ถามผม ผมเองก็ไม่ค่อยรู้แต่มีไว้ดีกว่าไม่มี
อันนี้อ้างข้อความจากป๋าเบียร์ แห่ง URCคำว่า OBD ต่อท้าย ที่นำมาตั้งชื่อรุ่นในระบบแก๊ส จะเป็นการชดเชยปริมาณการจ่ายแก๊ส โดย เชื่อมต่อสัญญาณ
มาจาก ECU รถยนต์ ผ่าน ปลั๊ก OBD ของรถยนต์ โดยดึงค่า STFT (การชดเชยตลอดเวลา) และ LTFT (การชดเชยแบบค่าสะสม)
มาปรับการจ่ายแบบทันทีทันใด
เดิมที ที่ไม่ยังไม่มีฟังก์ชั่นนี้ เมื่อปริมาณการจ่ายแก๊สเพี้ยนไปจากปัจจัยต่างๆ เช่น จูนแก๊สไม่ถูกต้อง ติดตั้งหม้อต้มที่จ่ายไม่พอเครื่องยนต์
กรองแก๊สตัน หัวฉีดแก๊สสกปรก คุณภาพเชื้อเพลิงของแต่ละปั๊ม หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ปริมาณการจ่ายแก๊สเพี้ยนไปไม่ถูกต้อง
ECU ของรถ จะทำการชดเชยในส่วนที่ไม่เหมาะสมนั้นๆทันที โดยปรับ STFT LTFT ในระบบ เมื่อเกินขีดจำกัดของ ECU รถจะชดเชยได้
มันจะฟ้องมาในรูปแบบ ไฟ Engine โชว์ เมื่ออ่านโค้ด ระบบจะแจ้งว่า เชื้อเพลิงหนาไป หรือ บางไป และถ้าเพี้ยนมากๆ
มันจะรวนไปทั้งระบบไม่ว่าจะใช้น้ำมันหรือใช้แก๊ส เพราะฉะนั้น ช่างแก๊สหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องมีพื้นฐานความรู้ระบบ
ของเครื่องยนต์อย่างลึกซึ่ง เพื่อวิเคราะห์ปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดจากแก๊ส แม้ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นขณะที่รถใช้น้ำมันอยู่ก็ตามนะครับ
เมื่อระบบแก๊สมีฟังก์ชั่น OBD ก็คือ ระบบแก๊สจะไปอ่านค่า STFT LTFT ของ ECU รถ แล้วมาปรับชดเชยการจ่ายแก๊สเอง
โดยที่ ECU รถไม่ต้องปรับ ก็เท่ากับเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวของระบบการจ่ายเชื้อเพลิงแก๊สได้ดียิ่งขึ้นครับ
ข้อเสียของระบบ OBD ก็มีนะครับ ค่าการชดเชย STFT LTFT ต่างๆของฟังก์ชั่นในระบบแก๊ส
ต้องทำการตั้งค่าโดยช่างที่ทำการปรับจูนที่มีความรู้ ไม่เช่นนั้น ถ้าตั้งค่าผิด ก็เท่ากับตั้งให้มันปรับจูนค่าให้เพี้ยนโดยอัตโนมัติ
และ ความสามารถในการชดเชยเชื้อเพลิงของระบบแก๊ส แต่ละยี่ห้อก็ไม่เท่ากันนะครับ
บางยี่ห้อปรับชดเชยได้น้อยมาก ชนิดที่ว่าถ้าปรับชดเชยได้แค่นี้นะ ไม่ต้องมีฟังก์ชั่นนี้ก็ได้
แต่ที่ทำออกมา ก็เพื่อตามกระแสตลาดแก๊สที่เขามีระบบ OBD กัน ทีนี้จะทำออกมาให้ปรับชดเชยได้เยอะๆ
ก็กลัวว่าช่างจะจูนกันไม่เป็นแล้วทำให้ระบบรวนไปหมด ก็เลยทำให้ปรับชดเชยได้น้อยมากๆครับ
สรุปก็คือ จะใช้แก๊สที่มีระบบ OBD หรือไม่ก็ตาม หากต้องการให้ระบบแก๊สสมบูรณ์อยู่เสมอ
เครื่องยนต์ไม่สึกหรอเร็ว ควรจะต้องเลือกอุปกรณ์แก๊สที่มีความสามารถเพียงพอกับความต้องการของเครื่องยนต์
อันนี้จากข้อมูลทั่วๆไปAdvanced-OBD : กล่อง ECU Advanced-OBD เป็นกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ระบบหัวฉีดแก๊สอัจฉริยะที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะกับยานยนต์รุ่นใหม่ กล่อง ECU Advanced-OBD จะเชื่อมต่อเข้ากับปลั๊ก OBD II และ CAN-BUS ของเครื่องยนต์และใช้การสื่อสาร (Protocol) ระหว่างกล่อง ECU ของรถยนต์ และกล่อง ECU แก๊ส อย่างต่อเนื่องตามมาตรฐาน ISO 9141 และ ISO 15765 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการจ่ายแก๊สที่แม่นยำตลอดเวลา รองรับ Protocol ในระบบ OBD ได้หลายชนิด (เช่น OBD II ISO 9141, OBD CAN : STD 500, EXT 500 เป็นต้น)
เมื่อใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง กล่อง ECU Advanced-OBD จะปรับเปลี่ยนการจ่ายเชื้อเพลิงแก๊สเข้าสู่ระบบการเผาไหม้ที่ถูกต้องแม่นยำสอดคล้องกับความต้องการเชื้อเพลิงเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติตลอดเวลา จึงทำให้การจ่ายแก๊สมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยช่างไม่จำเป็นต้องปรับจูนแก๊สบ่อยๆ เหมือนระบบธรรมดาทั่วไป เร็ว ตอบสนองทุกอัตราเร่ง และทุกรอบความเร็ว วาล์วหัวฉีด เปิด-ปิด ฉับไว (เพียง 1.4 Millisecond) ให้อัตราเร่งที่ดีเยี่ยมทัดเทียมระบบน้ำมันและประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด รางหัวฉีดมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิของแก๊ส (Temperature Sensor) และเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงดันแก๊ส (Pressure Sensor) จึงสามารถควบคุมการทำงาน และคำนวณการจ่ายเชื้อเพลิงแก๊สได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วย ตรวจสอบความผิดปกติในการทำงานของระบบแก๊สได้อีกด้วย หัวฉีดมีความทนทานสูง ผ่านการทดสอบ (Endurance Test) และมีอายุการใช้งานในการฉีดแก๊สนานถึง 400,000 กิโลเมตร หัวฉีดรับประกันการรั่วซึม 5 ปี และหัวฉีดไม่อุดตันตลอดอายุการใช้งาน
ผมไม่ใช่กูรูแก็สเป็นเพียงผู้บริโภคคนนึง หากป๋าๆท่านใดจะเสริมข้อมูลเพิ่มเติมเชิญครับ