มาแล้วบทพิสูจน์เรื่องหัวเทียน V6 ที่ 60000 Km...
วันนี้จัดการถอดชุดท่ร่วมไอดี V6 ออกมาเพื่อหวังผลตรวจสอบความสึกหรอของหัวเทียนและ Coils
ผลออกมาหลังจากใช้เวลาถอดอยู่ถึง 1 ชม. 1/2 โอว เข็ดแล้ว งวดหน้าจะทำการเปลี่ยนหัวเทียนที่ 100000 โล เพราะได้ผลจากการถอดออกมาดูจริงแล้ว ว่ามันไปได้ถึง 120000 โล แน่นอน (รถผมเองนะ)
--- สวยงามมากเรื่องหัวเทียน ถอดออกมาล้างทำความสะอาดนิดหน่อยเท่านั้นเอง หัวเข็มสภาพดีถึง 85% ของของใหม่ทีเดียว วิ่ง LPG มาถึง 56000 km.
--- Coils 6 หัวอยู่ในสภาพดีมองจากภายนอก ข้างในไม่รู้ อิ...
แต่เด๋วหา Spec การตั้งวาวล์ไอดีก่อนว่าระยะปรับมันยังไง น่าจะเป็นการตั้งร้อนนะของ Mitsu ข้อมูลทีมีอยู่มีแต่ของ Outlander 6B31 แรงอัด 9:1 ของเรา 6b31 New Gen. CR= 10.5 : 1 ไม่รู้ว่าเหใือนกันไหม
ที่ปรับปรุงตรวจสอบความพร้อมของเครื่องยนต์ให้มากมาก ก็เพราะตอนนี้เอา 300 Premium OBD มาใส่คู่กัดกันกับ ISA2/Premium OBD แบบสภาพแวดล้อมเดียวกันคือรถคันเดียวกัน ค่า Base Configuration เดียวกัน แตกต่างกันแค่ ISa2 Adaptation/ OBD Adaptation เท่านั้น กะว่าจะทดสอบจนแยกแยะออกมาได้ดีมากมากแล้วจะมาคุยกันครับ แต่ถ้าจะถามว่า อ้าวแล้วมันใช้ได้แล้วหรือกับ V6 เรา
จากการทดสอบมา 2000 KM. กับ Firmware ในส่วนของ OBD Adapter Versuion 10. ? ปรากฎว่า มันผ่านมา 3000 km. (ในเมือง 1000+ นอกเมือง 2000 Km.) ผลออกมาไม่มีอาการ Conflict ใดใดครับ เด๋ววันไหนนั่งอยู่บ้านว่างว่าง จะมาคุยให้ฟังว่า ความแตกต่างของ 2 ECU จะพูดออกมาแบบภาษาง่ายง่ายให้สมาชิกเราได้เข้าใจกันได้ง่ายครับ ใครอยากฟีงบรรยายยกมือนะ ....
ไม่มี Response กลับมามั่งก็อาจจะลืมมาเล่านะครับ
คร่าวคร่าวก่อนว่า ขับดีกว่าเดิมไหม ทางยาวแบบสภาพอากาศขึ้นลง ฝนตก แดดออก แตกต่างสภาวะมากมาก Premium สำหรับผมขับได้ลื่นสบายมากกว่าครับ แต่การประหยัดจากการทดสอบ มันได้ขึ้นมาไม่มาก ราวราวกับรถผมก็ 1 ถัง 61 ลิตร ได้เพิ่มมาอีกสัก 3-40 Km. แต่การขับโดยรวมแหม บอกได้ว่า ดีกว่าพอควรเลยครับ แต่ยังไม่มีการวัดอะไรกันมากครับ อันนี้ต้องขอไปศึกษาลึกถึงการปรับจูน OBD setting ให้ถึง Max. มันก่อน อาจจะเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกนักถ้าเคยได้ยินมาว่า ติดระบบเสร็จแล้วเปิด OBD แล้ววิ่งเลย ก็ดีแล้ว ส่วนตัวผมว่ามันต้องจูนแบบถึง max แบบ ISa2 โดย Manual ให้สุดเลย แล้วค่อยเปิด OBD ที่ผ่านการ Set แบบ เข้าอกเข้าใจโดยรวมเป็นอย่างดี แล้วมันจะให้ประสิทธิภาพที่ดีมากมากออกมาได้ ในกรณีผม 2 ECU ในรถผม ใช้ค่า Base Configuraton เดียวกันเลย ทั้ง ISA2/OBD แตกต่างกันที่ การปรับจูน Automatic ที่เราเรียกว่า Self Adaptation เท่านั้นเอง
Base Configuraton เดียวกันเลย ทั้ง ISA2/OBD ที่ทำก็มีโดยสังเชปดังนี้
-- Car and General Settings
-- ค่า Autotune ของ Gas Temperature, Gas Pressure
-- Gas Temperature, Gas Pressure Corrections
-- จุดจูนในหน้า 2 มิติ
ทุกอย่างใช้ค่าเดียวกันเลย โดยโยน File Configuration ข้ามไปมาได้เลย แต่จะแตกต่างกันตรงท่อนแยกของการทำ Self Adaptation เท่านั้น
ลิมบอกไปนิด สายไฟใช้ด้วยกันได้ แต่ถอด ECU ISa2 ออกมาเติมสายไฟอีกเส้นเดียวออกมาหา OBD Adapter ส่วนเวลาจะกลับมาใส่ ISA2 ก็สลับกันใช้ได้เลย น่าจะเรียกว่า Dual ECU ได้เลยนะผมว่า เวลาผมใช้ ISa2 ผมก็ตัดไฟเลี้ยง OBD Adapter ด้วยสวิทย์ไฟธรรมดา เวลาผมไปใช้ Premium ผมก็ On สวิทช์ตัวนี้ วันนี้ผมจะขับ ECU ตัวไหนทดสอบ ผมก็แค่ใช้เวลา 10 วินาที ต่อจากนั้นก็ลุยเลย
พอก่อนครับ.... ไม่รู้ว่าจะมีสมาชิกสนใจการทดลองนี้ไหม ... เบื่อการคุยคนเดียว 55555...