Mos
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
กระทู้: 139
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 08:37:09 am » |
|
อย่างที่ป๋าดิษฐ์ ว่าไว้เลยครับ แต่ครั้งนี้ก็ขออย่าให้เป็นอะไรนะครับ เพราะภายในห้องเครื่องมีสายไฟ มีระบบอิเล็คโทรนิคต่าง ๆ มากครับ ระบบไฟก็คงไม่ค่อยชอบกับน้ำและความชื้นนะครับ นี่ยังไม่รวมว่าถ้าขับรถมาเครื่องกำลังร้อนมากแล้วเจอความเย็นจากน้ำเข้าไปแบบนี้ผมว่าน่าจะมีผลกับเครื่องยนต์นะครับป๋า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
_TOM_
รักในหลวงที่สุด
Full Member
like: 26
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1477
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 09:41:37 am » |
|
ผมว่าน่ากลัวนะแต่ถ้าไม่เป็นไรก็สะอาดสะใจดี555
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
POPPY
Jr. Member
like: 10
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 667
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 09:53:02 am » |
|
เค้าล้างกันแบบนี้เลยเหรอเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้
|
|
|
อิษฏ์_สุบิน ปาศาลายา ฮาเฮ..
Jr. Member
like: 23
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 980
เกิดเจียงใหม่ มาใหญ่สุพรรณ ปัจจุบัน อยู่ศาลายา เจ้า....
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 09:53:18 am » |
|
จะน่าสนใจกว่านี้ ถ้าคนล้างเป็นพริตตี้ อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
IP 1168 ปาศาลายา ครับ
|
|
|
TONGSOOK
Newbie
like: 11
ออฟไลน์
กระทู้: 228
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 12:57:19 pm » |
|
ขอชมเชย ใจถึงมาก น้ำอาจซึมเข้าปลั๊กไฟขั้วต่อต่างๆ ลมเป่าก็ไม่ออกครับ ต่อไปน้องสนิมถามหาและเข้ามาอยู่ด้วยระบบไฟรวน ถ้าไม่เป็นไรโชคดีไป แต่คราวหน้าไม่ควรทำ ล้างห้องเครื่องใช้ลมพ่นผสมน้ำมันก๊าซ แล้วใช้ลมเป่าแห้งอีกทีครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
P@Kaow
ID No.0612
Jr. Member
like: 15
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 690
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 01:42:22 pm » |
|
ขอชมเชย ใจถึงมาก น้ำอาจซึมเข้าปลั๊กไฟขั้วต่อต่างๆ ลมเป่าก็ไม่ออกครับ ต่อไปน้องสนิมถามหาและเข้ามาอยู่ด้วยระบบไฟรวน ถ้าไม่เป็นไรโชคดีไป แต่คราวหน้าไม่ควรทำ ล้างห้องเครื่องใช้ลมพ่นผสมน้ำมันก๊าซ แล้วใช้ลมเป่าแห้งอีกทีครับ
ตามปลั๊กต่างเมื่อน้ำเข้าไปหน้าcontackจะทำให้เป็นสนิม ตอนนี้ยังไม่มีอาการ ต่อไปจะเริ่มมีอาการจากอาการที่เรียกว่า "Bad Contack"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Fuddy
Full Member
like: 55
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1245
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 01:51:11 pm » |
|
ตรงบริเวณนี้จะเกิดสนิม1000% ระยะยาว ไม่ทราบ แต่ขึ้นว่าสนิม มันก็เหมือนมะเร็งอะป่าวไม่รู้ดิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
birdyman
อย่าอยู่อย่างอยาก
Jr. Member
like: 10
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 324
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 04:05:30 pm » |
|
ขอชมเชย ใจถึงมาก น้ำอาจซึมเข้าปลั๊กไฟขั้วต่อต่างๆ ลมเป่าก็ไม่ออกครับ ต่อไปน้องสนิมถามหาและเข้ามาอยู่ด้วยระบบไฟรวน ถ้าไม่เป็นไรโชคดีไป แต่คราวหน้าไม่ควรทำ ล้างห้องเครื่องใช้ลมพ่นผสมน้ำมันก๊าซ แล้วใช้ลมเป่าแห้งอีกทีครับ
ตามปลั๊กต่างเมื่อน้ำเข้าไปหน้าcontackจะทำให้เป็นสนิม ตอนนี้ยังไม่มีอาการ ต่อไปจะเริ่มมีอาการจากอาการที่เรียกว่า "Bad Contack"ผิดไปแล้วพลาดไปแล้วจริงๆงานนี้ ครั้งแรกงานเข้าเลย ชักใจคอไม่ดีแว้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Joe ผู้ชาย*รสส้ม*
PJS.Thai.ID.017
Hero Member
like: 50
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2629
ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 06:02:55 pm » |
|
การล้างห้องเครื่องยนต์ สามารถทำได้(แต่ไม่ใช่ทำบ่อยๆ)ครับ
ปิดจุดที่สำคัญๆ ไม่ควรให้น้ำเข้าโดยเด็ดขาด เช่น ท่อไอดี ถึงแม้ว่า น้ำเข้าไปแล้วสามารถ
ออกได้ทางด้านล่างของกล่องกรองอากาศก็ตามครับ(จะมีรูระบายน้ำออก แต่น้ำไม่สามารถเข้าจากด้านล่างได้ครับ)
ส่วนระบบสายไฟต่างๆนั้น หลังจากล้างห้องเครื่องเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการเป่าแห้ง และพ่นน้ำยาไล่ความชื้นทันที
และเป่าให้แห้งอีกครั้งครับ(ระบบลมจะต้องมีตัวดักน้ำ ไม่อย่างนั้น เท่ากับว่าเราพ่นน้ำเพิ่มเข้าไปอีก)ครับ
การฉีดน้ำในบริเวณห้องเครื่อง สามารถทำได้ แต่ความแรง+องศาของน้ำต้องเหมาะสม
ไม่ควรใช้องศาต่ำๆ เพราะน้ำจะมีลักษณะเป็นเส้นตรง ทะลุทะลวงครับ ช่องไหนไปได้น้ำไปทันทีครับ
และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปฉีดน้ำจี้ทุกๆจุด ควรใช้ในลักษณะการฉีดพรมทั่วๆ จะเหมาะสมกว่าครับ
คนล้างรถต้องเข้าใจกับพื้นฐานของเครื่องรุ่นนั้นๆพอควรครับ เช่นท่อนบนฉีดพรม ท่อนล่างจี้ได้บ้าง *****และควรล้างห้องเครื่องตอนที่อุณหภูมิเครื่องต่ำลงแล้วเท่านั้น ห้ามจอดปุ๊ปล้างปั๊ป เหล็กจะหดตัวไวเกิน เสียหายได้ครับ*****
น้ำยาที่ใช้ล้าง ไม่ว่าจะเป็นแชมพูโฟม น้ำยาล้างจาน สามารถใช้ได้*ไม่ควรใช้สารจำพวกโซดาไฟ/โซเวนซ์* โดยเด็ดขาด
เพราะสารพวกนี้ ทำลายแม้กระทั้งปลั๊ก(ซอคเก็ต)ที่เป็นพลาสติก จะทำให้กรอบ แตกหักได้ ในอนาคตครับ
สายไฟก็เช่นกันครับ เจ้าสารพวกนี้จะกัดกร่อน จนฉนวน เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรครับ
.....บางร้านต้องการสะอาดเห็นผล โดยไม่คำนึงถึงผู้บริโภคอย่างเราๆ เค๊าก็จะใช้ น้ำยาล้างห้องน้ำเจือจาง มาทำความสะอาดรถเราครับ สะอาดจริงอะไรจริง แต่เสียหายกับทุกอย่างในรถเราครับ(ร้านไม่มีมาตราฐาน)
*วิธีสังเกตุง่ายๆคือ หากร้านล้างรถ(คาร์แคร์) ร้านไหนใช้โซดาไฟ กรดเกลือ กับรถเรา* ให้สังเกตุ อินเตอร์คูลเลอร์ ของรถเรา *จะดำ*หลังจากล้างรถเสร็จครับ(ฟ้องร้องได้ฟ้องเลยครับ)ร้านมักง่าย รับไม่ได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...จะไปเอาอะไรมากมาย..กับผู้ชาย*รสส้ม*...
|
|
|
birdyman
อย่าอยู่อย่างอยาก
Jr. Member
like: 10
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 324
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2012, 08:30:53 am » |
|
การล้างห้องเครื่องยนต์ สามารถทำได้(แต่ไม่ใช่ทำบ่อยๆ)ครับ
ปิดจุดที่สำคัญๆ ไม่ควรให้น้ำเข้าโดยเด็ดขาด เช่น ท่อไอดี ถึงแม้ว่า น้ำเข้าไปแล้วสามารถ
ออกได้ทางด้านล่างของกล่องกรองอากาศก็ตามครับ(จะมีรูระบายน้ำออก แต่น้ำไม่สามารถเข้าจากด้านล่างได้ครับ)
ส่วนระบบสายไฟต่างๆนั้น หลังจากล้างห้องเครื่องเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการเป่าแห้ง และพ่นน้ำยาไล่ความชื้นทันที
และเป่าให้แห้งอีกครั้งครับ(ระบบลมจะต้องมีตัวดักน้ำ ไม่อย่างนั้น เท่ากับว่าเราพ่นน้ำเพิ่มเข้าไปอีก)ครับ
การฉีดน้ำในบริเวณห้องเครื่อง สามารถทำได้ แต่ความแรง+องศาของน้ำต้องเหมาะสม
ไม่ควรใช้องศาต่ำๆ เพราะน้ำจะมีลักษณะเป็นเส้นตรง ทะลุทะลวงครับ ช่องไหนไปได้น้ำไปทันทีครับ
และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปฉีดน้ำจี้ทุกๆจุด ควรใช้ในลักษณะการฉีดพรมทั่วๆ จะเหมาะสมกว่าครับ
คนล้างรถต้องเข้าใจกับพื้นฐานของเครื่องรุ่นนั้นๆพอควรครับ เช่นท่อนบนฉีดพรม ท่อนล่างจี้ได้บ้าง *****และควรล้างห้องเครื่องตอนที่อุณหภูมิเครื่องต่ำลงแล้วเท่านั้น ห้ามจอดปุ๊ปล้างปั๊ป เหล็กจะหดตัวไวเกิน เสียหายได้ครับ*****
น้ำยาที่ใช้ล้าง ไม่ว่าจะเป็นแชมพูโฟม น้ำยาล้างจาน สามารถใช้ได้*ไม่ควรใช้สารจำพวกโซดาไฟ/โซเวนซ์* โดยเด็ดขาด
เพราะสารพวกนี้ ทำลายแม้กระทั้งปลั๊ก(ซอคเก็ต)ที่เป็นพลาสติก จะทำให้กรอบ แตกหักได้ ในอนาคตครับ
สายไฟก็เช่นกันครับ เจ้าสารพวกนี้จะกัดกร่อน จนฉนวน เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรครับ
.....บางร้านต้องการสะอาดเห็นผล โดยไม่คำนึงถึงผู้บริโภคอย่างเราๆ เค๊าก็จะใช้ น้ำยาล้างห้องน้ำเจือจาง มาทำความสะอาดรถเราครับ สะอาดจริงอะไรจริง แต่เสียหายกับทุกอย่างในรถเราครับ(ร้านไม่มีมาตราฐาน)
*วิธีสังเกตุง่ายๆคือ หากร้านล้างรถ(คาร์แคร์) ร้านไหนใช้โซดาไฟ กรดเกลือ กับรถเรา* ให้สังเกตุ อินเตอร์คูลเลอร์ ของรถเรา *จะดำ*หลังจากล้างรถเสร็จครับ(ฟ้องร้องได้ฟ้องเลยครับ)ร้านมักง่าย รับไม่ได้ครับ
น้ำยาไล่ความชื่นนี่ใช้พวกน้ำมันโซแนกฉีดได้มั้ยครับ พวกหัวปลั๊กอะไรพวกเนี่ยอะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
rebellion
Jr. Member
like: 32
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 633
เพื่อนแท้ต้องใช้ใจแลกมา
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2012, 10:51:24 pm » |
|
ขอขอบคุณป๋า Birdyman มากครับที่นำเรื่องราวมาแชร์ให้ สมช ทราบ ขอบคุณข้อมูลป๋าโจ้และป๋าท่านอื่นด้วยครับ พอจะสรุปได้ว่าการล้างห้องเครื่องจำเป็นต้องทำโดยผู้ชำนาญและร้านที่มีประสบการณ์น่าเชื่อถือ ที่สำคัญคือ ล้างบ่อยโอกาสที่น้ำจะไปทำความเสียหายให้ระบบไฟในระยะสั้นและยาวมีมากขึ้นครับ เห็นชัดเจนคือสนิมครับ อยากทราบอีกอย่างครับถ้าไปทำมาแล้วจะถอดปลั๊กต่างๆเพื่อเป่าลมหรือเช็ดน้ำตามขั้วได้รึเปล่าครับ ระบบไฟหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆจะรีเซ็ทใหม่รึเปล่าครับ ถ้าไม่รวนป๋า Birdyman น่าจะถอดเช็ดในจุดที่เห็นชัดๆว่าน้ำน่าจะเข้าไปได้นะครับ อ๊อด บางบ่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คมแฝก
|
|
|
kittisak.1589
Mod
Full Member
like: 78
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1303
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2012, 11:33:29 pm » |
|
ล้างเสร็จ ขับรถสัก 10 นาที มันก้แห้งหมดแล้วครับ แต่ถ้าล้างเองแล้วไม่ได้ออกไปไหน อันนี้ถึงต้อง ไล่น้ำ ไล่ความชื้นกันครับ
รถล้างห้องเครื่องได้ครับ (แต่ไม่สมควรจะล้างที่ถูกควรเช็ด) ถ้าต้องล้าง ระวังขั้วแบต ECU กล่องฟิวส์ ไดนาโม ไดชาร์จน่ะแหล่ะ และไม่ฉีดด้วยแรงดันน้ำแรง ต้องฉีดเป็นฝอยเบาๆ ไม่ใช้แรงลมเป่าแรงๆ ถ้าล้างแล้วจอดใช้ยาไล่ความชื้น ลมเป่าได้
ผมทำแบบนี้ไม่เคยมีปัญหาครับ แต่ในคลิปดุแล้วเขาไม่ป้องกันอะไรเลย และเขารู้ว่าเดี๋ยวเราก็ขับไป ความร้อนจะละลายน้ำออกไป เขาจึงทำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
birdyman
อย่าอยู่อย่างอยาก
Jr. Member
like: 10
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 324
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2012, 11:40:00 pm » |
|
ล้างเสร็จ ขับรถสัก 10 นาที มันก้แห้งหมดแล้วครับ แต่ถ้าล้างเองแล้วไม่ได้ออกไปไหน อันนี้ถึงต้อง ไล่น้ำ ไล่ความชื้นกันครับ
รถล้างห้องเครื่องได้ครับ (แต่ไม่สมควรจะล้างที่ถูกควรเช็ด) ถ้าต้องล้าง ระวังขั้วแบต ECU กล่องฟิวส์ ไดนาโม ไดชาร์จน่ะแหล่ะ และไม่ฉีดด้วยแรงดันน้ำแรง ต้องฉีดเป็นฝอยเบาๆ ไม่ใช้แรงลมเป่าแรงๆ ถ้าล้างแล้วจอดใช้ยาไล่ความชื้น ลมเป่าได้
ผมทำแบบนี้ไม่เคยมีปัญหาครับ แต่ในคลิปดุแล้วเขาไม่ป้องกันอะไรเลย และเขารู้ว่าเดี๋ยวเราก็ขับไป ความร้อนจะละลายน้ำออกไป เขาจึงทำ
รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลยครับ ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ แต่ก็จะหาพวกน้ำยาไล่ความชื้นมาฉีดซักหน่อย เพื่อความสะบายใจครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Joe ผู้ชาย*รสส้ม*
PJS.Thai.ID.017
Hero Member
like: 50
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2629
ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2012, 10:46:27 am » |
|
ล้างเสร็จ ขับรถสัก 10 นาที มันก้แห้งหมดแล้วครับ แต่ถ้าล้างเองแล้วไม่ได้ออกไปไหน อันนี้ถึงต้อง ไล่น้ำ ไล่ความชื้นกันครับ
รถล้างห้องเครื่องได้ครับ (แต่ไม่สมควรจะล้างที่ถูกควรเช็ด) ถ้าต้องล้าง ระวังขั้วแบต ECU กล่องฟิวส์ ไดนาโม ไดชาร์จน่ะแหล่ะ และไม่ฉีดด้วยแรงดันน้ำแรง ต้องฉีดเป็นฝอยเบาๆ ไม่ใช้แรงลมเป่าแรงๆ ถ้าล้างแล้วจอดใช้ยาไล่ความชื้น ลมเป่าได้
ผมทำแบบนี้ไม่เคยมีปัญหาครับ แต่ในคลิปดุแล้วเขาไม่ป้องกันอะไรเลย และเขารู้ว่าเดี๋ยวเราก็ขับไป ความร้อนจะละลายน้ำออกไป เขาจึงทำ
รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลยครับ ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ แต่ก็จะหาพวกน้ำยาไล่ความชื้นมาฉีดซักหน่อย เพื่อความสะบายใจครับ โซเน็กซ์ หรือ WD 40 ใช้ได้ทุกยี่ห้อครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...จะไปเอาอะไรมากมาย..กับผู้ชาย*รสส้ม*...
|
|
|
haleruya99
Newbie
like: 10
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 135
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: ตุลาคม 04, 2012, 04:24:28 pm » |
|
ล้างห้องเครื่องล้างได้ครับ เครื่องดีเซลล์ ไม่มีไรน่าห่วง แค่เอาถุงพลาสติกหุ้มชิ้นส่วนสำคัญ เช่น กล่อง ไดชาร์จ และส่วนต่างๆที่สำคัญ รถดีเซลไม่มีไรมาก สบายใจได้ครับ แต่ถ้าเป็นรถเบนซิน ต้องระวังเรื่อง ปลั๊กหัวเทียน จานจ่าย ควรปิดให้มิดชิด ถ้าน้ำเข้าก็ งานเข้าล่ะครับ พี่น้องครับบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|