Languages
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แนะนำ การดูแลสีรถ  (อ่าน 2804 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nan&name
Jr. Member
**

like: 12
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 692


pajerosport-thailand ID 3949


« เมื่อ: ธันวาคม 11, 2013, 11:47:58 pm »

การดูแลสีรถไม่ได้หมายความแค่การล้างทำความสะอาด ลงแว็กซ์ หรือเคลือบเงา มันมีความละเอียดอ่อนและมีกรรมวิธีมากกว่านั้น เรื่องราวของการดูแลรักษาสีรถนั้นมีมากมายจริงๆ เมื่อรับรถมาแล้วส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเรื่องของการเคลือบสีตัวรถ บ้างก็ได้แพ็คเกจแถมมาในเรื่องของการขัดเคลือบสี ลองมาทำความเข้าใจกับคำว่าดูแลรักษาสีรถกันก่อน
 
ขัดเคลือบสี
เรามักได้ยินคำนี้กันบ่อยๆ และเข้าใจว่าคือขั้นตอนเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วนั้นแยกจากกันเป็นสองขั้นตอน คือ ‘ขัดสี’ กับ ‘เคลือบสี’
     ทำไมต้อง ‘ขัดสี’ เมื่อรถใช้งานไปนานๆ จะมีริ้วรอยขนแมวเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการล้างและเช็ดด้วยผ้าที่ไม่สะอาด หรืออมฝุ่น รถสีเข้ม เช่น สีดำ น้ำเงิน ส้ม หรือสีสดๆ จะเห็นรอยขนแมวชัดเจน รวมถึงเกิดจากคราบยางไม้ ขี้แมลง ทำให้การเช็ดล้างกลายเป็นบ่อเกิดของรอยขนแมว ดังนั้นจึงต้องมีการขัดสีเพื่อลบรอยขนแมวออกก่อน
     การขัดสีก็คือขัดผิวหน้าของสีหรือแล็คเกอร์ออกไป เพื่อให้สีเรียบเนียนและก่อให้เกิดความเงางาม การขัดผิวหน้าของสีหรือแล็คเกอร์ออกไปนั้นทำให้ชั้นสีที่เคลือบอยู่บางลง เหมือนเวลาที่เราขัดหน้าด้วยผงขัดละเอียดๆ แม้หน้าจะกระจ่างใสขึ้น แต่หลังจากทำแล้วจะรู้สึกแสบๆ ผิวหน้า นั่นเป็นเพราะผิวหนังถูกขัดออกไปนั่นเอง
     เมื่อขัดสีเสร็จเรียบร้อยถึงจะต่อด้วยขั้นตอน ‘เคลือบสี’ เพื่อให้ผิวที่ถูกขัดออกไปแล้วมีความเงางามยิ่งขึ้น และเป็นตัวเคลือบเพื่อคอยปกป้องชั้นสีที่ถูกขัดออกไปให้มีความแข็งแรงทนทาน ต่อรอยขีดข่วนมากขึ้น ดังนั้นไม่ควรขัดสีบ่อยในรถเก่าที่ใช้งานมาหลายปี เมื่อขัดและเคลือบสีแล้ว ต้องคอยไปเคลือบสีซ้ำตามระยะเวลาของผู้ผลิตน้ำยาเคลือบกำหนด เพื่อให้ผิวที่ขัดแล้วมีอายุการใช้งานยาวนานนั่นเอง

ขัดหยาบ ขัดละเอียด
     การขัดสีนั้นจะแบ่งเป็นสองลักษณะขึ้นอยู่กับสารเคมีหรือยาขัดโดยปกติแล้วจะมีน้ำยาแบบ ‘ขัดหยาบ’ กับน้ำยาแบบ ‘ขัดละเอียด’กรณีที่ผิวของแล็คเกอร์เป็นรอยลึกต้องใช้น้ำยาแบบขัดหยาบก่อนเพื่อให้ผิวของแล็คเกอร์บางลงจากนั้นตามด้วยน้ำยาขัดละเอียดเพื่อที่จะให้ผิวที่ถูกขัดชั้นแรกเรียบเนียน ขึ้นจากนั้นจึงจะตามด้วยน้ำยาเคลือบและชักเงา
     การขัดเคลือบสีก็เหมือนกับงานไม้การจะลงแล็คเกอร์บนเนื้อไม้ให้ขึ้นเงาเรียบเนียนนั้นต้องใช้กระดาษทรายหยาบลงผิวเพื่อเก็บเสี้ยนไม้ชิ้นใหญ่ๆ ก่อนเมื่อผิวเรียบดีเสมอกันแล้วจะลงด้วยกระดาษทรายละเอียด เพื่อให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้นก่อนจะลงแล็คเกอร์เคลือบเนื้อไม้เป็นขั้นตอนต่อไป ซึ่งไม่ต่างจากการขัดสีเลย ดังนั้นเจ้าของรถจึงไม่ควรขัดสีตัวรถบ่อยเพราะจะทำให้ชั้นแล็คเกอร์หรือเนื้อสีบางลงแต่การเคลือบสีนั้นสามารถทำได้บ่อยครั้ง
     น้ำยาขัดละเอียดมีหลายลักษณะแบบชนิดที่ไม่กัดสีหรือแล็คเกอร์นั้นก็มี ส่วนมากเรามักคุ้นเคยกับคำว่า ‘ขัดขี้ไคล’นั่นก็คือคราบสกปรกที่เกาะติดแน่นจนการล้างธรรมดาไม่ออกนั่นเองเมื่อใช้งานไปสักระยะต้องมีการขัดขี้ไคลเพื่อคืนความสดใสของสี
 
โปรแกรมการเคลือบดูแลรักษาสีรถยนต์ปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อหลายลักษณะ แต่เมื่อขายเป็นแพ็คเกจมีราคาตั้งแต่ 3,000-4,000บาทขึ้นไปจนถึงระดับหลักหมื่น อันนี้ต้องเลือกตามความเหมาะสมของเงินในกระเป๋า

GLASS COATING
     ถ้าคุณมีเงินระดับหลักหมื่นลองดูเทคโนโลยีต่อไปนี้ที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะช่วยให้เกิดความเงางามยาวนานและช่วยลดเวลาในการเข้าไปใช้บริการได้มากนั่นก็คือการเคลือบผิวแบบ Glass Coating หรือ ภาษาติดปากก็คือการเคลือบแก้ว
ปัจจุบันเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับคนที่รักความเงางามคือการเคลือบแก้วเทคโนโลยีนี้ช่วยให้สีมีความเงางามและดูฉ่ำขึ้นมาก จากสีดำก็จะเป็นดำขลับเงางามสีน้ำเงินก็จะเป็นน้ำเงินสดยิ่งขึ้น
     ข้อดีอีกอย่างคือการเคลือบจะทำให้ผิวของสีมีความแข็งขึ้นทนต่อรอยการขีดข่วนและการเป็นขนแมวได้ดี คราบยางไม้ ขี้แมลง หรือคราบสกปรกอื่นๆเกาะติดได้ยาก การทำความสะอาดก็ง่าย แต่มีราคาค่อนข้างสูง
     ในรถขนาดอีโค คาร์และซับคอมแพ็คท์เดี๋ยวนี้มีแพ็คเกจตั้งแต่ไม่ถึงหมื่นจนถึง 20,000 บาทถามว่าคุ้มไหมเมื่อเทียบกับการซื้อแพ็คเกจขัดเคลือบสี ที่ต้องคอยไปทำทุกเดือนบอกได้เลยว่าคุ้มค่ากว่ามาก
     การเคลือบแก้วจะทำให้คุณเอาเวลาที่ต้องไปรอขัดเคลือบสีไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ เพราะการเคลือบแบบนี้จะเว้นช่วงเวลาค่อนข้างนานกว่าจะไปเติมทรีตเมนต์อีกครั้ง และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าเยอะ ถ้าคุณชอบความเงางามและดูแลรักษาง่ายการเคลือบแก้วเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและควรจะเริ่มทำทันทีเมื่อออกจากโชว์รูม
 
     ขั้นตอนก็คือการใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติเด่นหลายๆด้านผนวกเข้าด้วยกัน เช่น การยึดเกาะกับผิวสีเดิมอย่างแน่นหนาและคุณสมบัติความแข็งแบบผิวกระจกนั่นจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ยากขึ้นมีความเงางามมากเป็นพิเศษรวมถึงคุณสมบัติเรื่องของความลื่นของผิวสัมผัสทำให้ฝุ่นหรือคราบต่างๆ เกาะติดยากทำให้ล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่า

      สาเหตุที่ทำให้สีรถหมองไม่เงางามคือแสง UV ดังนั้นสารเคมีที่ผสมลงไปจะต้องมีคุณสมบัติของการป้องกันและสะท้อนแสงUV ได้ด้วย เมื่อผิวหน้าของสีแข็งและเป็นมันเงาความชื้นก็ยากจะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อสีซึ่งเป็นอีกตัวการหนึ่งที่ทำให้สีเสื่อมสภาพและหมองคล้ำ

กรณีที่คิดจะใส่ชุดสปอยเลอร์รอบคันการเลือกวัสดุอาจส่งผลในเรื่องความเรียบเนียนและความเงางามของชิ้นส่วนด้วยเพราะสปอยเลอร์ก็ต้องพ่นสีเดียวกับตัวรถในเรื่องของการเลือกชุดสปอยเลอร์นั้นต้องบอกว่ามีความสำคัญมาก โดยหลักๆแล้วชุดแต่งเหล่านี้จะแบ่งเป็น 3 แหล่งที่มาใหญ่ๆ คือ ชุดแต่งจากโรงงานชุดแต่งจากสำนักแต่งมาตรฐาน และชุดแต่งทำมือจากร้านแต่งทั่วไป
     ชุดแต่งจากโรงงานกับสำนักแต่งมาตรฐานส่วนมากจะมีราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะของจากสำนักแต่งมาตรฐานยี่ห้อดังๆจะมีราคาค่อนข้างแพง แต่วัสดุที่ใช้ทั้งสองกลุ่มนี้มักจะเป็นวัสดุพวกพลาสติก ABSหรือพลาสติกแบบPP รวมถึงไฟเบอร์แบบฉีดขึ้นรูปจากแม่พิมพ์ชุดแต่งจากทั้งสองแหล่งนี้จะมีความเรียบเนียนของผิว และแนบสนิทกับตัวถังรถเป็นอย่างดีชิ้นงานเมื่อทำสีก็จะมีความเงางามเช่นเดียวกับผิวของตัวรถ
     ส่วนสปอยเลอร์จากร้านทั่วๆ ไปที่ออกแบบเอง หรือ ก๊อบเขามาส่วนใหญ่จะเป็นงานไฟเบอร์ที่ขึ้นรูปด้วยมือดังนั้นชิ้นงานที่ออกมาจะไม่ค่อยมีความเรียบเนียนและเมื่อทำสีแล้วจะไม่ค่อยมีความมันวาวอย่างที่ควรจะเป็นหรือใช้ไปไม่นานก็จะเริ่มซีดและด้านมากขึ้นดังนั้นการเลือกสปอยเลอร์ควรจะเลือกวัสดุที่เป็นพลาสติกหรือไฟเบอร์แบบฉีด ขึ้นรูปเพราะในการใช้งานนั้นมันยืดหยุ่นและให้ตัวได้
การทำสีสปอยเลอร์ในรถใหม่ ต้องใช้กรรมวิธีเดียวกับทำสีตัวรถถ้าจะให้ดีต้องพ่นด้วยระบบ 2K สีจะได้เงางามและทนทานเหมือนกับกันชนหน้าและหลังที่ออกมาจากโรงงาน
     การทำสีอีกวิธีหนึ่งคือการพ่นแล้วเคลือบด้วยแล็คเกอร์แบบเก่าการทำสีแบบนี้จะถูก แม้ว่าจะมีความสดสวยเหมือนกับตัวถังรถแต่มันก็คงความสดสวยได้ไม่นานนักผ่านไป 1-2 ปีก็จะเห็นความแตกต่างชัดเจนโดยเฉพาะรถสีขาว บรอนซ์ น้ำเงิน แดง และรถสีเมทัลลิกทั้งหลาย ดังนั้นถ้าคิดจะใส่สปอยเลอร์ต้องเลือกที่มีคุณภาพการทำสีก็ต้องยอมทำสีแพงหน่อยเพื่อให้ระยะยาวสีสดสวยไม่ผิดเพี้ยน
 
ผ้าคลุมรถ
     ไม่ว่าจะผืนหลักร้อยผืนละสามพันหรือแพงกว่านั้นไม่ควรคลุมแล้วจอดกลางแจ้งเพราะไอร้อนที่เกิดขึ้นใต้ผ้าคลุมรถนั้นสะสมสูง มากสูงชนิดที่ว่าอาจจะทำให้ผ้าหรือสารเคมีที่เคลือบอยู่ เช่นผ้าคลุมกันน้ำละลายติดกับสีรถได้เลย กรณีแบบนี้เจอกันบ่อยครั้งการใช้ผ้าคลุมรถควรใช้ในที่ร่มเท่านั้นแล้วควรเลือกผ้าคลุมที่มีคุณภาพระบายความร้อนและความชื้นได้ดี
การจอดรถกลางแจ้ง
     จะทำให้แสง UV ทำลายสีรถโดยตรงกรณีไม่มีโรงรถหรือหลังคาที่กันน้ำกันแดดได้ดี ควรติดกันสาดที่กรอบกระจกทุกบานกันสาดนี้จะช่วยกันฝนไม่ให้เข้าไปในห้องโดยสารเมื่อเราเปิดแง้มกระจกไว้
การแง้มกระจกไว้สักหนึ่งนิ้วจะช่วยให้การระบายไอร้อนในรถทำได้ดีขึ้นลดอุณหภูมิในห้องโดยสารได้มาก เมื่อในห้องโดยสารระบายความร้อนได้ดีสามารถช่วยให้หลังคารถอุณหภูมิไม่สะสมสูงนัก สีหลังคาก็จะไม่โดนทำร้ายมากนัก
กรณีต้องจอดรถใต้ต้นไม้ ถ้าเป็นไม้พุ่มทึบที่สามารถสร้างร่มเงาได้ดีสามารถเอาผ้าคลุมรถมาใช้เพื่อป้องกันยางไม้และขี้แมลงได้
 
     
      กรณีมีที่จอดประจำแต่ไม่มีหลังคาให้ร่มเงาหลังคาโรงรถแบบพับได้หรือเต็นท์ราคา 3,000-4,000 บาท ก็ช่วยได้เพียงแต่เจ้าของสถานที่ยินยอม กรณีที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อให้ร่มเงาได้การเคลือบแก้วหรือการเคลือบสีเป็นประจำสามารถช่วยให้สีทนต่อแดดได้มากขึ้น

กรณีที่คิดจะใส่ชุดสปอยเลอร์รอบคันการเลือกวัสดุอาจส่งผลในเรื่องความเรียบเนียนและความเงางามของชิ้นส่วนด้วยเพราะสปอยเลอร์ก็ต้องพ่นสีเดียวกับตัวรถในเรื่องของการเลือกชุดสปอยเลอร์นั้นต้องบอกว่ามีความสำคัญมาก โดยหลักๆแล้วชุดแต่งเหล่านี้จะแบ่งเป็น 3 แหล่งที่มาใหญ่ๆ คือ ชุดแต่งจากโรงงานชุดแต่งจากสำนักแต่งมาตรฐาน และชุดแต่งทำมือจากร้านแต่งทั่วไป
     ชุดแต่งจากโรงงานกับสำนักแต่งมาตรฐานส่วนมากจะมีราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะของจากสำนักแต่งมาตรฐานยี่ห้อดังๆจะมีราคาค่อนข้างแพง แต่วัสดุที่ใช้ทั้งสองกลุ่มนี้มักจะเป็นวัสดุพวกพลาสติก ABSหรือพลาสติกแบบPP รวมถึงไฟเบอร์แบบฉีดขึ้นรูปจากแม่พิมพ์ชุดแต่งจากทั้งสองแหล่งนี้จะมีความเรียบเนียนของผิว และแนบสนิทกับตัวถังรถเป็นอย่างดีชิ้นงานเมื่อทำสีก็จะมีความเงางามเช่นเดียวกับผิวของตัวรถ
     ส่วนสปอยเลอร์จากร้านทั่วๆ ไปที่ออกแบบเอง หรือ ก๊อบเขามาส่วนใหญ่จะเป็นงานไฟเบอร์ที่ขึ้นรูปด้วยมือดังนั้นชิ้นงานที่ออกมาจะไม่ค่อยมีความเรียบเนียนและเมื่อทำสีแล้วจะไม่ค่อยมีความมันวาวอย่างที่ควรจะเป็นหรือใช้ไปไม่นานก็จะเริ่มซีดและด้านมากขึ้นดังนั้นการเลือกสปอยเลอร์ควรจะเลือกวัสดุที่เป็นพลาสติกหรือไฟเบอร์แบบฉีด ขึ้นรูปเพราะในการใช้งานนั้นมันยืดหยุ่นและให้ตัวได้
การทำสีสปอยเลอร์ในรถใหม่ ต้องใช้กรรมวิธีเดียวกับทำสีตัวรถถ้าจะให้ดีต้องพ่นด้วยระบบ 2K สีจะได้เงางามและทนทานเหมือนกับกันชนหน้าและหลังที่ออกมาจากโรงงาน
     การทำสีอีกวิธีหนึ่งคือการพ่นแล้วเคลือบด้วยแล็คเกอร์แบบเก่าการทำสีแบบนี้จะถูก แม้ว่าจะมีความสดสวยเหมือนกับตัวถังรถแต่มันก็คงความสดสวยได้ไม่นานนักผ่านไป 1-2 ปีก็จะเห็นความแตกต่างชัดเจนโดยเฉพาะรถสีขาว บรอนซ์ น้ำเงิน แดง และรถสีเมทัลลิกทั้งหลาย ดังนั้นถ้าคิดจะใส่สปอยเลอร์ต้องเลือกที่มีคุณภาพการทำสีก็ต้องยอมทำสีแพงหน่อยเพื่อให้ระยะยาวสีสดสวยไม่ผิดเพี้ยน
 
เคลือบภายในห้องโดยสาร
     สำหรับรถที่เป็นเบาะผ้ายิ่งเป็นเบาะสีอ่อนด้วยแล้ว ยิ่งต้องให้การดูแลรักษาเป็นอย่างมากเบาะผ้าเมื่อออกรถมาใหม่ควรเข้าไปพ่นน้ำยากันน้ำและปกป้องเนื้อผ้าน้ำยาเคมีที่ฉีดพ่นลงไปนั้นจะช่วยให้เบาะผ้าไม่เป็นรอยด่างหรือเป็นดวงเพราะจะทำให้น้ำซึมเข้าเนื้อผ้าได้ยากขึ้นและช่วยป้องกันไม่ให้เบาะนั่งดำหรือเป็นคราบไคลติดแน่น
ส่วนเบาะหนัง ถ้าเป็นโทนสีอ่อนก็ต้องเคลือบน้ำยาเช่นกันเบาะนั่งสีอ่อนหรือโทนสีเบจนั้นแค่ช่วงเวลาไม่กี่เดือน ก็จะเห็นชัดเจนว่าเป็นคราบดำด่างน้ำยาที่เคลือบจะช่วยไม่ให้เบาะหนังเสื่อมสภาพเร็ว และป้องกันไม่ให้เลอะง่าย
     นอกจากการดูแลรักษาด้วยการใช้บริการจากคาร์แคร์แล้วควรหลีกเลี่ยงผ้ายีนส์สีเข้มๆ ยิ่งซื้อมาใหม่ๆ ยิ่งต้องระวังเพราะสีย้อมที่ติดมากับผ้ามันจะไปทำให้เบาะนั่ง ไม่ว่าจะเป็นเบาะผ้าหรือหนังสกปรกพูดง่ายๆ ก็คือสีจากผ้าตกใส่เบาะนั่นเองถ้าเป็นเบาะผ้ายิ่งทำความสะอาดหรือฟอกให้เหมือนเดิมได้ยาก
ต้องสวยทั้งภายนอกและภายใน
     การดูแลภายในห้องโดยสารอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการทำความสะอาดแล้ว ถ้าหลีกเลี่ยงการจอดกลางแจ้งไม่ได้ควรติดกันสาดเพื่อแง้มกระจกให้การระบายความร้อนออกไปทำได้ดีการปล่อยให้ห้องโดยสารมีความร้อนสูงจะทำให้ชิ้นส่วนพลาสติกเสื่อมสภาพเร็วชิ้นส่วนบริเวณคอนโซลหรือแผงประตูจะมีเสียงดังออดแอดเวลารถวิ่งและบางชิ้นก็กรอบแตกก่อนเวลาอันสมควร
อีกทางคือการเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพสามารถสะท้อนแสง UV และสะท้อนความร้อนได้ดีลงทุนแพงหน่อยแต่ใช้งานได้ยาวนานรวมถึงยืดอายุชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารด้วยพวกน้ำมันหอมระเหยต่างๆ ควรหลีกเลี่ยง ยิ่งห้องโดยสารร้อนมากเท่าไหร่สารเคมีที่ฟุ้งกระจายในรถ อาจเป็นตัวการทำให้คอยล์เย็นอุดตันเร็วหรือชิ้นส่วนบางอย่างเช่น ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
ห้องเครื่อง
     นอกเหนือจากการดูแลรักษาสีรถและภายในห้องโดยสารด้วยแล้ว ห้องเครื่องเป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องดูแลทำความสะอาดแต่ห้องเครื่องเพียงจุดเดียวที่อยากบอกว่า แค่ให้พอสะอาดไม่ต้องถึงกับเอี่ยมอ่องเพราะการทำความสะอาดห้องเครื่องไม่เหมือนกับการทำความสะอาดส่วนอื่นๆ ของตัวรถเพราะเครื่องยนต์ประกอบด้วยโลหะหลายชนิด แถมมีชิ้นส่วนพลาสติก ยาง ฯลฯ มากมายห้องเครื่องทำความสะอาดแค่ใช้ลมเป่าฝุ่นออก หรือใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดก็พอไม่ควรพ่นน้ำยาเคลือบใดๆ ทั้งสิ้น
  แนะนำ การดูแลสีรถ
 การล้างห้องเครื่องเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงแต่ไม่ใช่ว่าไม่ล้างเลยอย่างมากล้างปีละครั้งหลังหมดหน้าฝน หรือล้างหลังจากซ่อมเครื่องมาก็ได้
การล้างห้องเครื่องนั้นคุณต้องมีเวลาว่างพอและร้านที่จะทำต้องมีความรับผิดชอบพอ การล้างห้องเครื่องที่ถูกต้องนั้น
1. ต้องรอให้เครื่องยนต์เย็นเสียก่อนเย็นขนาดที่ว่าเอามือจับท่อไอเสียได้นั่นแหละ
2. ต้องไม่ใช้น้ำแรงดันสูงฉีดล้างโดยเด็ดขาดการล้างที่ถูกต้องคือใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องเครื่องฉีดพ่นจะเป็นแบบสเปรย์ กระป๋องใช้ฟ็อกกี้ หรือใช้กาพ่นสีพ่นก็ได้ จากนั้นใช้แปรงไนล่อนขัดความความสะอาด
น้ำยาบางตัวจะระบุเลยว่าให้ใช้น้ำใส่ฟ็อกกี้หรือกาพ่นสีพ่นทำความสะอาดซ้ำ แล้วใช้ลมเป่าให้แห้ง ใช้ผ้าเช็ดเพิ่มเติมแค่นี้พอแล้วสำหรับห้องเครื่องยนต์
     ทำไมต้องรอให้เครื่องยนต์เย็นก่อนและไม่ควรใช้น้ำแรงดันสูงฉีดนั่นเพราะว่าชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นฝาสูบ เสื้อสูบ เกียร์ ท่อไอเสียและระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เมื่อเครื่องทำงานความร้อนจากเครื่องยนต์และท่อไอเสียที่กระจายไปยังส่วนต่างๆ โลหะต่างชนิดกันเมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัวไม่เท่ากัน ถ้าล้างห้องเครื่องขณะเครื่องยนต์ยังร้อนอยู่จะทำให้โลหะเกิดการเย็นตัวอย่างรวดเร็ว การเย็นตัวเพราะโดนน้ำเย็นปริมาณมากๆทำให้ชิ้นส่วนหดตัวอย่างรวดเร็ว โลหะต่างชนิดกันหดตัวต่างกันมีโอกาสทำให้เสื้อสูบฝาสูบ ท่อไอเสีย แตกร้าวได้ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คอยล์ ฯลฯ ก็อาจลัดวงจรได้ง่ายและการใช้น้ำแรงดันสูงอาจจะทำให้ชิ้นส่วนพลาสติก ยาง เสียหายได้ด้วย
 
การดูแลรักษารถยนต์จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากที่จะทำความเข้าใจเมื่อเข้าใจแล้วก็เลือกพิจารณาให้ถี่ถ้วนเหมาะสมถือว่าเป็นการใช้งานอย่างคุ้มค่าอีกทางหนึ่งด้วย
บันทึกการเข้า

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
ตั้ม
The Matrix Has You.
Jr. Member
**

like: 17
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 801



« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2013, 10:06:45 pm »

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ครับป๋า   สาธุ
บันทึกการเข้า

วงจรไฟฟ้าไฮเทค...ไม่มีวันแทนที่มันสมองมนุษย์ได้
nan&name
Jr. Member
**

like: 12
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 692


pajerosport-thailand ID 3949


« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2013, 10:40:23 am »

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ครับป๋า   สาธุ
มีอะไรก้อเอามาแชร์กันได้ครับป๋าตั้ม 
บันทึกการเข้า

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
charles
merchant
Newbie
*

like: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68


เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 03:32:09 pm »

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะครับ ^^
บันทึกการเข้า

nan&name
Jr. Member
**

like: 12
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 692


pajerosport-thailand ID 3949


« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 09:42:13 pm »

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะครับ ^^
ยินดีครับป๋า สาธุ
บันทึกการเข้า

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
kanapot
Jr. Member
**

like: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 653


ID : 666

sudachannet@hotmail.co.th
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 11, 2014, 05:12:42 pm »

 สาธุ ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

Pajero Sport MY12 Brown Edition
30 December 2011
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.053 วินาที กับ 21 คำสั่ง