พอดีเมื่อสองงสามอาทิตย์ก่อนนู้นขณะที่ผมกำลังขับน้องปาขาวมุกป้ายแดงอันแสนรักของผมในเวลาดึกพอสมควรซึ่งฝนก็ตกหนักและถนนลื่นด้วย
ขณะกำลังจะตัดเข้าเลนส์ขวาเพื่อยูเทิร์นโดยไม่ทันได้ระวังตัวก็มีน้องโก้ซึ่งขับตามหลังมาเกิดเบรคไม่ทัน และผมก็มองไม่เห็นตั้งแต่แรก
และแล้วเราทั้งคู่ก็จูจุ๊บกันเป็นเหตุให้น้องปาของผมและน้องโก้ของคู่กรณีได้รับความเสียหาย (มาก) เสียทั้งคู่
เรื่องราวมันก็มาจบตรงที่ผมและเจ้าของน้องโก้ตกลงกันว่าจะเคลมประกันและต่างคนต่างซ่อมของใครของมัน ในข้อหาว่าประมาทร่วม (คุณประกันของเราทั้งคู่มาร่วมคุยด้วย)
ผมก็เลยต้องยอมเอาน้องปาไปซ่อมโดยเคลมกับประกันที่แถมมากับรถ (คงไม่ต้องเอ่ยชื่อให้ช้ำใจอีก หึหึ
)
ในระหว่างนี้ผมก็ต้องตามทั้งขึ้นทั้งล่องว่า เฮ้ย! คุณบริษัทประกันครับ เมื่อไหร่คุณจะอนุมัติซ่อมให้ผมซักทีครับ
รถคู่กรณีของผม (ประกันเทพ) ซ่อมใกล้เสร็จแล้วนะครับ แต่น้องปาผมยังจอดนิ่งสนิทรอคุณประกันอนุมัติซ่อมอยู่เลย
คุณประกันก็อ้างนี่อ้างนั่นต่าง ๆ นา ๆ ราคาประเมินสูงบ้างหล่ะ (เกือบแสน) ต้องรอ นั่น นู่น นี่ บลาๆๆๆ
จนผ่านไปเกือบจะเดือนละ มั้นก็ยัง บลาๆๆ อยู่เหมือนเดิม โทรไปทีไรมีหงุดหงิดตลอด
ในระหว่างนี้ ผมก็เลยไม่มีรถใช้ตามระเบียบ จะไปไหนมาไหนทีก็ลำบาก ยังดีที่มีท่านหัวหน้าในแผนกกะท่านรองฯ ซึ่งมีรถแบบ SUV ในครองครองทั้งคู่แต่เป็นคนละยี่ห้อกัน
ท่านหัวหน้าเป็นรถ SUV สัญชาติญี่ปุ่นที่เพิ่งจะออกโมเดลใหม่เมื่อกลาง ๆ ปีนี้เอง
ส่วนท่านรองฯ เป็น SUV ชื่อดังสัญชาติมะกันและเป็นตัวที่ผมก็เกือบจะสอยมาแล้วในตอนแรก (แต่ไปไงมาไงไหงผมมาสอยน้องปาแทนก็ไม่รู้ คงเข้ามาคลับนี้บ่อยกระมัง
)
ท่านทั้งสองก็กรุณาให้ผมยืมรถของท่านไปทำธุระไปนั่นมานี่ตามแต่ที่ผมมีความจำเป็น (พักหลัง ๆ ไม่รู้เป็นไงมันเริ่มจำเป็นบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ
)
สรุปประเด็นสำคัญ หลังจากที่ได้สัมผัสกับรถ SUV พันธุ์แท้ของท่านทั้งสองมาได้ซักพัก ความรู้สึกจากใจของผมมันก็บอกผมมาว่า...
เออ! เอ็งคิดไม่ผิดเลยล่ะที่เลือกน้องปามาเป็นรถคู่ใจของเอ็งเนี่ย (เหตุผลผมขอละไว้แล้วกันนะครับ อาจเป็นเพราะโดยรวมแล้วน้องปามีดีและลงตัวที่สุดสำหรับผมแล้วมั้ง)
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ยิ่งนานวันยิ่งรักน้องปาเข้าไปทุกที นี่ขนาดยังซ่อมไม่เสร็จ (หรือยังไม่ได้ซ่อมหว่า) และไม่ได้ขับมาจะเป็นเดือนแล้วนะเนี่ย