Languages
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: BMW 320d Sport vs M pajero sport 2.5 vg เทอร์โบ  (อ่าน 12669 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Investigation
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111



« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 07:19:49 am »

ท่านสมาชิกครับ เทคโนโลยีที่ว่า เป็นลิขสิทธิ์ หรือเปล่าครับ หรือว่าเกี่ยวกับต้นทุน
ทำไมรถโซนเอเชียจึงไม่นำมาใช้ เพราะถ้าคำนวณดูค่าใช้จ่ายที่จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงระยะยาว (เกือบ 20 กม./ลิตร )คิดว่าคุ้มค่าไหมกับราคารถ

ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่สละเวลาเข้ามาร่วมเเชร์ข้อมูล   สาธุ    สาธุ   สาธุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 24, 2012, 07:35:27 am โดย Investigation » บันทึกการเข้า
Lek Driller
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 114



« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 08:00:44 am »

ราคาค่าตัวจริงๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่แพงตรงที่ภาษีนำเข้านี่แหละครับ
บันทึกการเข้า
Dod
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 08:44:55 am »

BMW เทคโนโลยี คุณภาพการประกอบ โรงงานที่ระยอง ใช้วัตถุดิบอะไหล่ชิ้นส่วนจากต่างประเทศเกิน 60% และเกรดสูงกว่าราคารถเลยสูงกว่า Mitsu เยอะครับ
เคยดูสารคดีประกอบรถBMW ขนาดสายไฟยังใช้แบบ อบความร้อนฉีดพลาสติกเคลือบและดัดเข้ากับตัวรถเลย ไม่มีระโยงระยางรุ่งริ่ง แม้แต่ยางก็ยังเป็นแบบรันเฟลท
ของทุกอย่างจัดมาอย่างดี เลยเป็นที่มาว่าทำไมแพงจัง แต่....... หมดประกัน เมื่อไหร่ ค่าซ่อมบำรุง บานกว่าเยอะครับ
แถมรุ่นนี้ในช่วงประกันห้ามทำอะไรกับรถแม้แต่คิดจะเปลี่ยนล้อแม็กซ์ ดัดแปลงเครื่องเสียง ....... ประกันขาดครับ

แล้วแต่มุมมองนะครับ ปัจจุบันรถยนต์บางรุ่งมันเป็นเครื่องชี้สถานะทางสังคมด้วย ราคาเลยไปกันใหญ่

ถ้าอยากหรู อยากแรง อยากสัมผัสความรู้สึกเวลาขับเลย 180 มือเดียวสบาย ๆ และมีกำลังพอทีกดไปต่อที่ 220 ได้อีกสบายๆ ก็คงต้องบีเอ็มหละครับ ( แต่ชีวิตนี้พี่จะทำแบบนี้ได้กี่ครั้ง บนสุดยอดถนนของเมืองไทย ฮ่า ๆ ๆ)

Mitsubishi VG 2.5 ของเราๆ นี่เทคโนโลยีอาจจะเก่ากว่าหน่อย แต่โดยรวมก็ไม่น่าเกลียดมาก ที่สำคัญคือใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ในบ้านเราเกินกว่า 60 % ครับ
จะทำอะไรก็ทำ ประกันยังอยู่ (ไม่ใช่แค่เปลี่ยนล้อแมกซ์ก็ยกเลิกประกันทั้งหมดแบบ รถโคตรหรู หุหุ) เสียหายกลางทางยังพอไหว้วานอู่นอกช่วยดูให้ได้

ถ้าอยากหรูอยากแรงของแต่งก็พอมี ทั้งดันราง ยกกล่อง โหลดเตี้ย ยกสูง มีมาให้กระเป๋าฉีกเพียบ......

เหมือนที่เคยตอบในหลาย ๆ บอร์ด นะคร้าบบบ   
รถแต่ละคันมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป ไม่มีคันไหนสมบูรณ์แบบหรอกครับ เลือกให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้จะเป็นการลงทุนที่คุ้มที่สุด
ถ้าคิดเปรียบเทียบ ควรเปรียบเทียบในกลุ่มของรถประเภทเดียวกัน ถ้า BMW 320d คู่ที่น่าเปรียบเทียบมากที่สุดคือ Mitsubishi EVO - X ครับ.... ขอบคุณครับ

บันทึกการเข้า
darkisumi
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 836


ปาเทาดำ No.0606 ไร่ขิง-สามพราน


อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 09:11:40 am »

BMW Audi เรื่องดีเซลต้องยกให้เขาจริงๆครับ
BMW นี่ตัว F10 M550d กับ X6 M50d เครื่องดีเซลเขาระดับพระกาฬจริงๆครับ
3.0 6สูบแถวเรียง เทอร์โบสามตัว 381ม้า 740นิวตัน กันเลยทีเดียว

Audi Volks Porsche จะใช้เครื่องดีเซลแบบเดียวกัน
4.2V8 340ม้า 800นิวตัน (คาเยน เอส ดีเซล ใหม่ก็ใช้ตัวนี้)
6.0V12 ทวินเทอร์โบ 500ม้า 1000นิวตัน

ดีเซลเรายังเทียบชั้นพวกดีเซลยุโรปไม่ได้หรอกครับ
ทั้งความแรง ความประหยัด และความสะอาด
แค่ราคาก็ต่างกันแบบเทียบไม่ได้แล้วครับ
เราเทียบกับรถชั้นเดียวกันจะดีกว่าครับ อิอิ สบายใจดีด้วย
นี่ก้อตัวจริงเรื่องข้อมูล ข้าน้อยนับถือๆ สาธุ
บันทึกการเข้า

ใครๆก็เรียกผมว่า "น้อง" เพราะผมชื่อ "น้อง"
MY2012 2WD GT, Suspension : Tein SuperStreet with EDFC
chan
Jr. Member
**

like: 12
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 337



« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 09:30:38 am »

ท่านสมาชิกครับ เทคโนโลยีที่ว่า เป็นลิขสิทธิ์ หรือเปล่าครับ หรือว่าเกี่ยวกับต้นทุน
ทำไมรถโซนเอเชียจึงไม่นำมาใช้ เพราะถ้าคำนวณดูค่าใช้จ่ายที่จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงระยะยาว (เกือบ 20 กม./ลิตร )คิดว่าคุ้มค่าไหมกับราคารถ

ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่สละเวลาเข้ามาร่วมเเชร์ข้อมูล   สาธุ    สาธุ   สาธุ

เทคโนโลยีนี้ คิดว่าไม่นานอาจจะเห็นในรถโซนเอเซีย  เพราะดีเซลคอมมอนเรลฝั่งยุโรปเค้ามีกว่า 20 ปีแล้ว เทคโนโลยีเค้าจึงไปไกลกว่า
แต่เดี๋ยวนี้เอเชียมีคนเก่งๆอยู่มาก หากมีการพัฒนาแบบไม่มีธุรกิจมาผูกมัด  อาจได้เห็นอะไรที่ใหม่กว่า 
ปล.ขนาดแรงดันปั้มคอมมอนเรลฝั่งยุโรปมากับรถก็ 220 -240 Mpa แล้ว บ้านเราแค่ 180 Mpa เอง ใช้งานจริงถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ (เคยวัดได้แค่ 170 Mpa เอง)
บันทึกการเข้า

ไปให้สุดแล้ว.......หยุดที่คำว่าพอ.....
Investigation
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111



« ตอบ #20 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 11:58:30 am »

BMW เทคโนโลยี คุณภาพการประกอบ โรงงานที่ระยอง ใช้วัตถุดิบอะไหล่ชิ้นส่วนจากต่างประเทศเกิน 60% และเกรดสูงกว่าราคารถเลยสูงกว่า Mitsu เยอะครับ
เคยดูสารคดีประกอบรถBMW ขนาดสายไฟยังใช้แบบ อบความร้อนฉีดพลาสติกเคลือบและดัดเข้ากับตัวรถเลย ไม่มีระโยงระยางรุ่งริ่ง แม้แต่ยางก็ยังเป็นแบบรันเฟลท
ของทุกอย่างจัดมาอย่างดี เลยเป็นที่มาว่าทำไมแพงจัง แต่....... หมดประกัน เมื่อไหร่ ค่าซ่อมบำรุง บานกว่าเยอะครับ
แถมรุ่นนี้ในช่วงประกันห้ามทำอะไรกับรถแม้แต่คิดจะเปลี่ยนล้อแม็กซ์ ดัดแปลงเครื่องเสียง ....... ประกันขาดครับ

แล้วแต่มุมมองนะครับ ปัจจุบันรถยนต์บางรุ่งมันเป็นเครื่องชี้สถานะทางสังคมด้วย ราคาเลยไปกันใหญ่

ถ้าอยากหรู อยากแรง อยากสัมผัสความรู้สึกเวลาขับเลย 180 มือเดียวสบาย ๆ และมีกำลังพอทีกดไปต่อที่ 220 ได้อีกสบายๆ ก็คงต้องบีเอ็มหละครับ ( แต่ชีวิตนี้พี่จะทำแบบนี้ได้กี่ครั้ง บนสุดยอดถนนของเมืองไทย ฮ่า ๆ ๆ)

Mitsubishi VG 2.5 ของเราๆ นี่เทคโนโลยีอาจจะเก่ากว่าหน่อย แต่โดยรวมก็ไม่น่าเกลียดมาก ที่สำคัญคือใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ในบ้านเราเกินกว่า 60 % ครับ
จะทำอะไรก็ทำ ประกันยังอยู่ (ไม่ใช่แค่เปลี่ยนล้อแมกซ์ก็ยกเลิกประกันทั้งหมดแบบ รถโคตรหรู หุหุ) เสียหายกลางทางยังพอไหว้วานอู่นอกช่วยดูให้ได้

ถ้าอยากหรูอยากแรงของแต่งก็พอมี ทั้งดันราง ยกกล่อง โหลดเตี้ย ยกสูง มีมาให้กระเป๋าฉีกเพียบ......

เหมือนที่เคยตอบในหลาย ๆ บอร์ด นะคร้าบบบ   
รถแต่ละคันมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป ไม่มีคันไหนสมบูรณ์แบบหรอกครับ เลือกให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้จะเป็นการลงทุนที่คุ้มที่สุด
ถ้าคิดเปรียบเทียบ ควรเปรียบเทียบในกลุ่มของรถประเภทเดียวกัน ถ้า BMW 320d คู่ที่น่าเปรียบเทียบมากที่สุดคือ Mitsubishi EVO - X ครับ.... ขอบคุณครับ




ทำให้รู้มากขึ้น
ขอบคุณมากครับท่านที่เข้ามาร่วมเเชร์ข้อมูล     สาธุ   สาธุ    สาธุ
บันทึกการเข้า
Investigation
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111



« ตอบ #21 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 12:01:07 pm »

ท่านสมาชิกครับ เทคโนโลยีที่ว่า เป็นลิขสิทธิ์ หรือเปล่าครับ หรือว่าเกี่ยวกับต้นทุน
ทำไมรถโซนเอเชียจึงไม่นำมาใช้ เพราะถ้าคำนวณดูค่าใช้จ่ายที่จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงระยะยาว (เกือบ 20 กม./ลิตร )คิดว่าคุ้มค่าไหมกับราคารถ

ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่สละเวลาเข้ามาร่วมเเชร์ข้อมูล   สาธุ    สาธุ   สาธุ

เทคโนโลยีนี้ คิดว่าไม่นานอาจจะเห็นในรถโซนเอเซีย  เพราะดีเซลคอมมอนเรลฝั่งยุโรปเค้ามีกว่า 20 ปีแล้ว เทคโนโลยีเค้าจึงไปไกลกว่า
แต่เดี๋ยวนี้เอเชียมีคนเก่งๆอยู่มาก หากมีการพัฒนาแบบไม่มีธุรกิจมาผูกมัด  อาจได้เห็นอะไรที่ใหม่กว่า 
ปล.ขนาดแรงดันปั้มคอมมอนเรลฝั่งยุโรปมากับรถก็ 220 -240 Mpa แล้ว บ้านเราแค่ 180 Mpa เอง ใช้งานจริงถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ (เคยวัดได้แค่ 170 Mpa เอง)


เก็บข้อมูลเเล้ว
ขอบคุณมากครับท่านหากมีข้อมูลใดเพิ่มเติมยินดีครับท่าน  สาธุ  สาธุ  สาธุ
บันทึกการเข้า
chanavorn
Jr. Member
**

like: 20
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 947



อีเมล์
« ตอบ #22 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 12:02:43 pm »

ไม่ขนาดนั้นหรอกครับป๋าน้อง ผมดูมาจากวิกิพีเดียครับ 55+

ในเรื่องลิขสิทธิ์นั้นมีแน่นอนครับ
อย่างFordก็เลยร่วมมือกับVolvo ทำให้ได้รถที่เยี่ยมทั้งคู่ WINWIN
Fordออกแบบเครื่องกับเกียร์ให้Volvo ดูจากS60ตัวใหม่ที่ใช้1.6EcoBoostกับเกียร์PowerShiftครับ
Volvoออกแบบระบบต่างๆให้Ford ดูจากFocusใหม่ที่มีระบบ ช่วยจอด ช่วยเบรค ครับ

อย่าง Volks Audi Porsche ก็ร่วมมือกันเกือบทุกอย่าง
Volkswagen มีบริษัทลูกเยอะมากๆครับ
Audi Lamborghini Bentley Bugatti Ducati MAN Porsche Scania Seat Skoda Suzuki
เห็นรึเปล่าครับ มีแต่ยี่ห้อเทพๆทั้งนั้นเลยที่อยู่ในมือของ Volkswagen
พวกนี้ได้เปรียบทุกบริษัทครับเพราะแชร์เทคโนโลยีร่วมกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์
แถมลดต้นทุนในการออกแบบและผลิตไปได้อีกเยอะเลย
จนตอนนี้ในตลาดโลก BMW กลัว Audi ที่ยอดขายกำลังจะแซงหน้าแล้วครับ
ไม่รวมในไทยนะครับ เพราะผู้นำเข้ามันห่วยแตก 55+

Mitsubishi ที่เคยมีข่าวว่าจะร่วมมือกับ Nissan ก็เพิ่งมีข่าวมาว่า ยกเลิกไปแล้วเรียบร้อย
ก็น่าเสียดายมากครับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงยกเลิกกันดื้อๆแบบนี้
บันทึกการเข้า
seto16(เอก)
Hero Member
*****

like: 51
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2189


Soil Science is my life


อีเมล์
« ตอบ #23 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 12:29:00 pm »

ไม่ขนาดนั้นหรอกครับป๋าน้อง ผมดูมาจากวิกิพีเดียครับ 55+

ในเรื่องลิขสิทธิ์นั้นมีแน่นอนครับ
อย่างFordก็เลยร่วมมือกับVolvo ทำให้ได้รถที่เยี่ยมทั้งคู่ WINWIN
Fordออกแบบเครื่องกับเกียร์ให้Volvo ดูจากS60ตัวใหม่ที่ใช้1.6EcoBoostกับเกียร์PowerShiftครับ
Volvoออกแบบระบบต่างๆให้Ford ดูจากFocusใหม่ที่มีระบบ ช่วยจอด ช่วยเบรค ครับ

อย่าง Volks Audi Porsche ก็ร่วมมือกันเกือบทุกอย่าง
Volkswagen มีบริษัทลูกเยอะมากๆครับ
Audi Lamborghini Bentley Bugatti Ducati MAN Porsche Scania Seat Skoda Suzuki
เห็นรึเปล่าครับ มีแต่ยี่ห้อเทพๆทั้งนั้นเลยที่อยู่ในมือของ Volkswagen
พวกนี้ได้เปรียบทุกบริษัทครับเพราะแชร์เทคโนโลยีร่วมกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์
แถมลดต้นทุนในการออกแบบและผลิตไปได้อีกเยอะเลย
จนตอนนี้ในตลาดโลก BMW กลัว Audi ที่ยอดขายกำลังจะแซงหน้าแล้วครับ
ไม่รวมในไทยนะครับ เพราะผู้นำเข้ามันห่วยแตก 55+

Mitsubishi ที่เคยมีข่าวว่าจะร่วมมือกับ Nissan ก็เพิ่งมีข่าวมาว่า ยกเลิกไปแล้วเรียบร้อย
ก็น่าเสียดายมากครับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงยกเลิกกันดื้อๆแบบนี้

กด  like +1 เลย สุดยอดข้อมูลครับ
บันทึกการเข้า

ไม่เคยคิดเอาชนะใคร แค่เอาชนะตัวเองก็พอแล้ว...
"อยากให้เกษตรกรไทย ใช้ปุ๋ยและสารเคมีอย่างถูกต้อง ไม่น้อยไปจนผลผลิตเสียหาย หรือมากไปจนผู้บริโภคอันตราย"
srnw7
Full Member
***

like: 68
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1493


Life Is A Journey: ID No. 1166 ปาหนองคาย-ราชบุรี


อีเมล์
« ตอบ #24 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 03:48:11 pm »

มาแอบดูเขาคุยกัน อิอิ
บันทึกการเข้า
PattySG80
Sr. Member
****

like: 40
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1963


ชื่อ "ป่าน" 2WD T64 ครับ


อีเมล์
« ตอบ #25 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 04:28:12 pm »

อยากเเรงเหมือนบีเอ็มง่ะคับ
บันทึกการเข้า

"จะหลบหนีให้พ้นการถูกนินทา ไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่เราคบหานั้นมีอัธยาศัยแตกต่างกันไป
เหตุอย่างหนึ่งทำให้คนหนึ่งได้รับการสรรเสริญ แต่เหตุอย่างเดียวกันนั่นแหละ กลับทำให้อีกคนหนึ่งถูกนินทา" :: ว.วชิรเมธี
darkisumi
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 836


ปาเทาดำ No.0606 ไร่ขิง-สามพราน


อีเมล์
« ตอบ #26 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 04:39:57 pm »

อยากเเรงเหมือนบีเอ็มง่ะคับ
แมพ4 ช่วยท่านได้  Wink lala
บันทึกการเข้า

ใครๆก็เรียกผมว่า "น้อง" เพราะผมชื่อ "น้อง"
MY2012 2WD GT, Suspension : Tein SuperStreet with EDFC
ปาอ้วน
Phuket No.1749
Jr. Member
**

like: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 518


ปาบลูน้อย อันดามัน

nake74@hotmail.com
« ตอบ #27 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 06:02:04 pm »

 Tongue เพื่อนที่ทำงานใช้ BMW X1 sdrive20d(2ล้านเจ็ด) เล่าให้ฟังว่าประหยัดมาก เกือบ 20 โล/ลิตร ลองขับ ไป-กลับ ภูเก็ต - นครศรี - ภูเก็ต 1 ถังยังเหลือๆ ส่วน ฟอร์ trd sportivo 2 ถังขึ้น Undecided
ปล.ทั้งสองคันเป็นเจ้าของเดียวกันครับ
บันทึกการเข้า

ที่นี่!..มีเพื่อน!
Investigation
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111



« ตอบ #28 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 06:24:48 pm »

Tongue เพื่อนที่ทำงานใช้ BMW X1 sdrive20d(2ล้านเจ็ด) เล่าให้ฟังว่าประหยัดมาก เกือบ 20 โล/ลิตร ลองขับ ไป-กลับ ภูเก็ต - นครศรี - ภูเก็ต 1 ถังยังเหลือๆ ส่วน ฟอร์ trd sportivo 2 ถังขึ้น Undecided
ปล.ทั้งสองคันเป็นเจ้าของเดียวกันครับ

จากข้อมูลที่ท่านเเชร์มา  
ตัวอย่าง การขับรถที่มีลักษณะทางกายภาพคล้ายๆกัน
  A  ขับรถปีละ 20000  กิโลเมตร ที่ 20 กม./ลิตร
  B  ขับรถปีละ 20000 กิโลเมตร ที่ 10 กม./ลิตร
น้ำมันลิตรละ 30 บาท A จ่ายค่าเชื้อเพลิงน้อยกว่า B ปีละ 30000 บาท

ขอบคุณท่านมากครับถ้ามีข้อมูลเเชร์เพิ่มเติมยินดีครับท่าน   สาธุ    สาธุ    สาธุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 24, 2012, 06:33:11 pm โดย Investigation » บันทึกการเข้า
Investigation
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111



« ตอบ #29 เมื่อ: กันยายน 24, 2012, 07:50:24 pm »

ท่านสมาชิกครับ ไปเจอข้อมูลมาจาก ลิ้งนี้ครับ http://www.audittthailand.com/forum/index.php?topic=963.0

จากข้อมูล สามารถนำมาใช้  เเละมีประโยชน์กับ M PAJERO SPORT ได้ไหมครับ 

รบกวนท่านๆ เเชร์ความรู้ด้วยครับ   สาธุ    สาธุ    สาธุ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 21 คำสั่ง