็วเบาสุดต้องปรับอุณหภูมิไปที่ ๓๐ - ๓๒ องศาครับ  น้ำจะหมดพอดี
จากภาพถ้าคอยเย็นป๋าซี  ตัน   หรือสกปรกกว่านี้ จะมีน้ำแข็งเกาะที่ท่องกลับมาถึงคอมเพลสเซอร์เลยครับ  อันนี้รถใหม่  จึงยังสามารถเป่าออกมาได้ดี  แต่ก็ไม่หมด  จึงมีน้ำหยดมาก
ดังนั้น จึงต้องเปิดความเร็วระหว่างระบบความเย็นอุณหภูมิที่เราตั้ง  กับความเร็วพัดลมที่เอาอากาศในห้องโดยสาร มาผ่านคอยเย็นเพื่อลดอุณภูมิห้องโดยสารด้วย ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันครับ มิเช่นนั้นจะไม่เป็นการยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศ  อีกทั้งน้ำจะหยดออกมาปริมาณมากกว่าปกติครับ   hi hi
หากออโต้ ควรออโต้ทั้งหมด 
หากไม่ออโต้ ควรตั้งความเร็วพัดลมให้มีอัตราส่วนมากกว่าอุณหภูมิที่เราตั้งเสมอ
ปิดคอมเพลสเซอร์ก่อนเราถึงที่หมาย ประมาณ ๑ - ๒ ก.ม. เพื่อเป่าเอาความเย็นที่ค้างอยู่ในคอยเย็นออกให้หมด เพื่อทำความสะอาด ลดความชื้น ลดเชื้อโรค ยืดอายุการทำงานของระบบคอยเย็น คอมเพลสเซอร์ และน้ำหยดลงลูหปืกแล็กพวงมาลยครับ

     
ผมตั้ง AUTO แล้วน้ำก็ยังออกมามากมายอยู่เลย  Sad
อ๋อ  พอดี  ผมดูตามภาพที่ป๋าซีลงให้ดูครับ 
แต่โดยปกติ  ระบบแอร์ใหญ่ ๆ น้ำจะมีน้ำมากอยู่แล้ว 
แต่คงไม่ถึงกับหยดมากครับอาจารย์ น้ำจะมีเกาะอยู่ที่ท่อกลับ (ท่อใหญ่) แต่ไม่ถึงกับหยด แต่จะหยดเฉพาะตอนจอดครับ
เพราะถูกอุณหภูมิความร้อนจากห้องเครื่องมาช่วยระบายด้วย  น้ำจึงกลั่นเต็มที่  ท่อเย็นมากน้ำก็หยดมาก หากท่อเย็นน้อยเพราะเราปิดคอมก่อนจอด น้ำก้กลั่นน้อยลงครับ ฉั้นนั้นครับ
หากเกรงว่าจะมีปัญหาก็หาอะไรมารอง (ตามแบบที่อาจารย์ได้ออกแบบไว้)  หรือหุ้มเฉพาะจุดนั้นก็ได้ครับ   แต่ทางที่ดี  ควรปิดคอม ฯ เปิดพัมลมทิ้งไว้ก่อนจอด  สักพักครับ
ตามทฤษฎีแล้ว  ผมไม่แนะนำให้หุ้มทั้งหมดนะครับ หุ้มเแพาะจุดได้  สำหรับท่านที่ชอบจิดรถพร้อมปิดคอม  *-*     
บันทึกการเข้า
Fuddy
Full Member
***

like: 55
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1245



« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 01:04:32 pm »

ช่างแอร์ขอตอบบ้างไรบ้างนะครับ  ป๋าซี ปรับความเร็วพัดลมไม่สัมพันธ์กับระบบทำความเย็นครับ  ลมตำแหน่งเบาที่สุด กับการตั้งอุณหภูมิที่ ๒๕ สำหรับประเทศไทยที่อุณหภูมิทั่วไปในประเทศไทยอยู่ที่ ๓๐ - ๓๗ องศา ความต่างอยู่ที่ ๑๐ องศา ต้องใช้ความเร็วพัดลมมากกว่านี้ครับ ถ้าปรับความเร็วเบาสุดต้องปรับอุณหภูมิไปที่ ๓๐ - ๓๒ องศาครับ  น้ำจะหมดพอดี
จากภาพถ้าคอยเย็นป๋าซี  ตัน   หรือสกปรกกว่านี้ จะมีน้ำแข็งเกาะที่ท่องกลับมาถึงคอมเพลสเซอร์เลยครับ  อันนี้รถใหม่  จึงยังสามารถเป่าออกมาได้ดี  แต่ก็ไม่หมด  จึงมีน้ำหยดมาก
ดังนั้น จึงต้องเปิดความเร็วระหว่างระบบความเย็นอุณหภูมิที่เราตั้ง  กับความเร็วพัดลมที่เอาอากาศในห้องโดยสาร มาผ่านคอยเย็นเพื่อลดอุณภูมิห้องโดยสารด้วย ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันครับ มิเช่นนั้นจะไม่เป็นการยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศ  อีกทั้งน้ำจะหยดออกมาปริมาณมากกว่าปกติครับ   hi hi
หากออโต้ ควรออโต้ทั้งหมด 
หากไม่ออโต้ ควรตั้งความเร็วพัดลมให้มีอัตราส่วนมากกว่าอุณหภูมิที่เราตั้งเสมอ
ปิดคอมเพลสเซอร์ก่อนเราถึงที่หมาย ประมาณ ๑ - ๒ ก.ม. เพื่อเป่าเอาความเย็นที่ค้างอยู่ในคอยเย็นออกให้หมด เพื่อทำความสะอาด ลดความชื้น ลดเชื้อโรค ยืดอายุการทำงานของระบบคอยเย็น คอมเพลสเซอร์ และน้ำหยดลงลูหปืกแล็กพวงมาลยครับ

     
ผมตั้ง AUTO แล้วน้ำก็ยังออกมามากมายอยู่เลย  Sad
อ๋อ  พอดี  ผมดูตามภาพที่ป๋าซีลงให้ดูครับ 
แต่โดยปกติ  ระบบแอร์ใหญ่ ๆ น้ำจะมีน้ำมากอยู่แล้ว 
แต่คงไม่ถึงกับหยดมากครับอาจารย์ น้ำจะมีเกาะอยู่ที่ท่อกลับ (ท่อใหญ่) แต่ไม่ถึงกับหยด แต่จะหยดเฉพาะตอนจอดครับ
เพราะถูกอุณหภูมิความร้อนจากห้องเครื่องมาช่วยระบายด้วย  น้ำจึงกลั่นเต็มที่  ท่อเย็นมากน้ำก็หยดมาก หากท่อเย็นน้อยเพราะเราปิดคอมก่อนจอด น้ำก้กลั่นน้อยลงครับ ฉั้นนั้นครับ
หากเกรงว่าจะมีปัญหาก็หาอะไรมารอง (ตามแบบที่อาจารย์ได้ออกแบบไว้)  หรือหุ้มเฉพาะจุดนั้นก็ได้ครับ   แต่ทางที่ดี  ควรปิดคอม ฯ เปิดพัมลมทิ้งไว้ก่อนจอด  สักพักครับ
ตามทฤษฎีแล้ว  ผมไม่แนะนำให้หุ้มทั้งหมดนะครับ หุ้มเแพาะจุดได้  สำหรับท่านที่ชอบจิดรถพร้อมปิดคอม  *-*     
หุ้มเฉพาะจุดเพราะอะไรครับ ป๋านาย
บันทึกการเข้า
GUNT@NERY
Hero Member
*****

like: 306
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4939


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 01:08:31 pm »

ช่างแอร์ขอตอบบ้างไรบ้างนะครับ  ป๋าซี ปรับความเร็วพัดลมไม่สัมพันธ์กับระบบทำความเย็นครับ  ลมตำแหน่งเบาที่สุด กับการตั้งอุณหภูมิที่ ๒๕ สำหรับประเทศไทยที่อุณหภูมิทั่วไปในประเทศไทยอยู่ที่ ๓๐ - ๓๗ องศา ความต่างอยู่ที่ ๑๐ องศา ต้องใช้ความเร็วพัดลมมากกว่านี้ครับ ถ้าปรับความเร็วเบาสุดต้องปรับอุณหภูมิไปที่ ๓๐ - ๓๒ องศาครับ  น้ำจะหมดพอดี
จากภาพถ้าคอยเย็นป๋าซี  ตัน   หรือสกปรกกว่านี้ จะมีน้ำแข็งเกาะที่ท่องกลับมาถึงคอมเพลสเซอร์เลยครับ  อันนี้รถใหม่  จึงยังสามารถเป่าออกมาได้ดี  แต่ก็ไม่หมด  จึงมีน้ำหยดมาก
ดังนั้น จึงต้องเปิดความเร็วระหว่างระบบความเย็นอุณหภูมิที่เราตั้ง  กับความเร็วพัดลมที่เอาอากาศในห้องโดยสาร มาผ่านคอยเย็นเพื่อลดอุณภูมิห้องโดยสารด้วย ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันครับ มิเช่นนั้นจะไม่เป็นการยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศ  อีกทั้งน้ำจะหยดออกมาปริมาณมากกว่าปกติครับ   hi hi
หากออโต้ ควรออโต้ทั้งหมด 
หากไม่ออโต้ ควรตั้งความเร็วพัดลมให้มีอัตราส่วนมากกว่าอุณหภูมิที่เราตั้งเสมอ
ปิดคอมเพลสเซอร์ก่อนเราถึงที่หมาย ประมาณ ๑ - ๒ ก.ม. เพื่อเป่าเอาความเย็นที่ค้างอยู่ในคอยเย็นออกให้หมด เพื่อทำความสะอาด ลดความชื้น ลดเชื้อโรค ยืดอายุการทำงานของระบบคอยเย็น คอมเพลสเซอร์ และน้ำหยดลงลูหปืกแล็กพวงมาลยครับ

     
ผมตั้ง AUTO แล้วน้ำก็ยังออกมามากมายอยู่เลย  Sad
อ๋อ  พอดี  ผมดูตามภาพที่ป๋าซีลงให้ดูครับ 
แต่โดยปกติ  ระบบแอร์ใหญ่ ๆ น้ำจะมีน้ำมากอยู่แล้ว 
แต่คงไม่ถึงกับหยดมากครับอาจารย์ น้ำจะมีเกาะอยู่ที่ท่อกลับ (ท่อใหญ่) แต่ไม่ถึงกับหยด แต่จะหยดเฉพาะตอนจอดครับ
เพราะถูกอุณหภูมิความร้อนจากห้องเครื่องมาช่วยระบายด้วย  น้ำจึงกลั่นเต็มที่  ท่อเย็นมากน้ำก็หยดมาก หากท่อเย็นน้อยเพราะเราปิดคอมก่อนจอด น้ำก้กลั่นน้อยลงครับ ฉั้นนั้นครับ
หากเกรงว่าจะมีปัญหาก็หาอะไรมารอง (ตามแบบที่อาจารย์ได้ออกแบบไว้)  หรือหุ้มเฉพาะจุดนั้นก็ได้ครับ   แต่ทางที่ดี  ควรปิดคอม ฯ เปิดพัมลมทิ้งไว้ก่อนจอด  สักพักครับ
ตามทฤษฎีแล้ว  ผมไม่แนะนำให้หุ้มทั้งหมดนะครับ หุ้มเแพาะจุดได้  สำหรับท่านที่ชอบจิดรถพร้อมปิดคอม  *-*     
หุ้มเฉพาะจุดเพราะอะไรครับ ป๋านาย
ตำแหน่งที่น้ำมักหยด ท่องดันงอต่ำตรงกับตำแหน่ง ลูกปืน แล็คพวงมาลัยพอดิบพอดี  อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนครับ
บันทึกการเข้า
Fuddy
Full Member
***

like: 55
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1245



« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 03:22:44 pm »

ติต่างนะครับป๋านาย ถ้าปัญหาน้ำลงตรงนั้นแล้วทำให้วัสดุเสื่อมคุณภาพ เราสามารถตัดท่อโดยเครื่องตัดท่อเฉพาะ แต่ปัญหาที่แท้จริงยังไม่มีใครกล้ายืนยันว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้ ระหว่างความร้อน น้ำ หรือวัสดุที่นำมาใช่ห่วยแตก อะครับ โอ๊ยมึน
บันทึกการเข้า
GUNT@NERY
Hero Member
*****

like: 306
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4939


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 03:33:42 pm »

ติต่างนะครับป๋านาย ถ้าปัญหาน้ำลงตรงนั้นแล้วทำให้วัสดุเสื่อมคุณภาพ เราสามารถตัดท่อโดยเครื่องตัดท่อเฉพาะ แต่ปัญหาที่แท้จริงยังไม่มีใครกล้ายืนยันว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้ ระหว่างความร้อน น้ำ หรือวัสดุที่นำมาใช่ห่วยแตก อะครับ โอ๊ยมึน

จริง ๆ แล้ว  น้ำเพียงเท่านี้ ทำตามที่ผมว่า ไม่มีปัญหาครับ  ถ้าวัสดุที่ใช้คุณภาพดีกว่าที่เป็นอยู่ 
ผมจึงไม่ทำอะไรกับจุดนี้  และปิดคอม ฯ ก่อนจิด ประมาณ 10 นาที  เพื่อไล่ความเย็นออกจากคอยเย็นและท่อครับ     
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 21 คำสั่ง