burint
Newbie
like: 0
ออฟไลน์
กระทู้: 9
|
|
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2014, 09:02:33 am » |
|
ขอความรู้ด้วยคับ ถ้าดูจากตัวเลขเปรียบเทียบตามรูป 4 ยี่ห้อมีแรงม้า แรงบิด ที่ใกล้เคียงกัน ยกเว้น Trail แรงบิดสูงสุด คำถามผมคือ การมี ซีซี เยอะกว่า คือ For, Mu-x มี 3000 cc
การมีซีซี เยอะกว่า ทำให้ขับความเร็วปลาย เวลาไปต่างจงหวัด เหนื่อยน้อยกว่า คือเครื่องไม่ต้องเค้นหนักหรือเปล่าคับ
หรือไม่เกี่ยวเพราะทั้ง4 ยี่ห้อ ผลิตแรงม้าออกมาได้ใกล้เคียงกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nan&name
Jr. Member
like: 12
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 692
pajerosport-thailand ID 3949
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2014, 09:49:17 am » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
|
|
|
Gaojing
Newbie
like: 1
ออฟไลน์
กระทู้: 68
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2014, 09:58:33 am » |
|
แรงม้าเยอะ ความเร็วปลายดี แรงบิดเยอะ อัตราเร่งดี แรงม้าเยอะ + แรงบิดเยอะ = เร่งแรง ปลายไหล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
4ตีนยังรู้พลาด ปราชญ์ยังรู้พลั้ง แล้วจะเอาอารายกะไอ้Bฅนธรรมดาต๊อกต๋อย
|
|
|
burint
Newbie
like: 0
ออฟไลน์
กระทู้: 9
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2014, 10:21:35 am » |
|
ขอบคุณทั้งสองท่านครับ ขอลองเรียบเรียงเป็นคำถามแบบนี้ดีกว่า
ถ้า มีแรงม้ามาก+แรงบิดมาก = ปลายก็ไหลต้นก็ดี (อันนี้ทุกท่านคงทราบดี)
For, Mu-X, Pa ต่างก็มีแรงม้าและแรงบิดเท่าๆกัน แล้ว For กับ Mu-X มี 3000cc ไว้เผื่ออะไร ในขณะที่ Pa มี 2500cc ก็ผลิตแรงม้าและแรงบิดได้ทัดเทียมกัน เพราะฉนั้น คำถามก็ยังคงคาใจว่า ซีซีเยอะ ขับยาวๆเหนื่อยน้อยกว่าหรือเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
payusine
Newbie
like: 0
ออฟไลน์
กระทู้: 148
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2014, 10:46:29 am » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ID 4166
|
|
|
payusine
Newbie
like: 0
ออฟไลน์
กระทู้: 148
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2014, 11:58:55 am » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ID 4166
|
|
|
danupan
Jr. Member
like: 5
ออฟไลน์
กระทู้: 438
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2014, 01:29:16 pm » |
|
แรงบิต เห็นผลในรอบต่ำ เช่นการออกตัว แรงม้า เห็นผลในรอบสูง เช่น ทำความเร็วได้มาก ถ้าขับรถไม่ไวมาก ไม่เค้นพละกำลังเครื่อง เป็นผมของเลือก แรงบิตดีกว่า ได้ใชบ่อยกว่าแรงม้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
burint
Newbie
like: 0
ออฟไลน์
กระทู้: 9
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2014, 05:32:18 pm » |
|
ขอบคุณทุกท่านคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tt78
Newbie
like: 0
ออฟไลน์
กระทู้: 91
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 07:14:20 pm » |
|
ในบรรดา แรงบิด และแรงม้าที่ พอๆ กัน ของ for, mu , paje แต่ปากินน้ำมันมากที่สุดครับ ให้คิดเล่นๆ ตอนนี้เชฟ ไป 200 แรงม้าแล้วด้วยครับ 555
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ricer1
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
กระทู้: 113
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 01:45:16 pm » |
|
โดยทั่วไปรถเมกันทำแรงม้ามาเยอะ แรงบิดมาเยาะ แต่อัตราเร่งไม่ดีเท่ารถญี่ปุ่น จะใด้รถเมกันโดยทั่วไปเร่งดี ต้องเพิ่มแรงม้าแรงบิดเข้าไปอีก เพราะอะไร เพราะ 1) รอบเครื่อง 2) ระบบเกียร์ 3) การตอบสนองของเครื่องยนต์ คันเร่ง กลไกต่างๆ และอื่นๆ กว่ารถเมกันจะกินหรือไหลตามในก็นู่นปาเข้าไปร้อยกว่าๆครับ ดังนั้นต้องไปลองขับดูนะ ดูว่าปกติเราขับในเมืองมาก หรือ นอกเมืองมาก แต่ถ้าจะเอาหมดเลย หาพวกแรงบิดเยอะมาไว สม่ำเสมอ ร้อบกว้าง และเอาแรงม้าเยอะด้วย อิๆ เท่าที่ลองขับมาผมยังคิดว่า Fortuner ทำใด้ดีตั้งแต่ต้นจนจบครับ เทียบกันเครื่องแตนๆนะครับ งูๆปลาๆใด้เท่านี้ครับ ลองขับให้หมดครับ ก่อนซื้อ ส่วนตัวอยากใด้ม้าสัก 250 ตัว แรงบิดสัก 550 ครับ เอิ๊กๆๆ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 01:47:12 pm โดย Ricer1 »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wil
Newbie
like: 0
ออฟไลน์
กระทู้: 8
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 08:39:13 pm » |
|
ที่สำคัญ ดูด้วยครับแรงบิดสูงสุดเป็นอย่างไร
ของ For ตัวเดิม (343NM) มาที่รอบต่ำสุดคือ 1400 รอบและไปจบที่ 3200 รอบ ถ้าดูกราฟจะกว้างมาก ทำให้ For จะขับมันกว่าเพื่อนคือตอบสนองเร็วหรืออัตราเร่งดีที่สุดในตลาดขณะนี้ก็ว่าได้
ของ Pa (350NM)มาที่รอบ 1800 รอบและไปจบที่ 3500 เวลาออกตัวจะรู้สึกรอรอบหน่อยๆแต่ถ้าช่วงรอบปลายๆจะดีครับ เพราะแรงม้ามากกว่า For (178)
ของ MU X (380NM) มาที่รอบ 1800 รอบและไปจบที่ 2800 ช่วงกราฟการตอยสนองแคบกว่าเพื่อน น่าจะออกตัวอืดและปลายไม่ค่อยไหล (อันนี้ยังไม่เคยลอง)
ที่สำคัญเครื่องใหญ่จะมีกำลังสำรองดีกว่าเครื่องเล็กเพราะแรงบิดและแรงม้าที่ออกมาจะมาจากตัวเครื่องยนต์มากกว่าเครื่องเล็กที่ต้องใช้กำลังเสริมจาก Turbo ลองสังเกตแรงดันที่ Turbo ของเครื่องเล็กจะสูงกว่าเครื่องใหญ่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
IPAN 2
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
กระทู้: 156
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 08:59:58 pm » |
|
ขอบคุณครับที่ไห้ความรู้ปาผมไม่แรงแต่ใจผมแรงงง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kaka
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 09:51:40 pm » |
|
มีทั้งข้อดีแล่เด่น ต่างกันไปครับ. แต่อีกเรื่องที่น่าคิดคือ อัตราการเสียภาษีของแต่ละเครื่องล่ะครับ ขนาด PJS เครื่อง 2500 cc ก็ 4,800 บาท/ปีละ ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
No:1438 นายพิชัย อร่ามจันทร์ (เค) 081-3489470 line:p12976694p วันนี้ขับ PJS SPORT VG 178 HP ขาวมุข 4x4 ปี 2012 เพราะเมื่อก่อนขับ TRITON PLUS 140 HPดำ 4x2 ปี 2009
|
|
|
pordtriton
Newbie
like: 2
ออฟไลน์
กระทู้: 89
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 12, 2014, 11:34:31 am » |
|
พิจรณาองค์ประกอบจากเกียร์ร่วมด้วยนะครับ จำนวนจังหว่ะและอัตราทดในแต่ละจังหว่ะ บางทีเครื่องเล็กช่วงชักกับกระบอกสูงขนาดใกล้เคียงกัน(สแควร์) โดยปกติจะเป็นประเภทเครื่องรอรอบแต่พอได้เกียร์เหมาะๆมาช่วย จากด้อยกลายเป็นดีก็มีให้เห็นเยอะ เช่น T6 2.2 , pro 2.2 ช่วงกลาง ถึง ปลาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|