ระหว่าง 600d.d90.และตัวเล็ก oly epl5
คิดมาหลายวันละครับไม่ตกซักที
อยากเสียตังค์แล้ว...
สำหรับกล้องที่ยกตัวอย่างมา 3 รุ่นนั้น 2 ตัวแรกนั้น หลายๆคนก็คงจะรู้จักกันแล้ว
ว่าเป็นอย่างไร ใช้งานอย่างไร ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมตกแต่งอะไรได้บ้าง เพิ่มแล้ว
ใหญ่โต หนัก แต่ใช้งานได้ดีแค่ไหน คงไม่ต้องบอกอีก
แต่ตัวที่ 3 อาจจะมีบางคนไม่รู้คืออะไร ลองมาศึกษาก่อนครับ ผมเองเริ่มสนใจ
เจ้ากล้องประเภทนี้มาได้สักพักแล้วครับ และได้ลองใช้งานมาบ้าง มาเริ่มเลยครับ
มันคือ
กล้อง Mirrorlessถ้าจะบอกว่ากล้อง Mirrorless เป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่าระบบหลักๆ “เหมือนกล้องคอมแพค
ตัวเล็กๆธรรมดาๆ แต่ดันเปลี่ยนเลนส์ได้” นั่นเอง
แต่… ไม่มีใครเรียกเจ้า Mirrorless ว่ากล้องคอมแพคเปลี่ยนเลนส์ได้หรอกครับ เพราะจะทำให้
“สับสน” ได้ … ทำไมต้องสับสน? … ก็เพราะกล้อง Mirrorless นั้น มีคุณภาพระดับเดียวกับ DSLR
น่ะสิครับ ^ ^ (กล้อง DSLR คือกล้องตัวใหญ่ๆดำๆ เปลี่ยนเลนส์ได้)
ไปเรียกว่าคอมแพคเปลี่ยนเลนส์ได้ เดี๋ยวคนจะคิดว่าคุณภาพระดับคอมแพค แต่ดันเปลี่ยนเลนส์
ได้ซะงั้นไป ^ ^” ก็เลยมีชื่อใหม่ว่า Mirrorless หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า EVIL หรือ MILC
EVIL ย่อมาจาก electronic viewfinder interchangeable lens
MILC ย่อมาจาก mirrorless interchangeable lens camera
แล้วทำไมต้องใช้คำว่า Mirrorless?
ถ้าไม่อยากให้สับสนกับคุณภาพไฟล์ว่าดีกว่าคอมแพค ตั้งชื่อใหม่ไม่ได้หรือ? หรือตั้งชื่อว่า Mini-DSLR
หรือ Compact-DSLR ไม่ดีกว่าหรือ?
จริงๆแล้วกล้อง Mirrorless นั้น มีต้นแบบมาจากกล้อง DSLR นั่นแหละครับ
ซึ่งคำว่า DSLR นั้น ย่อมาจาก digital single lens reflex
และสิ่งที่ทำให้เจ้าตัว DSLR ต้องใหญ่เทอะทะ ก็เพราะมี single lens reflex (กระจกสะท้อนแสงจากเลนส์
เข้าสู่ช่องมอง หรือ viewfinder) นั่นเองครับ และเจ้ากระจกนี้เอง ก็คือที่มาของชื่อของ DSLR ด้วย ^ ^
(เวลาเราจะุถ่ายรูปจาก DSLR เราก็ส่อง … แล้วก็เห็นภาพ ซึ่งสะท้อนมาจากกระจก … พอเรากดปุ่มชัตเตอร์
กระจกก็จะยกขึ้น แล้วแสงก็ผ่านเข้าเซนเซอร์แทน … นี่คือหลักการของ DSLR (บางคนบอกว่าชอบเสียง
ชัตเตอร์ของกล้อง DSLR แต่บางตัวเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงยกกระจกขึ้นลง ไม่ใช่เสียงชัตเตอร์ก็มีครับ เหอๆๆ ^ ^))
พอมาเป็น Mirrorless เค้าก็มีแนวคิดคือ “ตัดกระจกที่ว่านี้ออกไป โดยให้ทุกๆอย่างคงเดิม” พูดง่ายๆคือ
ตัด SLR ออกไปนั่นเองครับ
เหตุผลก็คือเพื่อให้ขนาดมันเล็กกระทัดรัดลงกว่า DSLR เปลี่ยนเลนส์ได้เหมือน DSLR และคุณภาพ
เท่าเทียมกับ DSLR อยู่น่ะครับ ^ ^
และเพราะไม่มีกระจกที่ว่านี้ จะใช้ชื่อว่า Mini-DSLR หรือ Compact-DSLR ก็ไม่ได้ครับ ^ ^ เพราะกล้อง
มันไม่มี SLR อยู่อีกแล้ว แม้ทุกอย่างจะเหมือน DSLR ก็เถอะ แต่สิ่งที่ตัดออกไป ก็คือส่วนสำคัญ
ของชื่อ DSLR นั่นเอง ^ ^ก็เลยได้ชื่อใหม่ว่า “ไร้กระจก” หรือ “Mirrorless” นั่นเองครับ ^ ^
สำหรับกล้อง Mirrorless นั้น
จริงๆโดยระบบ ก็เริ่มตั้งแต่ Leica M8 แล้วครับ แต่ตอนนั้นศัพท์ Mirrorless นี้ยังไม่เกิด อีกอย่าง
รูปร่างของ Leica M8 นั้นยังเทอะทะและเป็นรุปร่างของ RangeFinder นั่นเองครับ
กล้องตัวแรกของ Mirrorless จริงๆนั้นก็คือ Panasonic G1 ครับ (แต่รูปร่างยังเป็น DSLR อยู่ คนเลยไม่ค่อยฮือฮา)
จนกระทั่งเกิดการวางตลาดของ Olympus E-P1 นั่นแหละครับ กระแสของ Mirrorless จึงได้เกิด
(วางขายกลางปี 2009) เพราะเป็นกล้องตัวแรกจริงๆที่ขนาดไม่ใหญ่ทึนทึก แต่คุณภาพระดับ DSLR
ฮือฮาขนาดไหน? ก็ต้องบอกว่าเวบดังๆอย่าง Dpreview นั้น มีคนเข้าไปดูข้อมูลของ E-P1 มากเป็นอันดับหนึ่ง
ติดต่อกันเกือบ 3 เดือน ปล่อยให้กล้อง DSLR รุ่นใหม่ตอนนั้นอับเฉาไปเลย
ผมคัดลอกมาจากบทความของ ecมอลล์ดอทคอม
ตอนนี้ผมได้หยิบๆจับ NEX 5r ก็ถือว่าโอเคครับ ภาพที่ออกมา ดีมากทีเดียว