ในปัจจุบัน tap ที่ใช้กันอยู่เป็นแบบใช้หมุนที่กล่อง มันจะปรับแบบทั้งย่าน เช่น หากหมุนเพื่มไฟ 8 องศา มันจะปรับเพิ่มหากรถใช้เดินเบาอยู่ 12 องศา มันจะเพิ่ม เป็น 20 องศา
และหากรอบ 4000 รอบ องศาไฟ นํ้ามันอยู่ 25 tap แบบที่มีอยู่ในตลาด จะเพิ่มไฟเป็น 33
ซึ่งในความจริงแล้ว ในรอบเดินเบา เราไม่ควรตั้ไฟแก่มากในรอบเดินเบา แต่เราสมควรเพิ่มได้มากที่รอบสูง ซึ่งกล่อง tap แบบปัจจุบันทําไม่ได้ เดียวผมมาเล่าอะไร สนุกๆให้ฟัง ต่อ ipad มันพิมพ์ยากอะคับ
ต่อนะครับ ระบบการจุดระเบิดนั้น สมมุติว่า ในกระบอกสูบมีขนาดบรรจุอยู่ที่ 10 และพอระบบจ่ายน้ำมันที่ 10 กล่อง ecuรถ ปรับองศาไฟได้เหมาะ จะทำให้เผาไหม้เขื้อเพลิงได้หมด เมื่อวาวล์ไอเสียเปิด ก็จะมีแต่ไอเสีย จากการที่เผาไหม้หมดออกไปที่ไอเสีย
แต่พอเป็นแก๊สที่มี oct (ผมขอย่อจากอ๊อกเทน) 105 ตามคุณสมบัติของ oct ที่สูงกว่า จะเผาไหม้ไฟได้ช้ากว่า ดังนั้นเมื่อเราใช้แก๊สในระบบที่จุดระเบิดด้วยความสามารถของกล่อง ecu รถ จะทำให้การเผานั้นนานกว่าเช่น หากใช้น้ำมัน 95 และใช้ระบบจุดระเบิดเดิม ใน 1 รอบในการ ดูด อัด ระเบิด คาย ยิ่งในช่วงการ จุดระเบิด และคาย หากใช้เวลาในการเผาน้ำมัน 95 ที่ 10 จังหวะคาย วาวล์ไอเสียจะเปิด เมื่อเผาหมดจะไม่มีไฟลามต่อไปเผาที่วาวล์ ก็จะมีแต่อากาศที่เป็นไอเสียที่ได้จากการเผาเสร็จแล้ว
แต่พอเป็นแก๊ส จำได้ไหมครับว่า หาก oct มากขึ้น ตามคุณสมบัตินั้นจะใช้เวลาในการเผาให้หมดนานกว่า oct ต่ำ ดังนั้นหากเราใช้แก๊ส แล้วใช้ระบบเดิม จากที่เคยใช้เวลาเผาอยู่ 10 ตอนเป็นน้ำมัน พอเป็นแก๊ส ต้องใช้เวลาในการเผาหมดที่ 12 (สมมุติเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะครับ) ในระบบเวลาของการ ดูด อัด ระเบิด คาย ของรถยังคงใข้เวลาเท่านเดิม ในขณะที่วาวล์ไอเสียเปิด ไฟยังเผาไหม้ไม่หมด มันจึงลามไปเผาต่อที่วาวล์ไอเสีย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดวาวล์ยัน ซึ่งระยะห่างของวาวล์นี้มีผลกับการทำให้กำลังอัดลูกสูบนั้นน้อยลง และอาจมากขึ้นจนเป็นสาเหตุทำให้วาวล์รั่ว หากไม่แก้ไข ก็จะทำให้เกิดอาการที่รอบเดินเบาสั้นไม่มีแรง
แต่ไม่ต้องกังวลใน pajero sport นะครับ เพราะมันเป็น hydraulic valve ซึ่งมันจะสามารปรับระยะห่างได้แบบอัตโนมัติ
แต่หากใช้งานไปมากๆ ก็มีโอกาสที่วาวล์จะรั่วได้ หรือหากจูนแก๊สบางมากๆ ก็ไม่เป็นผลดีครับ
ทั้งหมดเพื่อให้เห็นตัวอย่างของระบบการทำงานของ แก๊ส กับน้ำมันครับ และระบบจุดระเบิดของรถแบบปกติ และหากใส่ tap (timing advance processor) มันจะเกิดอะไรขึ้น
จำได้ไหมครับว่าหาก
จากที่เคยใช้เวลาเผาอยู่ 10 ตอนเป็นน้ำมัน พอเป็นแก๊ส ต้องใช้เวลาในการเผาหมดที่ 12 ดังนั้นเมื่อ การใส่ tap เพื่อทำการสั่งให้ไปปรับองศาไฟจุดระเบิด ก่อน ที่ลูกสูบจะเคลื่อนตัวไปที่ศูนย์ตายบน (OVER LAP) คือจังหวะที่วาวล์ไอดีเริ่มเปิดและวาวล์ไอเสียเริ่มปิด โดยเมื่อวาวล์ไอดีเริ่มเปิดและวาวล์ไอเสียเริ่มเปิดจะมีไอดีจำนวนหนึ่งเข้าไปไล่ไอเสียให้ออกเร็วขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการ ทำให้ค่าเผาไหม้ที่เหลือ
เหลืออีก 2 ที่ลามไปเผาต่อที่วาวล์ไอเสีย นั้นเผาหมดพอดี นั้นก็คือต้องสั่งให้จุดระเบิดก่อนประมาณ 2 (ตามตัวอย่างที่เราสมมุติ) สิ่งที่ได้จะทำให้เกิดอะไรขึ้น
1 ยึดอายุการสึกหรอของวาวล์ ซึ่งในรถปัจจุบัน หากจูนแก๊สดีแล้วนั้น วาวล์จะไม่มีทางยันก่อน 50,000 กม. แต่ยังไงก็ต้องตั้งวาวล์อยู่ดีครับ ในรถทึ่ไม่ใช่ hydraulic valve แต่พอใส่ tap อาจยืดอายุของวาวล์ยันได้อีก ประมาณ 30%
2 การใส่ tap นั้น จะทำให้รถใช้แก๊สวิ่งได้ดีขึ้น เป็นสาเหตุมาจาก เมื่อหากทำให้ระบบเผาไหม้ดีขึ้น เนื่องจากไปเผาใสส่วนที่เหลือ 2 จากการยกตัวอย่าง มาเผาและใช้เป็นพลังงาน ก็จะได้พลังงานที่มากขึ้นในการจ่ายแก๊สที่เท่าเดิม (เอาส่วนที่ใช้ไม่ได้กลับมาใช้)
3 จะทำให้ประหยัดเชื้อเพลิ่งเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 3 % หากขับขี่แบบสภาวะเดิม ไม่ใช่รถวิ่งดีขึ้นก็เหยียบมากขึ้น
ทั้งนี้ปัจจัย ทั้ง 3 อย่างนั้นมีผลกับการจูนเป็นอย่างมาก ว่าจะได้อย่างใดอย่างหนี่ง หรือให้ได้ทั้ง 3 อย่างนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการ สำคัญอยู่ที่เราต้องการจูนให้มันออกมาประเภทไหน
การจูน เพื่อปรับ องศาไฟจุดระเบิดนั้นเป็นเรื่องยากมาก มันจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพื่อความแม่นยำในการจูนอย่างสูง เพราะหากจูนไม่ดี นั้นมันจะส่งผมเสียกับเครื่องยนต์ทำให้เกิดความร้อน แทนที่จะเป็นผลดีนั้นกลับเป็นลบ
และอะไรเป็นตัววัดว่าจะจุน tap ได้ดีไหม Exhaust Gas Temperature (EGT) เป็นเซ็นเซอร์ที่จะสามารวัดอุณภูมิก๊าซหลังจากการเผาไหม้ การปรับองศาไฟจุดระเบิดเพืมนั้นเราจำเป็นต้องรู้ว่า อุณหภูมิที่ท่อไอเสียนั้นสูงเกินกว่าปกติตอนเป้นน้ำมันหรือไม่ ในวงการจูนรถแข่งนั้น หากมีช่างที่จูนรถได้ความแรงเท่ากัน นั้นจะมีช่างที่ได้รับการยอมรับคือคนที่จูนได้โดยที่องศาไฟ นั้นน้อยกว่า เพราะถือว่าทำให้เกิดผลเสียกับเครื่องยนต์ได้น้อยกว่า
อะไรเป็นตัวชึ้บอกว่าจะทำให้รถวิ่งดีขึ้น การวัดแรงม้ากับ แรงทอร์ค แรงทอร์ค คืออะไร
http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/fpte/fptethai3.htmและเครื่องมืออะไรจะเป็นตัววัดแรงม้ากับทอร์คได้ Dyno test สถานเดียวครับ เครื่องมือที่ทำให้รถวิ่งอยู่กับที่แล้วสามารถวัด แรงม้ากับแรงทอร์ค ได้
และการจูนแบบในฝันที่ทำให้รถวิ่งดีที่สุดโดยที่เราสามารถเห็นได้ว่าดีกว่าเดิมเท่าไหร่และเครื่องยนต์จะสึกหรอเท่าไหร่ และประหยัดเชื้อเพลิงด้วนนั้นจะเป็นจริงได้หรือไม่
เป็นจริงได้ครับ โดยการ จูนแก๊สบนไดโนให้เท่ากับน้ำมันก่อน และใส่ tap และต้องจูนแบบล็อคค่าความเร็วในแต่ละย่าน เพื่อเป็นการปรับองศาไฟให้ดีที่สุดโดยดูว่า ทอร์ค อยู่ในจุดไหนที่สูงที่สุดที่รอบความเร็วนั้นๆ และทำการลดองศาไฟลงให้ต่ำที่สุดโดยที่ทอร์คไม่ตก โดยปัจจัยต้องอยู่ในจุดที่รักษาระดับความร้อนที่ออกมาจากไอเสียโดยดูได้จาก (EGT) เป็นเซ็นเซอร์พิเศษที่ฝังไว้กับท่อไอเสีย และหลังจากจูนไฟได้ดีที่สุด ก็ค่อยมาปรับจูนแก๊สอีกทีโดยที่ใช้เครื่องมือ a/f ratio เป็นเครื่องมือวัดส่วนผสมอากาศ/เชื้อเพลิง เพื่อวัดค่าอากาศที่ออกมาจากท่อไอเสียอีกครั้งว่าสมบูรณ์หรือไม่
พูดนั้นง่ายครับ แต่ทำข่อนข้างอยาก ต้องใชเวลาในการทำแบบนั้น และไม่สามารทำบนถนนได้ และปัจจัยอีกตั้วหนี่งก็คือ สัญญาญการจุดระเบิดของ v6 นั้นเป็นแบบบ้าบอเป็นที่สุด มันมีการจับสัญญาญไม่เหมือนเครื่องยนต์อื่น มีการจับสัญญาญแบบซ่อนกัน จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างระบบ tap ขึ้นมาใหม่เพื่อให้สามารถทำการ จูนแบบที่สามารปรับที่หน้าคอมได้ไม่ใช่แค่การปรับที่ตูดกล่อง ซึ่งเป็นการปรับแบบทั้งย่าน
ทั้งหมดนั้นที่กล่าวไป มันจะเกิดขึ้นอีกภายในไม่เกิน 3 เดือน นับจากวันที่ 13/2/56 ที่ร้านแก๊สแห่งหนึ่ง แถว สามพราน นครปฐม และท่านลูกค้าเก่าทั้งหมด จะได้สัมผัสมันก่อนครับ ตั้งแต่ทำรถมา ไม่มีอะไรมันเท่า v6 อีกแล้วครับ เพราะมันไม่เหมือนใครดี มีอะไรที่สับซ่อนเป็นที่สุด