ขอบคุณคะที่แชร์ข้อมูล ตอนนี้ชะลอเรื่องเปลี่ยนโช๊คไปก่อน ถึงแม้ว่าโช๊คมันจะดังกึกๆอยู่ เพราะอยากจะเก็บข้อมูลอีกหน่อย+กับเงินในกระเป๋ามันมีน้อย
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอถามต่ออีกนิดนะคะ โช๊คปรกติจะมีอายุการใช้งานกี่ปีคะ และถ้ามันหมดอายุการใช้งาน โช๊คระดับ TEIN กับ EMU เค้าจะซ่อมกันหรือเปลี่ยนชุดใหม่คะ รบกวนหน่อยคะ
อายุการใช้งานของ shock absorber ไม่สามารถบอกได้แน่นอนครับ ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นทาง นิสัยการขับขี่ และคุณภาพของตัวช๊อคฯ เองด้วย
Tein ซ่อมได้ครับ ในไทยมี ATP Motorsport กับ TEIN Master Shop ที่เป็นทั้งตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย เพราะออกแบบมาเผื่อให้ซ่อมอยู่แล้ว มีอะไหล่แท้ทุกชิ้น ซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของผู้ที่ซื้อยี่ห้อนี้มาใช้งานว่ายังมีทางออกเมื่อมันเสียเพราะค่าตัวของใหม่ก็ไม่ใช่น้อยๆ ถ้าตัวช๊อคฯ เป็นแบบธรรมดาที่ปรับความหนืดไม่ได้ หรือปรับได้แค่ทางเดียว ค่าซ่อม(โอเวอร์ฮอล) ราคาที่ TEIN Master Shop คิดตัวละ 2500 บาท แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ปรับได้ทั้ง bump และ rebound ราคาค่าโอเวอร์ฮอลตัวละ 5000 บาทครับ (แต่รุ่นที่ปรับได้แบบนี้มีแต่พวกตัวเรซซิ่งทั้งหลาย ซึ่งไม่ใช่รุ่นสำหรับใส่รถบ้านๆ แบบปาเจโร่สปอร์ตอยู่แล้ว) ซ่อมแล้วก็เกือบเหมือนใหม่ครับ เพราะมีอะไหล่ให้เปลี่ยนได้ทุกชิ้น ยกเว้นภายนอกที่อาจดูเก่าตามการใช้งาน ส่วนใครที่ไม่พอใจเรื่องความหนืดตามมาตรฐานก็สามารถให้เขาเปลี่ยนวาล์วข้างในให้ใหม่ เพื่อให้ได้ความหนืดเหมาะสมกับการใช้งานก็ได้ครับ(มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) แต่มีอาการเสียบางอย่างที่อาจไม่คุ้มค่าซ่อมนะครับ เช่นพวกแกนคดเป็นต้นเพราะค่าแกนตัวใหม่ก็แพงเอาการอยู่
ส่วน EMU ไม่เคยได้ยินว่ามีศูนย์ซ่อมนะครับ หรือมีแต่ผมอาจจะไม่ทราบก็ได้ แต่ถ้าท่านใดมีใช้งานอยู่ลองพิจารณาดูจากลักษณะของตัวช๊อคฯก็ได้ครับว่ามันถูกเชื่อมปิดไปทุกส่วนหรือเปล่า ถ้าใช่ก็คือไม่ได้ถูกออกแบบมาเผื่อไว้ซ่อมครับ ถ้าชำรุดตามมาตรฐานก็เปลี่ยนใหม่อย่างเดียว แต่บางคนอาจสงสัยว่าร้านช่วงล่างบ้านเราทำไมซ่อมช๊อคฯ ได้ทุกยี่ห้อ การซ่อมแบบร้านทั่วไปคือการดัดแปลงครับ เพราะว่าการจะถอดช๊อคฯ ทึี่ถูกเชื่อมปิดออกมาซ่อมได้นั้น ร้านเขาต้องเอากระบอกช๊อคฯ ไปกลึงตัดรอยเชื่อมเพื่อถอดเอาไส้ช๊อคฯ ออกมา ตอนจะประกอบกลับถ้าร้านไหนมีเครื่องเชื่อมหัวช๊อคฯ โดยเฉพาะเขาก็จะเชื่อมกลับเข้าไป ก็จะมีหน้าตาช๊อคฯ คล้ายกับตอนก่อนซ่อม แต่ถ้าร้านไหนไม่มีเครื่องเชื่อมแบบนี้เขาจะกลึงเกลียวที่กระบอกช๊อคฯ แล้วทำฝาปิดพร้อมกับซีลมาครอบเอาไว้
ครั้นพอแกะไส้ในออกมาได้ก็จะเปลี่ยนอะไหล่ข้างในที่เสียหายใหม่ ทีนี้เนื่องจากไม่มีอะไหล่แท้จากผู้ผลิตโดยตรง ร้านก็จะใช้การเทียบกับอะไหล่ที่มีขายอยู่ทั่วไป ซึ่งบางครั้งหลังจากซ่อมแล้วคุณลักษณะการทำงานของช๊อคฯ อาจจะไม่เหมือนเดิม เนื่องจากอะไหล่ที่ใช้ต่างกัน แล้วถ้าเจอร้านที่ไม่มีความรู้ความชำนาญในการซ่อมอย่างแท้จริง การเลือกใช้น้ำมันช๊อคที่ไม่ถูกต้อง การเลือกวาล์วที่ไม่ถูกต้องก็อาจทำให้ได้ช๊อคห่วยๆ กลับมาตัวหนึ่ง บางร้านซ่อมช๊อคฯ ที่มีตัวปรับความหนืดได้หลายระดับให้เป็นปรับได้หลายระดับแต่ความหนืดเท่ากันหมดทุกตำแหน่ง(มันเก่งไหมครับ) แม้ว่าค่าซ่อมจะถูกเพียงใด แต่ใช้งานได้แบบไม่มีประสิทธิภาพ หรือใช้งานได้ไม่นานก็เสีย บางทีแค่ไม่กี่เดือนก็ชำรุดอีกแล้ว สุดท้ายเจ้าของรถทนไม่ไหวก็จับมันโยนทิ้งอยู่ดีแล้วยังเสียดายค่าซ่อมอีกต่างหาก หากเจอร้านไหนซ่อมดีไม่มั่วก็ถือว่าโชคดีครับ ประสิทธิภาพอาจกลับมาใกล้เคียงกับของเดิม แต่อย่าคาดหวังว่าจะดีเหมือนของใหม่เพราะอย่างไรมันก็ต่างกันตรงอะไหล่ที่ใช้อยู่ดี
ลองพิจารณาดูครับ
ขอให้โชคดี