plaidoi
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
กระทู้: 42
|
|
« เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 02:31:38 am » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
suPreme
Global Mod
Hero Member
like: 46
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2418
ปาไทยแลนด์ 2805
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 07:00:22 am » |
|
พอจะบอกยี่ห้อได้ไหมครับ และรบกวนช่วยรายงานผลตามระยะทางเรื่อยๆนะครับป๋า แต่ป๋าก็ใจกล้าเกินไปป่าวครับ เติมที่เกียร์ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"พรีม" คือชื่อลูกสาวผมคร๊าบ แต่ตัวเองชื่อว่า "เก๋"
|
|
|
tee_noi
Full Member
like: 18
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1130
ID 1766
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 08:52:45 am » |
|
ขอทราบยี่ห้อด้วยครับป๋า ถ้ามีรูปตัวอย่างด้วยจะดีมากเลยครับ เฟืองท้ายหอน เป็นปัญหาของมหาชน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จะไปทุกที่..ที่อยากไป..
|
|
|
stock /ต๊อก
Full Member
like: 45
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1264
บ้านยุอุดร เฮ็ดงานยุกรุงเทพเด้อคร้าบบบบ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 12:06:49 pm » |
|
มารอด้วยครับ ของผมหอนดังมากๆๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mercury
Newbie
like: 1
ออฟไลน์
กระทู้: 36
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 02:20:51 pm » |
|
น้ำมันยี่ห้ออะไรครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
apichai 139
Jr. Member
like: 13
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 549
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 02:24:31 pm » |
|
รอดูด้วยคนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ID 1663 ปาดำ 2.5 VG GT 2WD MY 2012
|
|
|
donut2848
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 38
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 04:06:06 pm » |
|
ผม MY 2013 ยังหอนเหมือนกันครับ รบกวนขอรายละเอียดน้ำยาด้วยคนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sang2012
Newbie
like: 1
ออฟไลน์
กระทู้: 60
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 07:02:46 pm » |
|
ขอดูหน่อยครับผลิตภัณฑ์อะไร ของผมเคราะห์ดีหน่อยเสียงหอนเบาถ้าไม่ตั้งใจฟังจะไม่รู้ ส่วนรถของพี่ชาย รุ่นเดียวกันหอนดัง ทำทุกรูปแบบเเล้วก็ไม่หาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
peper
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
กระทู้: 208
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 21, 2013, 07:22:54 pm » |
|
2.4 ก็ไม่รอดเหรอครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
plaidoi
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
กระทู้: 42
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 12:33:05 am » |
|
ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยไม่รู้ผิดกฏกติกาในบ้านของเราหรือเปล่าครับ และขอออกตัวก่อนน๊ะครับ ผมไม่ได้เป็นพนักงานขายสารหล่อลื่นดังกล่าว และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผลิตภัณฑ์น๊ะครับ จุดประสงค์แค่อยากแชร์ แลกข้อมูลต่างๆอ่ะครับ สารหล่อลื่นที่ผมใช้ชื่อ K Power อ่ะครับ แต่ผมเห็นมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกน๊ะครับคิดว่าคุณสมบัติคงไม่ได้ต่างไปกว่ากันหลอกครับ หลังจากเติมมาแล้วขับไปเที่ยวหัวหิน และไปส่งงานที่สระบุรี เป็นที่น่าพอใจมากครับ ขับรถพยายามฟังเสียงหอนให้ได้ยิน แต่ได้ยินเบามากๆอ่ะครับ ถ้าหากเปิดเพลงเบาๆก็จะไม่ได้ยินเสียงเฟืองท้ายหอนเลยครับ ขอโทษน๊ะครับ หากข้อความผมผิดกติกาบ้านของเราครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kittah2010
Jr. Member
like: 6
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 430
ปาน้ำตาล1625
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 08:38:34 am » |
|
รถผมหอนตั้งแต่ 1000 โลแล้วครับ จะเริ่มหอนตั้งแต่ความเร็ว 90-100 กม/ชม ผมก็ลองผสมหัวเชื้อน้ำมันเกียร์ของ X1-R ครับ ขวดละ 500 กว่าบาท(ซื่อจากเว็บ Lazada) คือถ่ายของเก่าออกเลยแล้วเติมหัวเชื้อลงไปก่อนประมาณ 240 ml. จากนั้นก็เติมน้ำมันเฟืองท้าย 90 GL5 ของ ปตท. ครับ ทดลองวิ่งดูที่ความเร็ว 90 กม/ชม. เสียงหอนหายไปครับ แต่ที่ 100 กม/ชม ยังมีเสียงหอนอยู่แต่รู้สึกได้ว่าเบาลงกว่าก่อนมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
plaidoi
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
กระทู้: 42
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 11:33:10 am » |
|
รถผมหอนตั้งแต่ 1000 โลแล้วครับ จะเริ่มหอนตั้งแต่ความเร็ว 90-100 กม/ชม ผมก็ลองผสมหัวเชื้อน้ำมันเกียร์ของ X1-R ครับ ขวดละ 500 กว่าบาท(ซื่อจากเว็บ Lazada) คือถ่ายของเก่าออกเลยแล้วเติมหัวเชื้อลงไปก่อนประมาณ 240 ml. จากนั้นก็เติมน้ำมันเฟืองท้าย 90 GL5 ของ ปตท. ครับ ทดลองวิ่งดูที่ความเร็ว 90 กม/ชม. เสียงหอนหายไปครับ แต่ที่ 100 กม/ชม ยังมีเสียงหอนอยู่แต่รู้สึกได้ว่าเบาลงกว่าก่อนมากครับ
ยินดีด้วยครับ อย่างน้อยเสียงไม่หายแต่ลดเสียงหอนได้ก็ยังดีครับ แต่ผมซื้อมาขวดละ 1,000 บาท เขาอ้างอิงว่าเป็นฟิมล์เคลือบโลหะ (ไม่รู้จริงป่ะ) แต่อย่างน้อยเสียงก็เงียบกว่าเดิมเยอะมากๆเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Punpun
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 12:40:09 pm » |
|
มันคงเป็นสารที่เรียกว่า โมลิบดินั่ม มังครับ สารนี้พวกหัวเชื้อน้ำมันเครื่องมักเอาไปใช้ ถ้าใส่เฟืองท้าย มันก็คงไปเคลือบอย่างที่มันบอกไว้ที่ฉลาก ส่วนจากประสพการณ์ที่ได้แอบดูการผ่าเครื่องแทบจะเรียกว่าอาทิตย์ละคัน ก็ดูมาเยอะแต่ไม่ใช่ช่างครับ ว่างก็เดินไปคุยกับเพื่อนที่เป็นช่างทุกวัน พอมันเปิดฝาวาวล์ออกมา เราก็บอกได้เลยว่าเครื่องตัวนี้เจอหัวเชื้อมา มันจะมีคราบเคลือบออกสีอำพันเข้มเคลือบทุกชิ้นส่วนเลย ดีไหม คำตอบถ้ามองด้านเดียวก็น่าจะดีเหมือนอย่างเสปคมันบอกไว้จริง แต่พอมองไกลไปสองด้านและเจอกับของจริงมา เห็นแล้วเลยว่ามันรวมกับตะกอนสะสมเป็นหน่วยที่ใหญ่ขึ้น ตามเวลาพอมันวิ่งไหลเวียนในระบบน้ำมันเครื่องมันก็เจอเส้นทางที่แคบและสะสมจนตีบตัน พอนานเข้ามากเข้ามันทำตัวเป็นตัวกั้นการไหลเวียนของระบบน้ำมันเครื่อง ไม่ต้องอทิบายต่อแล้วมังครับ เมื่อมันไม่ไหลเวียนหรือไม่สะดวก อะไรจะเกิดตอนรถน้ำมันเครื่องแห้ง อาการก็อย่างนั้นเลย มีรถเข้ามาเปืดฝาความร้อนขึ้นเพราะหม้อน้ำหลายราย เพราะเหตุผลดังกล่าวก็แซมมาด้วย ผมเหมือนอยู่ในโรงผ่าศพเรื่องเครื่องยนต์ ได้เห็นได้จับได้รู้หลายอย่าง แล้วก็หลีกเลี่ยงต้นเหตุเท่าที่เห็นมาจากอู่ข้างบ้านนี่แหละ ส่วนเรื่องการเติม โมลิบดินั่ม ในเครื่องจักรฟันเฟือง หรือเฟืองท้ย ก็มักจะขายเป็นหลอดสำหรับเติมเฟืองท้ายโดยเฉพาะเลย ร้านอะไหล่เรียกว่าหัวเชื้อน้ำมันเฟืองท้าย หลอดเล็กนิดเดียว โดยส่วนตัวเพราะยังไม่ได้เห็นการผ่าเฟืองท้ายมาก แต่ดูแลัวไม่น่ามีปัญหาอะไรน่าจะช่วยเคลือบลดเสียงลงไปได้บ้างแต่ไม่น่าจะมากมายอะไร อุัตราการกัดกร่อนจาการเสียดสีก็น่าจะมีอายุยาวขึ้นเล็กน้อยตราบเท่าที่คุณภาพสัมพันท์ไปกับอุณหภูมิการใช้งานจริง (สารยังคงสภาพที่อุณหภูมิสูงขึ้น) สรุปว่า...เติมเครื่องยนต์ ไม่น่าใช้ เติมเฟืองท้ายพอไปได้ ตอนผลิตเขาก็มีการเคลือบแข็งเฟืองพร้อมเคลือบเจ้านี่อยู่แล้วด้วยนะโดยส่วนใหญ่ ที่น่าสงสัยลองอ่านคู่มือดูสิครับปริมาตรของน้ำมันเฟืองท้ายในคู่มือ ถ้าไม่ผิดน่าจะเขียนอยู่ที่2 ลิตรกว่า(ลองเปิดดูครับ) ส่วนความเป็นจริง ถ้าเติมกันให้สุดรูน๊อทเลยก็น่าจะได้เกือยบ 4 ลิตรทีเดียว ซึ่งรถกะบะก็เติมกันเต็มถึงรูนี้หรือลดลงไปเล็กน้อย อันนี้ไม่มีคำตอบครับ ถ้าถามช่าง 0 ก็จะได้รับคำตอบว่า ผมถูกเทรนมาให้ทำตามเสปคของบริษัท หากมีอะไรเสียหายจากการทำตามเสปค ก็เป็นเรื่องที่เลยผมไปแล้วครับผม (ถ้าผมเป็นช่างใน 0 ผมก็คงว่าไปตามนี้เหมือนกัน) อาจจะมีเหตุผลที่คู่มือระบุแบบนั้น แต่เด๋วคงมรสมาชิกที่เป็น Mechanical Engineer มาช่วยไขให้ว่า เชื่ออะไรดี แต่ถ้าเติมตามคู่มือบอก แล้วไม่หอนเราก็คงไม่ใส่ใจกันหรอก แต่พอมีการหอนแล้ว mitsu ไม่ได้ตอบอย่างที่ควรจะแป็น เราก็เลยต้องมาลองนั่นลองนี่กันเอง แต่ผม V6 2012 ไม่เคยได้ยินแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร แต่ผมเลือกแบบมั่วมั่วไปก่อนโดยเลือกแทงสูง เติมมันเต็มรูน็อทนั่นแหละ เจอไป เกือบ 4 ลิตร (ถ่ายเอง กลัว 0 บอกว่าถ้าเกินกว่าคู่มือ ไม่รับผิดชอบ เลยล่อเองเลย อิ) แต่ก็ลองสังเกตุดูว่ามันจะหนืดอืดไหม ก็ไม่รู่สึกอะไร ถ้าวันไหนหอนจะมาเล่าแล้วจะบอกว่า 4 ลิตรลองแล้ว ยังหอน ให้ไปดูดัชนีตัวอื่นแทนไม่ต้องมาดูเรื่องของเหลวหล่อลื่นแล้ว ไปดูเรื่องระยะห่างฟันสบอะไรเทือกนั้น ซึ่งเราแค่ User อย่างดีก็ทำได้แค่นี้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก เราจะทำต่อไป....
|
|
|
plaidoi
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
กระทู้: 42
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 12:54:06 pm » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nuntawut(YAI)
Newbie
like: 20
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 213
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 22, 2013, 02:24:58 pm » |
|
มันคงเป็นสารที่เรียกว่า โมลิบดินั่ม มังครับ สารนี้พวกหัวเชื้อน้ำมันเครื่องมักเอาไปใช้ ถ้าใส่เฟืองท้าย มันก็คงไปเคลือบอย่างที่มันบอกไว้ที่ฉลาก ส่วนจากประสพการณ์ที่ได้แอบดูการผ่าเครื่องแทบจะเรียกว่าอาทิตย์ละคัน ก็ดูมาเยอะแต่ไม่ใช่ช่างครับ ว่างก็เดินไปคุยกับเพื่อนที่เป็นช่างทุกวัน พอมันเปิดฝาวาวล์ออกมา เราก็บอกได้เลยว่าเครื่องตัวนี้เจอหัวเชื้อมา มันจะมีคราบเคลือบออกสีอำพันเข้มเคลือบทุกชิ้นส่วนเลย ดีไหม คำตอบถ้ามองด้านเดียวก็น่าจะดีเหมือนอย่างเสปคมันบอกไว้จริง แต่พอมองไกลไปสองด้านและเจอกับของจริงมา เห็นแล้วเลยว่ามันรวมกับตะกอนสะสมเป็นหน่วยที่ใหญ่ขึ้น ตามเวลาพอมันวิ่งไหลเวียนในระบบน้ำมันเครื่องมันก็เจอเส้นทางที่แคบและสะสมจนตีบตัน พอนานเข้ามากเข้ามันทำตัวเป็นตัวกั้นการไหลเวียนของระบบน้ำมันเครื่อง ไม่ต้องอทิบายต่อแล้วมังครับ เมื่อมันไม่ไหลเวียนหรือไม่สะดวก อะไรจะเกิดตอนรถน้ำมันเครื่องแห้ง อาการก็อย่างนั้นเลย มีรถเข้ามาเปืดฝาความร้อนขึ้นเพราะหม้อน้ำหลายราย เพราะเหตุผลดังกล่าวก็แซมมาด้วย ผมเหมือนอยู่ในโรงผ่าศพเรื่องเครื่องยนต์ ได้เห็นได้จับได้รู้หลายอย่าง แล้วก็หลีกเลี่ยงต้นเหตุเท่าที่เห็นมาจากอู่ข้างบ้านนี่แหละ ส่วนเรื่องการเติม โมลิบดินั่ม ในเครื่องจักรฟันเฟือง หรือเฟืองท้ย ก็มักจะขายเป็นหลอดสำหรับเติมเฟืองท้ายโดยเฉพาะเลย ร้านอะไหล่เรียกว่าหัวเชื้อน้ำมันเฟืองท้าย หลอดเล็กนิดเดียว โดยส่วนตัวเพราะยังไม่ได้เห็นการผ่าเฟืองท้ายมาก แต่ดูแลัวไม่น่ามีปัญหาอะไรน่าจะช่วยเคลือบลดเสียงลงไปได้บ้างแต่ไม่น่าจะมากมายอะไร อุัตราการกัดกร่อนจาการเสียดสีก็น่าจะมีอายุยาวขึ้นเล็กน้อยตราบเท่าที่คุณภาพสัมพันท์ไปกับอุณหภูมิการใช้งานจริง (สารยังคงสภาพที่อุณหภูมิสูงขึ้น) สรุปว่า...เติมเครื่องยนต์ ไม่น่าใช้ เติมเฟืองท้ายพอไปได้ ตอนผลิตเขาก็มีการเคลือบแข็งเฟืองพร้อมเคลือบเจ้านี่อยู่แล้วด้วยนะโดยส่วนใหญ่ ที่น่าสงสัยลองอ่านคู่มือดูสิครับปริมาตรของน้ำมันเฟืองท้ายในคู่มือ ถ้าไม่ผิดน่าจะเขียนอยู่ที่2 ลิตรกว่า(ลองเปิดดูครับ) ส่วนความเป็นจริง ถ้าเติมกันให้สุดรูน๊อทเลยก็น่าจะได้เกือยบ 4 ลิตรทีเดียว ซึ่งรถกะบะก็เติมกันเต็มถึงรูนี้หรือลดลงไปเล็กน้อย อันนี้ไม่มีคำตอบครับ ถ้าถามช่าง 0 ก็จะได้รับคำตอบว่า ผมถูกเทรนมาให้ทำตามเสปคของบริษัท หากมีอะไรเสียหายจากการทำตามเสปค ก็เป็นเรื่องที่เลยผมไปแล้วครับผม (ถ้าผมเป็นช่างใน 0 ผมก็คงว่าไปตามนี้เหมือนกัน) อาจจะมีเหตุผลที่คู่มือระบุแบบนั้น แต่เด๋วคงมรสมาชิกที่เป็น Mechanical Engineer มาช่วยไขให้ว่า เชื่ออะไรดี แต่ถ้าเติมตามคู่มือบอก แล้วไม่หอนเราก็คงไม่ใส่ใจกันหรอก แต่พอมีการหอนแล้ว mitsu ไม่ได้ตอบอย่างที่ควรจะแป็น เราก็เลยต้องมาลองนั่นลองนี่กันเอง แต่ผม V6 2012 ไม่เคยได้ยินแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร แต่ผมเลือกแบบมั่วมั่วไปก่อนโดยเลือกแทงสูง เติมมันเต็มรูน็อทนั่นแหละ เจอไป เกือบ 4 ลิตร (ถ่ายเอง กลัว 0 บอกว่าถ้าเกินกว่าคู่มือ ไม่รับผิดชอบ เลยล่อเองเลย อิ) แต่ก็ลองสังเกตุดูว่ามันจะหนืดอืดไหม ก็ไม่รู่สึกอะไร ถ้าวันไหนหอนจะมาเล่าแล้วจะบอกว่า 4 ลิตรลองแล้ว ยังหอน ให้ไปดูดัชนีตัวอื่นแทนไม่ต้องมาดูเรื่องของเหลวหล่อลื่นแล้ว ไปดูเรื่องระยะห่างฟันสบอะไรเทือกนั้น ซึ่งเราแค่ User อย่างดีก็ทำได้แค่นี้ครับ
เห็นกระทู้ป๋าทีไรผมอดใจไม่ได้จริงๆ ความรู้ทั้งนั้น!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|