ตามความเข้าใจครับ ว่าใช้ของติดรถดีกว่าครับ แต่นักแต่งรถบอกว่าจะต้องใช้ หัวเทียนแบบเข็มเพราะ ไฟจะต้องผ่าแก๊ส เพื่อเผาให้หมด เพราะแก๊สติดไฟช้ากว่าและลาม นานกว่าน้ำมัน
บางคนเจอปัญหาว่าเปลี่ยนหัวเทีนยแล้วเครื่องสะดุด มีหลายปัจจัยครับ
ตามสรุปผมว่าเนียบกว่าจริง เพราะเปลี่ยนแล้วครับ ใช้ได้ยาว ไฟแรงกว่า คำว่าแรงกว่าในที่นี้คือ แก๊สเมื่อจุดระเบิด ควรสั่งให้จุดก่อนเพื่อเผาไหม้ให้หมด แต่บางจังหวะเราทำไม่ได้ แต่การใช้หัวเทียนซื้อตามที่ผู้ผลิตกล่าวอ้าง ว่าให้ไฟที่แรงกว่าแล้วก็ ใช้กำลังไฟที่น้อยกว่า เท่ากับได้สองต่อ
ได้ไฟจุดระเบิดที่แรงขึ้นเพื่อเผาไหม้ให้หมดครับ
ได้ลดกำลังไฟที่คอยจุดระเบิด ป้องกันไปอีกทางครับ ของผมใช้เบอร์เย็นกว่า น่าจะ8 หรือเบอร์9 อิอิ กดยาว ก็เลยเลือกเย็นๆๆ
หัวเทียนไม่ติดแก๊สก็20000ครับ ติดแกีสก็สั้นลง ถอดมาดูที่ขั้วดำๆๆ เป็นรอยแบ่งเลยครับ
อ้างอิง พี่ Num
(Arc ขาดไวกว่าโวลท์จากคอยย์เท่าเดิม) / ไฟกระโดดถึงเขี้ยวเร็วขึ้น เลยตัดการจ่ายไฟได้ก่อน
เชื้อเพลิงกับ O2 ในกระบอกสูบที่สภาพนั้นคงที่เผาอย่างไรก็ได้พลังงานไม่มากไปกว่านี้ แต่การเผาใหม้ของเข็มจบไวกว่าเพราะความร้อนในการจุดที่สูงกว่า ลูกสูบเคลื่อนลงด้วยความเร่งที่สูงกว่าไปหมุนเพลาทำให้หัวนกกระจอกออกจากขั่วไฟเร็วขึ้นแกปเพิ่มขึ้น Arc เลยขาดไวกระแสหยุดไหล ลูกสูบเคลื่อนไม่มากก็ออกจากสภาวะจุดระเบิดแล้วครับขั่วออกห่างกัน แต่เรื่องนี้ผมว่าอาจไม่มีผลเลยก็ได้ครับเพราะ Arc มันมีคาบเวลาที่สั้นมากๆเมื่อเทียบกับข้อสุดท้าย ผมว่างั้นนะครับ
โดยรวมคอยย์จ่ายกระแสเฉลี่ยน้อยลงเพราะคาบการจ่ายสั้นลง / เป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากข้างบน
ใช่ครับ
พื้นผิวหัวเข็มเล็กลงกระแสวิ่งยากขึ้นหมายความว่าความต้านทานรวมที่มีต่ออากาศช่วงแตกตัวมากขึ้นกระแสก็ลดลงเล็กน้อย / แต่อันนี้ผมดันเข้าใจว่าความต้านทานมากขึ้นต้องใช้กระแสไฟที่ทำให้ไฟโดด
การเกิด Electrical breakdown (Arc) ใช้โวล์ทสูงดึงให้อะตอมของแก็สแตกตัวเป็นประจุบวกกับลบกระแสไฟถึงไหลได้ครับ แต่ช่องที่อีเล็คตรอนมันวิ่งผ่านมันแคบเพราะเป็นหัวเข็ม อิเล็คตรอนจึงเสียดสีกันจนเกิดความร้อนสูง(J)ไปจุดระเบิดไอน้ำมันและอิเล็คตรอนมีจำนวนน้อยที่วิ่งผ่านพื้นที่เล็ก(คอยย์จ่ายกระแสน้อยลงแต่ได้ความร้อนสูง)เหมือนเราเปิดก็อกน้ำแคบๆ น้ำแรงแต่ไม่ได้ปริมาณแต่น้ำแรงสามารถกระตุ้นใบจักรที่หมุนเองได้เมื่อมีอะไรไปกระตุ้นไห้มันหมุนและหมุนครบรอบได้ไวกว่า(เพราะถูกกระตุ้นไวกว่าจากน้ำที่แรงซื่งไม่จำเป็นต้องมีปริมาณ)และพอหมุนไปได้นิดหนึ่งก็จะไปปิดก็อกน้ำ เราใช้ความร้อนจุดระเบิดไม่ใช่กระแสไฟ แต่กระแสไฟเป็นตัวสร้างความร้อนโดยสามารถเพิ่มลดความร้อนได้จากการลดพื้นที่ที่กระแสวิ่งผ่าน(ทำค่า J ให้สูงๆ) และพอดีผม ลองอ่านได้ข้อมูลมา เรื่อง ทำไม่ อิริเดี้ยม ถึงสะดุด โดยเฉพาะกับน้ำมัน
จากที่กระทู้ เค้าใสอิริเดี้ยมแล้วสะดุด เค้าไม่ไดทดสอบแบบ วิทยาศาสตร์
ผมคิดเอาเองว่า อิริเดี้ยม เค้าผลิตทดสอบมาใช้กับน้ำมัน โดย ให้เขี้ยวห่างขึ้น กลายเป็น 0.7 mm และปลายเล็กลง
ด้ายเหตุผลของพี่ Num เลยทำให้ ใช้กำลังไฟน้อยลง แถมรอบต่ำก็ราบเรียบ และรอบสูงก็ไหลลื่น ได้ความแรงขึ้นนิดๆ
แต่ ปัญหาที่เกิด กับรถใช้แก็ส คลอย์เก่าหน่อย เนื่องจาก เราทราบว่าแก็สเผาไห้มช้ากว่า เมือมาใช้กับห้วเทียน อิริเดี้ยม ที่เขี้ยวห่างขึ้น
ระยะเวลาที่ประกายไฟเริ่มเกิดจะช้ากว่า ประกอบกับแก็สเผาไหม้ช้ากว่า เลยทำให้สะดุดได้
ถ้าจะทดสอบ กับรถใช้แก็ส แบบ วิทยาศาสตร์ ต้องลดตัวแปรอื่นๆ ออกให้หมด เหลือแค่ ทองแดง กับอิริเดี้ยม ครับ
ใช้หัวเทียนใหม่ทั้งคู่ กับรถคันเดียวกัน
เรื่องระยะห่างเขี้ยว ก็ต้องปรับให้เท่ากัน
เบอร์ ร้อนเย็นก็ต้องเท่ากัน
จำนวนเขี้ยว ไม่น่ามีผล ต่างกันได้ เพราะเวลาสปารค์ ก็ใช้เขี้ยวเดี่ยวอยู่แล้วก็ต้องเป็นอิริเดียมเท่านั้นที่จะทำพื้นที่ให้เล็กมากๆและสามารถทนความร้อนขนาดนี้ได้โดยมีการสึกหลอต่ำ
เครดิต พี่ Num กด
หน่อย อิอิ