รถ. : PJS 2.5 GT ปลายปี 2010 การใช้งาน 115,678 อุด EGR ติด LPG ร่วม เคยน้ำดัน หลังทำมา ร้อนกว่าเดิม ยังไม่ได้เปลี่ยนวาล์วเป็น A31
ปัญหา : ขับรถเดินทางไกล 700 กม. ข้ามเขา 4 ลูก ยาวแบบไม่พัก มีแวะเข้าห้องน้ำ ที่ 330 กม. แต่ไม่ดับเครื่อง พอระยะ 400 กม. กว่า เริ่มมีปัญหา เกียร์ค้างที่ เกียร์ 2
โดยเฉพาะตอนลงเขา เหมือนกับหลายๆคนเป็น คิดเอาเองว่า น่าจะจากเกียร์ร้อน จึงรวน เพราะตอน เขาลูกแรกไม่ค่อยเป็น จึงมองหา เกียร์ออยคูลเลอร์เพื่อติดเพิ่ม
ค้นหาข้อมูลไม่ค่อยมี เห็นส่วนใหญ่ติดตั้งเพิ่อแยกระบบจากหม้อน้ำ
รูปแบบ : ในระบบเดิม คือ น้ำมันเกียร์ ผ่านท่อปรับอุณหภูมิที่หม้อน้ำ น่าจะทำให้น้ำมันเกียร์ได้ temp เหมาะทำงานได้เร็ว แต่ถ้าร้อน ก็คงไม่ค่อยได้ช่วยระบายร้อน
เพราะหม้อน้ำ ก็ร้อนมาก เหมือนกัน จึงน่าจะช่วยโดยการติดตัวระบายร้อนด้วยอากาศเพิ่มเติม เห็นรูปแบบที่เขาทำกัน 3 แบบ
1. แยกระบบ ให้น้ำมันเกียร์ผ่านแอร์คูลเลอร์ ไม่ผ่านหม้อน้ำ gear->air cooler->gear ซึ่งเขาทำกันเพื่อกัน น้ำรั่วเข้าไประบบเกียร์ที่จะทำให้เกียร์พัง
แต่ส่วนตัวคิดว่าแบบนี้ไม่เอา เพราะ ไม่ได้มีระบบอุ่นน้ำมันเกียร์ และถ้าขึ้นเขา รถช้า จะระบายร้อนไม่ทัน ส่วนเรื่องน้ำรั่วเข้าห้องเกียร์ ก็กันได้โดย ใช้น้ำยาหม้อน้ำดี ถ้าหม้อผุก็เปลี่ยน
ไม่รอให้สนิมกินจนรั่ว ดูแลดีๆ 4-5 ปี ค่อยเปลี่ยนหม้อ ยังไหว
2. ติดเสริม เข้าไปแบบ gear->radiator->air cooler->gear ซึ่งนิยมกัน แต่ไม่เอาด้วย เพราะ เห็นว่า หลังจากผ่านหม้อน้ำแล้ว มาผ่านคูลเลอร์ ถ้าอากาศข้างนอกเย็นจัด
จะทำให้น้ำมันเกียร์เย็น และ temp จะกระเพื่อมมาก จะทำให้เสื่อมเร็ว
3. ติดเสริม เข้าไปแบบ gear->air cooler->radiator->gear ซึ่งเห็นในคู่มือ เกียร์ระบบ high power เขาก็มีแบบนี้ แต่คงเป็นรุ่นอื่น หรือ อาจเป็นในรุ่นทีส่งนอก
ส่วนที่ขายใน MY2010 คงลดต้นทุน เห็นว่าใช้งานปกติ ทางราบไม่โหด จึงตัดออกไปหรือเปล่า โดยส่วนตัว เลือกแบบนี้ เพราะ หม้อน้ำช่วยรักษาอุณหภูมิไม่ให้กระเพื่อมมาก
และ อาจช่วยลดอุณหภูมิน้ำได้บ้างเล็กน้อย และเหมือนกันที่ เขาออกแบบมา
อุปกรณ์ :
สั่งของจากที่นี่
http://www.siam-motorsport.com/product/200528/ชุด-oil-cooler-เกียร์.html
แบบสีเงิน 13 ชั้น ราคา 4,400 บาท แต่ถ้าหาของแบบติดรถได้ ก็คงจะดี เพราะที่รถ เหมือนมีที่ให้ยึด ไมต้องดัดแปลง เหมือนที่ผมทำ
ไม่รู้ว่ามีของใหม่ให้เบิกศูนย์ไหม หรือ ว่าจะหาเซียงกง แต่ผมขี้เกียจหา เลย จัดมาแบบนี้เลย
ผลการใช้งาน : ความร้อนเครื่องไม่แตกต่างจากเดิม อาการเกียร์ค้าง ลดจาก 4-5 ครั้ง เหลือเป็น 1 ค้างและกลับคืนสู่ปกติได้ไว ส่วนตัวคิดว่าแก้ตรงจุด
คำแนะนำ : -ถ้าใช้รถตามปกติ ไม่ค่อยได้ใช้โหดแบบผม คงไม่คุ้มที่จะติด เพราะ เสียเงิน และ เพิ่มจะต่อ ที่อาจรั่วของระบบน้ำมันเกียร์
-ไม่ใช่ช่าง ไม่ได้จบวิศวะ เป็นเพียง ช่างซ่อมคน ไม่ต้องมาดีเบท หรือ ถามอะไรที่เป็นหลักการของช่าง ที่ทำไป ก็คิดเอง เออ เองทั้งนั้น