Languages
หน้า: 1 [2] 3   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: voltage stabilizer  (อ่าน 14164 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 23 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Adisak (โดม)
ID 1985
Sr. Member
****

like: 81
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1832


ชอบ กดLike ถ้าไม่ กด+


อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 12:09:37 am »

จริงๆแล้ว capcitor ค่าความจุจะมีผลกับความถี่ครับ
ค่ามากๆ จะช่ายให้ คลื่นทะเลแรงๆ เรีบยขึ้น นิ่งขึ้น
แต่ถึงยังไง ทะเลยังมีคลื่น เล็กๆ ที่ผิวน้ำ อยู่ ก็เลยต่องใช้
คาปาซิเตอร์ ค่าต่ำ ปาดหน้าผิวน้ำ หรือการกรองให้ผวน้ำนิ่งที่สุด
ปราศยาก คลื่น เหมือนน้ำในแก้วครับ
ตัวกำเนิดไฟฟ้า หรือไดชาร์จเกิดจากการตัดกันของสนามแม่เหล็ก
จากขดลวด ฉะนั้นไฟฟ้า ที่เกิดขึ้น มันจึงมีคลื่นเล็กๆ เกิดชึ้น
ถ้ามีการกรองให้เรียบมันจะทำให้ ระบบไฟฟ้าในรถ มีความสเถียร มากขึ้ครับ
การเปรียบเทียบวงจรฟิลเตอร์ หรือ โวลท์เตจสเตบิไลเซอร์นั้น
ป๋าน่่าจะเปรียบเทียบกับ  แบตเตอร์รี่ลูกเล็กๆ หรือ ตุ่มน้ำจะดีกว่า

ตุ่มใหญ่ เติมนานกว่าจะเต็ม แต่ก็ตักออกนาน กว่าจะหมด
ตุ่มเล็ก เติมเป๊บเดียวก็เต็ม แต่ก็ตักออกเร็วเหมือนกัน มันก็หมด


การที่ที่เราเอา คาปามาต่อๆ กัน ก็เหมือนกับเอาตุ่มมาต่อกันๆ ๆ กันครับ เราจะมีน้ำไว้ใช้เยอะ
( R อนุกรม เทากับ C ขนาน)
 เราจะมีน้ำไว้ใช้เยอะ และก็สามารถเลี้ยงวงจรได้สบายๆ
ทำไมต้องมีทั้งค่ามากๆ และ ค่าน้อยๆ
ก็ตามอย่างที่ผมเปรียบเทียบครับ ตุ่มเล็ก เติมไว แต่ก็ หมดไว้ อันนี้เราไว้ให้มันเรียบที่สุด
คาปาตัวใหญ่ๆ มีไว้เก็บน้ำ เพื่อไว้จ่ายให้ตุ่มเล็กครับ ตุ่มเล็กหมด จะไม่กลัวอะไร มีตุ่มใหญ่รออยู่
เหมือนที่เรามีแม่ค่อยโอบอุ้ม...อิอิ
ถ้า คาปา บวม หรือ เสีย แน่นอนครับ ส่งผลกระทบกับวงจรภาพรวมแน่ๆ เขาถึงมี ฟิวส์ มากั้นไว้

ซึ่งผมเองเชื่อว่า ในกล่อง ECU เรา มีภาคนี้อยู่แล้วแน่นอน แต่จะดีมากพอหรือเปล่านั้น ผมไม่สามารถตอบได้ครับ

แต่ถ้ามีเพิ่ม ย่อมดีกว่าไม่มีแน่นอน


ว่างๆ จะวาดรูปให้ดูครับ

ดีนะที่เป็นอิเล๊ค ถ้าเป็นแก้ส ผมวิ่งเข้าป่า ไปแล้ว ป๋าพัน
good  good  good  like
ถูกต้องคับวงจรฟิลเตอร์ไม่ใช่โหลดเพราะคาปามันไว้ชาร์จแรงดันไม่ใช่กระแสถ้าโหลดคือตัวต้านทานหรืออุปกรณ์ที่เปลี่ยนกระแสไฟเป็นแรงงานจลย์ต่างๆทั้งแสง เสียง ความร้อน etc.แต่มันจะกลายเป็นโหลดเมื่อแรงดันที่เก็บมันเกินโดยไม่ได้ปล่อยออกมาก็คือตัวมันร้อนหรือง่ายๆมันพังคับ สาธุ
บันทึกการเข้า

Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 01:42:05 am »

คุยต่อนิดครับป๋า  มันจะเป็นแบบที่ผมเข้าใจลางลางไหม...

-- สมมุตืว่างานนี้หลักการทำงานของการเอา c มาขนานกันแบบนี้  เพื่อจุดประสงค์กรองและตัดสัยญานออกไปจากระบบ ยกตัวอย่างสัก section เล็กเล็กที่แถวจุดนึงของมัน  มันจะเป็นอย่างนี้ไหมครับ หมายถึงทำนองนี้

    ++ Condersor ค่า 4.7 ไมโครฟารัด มีสัญญานความถี่รวมมาผ่านมันจากบวกไปลบ  ตัว c ก็จะปล่อยให้มีการผ่านสัญญาณประมาณ 3800 hz ขึ้นไป เท่านั้น หลุดออกไปที่อีกด้าน ที่ 6db/octave  แล้วไหลออกไปสู่กราวน์ ทำนองนั้นไหมครับ
    ++ และการเปลี่ยนค่า C ไปเรื่อยเรื่อยก็ทำกันแบบ ประมาณสัญญานความถี่ อื่นต่อไป  แบบ First Order  ( 6db/octave ) เหมือนในเครื่องเสียงไหมครับ

-- ก็อีกนิดครับ  มันก็ดูเหมือนจะขจัดสัญานที่เรียกว่าส่วนเกินออกไปได้แต่  ก็อย่างเดิมครับ ผมไม่เข้าใจอยู่ดีว่า สัญญานความถี่เหล่านั้น  มันมาเจาะจงวิ่งมาทาง Stabilizer กันทั้งหมดหรือ  มันคงไหลผ่านมา 5 % เอง อย่างนั้นหรือไม่ เพราะอีก 95% มันก็ไปกับช่องทางที่มีการต้านทานน้อยกว่าอยู่แล้วหรือไม่ครับ  คือ Path ที่ไม่ผ่านวงจรนี้  หรือการลดมันแค่นั้นมันก็ทำให้มันพอแล้วหรือไม่ครับ 

สำหรับเรื่องการเข้าใจลึกเรื่องนี้ผมไม่มีครับ  แต่อดสงสัยไม่ได้ว่า  งั้นถ้าผมเอา C 4.7 uF  ไปต่อแบบขนานที่ tweeter เสียงแหลมในลำโพง แบบขนานแทนการอนุกรม  เสียงความถี่ต่ำก็ต้องแทบไม่สามารถไปทำอันคราย tweeter ของผมได้มังครับ

-- ผมยังมีความเข้าใจผิดอยู่ว่า  มันเป็นอย่างนั้นก็จริงแต่มันเกิดการลดสัญญานที่ไม่ต้องการได้แค่ Output ของ Stabilizer ที่วิ่งไปทางขั้วลบ เท่านั้น (พูดตามที่เข้าใจครับ  ผิดก็ไม่อาย อิ..)  และอีกอย่างที่อยากคุยด้วย  แต่เด๋วหลุดออกไปไกล  แต่จะมีคนถามว่าทำไม  ไม่มีการยอมรับและใส่มาในระบบ  รถยนต์จากทุกค่าย  หรือว่าบางค่ายใส่มาด้วย  แต่อย่าเอาเรื่องนี้มาถามดีกว่า   เรามาพิจารณากันตามไปเรื่อยเรื่อยสักพัก  ก็คงพอจะเห็นคำตอบ  ป๋าแชร์กันออกมานะครับ   อยากรู้คำตอบหลายด้าน  อย่างน้อยผมก็ได้คิดสักนิดก่อนไปติดอะไรเข้าไปให้น้องปา 

ผมเลยไม่รู้จะจบยังไงครับป๋า   เด๋วหาทางลงก่อน  Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy 
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Cherdkiet
You'll never walk alone.
Full Member
***

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1188



« ตอบ #17 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 09:49:59 am »

ป๋าพันนี้ เป็นนักเรียนที่น่าตีมากๆๆๆๆ  เล่นเอาผมหาคำตอบไม่ทันเลย
เอาเป็นว่า ผมขอจับประเด็นท้ายสุดก่อนนะครับว่าทำไม ไม่มีการยอมรับและใส่มาในระบบ  รถยนต์จากทุกค่าย  หรือว่าบางค่ายใส่มาด้วย  แต่อย่าเอาเรื่องนี้มาถามดีกว่า   เรามาพิจารณากันตามไปเรื่อยเรื่อยสักพัก  ก็คงพอจะเห็นคำตอบ  ป๋าแชร์กันออกมานะครับ   อยากรู้คำตอบ

อย่างที่ผมกล่าวไว้แต่ต้นครับ อุปกรณ์ทั้งสองอย่างนี้ กราววาย และโวทล์เตจ เนี่ย
จะเห็นผลได้ชัดเจนมากๆ ก็ต่อเมื่อรถเรามีอายุมากขึ้นหน่อยครับ

ถามว่า บ. ได้ออกแบบมาไม ผมมั่นใจตอบว่า มีแน่นอนครับ มันต้องอยู่ในวงจรนึงในกล่อง ECU นั้นแหละ
ถามว่า ทำไม บ. ไม่ยอมรับและใส่มาในระบบ ตามบรรทัดบนเลยครับ ผมเชื่อมั่นว่ามีมาแล้ว แต่ถึงจะไม่ดีมากพอ ก็ไม่มีใครบอกว่าไม่ดีมากพอหรอกครับ

เสียดายครับ ผมนั่งหารูปท้ายเบนซ์ผมมายืนยันกว่า 3 ชั่วโมง หาไม่เจอ
ผมจะเล่า เปรียบเทียบให้ฟังว่า

ผมรับท้ายเบนซ์ต่อมาจากคนอื่น ตอนนั้นอายุมัน 7 ปีแล้วครับ ดีเยี่ยมทุกอย่าง
แต่หลังจากขับได้สัก 3 ปี  วิทยุดังวีดๆๆๆ ตามรอบเครื่อง ไฟหน้าปัดกระเพื่อม

พอผมไปติดกล่องบวกกราววายกับพี่เทพ ทุกอย่างที่กล่าวมา มันหายไปเป็นปลิดทิ้งครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 17, 2014, 10:41:39 am โดย Cherdkiet » บันทึกการเข้า
thara
Sr. Member
****

like: 20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1750



อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 10:02:36 am »

ขออนุญาติ

งั้นเพิ่มกราววาย หรือ ติดกล่อง stabilizer จะได้ผลมากกว่ากันคับ
ช่วยคลายความสงสัยหน่อย 
บันทึกการเข้า

เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์
E23FGG Stand by 144.xxx
Cherdkiet
You'll never walk alone.
Full Member
***

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1188



« ตอบ #19 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 10:33:47 am »

ขออนุญาติ

งั้นเพิ่มกราววาย หรือ ติดกล่อง stabilizer จะได้ผลมากกว่ากันคับ
ช่วยคลายความสงสัยหน่อย 

ผมว่า  (ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะครับ)

ในรถใหม่ๆ
กราววายมีผลดีกว่าแน่ๆ ครับ เนื่องจาก เราเพิ่มทางเดินของกระแสไฟฟ้าให้ไหลกลับได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องผ่านตัวถังรถครับ
จะ 3 จุด 5 จุด ก็ว่ากันไป แต่การติดตั้งเครื่องเสียงนั้น เขาก็เดินไฟ และ กราวของเขาไปเองอยู่แล้ว

รถเก่าๆ
กราววายอย่างเดียวคงไม่พอครับ

ผิดหรือถูก ต้องขออภัยอย่างสูง ย้ำว่า ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
บันทึกการเข้า
Cherdkiet
You'll never walk alone.
Full Member
***

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1188



« ตอบ #20 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 10:35:32 am »

ผิดหรือถูก ต้องขออภัยอย่างสูง ย้ำว่า ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ




 สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #21 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 10:58:41 am »

มาแล้ว... ตื่นมาสนุกกันต่อป๋า Cherd ครับ อิ...  ทำงานวันแรกผมก็เอาเรื่องให้คิด  มากวนใจสะแล้ว  ป๋าการคุยกันแบบปุจฉา  วิสัจชนา มันได้ความสนิทชิดเชื้อดีนะครับ

มันเป็นอย่างนั้นจริงป๋าพวก  noise reduction มันทำให้ Noise พวกนั้นลดลงได้

ขอแจมตามไปเรื่อง noise reduction ด้วยคนนะครับป๋าป๋า 555..
ที่ผมแอบดูโดยทั่วไปเช่นกัน  เท่าทีเห็นเมื่อมีเสียงวี๊ด ในระบบเสียงรถยนต์ ที่มีผลมาจากพวก ไดชาร์ทบ้าง และอื่นอื่น  มันมี Design มาใน 2 รูปแบบ เท่าที่เห็น

---  Copper Choke เอาเส้นทองแดงมาพันหลายหลายรอบเป็นเหมือนสปริง ตัวใหญ่ (ไม่มีข้อตายตัวว่ากี่ไม่โครเฮนรี) เพื่อกรองสัญญานความถี่สูง วิธีใช้ก็คือเอามาลองหลายขนาดไปเรื่อยเรื่อย
---  ชุดที่มีลักษณะไปในทาง ใช้ประโยชน์ของ condensor หรือ Capacitor ตัวใหญ่  ซึ่งเอาคุณสมบัติการปล่อยผ่านสัญญานความถี่ต่ำ ที่ผ่านออกไปอีกด้านได้ยาก  แต่ยอมให้สัญญานความถี่สูง ผ่านได้ (ก็แล้วแต่วัสดุที่เอามาพันภายใน กระดาษหรือ โพรีพรอพไพรีน หรือโพรีสไทรีน หากหวังเอาแค่ตัดทิ้งไปก็ใช้แบบกระดาษราคาถูก  แต่ถ้าหวังเอาคุณภาพของสัยญานที่ผ่านออกไปในระบบเครื่องเสียงก็ ก็มักจะเลือกวัสดุ 2 ตัวท้าย  หากค่าของ C ไม่เยอะมาก เพราะแพงกว่า และใหญ่แต่ได้ค่า  C น้อย)  อันนี้ก็เช่นกัน วิธีใช้ก็คือเอามาลองหลายขนาดไปเรื่อยเรื่อย

ป๋าเราคุยกันไปกันมาแบบไม่มีตอนจบก็ได้นะครับ   เพราะหาจุดลงยาก   แต่มาคุยกันแบบสัพเพเหระ  ใครมีข้อสรุปที่เอามาคุยกันออกรส  ก็เอามาแชร์คุยกัน  มันขยับกลีบสมองดีครับ อิ....  ไปธุระก่อนครับเดี๋ยวมา  ไม่รู้ว่าเด๋วเข้าไปในระบบเสียงรถยนต์  ก็จะมีเรื่อง Bi cap , Tri cap เข้ามาละก็เด๋วสนุกกันใหญ่  ได้ไปรื้อลำโพงในรถมาโมกันแน่แน่ อิ.....
 
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
suPreme
Global Mod
Hero Member
*

like: 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2418


ปาไทยแลนด์ 2805


« ตอบ #22 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 11:08:33 am »

ชอบจริงๆครับป๋า ผู้มีความรู้คุยกัน ผู้ได้อ่านเชิญเก็บเกี่ยวความรู้กันครับ  สาธุ  ยอดเยี่ยม
บันทึกการเข้า

"พรีม" คือชื่อลูกสาวผมคร๊าบ แต่ตัวเองชื่อว่า "เก๋"
Adisak (โดม)
ID 1985
Sr. Member
****

like: 81
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1832


ชอบ กดLike ถ้าไม่ กด+


อีเมล์
« ตอบ #23 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 11:09:24 am »

ส่วนผมคิดว่าต้องเพิ่มทั้งคู่เพราะมันคนละอย่างกันแต่ทำงานร่วมกัน
เปรียบเทียบกับท่อน้ำในบ้านนะคับ
กระแสไฟคือน้ำ แรงดันไฟคือสิ่งที่ทำให้น้ำไหล ถ้าเราเปิดก็อกน้ำในบ้านจุดเด่วน้ำที่ไหลออกจากก็อกก็จะแรงแต่เมื่อเราเปิดก็อกหลายตัวพร้อมกัน(เพิ่มกราวน์วาย) น้ำที่ไหลออกแต่ละก็อกก็ไม่มีความแรง แต่เมื่อเราเพิ่มปั้มน้ำ(สเตบิไลซ์)ก็จะทำให้น้ำไหลแรงขึ้นเหมือนเดิมคับ
ซึ่งเหมือนเราเพิ่มแบตเตอรี่ให้แอมป์มากขึ้นแต่แรงดันไฟ12โวตท์เท่าเดิมเพื่อไปชดเชยอุปกรณ์ที่กินกระแสไฟมากๆแต่แรงดันที่จะส่งกระแสไฟให้ไหลไปที่อุปกรณ์ตัวนั้นยังเท่าเดิมเราก็ต้องหาตัวชดเชยแรงดันที่มันพร่องไปมาใส่เพิ่มคับซึ่งในนี้เราใช้คาปาซิเตอร์มาเก็บและคายแรงดันไฟ แต่วิธีนึงก็คือเอาแบต2ลูกที่แรงดันเท่ากันมาต่อขนานกันก็ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 17, 2014, 11:19:42 am โดย Adisak (โดม) » บันทึกการเข้า

Cherdkiet
You'll never walk alone.
Full Member
***

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1188



« ตอบ #24 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 11:13:37 am »

ป๋าพันน่ะ คลังความรู้เลย
มาหลอกให้ผม ซึ่งรู้งูๆปลาๆ มาปล่อยไก่ซะงั้น

สงสัยต้องกลับบ้านแกะกล่องหนังสือ รื้อตำราพิชัยยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็น นวลนาง เพ็ญพักตร์ มาสู้กับป๋าพันหน่อยแล้ว


 
บันทึกการเข้า
ตั้ม
The Matrix Has You.
Jr. Member
**

like: 17
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 801



« ตอบ #25 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 11:17:03 am »

ขออนุญาติ
ผมว่าใส่ทั้ง voltage stabilizer+ground wire ก็ดีนะครับ   สาธุ
บันทึกการเข้า

วงจรไฟฟ้าไฮเทค...ไม่มีวันแทนที่มันสมองมนุษย์ได้
Cherdkiet
You'll never walk alone.
Full Member
***

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1188



« ตอบ #26 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 11:24:05 am »

good เข้าใจแล้วครับ.  ขอบคุณครับ สาธุ สาธุ สาธุ ชอบคำว่า"สิ่งพื้นฐานที่เป็นจริง"

ผมลืมขอบคุณป๋า payusine เลยครับ
เดียวความรู้จะเยอะ แต่จะหลุดความสามารถหลักๆ ของ voltage stabilizer ไปซะครับ
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #27 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 11:34:40 am »

ป๋า Cherd เรื่องไม่ได้เป็นเช่นนั้นป๋า   เราแค่ไม่คุ้นเคยกับการคุยแบบฝรั่งมันมั่งก็เท่านั้นป๋า   จะเห็นว่ากระทู้ต่างประเทศเขาก็คุยกันแบบนี้  แต่เราอาจรู้สึกเกรงอกเกรงใจกันแบบไสตล์เราก็เท่านั้น   ป๋า CherD ครับ คุยกันยาวยาวไปอีก ป๋าจะพบว่าผมมีมุมมองการยืนพูดคุยในคลับเราแบบทำนองนี้  คือไม่คิดเรื่องแบบเถียงเพื่อเอาชนะอะไรครับ  red heart red heart red heart   การมาแชร์กันแบบถูกผิดมั่งไม่ใช่ประเด็น  แต่เน้นไปเนื้อหาสนุก  คิดตามกันไป    ป๋าเองก็ได้ทำให้เวบเราขยับความรู้หลากหลาย  เปิดประเด็นที่ทันสมัย  แท้จริงแล้วผมเองไม่ได้ถนัดเรื่องไหนเลย  แต่แค่ชอบทำความเข้าใจแบบนักเรียนหลังห้อง อิ.....  ว่าแต่ว่าป๋าคงอายุคราวผมแล้วป๋าถึงรู้จักตำรา นวลนาง ด้วย  เฮียกังฟุ ผมก็อ่านในตอนนั้น haha  พอและคุยต่อเรื่อง CAP CAP  COIL COIL  กันต่อเลยครับ  

เด๋วผมเดานะจะมีป๋า Paje บ้านฉาง มาแจมกันสนุกกว่านี้อีก  อิ... พอถึงตอน Bi Cap , Tri Cap ระบบ Cross over network ของลำโพงรถยนต์เรา  จะมาแจมกันแบบสนุกกว่านี้แน่  เพราะจะมีคนเอาไปลองงัดลำโพงในรถกันแน่แน่ ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 17, 2014, 11:44:25 am โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Cherdkiet
You'll never walk alone.
Full Member
***

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1188



« ตอบ #28 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 11:48:45 am »

 red heart red heart red heart

ครับป๋าพัน

สิ่งนึงที่ผมอยากทำ แต่ไม่มีอุปกรณ์ ....  ใครพอมี oscilloscope บางครับ
ถ้าสะดวก รบกวนทดลองวัดที่ขั่วแบตให้หน่อย haha จะมีใครมีอุปกรณ์ กับ ความสะดวก  มั้งนะ

1. วัดตอนไม่สตาร์ท
2. วัดตอนสตาร์ท
3. วัดตอนสตาร์ทและเหยียบคันเร่ง บวก เปิดแอร์ ด้วยนะ
และ
4. ใส่กล่อง และวัดซ้ำข้อ 3 ก็น่าจะเพียงพอ
บันทึกการเข้า
thara
Sr. Member
****

like: 20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1750



อีเมล์
« ตอบ #29 เมื่อ: มีนาคม 17, 2014, 01:21:14 pm »

ขออนุญาติ

โฮ้วววว ใส่สองอย่าง ยิ่งเพิ่มพลังงั้นสินะคับ  anger
บันทึกการเข้า

เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์
E23FGG Stand by 144.xxx
หน้า: 1 [2] 3   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.044 วินาที กับ 21 คำสั่ง