Languages
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คิดยังงัย...รัฐจะห้ามติด GAS LPG ในรถยนต์  (อ่าน 34163 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #45 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2013, 08:17:12 pm »

แปลกใจจังทำไมข่าวถึงบอกว่า  แก็สบ้านถูกกว่า แก็สรถยนต์  ลองคำนวณดูสิว่าที่บ้านเราในครัวถังละเท่าไรมีกี่ลิตรกัน  แล้วทำไมคูณไปมาแล้วยังแพงกว่าเยอะ  เค้าพูดได้ไงว่าจะมีคนเอาถังบ้านไปถ่ายใส่รถ
ที่พัทยาแม่ค้าเอาถังเปล่าใส่รถมาเยอะเยอะ แล้วมาเติมที่ปั๊มรถยนต์กันเยอะเลย   ตรงพัทยาเหนือ  ตกลงอะไรแพงกว่ากันแน่ อิ......

แล้วรถ เบนซ์   บีเอ็ม แพงแพง ของนักการเมือง ถึงใช้ดีเซล สบายไปเลยละ  แรงสะด้วยนะนั่น   ไม่น่าอนุญาติให้ประกอบขายนะนี่  เบนซิลต้องมาหนุนอีก

แล้วบอกว่า ถ้าใช้ LPG กับรถยนต์ทำให้ต้องนำเข้า LPG มาในประเทศมากขึ้น  แล้วถ้าไม่ใช้ LPG ไปใช้น้ำมันปาล์มเหรอ ก็ต้องเอาเบนซิน หรือน้ำมันดิบ มาจากนอกประเทศอยู่ดี  ยิ่งขาดดุลเข้าไปอีก ก็ให้หยุดวิ่งสิถึงจะไม่ต้องใช้ไรเลยจ๊ะ..  ก็บอกมาสิว่าจะเอาลิตรละเท่าไร 17 ไหม 19 บาทไหม ก็จะจ่าย 25 ยังไหวเลย ไม่ต้องมาหนุน LPG รวมทั้ง ดีเซลด้วย เราจะเลือกใช้ไอ้ที่มันเหมาะกับเราเอง จะได้เสรีในการใช้พลังงาน  มันจะได้หลากหลายเทคโนโลยี ประเทศจะได้คุ้นเคยกับพลังงานทุกรูปแบบ  มันไม่มีคนจนคนรวยแล้วมังทุกวันนี้มีแต่คนจนอย่างเดียวมัง  ผมด้วยจนแต่ฉลาดเลือก... กว่าจะได้ใช้ LPG แบบประหยัดได้อย่างปลอดภัย  แทบจะจบหลักสูตรการซ่อมรถแล้วนะนี่.... คนไทยเรานี่แหละใช้รถแบบเข้าใจว่ารถมันทำงานอย่างไรได้มากกว่าชาติอื่นเยอะ   
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
tepanan_not
ID 3630
Jr. Member
**

like: 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 897


PJS V.6 Donmuang


อีเมล์
« ตอบ #46 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2013, 09:53:14 pm »

จากประสบการณ์ตรง 5 -6 ปีที่ใช้ NGV แล้วทุกวันนี้หันมาใช้ LPG บอกได้เลยว่าบ้านเรายังไม่มีความพร้อมที่จะให้ใช้ NGV แต่เพียงอย่างเดียวเพราะทุกวันนี้เข้าแถวเติมก็ใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งค่อนชั่วโมง แถมบ่อยครั้งที่ต้องขับไปเจอป้ายก๊าซหมด หรือก๊าซเพิ่งมาส่งต้องรอแรงดัน ซ้ำร้ายพบบ่อยที่ต่างจังหวัดคือหาปั๊มไม่มี มีปั๊มไม่มีก๊าซ ไม่ก็เติมได้นิดเดียวหรือไม่ก็ต่อแถวเก่อ ยิ่งแถวแถบอีสานหาปั๊มยากมากทริปนั้นไปจ.สุรินทร์ มีอยู่ 2 ปั๊ม เจอปั๊มแรกอยู่ติดถนนตอน 7 โมงเช้ามีรถบรรทุกมาจอดรอ 4-5 คันขับเข้าไปก๊าซหมดเด็กปั๊มแจ้งว่าก๊าซจะมีมาตอนประมาณ 10 โมง เลยไปจะมีอีกปั๊มออกจากเส้นทางที่ผมจะไปประมาณ 10 กิโลเอาว่ะไปก็ไป...แต่พอไปถึงคิวยาวมาก....แต่ที่ทำให้สะเทือนใจสุดๆก็ตอนที่รอไปแล้วเกือบชั่วโมงมีเด็กปั๊มมันเดินมาบอกว่าพี่ก๊าซไม่พอเลี้ยวออกไปได้เลย!! สรุปทริปนั้นเติมก๊าสจากกรุงเทพ 1 ถัง โคราช 1 ถัง ที่เหลือน้ำมันล้วนๆ แทบจะถอดถังทิ้งเลยครับโคตรจะหนักรถ ตั้งแต่นั้นตั้งใจว่าคันต่อไป LPG เท่านั้น!
บันทึกการเข้า

ไม่มีใครจนเกินกว่าจะให้คนอื่นได้
kumpon
Newbie
*

like: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 263


« ตอบ #47 เมื่อ: มีนาคม 01, 2013, 10:55:26 pm »

แปลกใจจังทำไมข่าวถึงบอกว่า  แก็สบ้านถูกกว่า แก็สรถยนต์  ลองคำนวณดูสิว่าที่บ้านเราในครัวถังละเท่าไรมีกี่ลิตรกัน  แล้วทำไมคูณไปมาแล้วยังแพงกว่าเยอะ  เค้าพูดได้ไงว่าจะมีคนเอาถังบ้านไปถ่ายใส่รถ
ที่พัทยาแม่ค้าเอาถังเปล่าใส่รถมาเยอะเยอะ แล้วมาเติมที่ปั๊มรถยนต์กันเยอะเลย   ตรงพัทยาเหนือ  ตกลงอะไรแพงกว่ากันแน่ อิ......

 

แก๊สรถยนต์คิดเป็นลิตร ส่วนแก๊สใช้หุงต้มในบ้าน คิดเป็นน้ำหนัก แก๊ส 1 กก.จะเป็นแก๊สได้ประมาณ 1.85 ลิตร
แก๊ส 15 กก.ตกถังละ 285 บาท คิดเป็นกก.ละ 19 บาท ทำเป็นลิตรได้ 1.85 ลิตร ก็เท่ากับ 10.27 บาทต่อลิตร  Shocked
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2013, 11:02:05 pm โดย kumpon » บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #48 เมื่อ: มีนาคม 01, 2013, 11:10:40 pm »

ตายละป๋าใใใ งั่นแม่ค้าบ้านผมก็โดนหลอกให้หิ่วถังไปเติมอะสิ  แย่แล้ว
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
ed hongtong
Newbie
*

like: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 121


อีเมล์
« ตอบ #49 เมื่อ: มีนาคม 02, 2013, 12:59:36 am »

     ถังบ้านจะมีค่าขนส่งอีกอะครับ และก็ค่าการตลาด แต่รู้สึกว่าคนที่เติมอยู่เห็นเขาว่ามันใช้ได้นานกว่าอะคับ สงสัยเหมือนกันเดียวจะลองถามให้ครับ
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #50 เมื่อ: มีนาคม 02, 2013, 04:15:20 pm »

LPG บ้าน น่าจะใช้กลิ่นเดิม   กลิ่นทุเรียนเหม็น
LPG รถยนต์ น่าจะใช้กลิ่น Strawberry หรือกลิ่นกล้วยเนอะ  จะได้รู้ว่ามีการโยกย้ายถ่ายเท ผิดประเภทรึเปล่า.....
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Keng Classic
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 70


ฝืนใจตัวเองบ้าง แล้วจะเจออะไรดีๆเอง


อีเมล์
« ตอบ #51 เมื่อ: มีนาคม 08, 2013, 03:01:47 pm »

 hi
รีบๆติด รีบใช้ครับป๋าๆ ผมคิดว่าอีกนานครับ (5ปี ก็ขายซื้อรุ่นใหม่ครับ  )  แต่ก็มีสิทแก๊สแพงขึ้น
ถ้าห้ามรถใช้ LPG ตอนนี้ล่ะก็ คนที่เดือดร้อนมีหลายประเภท เช่น เจ้าของปั้มแก๊ส  เจ้าของรับติดตั้งแก๊ส ประชาชนที่พึ่งติดระบบLPG 
บันทึกการเข้า

รักพ่อและแม่
teddyisman
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997


« ตอบ #52 เมื่อ: มีนาคม 08, 2013, 04:17:03 pm »

นโยบายแอบแฝง จะปล่อยลอยตัวปล่อย จะไม่อุดหนุนก็ทำไป
มันไฟไหม้ มันก็มีกับรถที่ใช้เชื้อเพลิงอื่นๆ  เอามาเทียบสัดส่วน
มันต่างกันลิบ หรือ เล็กน้อย   กวดขันมาตรฐานการติดตั้งก็ได้
นี่มันจะเหมาทั้งข้อง (ปลาตัวเดียวในภาชนะเน่า จะทิ้งทั้งหมด)

อนาจแท้ไทยเรา
บันทึกการเข้า
ed hongtong
Newbie
*

like: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 121


อีเมล์
« ตอบ #53 เมื่อ: มีนาคม 10, 2013, 10:58:58 pm »

เมื่อปีที่มีการขึ้นราคาแก๊ส จาก10 บาทกว่า มาเป็น 13 บาทกว่า ปตท มีกำไรเพิ่มจากการขายแก๊ส lpg อยางเดียว
จาก 80000 ล้านบาท เป็น 100000 ล้านบาท เพิมเป็น 20000 ในพริบตาเดียว หากเพิ่มอีก 3.5 บาทต่อลิตร จะกำไรเพิ่มอีกเท่าไหร่ หากขายราคาตลาดโลก
กดเครื่องคิดเลขดู ตาลายครับ อยากไปซื้หุ้น ปตทไว้เพราะคิดว่าน่าจะกำไร แต่ลืมไป เขาเอาไปจ่ายโบนัท  และเอาไปสำรวจหมด หุ้นเลยไม่ขึ้นนัก
บันทึกการเข้า
nopphadolptt
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 78



อีเมล์
« ตอบ #54 เมื่อ: มีนาคม 31, 2013, 10:12:23 pm »

เมื่อปีที่มีการขึ้นราคาแก๊ส จาก10 บาทกว่า มาเป็น 13 บาทกว่า ปตท มีกำไรเพิ่มจากการขายแก๊ส lpg อยางเดียว
จาก 80000 ล้านบาท เป็น 100000 ล้านบาท เพิมเป็น 20000 ในพริบตาเดียว หากเพิ่มอีก 3.5 บาทต่อลิตร จะกำไรเพิ่มอีกเท่าไหร่ หากขายราคาตลาดโลก
กดเครื่องคิดเลขดู ตาลายครับ อยากไปซื้หุ้น ปตทไว้เพราะคิดว่าน่าจะกำไร แต่ลืมไป เขาเอาไปจ่ายโบนัท  และเอาไปสำรวจหมด หุ้นเลยไม่ขึ้นนัก
You   มั่วสุดๆ
บันทึกการเข้า
URC Garage (เบียร์)
^ ^V
Newbie
*

like: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 278


รายงานตัว

phenic_@hotmail.com
เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #55 เมื่อ: เมษายน 01, 2013, 01:43:45 am »

You   มั่วสุดๆ

ป๋านพดลPTTครับ ผมอยากทราบว่า รัฐบอกว่าจะห้ามรถยนต์ใช้แก๊ส LPG

แล้วทำไม PTT ขยายปั๊มแก๊ส LPG ครับ แถวบ้านผม ตรงบางเขนเพิ่งเปิดใหม่ 1 ปั๊ม
ตรงวิภาวดี กำลังจะเปิดอีก 2 ปั๊ม เหตุใดถึงเป็นแบบนั้นครับ PTT ลงทุนทำปั๊ม LPG
แม้ว่ารัฐจะห้ามใช้ LPG ในรถ?!?

หรือว่าจริงๆเป็นการทำลายคู่แข่งให้เลิกกิจการปั๊มLPGไป
แล้ว ก็ยังขึ้น ราคา LPG อีก เพื่อจะได้มีกำไรมากขึ้นหรือเปล่าครับ

ผมไม่ทราบว่าป๋าจะตอบได้หรือไม่ แต่เห็นท้ายชื่อว่า PTT ถ้าพอจะทราบ
ช่วยแจ้งข้อมูลที่แท้จริงให้ทราบได้ไหมครับ
บันทึกการเข้า

nopphadolptt
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 78



อีเมล์
« ตอบ #56 เมื่อ: เมษายน 01, 2013, 06:56:11 am »

You   มั่วสุดๆ

ป๋านพดลPTTครับ ผมอยากทราบว่า รัฐบอกว่าจะห้ามรถยนต์ใช้แก๊ส LPG

แล้วทำไม PTT ขยายปั๊มแก๊ส LPG ครับ แถวบ้านผม ตรงบางเขนเพิ่งเปิดใหม่ 1 ปั๊ม
ตรงวิภาวดี กำลังจะเปิดอีก 2 ปั๊ม เหตุใดถึงเป็นแบบนั้นครับ PTT ลงทุนทำปั๊ม LPG
แม้ว่ารัฐจะห้ามใช้ LPG ในรถ?!?

หรือว่าจริงๆเป็นการทำลายคู่แข่งให้เลิกกิจการปั๊มLPGไป
แล้ว ก็ยังขึ้น ราคา LPG อีก เพื่อจะได้มีกำไรมากขึ้นหรือเปล่าครับ

ผมไม่ทราบว่าป๋าจะตอบได้หรือไม่ แต่เห็นท้ายชื่อว่า PTT ถ้าพอจะทราบ
ช่วยแจ้งข้อมูลที่แท้จริงให้ทราบได้ไหมครับ

เป็นความเห็นส่วนตัวน่ะครับแยกเป็น ดังนี้ 1.ที่เห็นเป็นตรา  ปตท คิดว่ามาจากเจ้าของปั๊มแก๊สนั้นรับก๊าซมาจาก  ปตท  โดยเพื่อให้น่าเชื่อถือก็ต้องมีตรา  ปตท  ครับ
2.เนื่องจากราคาขายก๊าซหน้าโรงแยกขายได้เพียง 330 ดอลล่าต่อตัน  (ขึ้นไม่ได้เพราะรัฐตรึงราคาไว้เท่านี้ไม่ว่าราคาตลาดโลกจะเท่าไรก็ตาม)  ทำให้ ปตท  มีกำไรจากส่วนนี้น้อย  จึงเข้าร่วมมาขายก๊าซ แอลพีจีกับเขาด้วย  เนื่องอยากได้ส่วนแบ่งจากค่าการตลาด  โดยการขายแอพีจีต่อลิตรจะได้ค่าการตลาดมากกว่าน้ำมันเท่าที่ทราบมาน่ะครับ(จะเห็นได้ว่าปั๊มก๊าซขึ้นอย่างกับดอกเห็ดเพราะได้ค่าการตลาดมากกว่าและขายจำนวนลิตรได้มากกว่า)
บันทึกการเข้า
nopphadolptt
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 78



อีเมล์
« ตอบ #57 เมื่อ: เมษายน 01, 2013, 07:16:51 am »

You   มั่วสุดๆ

ป๋านพดลPTTครับ ผมอยากทราบว่า รัฐบอกว่าจะห้ามรถยนต์ใช้แก๊ส LPG

แล้วทำไม PTT ขยายปั๊มแก๊ส LPG ครับ แถวบ้านผม ตรงบางเขนเพิ่งเปิดใหม่ 1 ปั๊ม
ตรงวิภาวดี กำลังจะเปิดอีก 2 ปั๊ม เหตุใดถึงเป็นแบบนั้นครับ PTT ลงทุนทำปั๊ม LPG
แม้ว่ารัฐจะห้ามใช้ LPG ในรถ?!?

หรือว่าจริงๆเป็นการทำลายคู่แข่งให้เลิกกิจการปั๊มLPGไป
แล้ว ก็ยังขึ้น ราคา LPG อีก เพื่อจะได้มีกำไรมากขึ้นหรือเปล่าครับ

ผมไม่ทราบว่าป๋าจะตอบได้หรือไม่ แต่เห็นท้ายชื่อว่า PTT ถ้าพอจะทราบ
ช่วยแจ้งข้อมูลที่แท้จริงให้ทราบได้ไหมครับ

เป็นความเห็นส่วนตัวน่ะครับแยกเป็น ดังนี้ 1.ที่เห็นเป็นตรา  ปตท คิดว่ามาจากเจ้าของปั๊มแก๊สนั้นรับก๊าซมาจาก  ปตท  โดยเพื่อให้น่าเชื่อถือก็ต้องมีตรา  ปตท  ครับ
2.เนื่องจากราคาขายก๊าซหน้าโรงแยกขายได้เพียง 330 ดอลล่าต่อตัน  (ขึ้นไม่ได้เพราะรัฐตรึงราคาไว้เท่านี้ไม่ว่าราคาตลาดโลกจะเท่าไรก็ตาม)  ทำให้ ปตท  มีกำไรจากส่วนนี้น้อย  จึงเข้าร่วมมาขายก๊าซ แอลพีจีกับเขาด้วย  เนื่องอยากได้ส่วนแบ่งจากค่าการตลาด  โดยการขายแอพีจีต่อลิตรจะได้ค่าการตลาดมากกว่าน้ำมันเท่าที่ทราบมาน่ะครับ(จะเห็นได้ว่าปั๊มก๊าซขึ้นอย่างกับดอกเห็ดเพราะได้ค่าการตลาดมากกว่าและขายจำนวนลิตรได้มากกว่า)

ครับไปหาข้อมูลมาให้ครับ


  "การเข้ามาในตลาดกาซ LPG ของภาคขนส่งของบริษัท ปตท.อย่างเต็มตัว จากที่เคยปิด ๆ บัง ๆ กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ยอมให้ผู้ค้ายกป้าย ปตท.เหมือนในอดีต น่าจะเป็นผลมาจากจำนวนรถยนต์ที่ติดตั้งกาซ LPG มีปริมาณเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัท ปตท.เป็นทั้งผู้ผลิตและนำเข้ากาซ LPG จากต่างประเทศ ด้วยวิธีการที่พิสดาร กล่าวคือ นำเข้ามาในราคาตลาดโลก แต่ต้องมาจำหน่ายในราคาขาดทุนตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ ปตท.เป็นผู้อุดหนุนส่วนต่างราคากาซทั้ง LPG/NGV ไปก่อน โดยกาซที่ผลิตและนำเข้ามาดังกล่าว ปตท.ต้องขายให้ผู้ค้ากาซรายอื่นๆ ในราคาอุดหนุนเช่นกัน"
          ที่ผ่านมา ผู้ค้ากาซทุกรายต่างได้รับอานิสงส์จากการอุดหนุนราคากาซ LPG จาก ปตท. ตรงนี้จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมปัมกาซ LPG ของบริษัทสยามแกส-เวิลด์แกส-ยูนิค-ปิคนิค จึงขยายตัวขึ้นทุกปี จากส่วนต่าง "กำไร" ที่เกิดขึ้นจากการขายปลีก
          ในขณะที่บริษัท ปตท.ต้องนั่งมองคนอื่นโกยกำไรจากการที่ตัวเองอุดหนุนราคาให้เขาไปเฉย ๆ สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจลงมาเล่นในตลาดปัมกาซ LPG อย่างเต็มตัวในที่สุด ทั้ง ๆ ที่ดูขัดแย้งกับนโยบายส่งเสริมให้ใช้กาซ NGV ที่ตัวเองผลิต/จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันเช่นกัน


จากแหล่งข่าว
http://www.its.in.th/index.php/component/content/article/1-latest-news/9155-32lpg--cng-
บันทึกการเข้า
Choke PK
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13


choke.w@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #58 เมื่อ: เมษายน 01, 2013, 09:42:02 am »

ประเทศไทยโชคดีมากที่แหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยนั้นเป็นแหล่งก๊าซชนิดเปียก (Wet Gas) ซึ่งสามารถนำมาเข้าโรงแยกก๊าซแล้วแยกก๊าซที่มีคุณค่าสูง เช่น มีเทน อีเทน โพรเพน บิวเทน ออกมาใช้เป็นวัตถุดิบป้อนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสำหรับใช้ในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ สามารถเพิ่มมูลค่าได้อย่างมหาศาล

โดยก๊าซธรรมชาติที่ผ่านโรงแยกก๊าซแล้วนำไปป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับโรงงานปิโตรเคมีนั้นจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ถึง 5.3 เท่า ในขณะที่ถ้านำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าจะเพิ่มมูลค่าได้เพียง 1.1 เท่า และถ้านำไปใช้ในภาคครัวเรือนหรือขนส่งจะเพิ่มมูลค่าได้เพียง 1.8 เท่า เท่านั้น

ดังนั้นถ้าพิจารณาในแง่ของยุทธศาสตร์การใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่เรามีอยู่อย่างจำกัดให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ เราย่อมต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่สร้างมูลค่าเพิ่มให้สูงที่สุดก่อน ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของการสร้างโรงแยกก๊าซก็คือ ต้องการก๊าซเพื่อมาป้อนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพราะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุด

ซึ่งภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทยก็สามารถใช้ความได้เปรียบในด้านวัตถุดิบแข่งขันกับต่างประเทศได้เป็นอย่างดี โดยสามารถพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จนทำรายได้จากการส่งออกได้เป็นเงินหลายแสนล้านบาท ติดอันคับ 1 ใน 5 ของประเทศ และมีการจ้างงานประมาณ 5 แสนคน

-------
จากข้อมูลข้างบน ผมสรุปได้ว่า กำไรที่ได้จากภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง ยังน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับกำไรที่ได้จากภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องลดการใช้ก๊าสจากภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง หรือไม่ก็ขึ้นราคาให้มีกำไรเพิ่มขึ้น
บันทึกการเข้า

"ประสบการณ์ คือ สิ่งที่คุณได้ เมื่อคุณไม่ได้สิ่งที่คุณต้องการ"
URC Garage (เบียร์)
^ ^V
Newbie
*

like: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 278


รายงานตัว

phenic_@hotmail.com
เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #59 เมื่อ: เมษายน 01, 2013, 08:52:25 pm »

ครับไปหาข้อมูลมาให้ครับ


  "การเข้ามาในตลาดกาซ LPG ของภาคขนส่งของบริษัท ปตท.อย่างเต็มตัว จากที่เคยปิด ๆ บัง ๆ กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ยอมให้ผู้ค้ายกป้าย ปตท.เหมือนในอดีต น่าจะเป็นผลมาจากจำนวนรถยนต์ที่ติดตั้งกาซ LPG มีปริมาณเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัท ปตท.เป็นทั้งผู้ผลิตและนำเข้ากาซ LPG จากต่างประเทศ ด้วยวิธีการที่พิสดาร กล่าวคือ นำเข้ามาในราคาตลาดโลก แต่ต้องมาจำหน่ายในราคาขาดทุนตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ ปตท.เป็นผู้อุดหนุนส่วนต่างราคากาซทั้ง LPG/NGV ไปก่อน โดยกาซที่ผลิตและนำเข้ามาดังกล่าว ปตท.ต้องขายให้ผู้ค้ากาซรายอื่นๆ ในราคาอุดหนุนเช่นกัน"
          ที่ผ่านมา ผู้ค้ากาซทุกรายต่างได้รับอานิสงส์จากการอุดหนุนราคากาซ LPG จาก ปตท. ตรงนี้จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมปัมกาซ LPG ของบริษัทสยามแกส-เวิลด์แกส-ยูนิค-ปิคนิค จึงขยายตัวขึ้นทุกปี จากส่วนต่าง "กำไร" ที่เกิดขึ้นจากการขายปลีก
          ในขณะที่บริษัท ปตท.ต้องนั่งมองคนอื่นโกยกำไรจากการที่ตัวเองอุดหนุนราคาให้เขาไปเฉย ๆ สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจลงมาเล่นในตลาดปัมกาซ LPG อย่างเต็มตัวในที่สุด ทั้ง ๆ ที่ดูขัดแย้งกับนโยบายส่งเสริมให้ใช้กาซ NGV ที่ตัวเองผลิต/จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันเช่นกัน


จากแหล่งข่าว
http://www.its.in.th/index.php/component/content/article/1-latest-news/9155-32lpg--cng-

ป๋าอยู่ในองค์กร ปตท.ไหมครับ ที่อยากทราบคือ ข้อมูลภายในที่พอจะเปิดเผยได้
ไม่ได้อยากทราบข้อมูลที่ลิ๊งกันไปลิ๊งกันมา เพราะแหล่งข่าวอื่นๆ ผมก็ติดตามมาเรื่อยๆครับ
ส่วนมากสื่อจะโดนซื้อหมดแล้ว น้ำท่วมปากกัน ข้อมูลเลยจะเชื่อถือไม่ค่อยได้ครับ

ผมอยากทราบว่าคำถามต่อไปนี้ จริง หรือ ไม่ ครับ

1.จริงไหมที่ ปิโตรเคมีซึ่งเป็นองค์กรของคนแค่บางกลุ่ม ใช้ LPG ในราคาที่ถูกกว่าประชาชนทุกคน ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพยากร
2. จริงไหมที่ ปิโตรเคมี ขยายตัวจน LPG ในประเทศไม่พอใช้ จึงต้องนำเข้า หรือ หาวิธีลดปริมาณการใช้ เช่น ไม่ให้ใช้ในรถยนต์

ขอแค่ 2 ข้อนี้ก่อนครับ คำตอบเป็นความเห็นส่วนตัวก็ได้นะครับ ป๋าทุกท่านช่วยตอบได้นะครับ พร้อมเหตุผล
ไม่ต้องทำลิ๊งไปที่ไหนในเลอะเทอะนะครับ ขอเป็นแบบความเห็นส่วนตัวจากข้อมูลที่เคยได้รับมาก็ได้ครับ
สั้นๆ กระชับๆครับ


ประเทศไทยโชคดีมากที่แหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยนั้นเป็นแหล่งก๊าซชนิดเปียก (Wet Gas) ซึ่งสามารถนำมาเข้าโรงแยกก๊าซแล้วแยกก๊าซที่มีคุณค่าสูง เช่น มีเทน อีเทน โพรเพน บิวเทน ออกมาใช้เป็นวัตถุดิบป้อนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสำหรับใช้ในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ สามารถเพิ่มมูลค่าได้อย่างมหาศาล

โดยก๊าซธรรมชาติที่ผ่านโรงแยกก๊าซแล้วนำไปป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับโรงงานปิโตรเคมีนั้นจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ถึง 5.3 เท่า ในขณะที่ถ้านำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าจะเพิ่มมูลค่าได้เพียง 1.1 เท่า และถ้านำไปใช้ในภาคครัวเรือนหรือขนส่งจะเพิ่มมูลค่าได้เพียง 1.8 เท่า เท่านั้น

ดังนั้นถ้าพิจารณาในแง่ของยุทธศาสตร์การใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่เรามีอยู่อย่างจำกัดให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ เราย่อมต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่สร้างมูลค่าเพิ่มให้สูงที่สุดก่อน ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของการสร้างโรงแยกก๊าซก็คือ ต้องการก๊าซเพื่อมาป้อนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพราะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุด

ซึ่งภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทยก็สามารถใช้ความได้เปรียบในด้านวัตถุดิบแข่งขันกับต่างประเทศได้เป็นอย่างดี โดยสามารถพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จนทำรายได้จากการส่งออกได้เป็นเงินหลายแสนล้านบาท ติดอันคับ 1 ใน 5 ของประเทศ และมีการจ้างงานประมาณ 5 แสนคน

-------
จากข้อมูลข้างบน ผมสรุปได้ว่า กำไรที่ได้จากภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง ยังน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับกำไรที่ได้จากภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องลดการใช้ก๊าสจากภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง หรือไม่ก็ขึ้นราคาให้มีกำไรเพิ่มขึ้น

ประชาชนโดยรวมทั้งประเทศ ได้ประโยชน์อะไรจากการให้ความสำคัญกับการมุ่งทำกำไรมากมายของ ปิโตรเคมี  
แต่ประชาชนต้องใช้แก๊สแพงขึ้น หรือ บังคับให้ลดการใช้ทั้งประเทศ

ทำกำไรได้มาก แต่ประชาชนอดอยาก ข้าวของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น แล้วกำไรที่ว่ามันไปตอบแทนประชาชนอย่างไรครับ
รวยกระจุก จนกระจายหรือเปล่าครับ

บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 20 คำสั่ง