เสียใจด้วยครับ
โชคยังดีอยู่ที่ ชีวิตปลอดภัย
อย่างนี้ฟ้องร้อง หรือเรียกร้องอะไร กับเจ้าของถนน ได้ไหมนี่
สามารถฟ้องได้ครับ แต่จะชนะคดีหรือไม่ต้องต่อสู้กันยาว
ผู้ที่ต้องรับผิดชอบมีทั้งผู้รับงานและผู้ควบคุมครับ
มองตรงก็กรมทางหลวงครับ ทีนี้ในการต่อสู้คดีกัน
ต้องสืบให้ได้ถึงหลักฐานต่างๆ โดยรวมต้องนำมา
ให้ศาลเชื่อ ในหลักสำคัญๆ หลายประเด็นครับ
มีคดีความฟ้องร้องอยู่บ่อยครับ
อีกอย่างถ้าเกิดเหตุในลักษณะนี้ แนะนำให้แจ้งความ
กับตำรวจด้วยครับ ถ้ามีคนบาดเจ็บนี่ทุกกรณีควร
แจ้งตำรวจให้บันทึกลงประจำวันไว้(อาจจะได้คัด
สำเนาเอาไปใช้ในวันหลังได้)และเราเองก็ถ่ายรูปไว้เยอะๆ
และถึงแม้ไม่มีผู้บาดเจ็บแต่รถเสียหายมาก ก็ควรไปแจ้งไว้
เป็นหลักฐานนะครับ อย่าคิดว่าอะไรๆก้แจ้งประกันๆๆอย่างดียว
ผมเอาตัวอย่าง ฎีกามาให้อ่านสักนิดนะครับ (กว่าจะเป็นฎีกา
ต้องต่อสู้คดีกันยาวหน่อย)
(ลิงค์ ฎีกา ขัดข้อง เดี๋ยวจะแก้ไขให้)
อย่าลืมนะครับ เกิดอุบัติเหตุลักษณะนี้ ตอนแรกท่านอาจจะไม่บาดเจ็บ
แต่อาจจะเจ็บภายในก้ได้ วันต่อๆมา อาการกำเริบ จะฟ้อร้องลำบาก
แต่ที่ดีที่สุดคือ อย่าประมาทครับ ทุกเสี้ยววินาที ในการขับรถ
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอด
ไม่สามารถนำลิ้งค์มาแปะได้ ผมเลนคัดมาสัก 2 ฎีกา นะครับ ลองอ่านดู
เป็นแนวทาง
ตัวอย่างคดีที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงาน
- ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ 5205/2550 - วันเกิดเหตุฝนตกไม่มากและลมพัดไม่แรง การที่ต้นจามจุรีริมทางหลวงล้มทับผู้ตายขณะขับ
รถจักรยานยนต์ไปตามทางหลวงจนเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายมิใช่เกิดเหตุสุดวิสัย แต่เป็นเพราะความ
บกพร่องของกรมทางหลวงจ าเลยที่ไม่โค่นหรือปล่อยปละละเลยไม่สั่งเจ้าหน้าที่ของจ าเลยไปโค่นต้นจามจุรีที่มี
สภาพผุกลวงเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น อันเป็นการกระท าละเมิดของจ าเลย จ าเลยจึงต้องรับ
ผิดต่อโจทก์
เหตุผลที่ศาลเชื่อว่าเป็นความประมาทของกรมทางหลวง คือ 1. ต้นจามจุรีที่หักลงมาทับผู้ตายมีสภาพผุกลวงสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
2. วันเกิดเหตุฝนตกไม่หนักและลมพัดไม่แรง
3. ก่อนเกิดเหตุต้นจามจุรีดังกล่าวมีสภาพเอียงโน้มเข้าหาถนนประมาณ 60 องศาและโคนต้นไม้
เป็นรูกลวงมาประมาณ 2 ปี
4. เคยโทรศัพท์บอกเจ้าหน้าที่แขวงการทางและเคยไปพบเจ้าหน้าที่ให้ช่วยตัดต้นจามจุรีออก แต่
เจ้าหน้าที่ก็เพิกเฉยไม่ยอมมาตัด
-
ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ 5782/2538 - กรมทางหลวงจ าเลยขุดดินมากองไว้บนถนนทางหลวงที่ใช้ส าหรับยวดยานพาหนะผ่านไปมา
ในลักษณะกีดขวางการจราจรในช่องเดินรถของผู้ตายโดยเพิ่งขุดกองไว้ในวันเกิดเหตุมิได้ติดตั้งป้ายสัญญาณ
หรือไฟสัญญาณเตือนให้ผู้ขับยวดยานพาหนะผ่านไปมาทราบว่ามีกองดินอยู่ข้างหน้าจ าเลยย่อมคาดได้แต่แรก
ว่าหากไม่มีป้ายสัญญาณและไฟสัญญาณในเวลากลางคืนให้เห็นชัดเจนแล้วก็อาจเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความ
เสียหายจากกองดินดังกล่าวได้โดยง่ายเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างมากการที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ใน
ช่องเดินรถของตนในเวลากลางคืนด้วยความเร็วธรรมดาโดยไม่มีโอกาสเห็นกองดินที่จ าเลยด าเนินการขุดไว้
ข้างหน้าตามสมควรจนท าให้รถชนผู้ตายชนกองดินดังกล่าวเป็นผลโดยตรงจากการประมาทเลินเล่อของจ าเลย
จ าเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
เหตุผลที่ศาลเชื่อว่าเป็นความประมาทของกรมทางหลวง คือ 1. ขุดดินมากองไว้บนถนนทางหลวงที่ใช้ส าหรับยวดยานพาหนะผ่านไปมาโดยกองไว้ในลักษณะกีด
ขวางการจราจรในช่องเดินรถของผู้ตาย
2. มิได้ติดตั้งป้ายสัญญาณหรือไฟสัญญาณเตือนให้ผู้ขับยวดยานพาหนะผ่านไปมา ทราบว่ามีกอง
ดินอยู่ข้างหน้า
3. ย่อมคาดได้แต่แรกว่าหากไม่มีป้ายสัญญาณและไฟสัญญาณในเวลากลางคืนให้เห็นชัดเจนแล้วก็
อาจเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายจากกองดินดังกล่าวได้โดยง่าย