ไฟดูดเวลาจับที่ประตูรถ

[suchart]

ผมใช้ปาเจโร่ 2.5 GT ปี 2012 อาการนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เป็นบ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆ คือเวลาดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตู แล้วลงจากรถ แล้วก็เอามือจับกับประตูรถเพื่อที่จะปิดประตู
โดนไฟฟ้่าสถิตดูด จนสะดุ้งทุกครั้งเลย จนทุกวันนี้ไม่กล้าที่จะจับโดยตรงแล้ว ครับ ยังไม่ได้แจ้งศูนย์บริการ เพราะแจ้งอาการต่างๆไปเยอะเหลือเกิน เช่น เฟืองท้าย เบรคสะท้าน ABS โชว์  พวงมาลัยมีเสียงดัง ฯลฯ
กลัวที่จะได้คำตอบว่าเป็นอาการปกติของรุ่นนี้  พี่น้องท่านใดเจออาการแบบนี้บ้างครับ ขอคำแนะนำหน่อยครับว่ามีวิธีแก้อย่างไรบ้างครับ
...ทุกวันนี้ไม่อยากจะใช้ปาเจโร่แล้วครับ ผิดหวังมากที่ตัดสินใจซื้อ แต่ก็คงต้องยอมรับเพราะเลือกมาแล้ว...

[xenogear]

ผมใช้ 2.4 GLS ก็เป็นครับ แต่จะเป็นเฉพาะเวลาที่จับบานประตูนะครับ ถ้าจับตรงมือจับไม่เป็นนะครับ

[POPPY]

ยังไม่เคยเจอเลยครับอาการนี้

[PjOe_RayOng]

 

น้องปาดำ 4x4 2011 ก็เป็นครับ วันนี้เลยขอแชร์สาระดีๆๆ มาฝากกัน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยให้ความสนใจนัก แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ เรื่องหนึ่งที่มักเกิดขึ้น เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว เพราะ เมื่อใดที่คุณจับประตู หรือเอามือแตะรถ แล้วรู้สึกว่าตัวเองเหมือนถูกไฟดูดแปล๊บๆนั้น เป็นผลมาจากสิ่งที่เรียกว่า “ไฟฟ้าสถิต”
 
ไฟฟ้าสถิต หรือ Static Electricity นั้น เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปริมาณความต่างศักย์ของไฟฟ้าของวัตถุ ขั้วบวกและลบมีประจุไฟฟ้าไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้เกิดการดึงดูด การผลัก และอาจเกิดประกายไฟได้หากมีค่าการถ่ายเทประจุจากมากไปหาน้อย
 
ที่มาของไฟฟ้าสถิตนั้นสามารถเกิดขึ้นได้มากมายหลากหลายวิธี แต่ถ้าพูดถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์นั้น จะมีสาเหตุมาจากการเสียดสี ไม่ว่าจะเกิดจากร่างกาย หรือวัสดุที่มีส่วนเสียดสีกับร่างกาย และมันจะถ่ายเทไฟฟ้าเข้าสู่ตัวเราทีละนิด ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะอากาศที่มีความแห้งและชื้น ซึ่งเป็นสภาพปกติของฤดูหนาว
 
เมื่อร่างกายเรามีไฟฟ้ามาก ก็จะเกิดการถ่ายเท เมื่อเราสัมผัสกับสิ่งของที่มีการสัมผัสกับพื้นดิน หรือที่เรารู้จักกันว่า "Ground" มันก็จะเกิดการถ่ายเทประจุออกไป ทำให้เรารู้สึกว่าเราโดนไฟดูด ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ร่างกายกำลังถ่ายไฟฟ้าที่เกินออกไปต่างหาก
 
สำหรับวิธีแก้ปัญหาไฟฟ้าสถิตนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
 
• จับกระจกก่อนออกจากรถ กระจกสามารถช่วยคายประจุไฟฟ้า และทำให้ไฟฟ้าสถิตสลายไปได้ เนื่องจากกระจกไม่ใช่เหล็ก จึงไม่สามารถนำไฟฟ้าได้ หรือว่าง่ายๆมันเป็น "ฉนวน" นั่นเอง
 
• ใช้สเปรย์ หรือที่กำจัดไฟฟ้าสถิต ทุกวันนี้สเปรย์กำจัดไฟฟ้าสถิตเริ่มมีขายแล้ว ถ้าคุณเป็นคนที่มีไฟแรงสูง การซื้อหามาฉีดเอาไว้ก็เป็นเรื่องดี เพราะจะช่วยลดปัญหาการเกิดไฟฟ้าสถิตได้ นอกจากนั้น ยังมีตัวกำจัดไฟฟ้าสถิต หรือ Static Electricity Eliminator ไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบใช้สเปรย์
 
• ถือกุญแจ และรีโมทไว้ในมือ ขณะลงจากรถถ้าคุณมือไวรีบเก็บกุญแจนั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะการที่เราถือกุญแจไว้ชั่วระยะหนึ่งหลังลงจากรถ แล้วค่อยปิดประตูล๊อกรถนั้น จะช่วยให้เราสลายไฟฟ้าสถิต โดยที่ไม่รู้สึกเจ็บได้
 
• ใช้ศอก หรือเขาทาบประตูตอนลง การใช้ศอกหรือเข่าทาบประตูตอนลง สามารถช่วยลดความเจ็บปวดจากไฟฟ้าสถิตได้
 
• เพิ่มโซ่ใต้ท้องรถ ถ้าคุณเป็นคนไฟแรงสูงจริงๆ ทางเลือกสุดท้ายคือ การผูกโซ่ใต้ท้องรถเพิ่ม หรือหาวัตถุใดมาลากกับพื้นถนน เพื่อเพิ่ม Ground ให้กับรถ เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้าลงสู่พื้น ซึ่งจะช่วยให้เราไม่รู้สึกโดนดูดเวลาเรามีไฟฟ้าสถิต
 
ทั้งนี้ไฟฟ้าสถิตกับรถยนต์นั้นเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม เพราะบ้านเราจะไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ถ้าคุณเป็นคนที่สปาร์คง่ายก็ควรที่จะรู้เอาไว้ว่า ซึ่งไฟฟ้าสถิตสามารถก่อให้เกิดความเสียหายได้อย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะ เมื่อคุณอยู่ในปั้ม และกำลังเติมน้ำมัน

อ้างอิง :
http://202.142.223.165/~mautofilm/migrate_knowledge_detail.php?knowledge_id=87

[xenogear]

น้องปาดำ 4x4 2011 ก็เป็นครับ วันนี้เลยขอแชร์สาระดีๆๆ มาฝากกัน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยให้ความสนใจนัก แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ เรื่องหนึ่งที่มักเกิดขึ้น เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว เพราะ เมื่อใดที่คุณจับประตู หรือเอามือแตะรถ แล้วรู้สึกว่าตัวเองเหมือนถูกไฟดูดแปล๊บๆนั้น เป็นผลมาจากสิ่งที่เรียกว่า “ไฟฟ้าสถิต”
 
ไฟฟ้าสถิต หรือ Static Electricity นั้น เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปริมาณความต่างศักย์ของไฟฟ้าของวัตถุ ขั้วบวกและลบมีประจุไฟฟ้าไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้เกิดการดึงดูด การผลัก และอาจเกิดประกายไฟได้หากมีค่าการถ่ายเทประจุจากมากไปหาน้อย
 
ที่มาของไฟฟ้าสถิตนั้นสามารถเกิดขึ้นได้มากมายหลากหลายวิธี แต่ถ้าพูดถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์นั้น จะมีสาเหตุมาจากการเสียดสี ไม่ว่าจะเกิดจากร่างกาย หรือวัสดุที่มีส่วนเสียดสีกับร่างกาย และมันจะถ่ายเทไฟฟ้าเข้าสู่ตัวเราทีละนิด ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะอากาศที่มีความแห้งและชื้น ซึ่งเป็นสภาพปกติของฤดูหนาว
 
เมื่อร่างกายเรามีไฟฟ้ามาก ก็จะเกิดการถ่ายเท เมื่อเราสัมผัสกับสิ่งของที่มีการสัมผัสกับพื้นดิน หรือที่เรารู้จักกันว่า "Ground" มันก็จะเกิดการถ่ายเทประจุออกไป ทำให้เรารู้สึกว่าเราโดนไฟดูด ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ร่างกายกำลังถ่ายไฟฟ้าที่เกินออกไปต่างหาก
 
สำหรับวิธีแก้ปัญหาไฟฟ้าสถิตนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
 
• จับกระจกก่อนออกจากรถ กระจกสามารถช่วยคายประจุไฟฟ้า และทำให้ไฟฟ้าสถิตสลายไปได้ เนื่องจากกระจกไม่ใช่เหล็ก จึงไม่สามารถนำไฟฟ้าได้ หรือว่าง่ายๆมันเป็น "ฉนวน" นั่นเอง
 
• ใช้สเปรย์ หรือที่กำจัดไฟฟ้าสถิต ทุกวันนี้สเปรย์กำจัดไฟฟ้าสถิตเริ่มมีขายแล้ว ถ้าคุณเป็นคนที่มีไฟแรงสูง การซื้อหามาฉีดเอาไว้ก็เป็นเรื่องดี เพราะจะช่วยลดปัญหาการเกิดไฟฟ้าสถิตได้ นอกจากนั้น ยังมีตัวกำจัดไฟฟ้าสถิต หรือ Static Electricity Eliminator ไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบใช้สเปรย์
 
• ถือกุญแจ และรีโมทไว้ในมือ ขณะลงจากรถถ้าคุณมือไวรีบเก็บกุญแจนั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะการที่เราถือกุญแจไว้ชั่วระยะหนึ่งหลังลงจากรถ แล้วค่อยปิดประตูล๊อกรถนั้น จะช่วยให้เราสลายไฟฟ้าสถิต โดยที่ไม่รู้สึกเจ็บได้
 
• ใช้ศอก หรือเขาทาบประตูตอนลง การใช้ศอกหรือเข่าทาบประตูตอนลง สามารถช่วยลดความเจ็บปวดจากไฟฟ้าสถิตได้
 
• เพิ่มโซ่ใต้ท้องรถ ถ้าคุณเป็นคนไฟแรงสูงจริงๆ ทางเลือกสุดท้ายคือ การผูกโซ่ใต้ท้องรถเพิ่ม หรือหาวัตถุใดมาลากกับพื้นถนน เพื่อเพิ่ม Ground ให้กับรถ เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้าลงสู่พื้น ซึ่งจะช่วยให้เราไม่รู้สึกโดนดูดเวลาเรามีไฟฟ้าสถิต
 
ทั้งนี้ไฟฟ้าสถิตกับรถยนต์นั้นเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม เพราะบ้านเราจะไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ถ้าคุณเป็นคนที่สปาร์คง่ายก็ควรที่จะรู้เอาไว้ว่า ซึ่งไฟฟ้าสถิตสามารถก่อให้เกิดความเสียหายได้อย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะ เมื่อคุณอยู่ในปั้ม และกำลังเติมน้ำมัน

อ้างอิง :
http://202.142.223.165/~mautofilm/migrate_knowledge_detail.php?knowledge_id=87

โอ้ว....ข้อมูลแน่นมากเลยครับ

[Aon_Ocazz]

GT2.5 ผมก็เป็นครับเวลาปิดประตู ดูดจนรู้สึกได้ ไม่รู้ว่าเป็นไฟฟ้าสถิตหรือไฟรั่ว แต่ถ้าเป็นไฟฟ้าสถิตก็ไม่น่าจะแรงขนาดนี้ หรืว่าเป็นไฟรั่วหรือไฟฟ้าสถิตเฮ้อมึนตึบ จับตรงขอบประตูอะดูดประจำ

[PALUM]

ของผม 2.5GT เคยเป็นหนึ่งครั้ง คิดอยู่ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรที่บ้านเรา แล้วทำไมรถคันเก่าไม่เคยเจอ ทีแรกคิดว่าเป็นไฟฟ้าสถิตที่เกิดจากการที่ตัวถังรถวิ่งเสียดสีกับอากาศ  แต่พออ่านความเห็นของคุณ PjOe_RayOng แล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ คราวนี้ก็คิดเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างรถคันเก่ากับ ปา 2.5GT แล้วก็เดาว่าอาจเป็นเพราะ 1. ช่วงนี้เป็นหน้าหนาวอากาศแห้ง ความชื้นในอากาศน้อย 2.คันเก่าเป็นแอร์แบบธรรมดา แต่ปา 2.5 GT GT เป็นแอร์ออโตซึ่งเอาความร้อนมาผสมกับความเย็นที่ได้จากคอมน่าจะทำให้ความชื้นในรถน้อยกว่าแอร์ที่ไม่เป็นออโต  3. เบาะเป็นวัสดุที่น่าจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่ายเมื่อถูกับเสื้อผ้า(คันเก่าเป็นเบาะผ้า)  ที่เดามาน่าจะเป็นปัจจัยประกอบกันทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตในตัวเราได้ง่าย.....แต่มันเจอเพียงครั้งเดียว.

[PjOe_RayOng]

 

ผมเสริมอีกนิดนึงครับ น้องปาผมอาบน้ำ(ล้างอัดฉีด) มาใหม่่ๆๆวันแรกไม่เป็นครับ แต่พอปล่อยให้ฝุ่นเริ่มเกาะ แบบว่ารถดูไกลๆสะอาดดีแต่มีละอองฝุ่นจับเพรียบ เช้าๆอากาศดีๆเย็นๆ ไปเปิดประตูโดนครับ แป๊บๆๆๆ แบบเบาๆ เคยถามเพื่อนข้างบ้านว่าเคยโดนแบบนี้มั้ย เขาตอบแบบขำๆ โดนเหมือนกัน เคสนี้อันตรายหากเกิดขึ้นระหว่างการเติมน้ำมันและแก๊ส และผมมีอีกเรื่องครับจากประสบการณ์จริง ผมเคยสอบสวนผู้รับเหมา งาน unload ของเหลวชนิดนึง ที่ติดไฟเร็ว เหตุเกิดจากการไม่ต่อสายกาล์ว ระหว่างรถและถัง ไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้น ทำให้ของลุกติดไฟลามมาที่รถ (แฮ่ๆ ดับทันไม่เกิดความเสีย) แต่หัวใจตกไปที่ตาตุ่ม เกือบซวย

[โจ๋ เรนเจอร์]

ขออธิบายนิดนึงค่ะ อาการไฟดูด มันไม่ได้เป็นแค่ปาเจโร่
ก่อนหน้านี้ รถที่บ้าน space wagon จับทีไรดูดตลอด ถึงขั้นเตรียมฟ้องร้องมิตซู
ทางมิตซูหาข้อแก้ไขมา พยายามจัดการหาวิศวกรมาตอบคำถามนี้
เชิญเรากับที่บ้าน เข้าประชุม พร้อมกับคนญี่ปุ่น เจ้าของศูนย์รถ และผู้จัดการ เขายินดีรับผิดชอบทุกอย่างให้ เพราะมันหาสาเหตุไม่ได้
เขาให้แท่งๆ เหล็กอันนึงมา ไว้ใช้ เวลาขึ้นรถ  ให้แตะดูว่ารถจะแป่ปไหม แป่ะไนที่นี้หมายถึง ไฟจะชอตกะเจ้าตัวเหล็กวัดกระแสไฟนั่นไหม อะไรทำนองนั้น
แต่หลังๆมา ทีบ่า้นเบื่อ และรู้สึกเสียเวลาที่จะต้องไปๆมาๆ  ใช้ SG มาสองคันแล้ว คันแรกไม่เป็น แล้วก็ประทับใจกับทางศูนย์ที่แสดงความรับผิดชอบ ก็เลยเฉยๆ
ไม่อยากทำให้เขาเสียหาย ซึ่งเขาบริการดีมากๆ  จนทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ จะมากน้อย ขึ้นอยู่ด้วยว่า ผิวของคุณแห้งหรือไม่ อันนี้จริงๆนะคะ ไฟฟ้าสถิต เกิดจากมวลภายในร่างกายของเราด้วย
มิใช่เกิดจากรถอยา่งเดียว 

[โจ๋ เรนเจอร์]

ขออธิบายนิดนึงค่ะ อาการไฟดูด มันไม่ได้เป็นแค่ปาเจโร่
ก่อนหน้านี้ รถที่บ้าน space wagon จับทีไรดูดตลอด ถึงขั้นเตรียมฟ้องร้องมิตซู
ทางมิตซูหาข้อแก้ไขมา พยายามจัดการหาวิศวกรมาตอบคำถามนี้
เชิญเรากับที่บ้าน เข้าประชุม พร้อมกับคนญี่ปุ่น เจ้าของศูนย์รถ และผู้จัดการ เขายินดีรับผิดชอบทุกอย่างให้ เพราะมันหาสาเหตุไม่ได้
เขาให้แท่งๆ เหล็กอันนึงมา ไว้ใช้ เวลาขึ้นรถ  ให้แตะดูว่ารถจะแป่ปไหม แป่ะไนที่นี้หมายถึง ไฟจะชอตกะเจ้าตัวเหล็กวัดกระแสไฟนั่นไหม อะไรทำนองนั้น
แต่หลังๆมา ทีบ่า้นเบื่อ และรู้สึกเสียเวลาที่จะต้องไปๆมาๆ  ใช้ SG มาสองคันแล้ว คันแรกไม่เป็น แล้วก็ประทับใจกับทางศูนย์ที่แสดงความรับผิดชอบ ก็เลยเฉยๆ
ไม่อยากทำให้เขาเสียหาย ซึ่งเขาบริการดีมากๆ  จนทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ จะมากน้อย ขึ้นอยู่ด้วยว่า ผิวของคุณแห้งหรือไม่ อันนี้จริงๆนะคะ ไฟฟ้าสถิต เกิดจากมวลภายในร่างกายของเราด้วย
มิใช่เกิดจากรถอยา่งเดียว 

ไม่ไช่ถึงขั้นฟ้องรอ้ง ไปฟ้องเลยล่ะ ฮ่าๆๆ  ยังป้ายแดงก็โดนซะแล้ว ดูดแรงด้วย เช็คระบบไฟทัง้หมดก็ไม่มีวี่แววความผิดพลาด
แต่ก็ช่างเถอะ สมรรถนะ รถ โอเค ผ่าน ก็พอแล้ว ;']  รักมิตซูบิชิ และจะรักตลอดไป
 

[bbenz]

    กะแล้ว

[suPreme]

ผมใช้ปาเจโร่ 2.5 GT ปี 2012 อาการนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เป็นบ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆ คือเวลาดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตู แล้วลงจากรถ แล้วก็เอามือจับกับประตูรถเพื่อที่จะปิดประตู
โดนไฟฟ้่าสถิตดูด จนสะดุ้งทุกครั้งเลย จนทุกวันนี้ไม่กล้าที่จะจับโดยตรงแล้ว ครับ ยังไม่ได้แจ้งศูนย์บริการ เพราะแจ้งอาการต่างๆไปเยอะเหลือเกิน เช่น เฟืองท้าย เบรคสะท้าน ABS โชว์  พวงมาลัยมีเสียงดัง ฯลฯ
กลัวที่จะได้คำตอบว่าเป็นอาการปกติของรุ่นนี้  พี่น้องท่านใดเจออาการแบบนี้บ้างครับ ขอคำแนะนำหน่อยครับว่ามีวิธีแก้อย่างไรบ้างครับ
...ทุกวันนี้ไม่อยากจะใช้ปาเจโร่แล้วครับ ผิดหวังมากที่ตัดสินใจซื้อ แต่ก็คงต้องยอมรับเพราะเลือกมาแล้ว...

ด้วยตัวถึงที่สูงใหญ่ ทำให้การต้านลมของน้องปามีมากกว่า โอกาสเกิดไฟฟ้าสถิตก็น่าจะมีมากกว่ารถเล็กครับ เพราะการเสียดสีเป็นปัจจัยหลักของการเกิดไฟฟ้าสถิต
เคยอ่านเจอด้วยว่าหน้าหนาว (เรื่องทั่วๆไปไม่เฉพาะกับน้องปา) การจอดรถเติมน้ำมัน จะไม่แนะนำให้เดินลงจากรถ เพราะขณะที่จอดจะมีไฟฟ้าสถิตอยู่รอบตัวถังมาก พอเปิดประตูออกไปไฟฟ้าสถิตก็จะมาติดตัวเราและเสื้อผ้า จากนั้นพอกลับเข้ารถ ตัวไปสัมผัสเบาะหนัง กลายเป็นเกิดความต่างศักย์ที่มาก ทำให้เกิดการช๊อดสปาร์คเราได้ทั้งตัวเลยครับ เป็นอีกหนึ่งความเห็นนะครับ  

เอาใจช่วยครับป๋า suchart ขอให้ปัญหาได้รับการแก้ไขไว ๆ อย่าเพิ่งท้อกับน้องปาเรานะครับ  

[Joth Loso]

ยังไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้เลยครับ แต่ขอบคุณสำหรับการแชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์จะได้ระวังตัวไว้ครับ

 

[Gee]

ถูกต้องเลยครับ ถ้าเจอประจำ เวลาเติมน้ำมันต้องระวัง  ยังไม่เคยเจอกับน้องปา  แต่เจอประจำที่ประตูห้องทำงาน ลองเปลี่ยนลองเท้าดูครับ พื้นลองเท้าก็มีส่วนครับ 

[suchart]

ด้วยตัวถึงที่สูงใหญ่ ทำให้การต้านลมของน้องปามีมากกว่า โอกาสเกิดไฟฟ้าสถิตก็น่าจะมีมากกว่ารถเล็กครับ เพราะการเสียดสีเป็นปัจจัยหลักของการเกิดไฟฟ้าสถิต
เคยอ่านเจอด้วยว่าหน้าหนาว (เรื่องทั่วๆไปไม่เฉพาะกับน้องปา) การจอดรถเติมน้ำมัน จะไม่แนะนำให้เดินลงจากรถ เพราะขณะที่จอดจะมีไฟฟ้าสถิตอยู่รอบตัวถังมาก พอเปิดประตูออกไปไฟฟ้าสถิตก็จะมาติดตัวเราและเสื้อผ้า จากนั้นพอกลับเข้ารถ ตัวไปสัมผัสเบาะหนัง กลายเป็นเกิดความต่างศักย์ที่มาก ทำให้เกิดการช๊อดสปาร์คเราได้ทั้งตัวเลยครับ เป็นอีกหนึ่งความเห็นนะครับ  Smiley

เอาใจช่วยครับป๋า suchart ขอให้ปัญหาได้รับการแก้ไขไว ๆ อย่าเพิ่งท้อกับน้องปาเรานะครับ  yes!!