Languages
หน้า: [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอคำแนะนำ ระหว่าง เครื่อง เบนซิน V6 / 3000 กับ เค&  (อ่าน 6570 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
trirat-th
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2014, 03:04:43 pm »

ตอนนี้ผมกำลังตัดสิ้นใจซื้อรถ Pajero sport 2013 -2014 ไว้ใช้งาน ในครอบครัว สักคัน สำหรับวันทำงาน ให้คุณภรรยาขับจากบ้าน ถึงที่ทำงาน ระยะทางประมาณ 20 กิโล ใช้ทุกวัน  2 - 3 เดือนอาจเที่ยวต่างจังหวัดครั้งสองครั้ง ตอนนี้กำลังสองจิตสองใจว่า จะซื้อรุ่นไหนดี ระหว่าง  V6 3000 เครื่องเบนซิน (เอามาติดแก๊ส ) หรือ 2.5 GT ขับ 2WD ทั้ง 2 คัน สำหรับผมพอใจอุปกรณ์ภายในที่ติดรถมาทั้ง 2 คัน เพราะเหมือนกันทั้ง 2 คัน  ผมรบกวนเพื่อนๆพี่ๆ ผู้ใช้งานรถทั้ง 2 รุ่นนี้ว่า การใช้งานของผมเป็นอย่างที่แจ้งให้ทราบเบื้องต้น ถ้าผมตัดสินใจ ว่าเลือกรุ่นไหนจะคุ้มค่ามากที่สุด สำหรับการใช้งานของผม ผมควรเลือกเครื่องแบบไหนดีครับ 
                                                                   ขอบคุณมากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2014, 03:28:43 pm โดย trirat-th » บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2014, 05:51:03 pm »

ลองสรุปในใจนิดครับว่า ใน 1 เดือน เราใช้รถประมาณกี่ Km. ดูก่อนครับ

-- ใน 1 ปีเราจะใช้ประมาณกี่ Km ?

ถ้าน้อยมากต่อปี  และเราก็ดูแลรถเองไม่เก่ง  หรือไม่ได้เลยละก็  ดีเซล น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ   ในความเห็นผมเองมาขอแจม   แต่ฟังดูสมาชิกอื่นมาแจมนะครับ   เพราะผมที่ผ่านมา  หากสมาชิกเลือกติดระบบแก็สไม่ดีจริง   ดูแลเองเรื่องเครื่องยนต์ไม่ได้บ้างเลย  และใช้รถน้อยก็จะสร้างปัยหาเพิ่มขึ้นมาได้อีก  ซึ่งหากไม่รวมค่าเขื้อเพลิงราคาต่ำ   ดีเซลจุดว่าน่าพอใจที่ระดับนึงทีเดียว    แต่ถ้าถนัดเรื่องเครื่องยนต์ดูแลรถพอได้   และใช้ระยะทางต่อปีเยอะ Lpg ก็น่าสนใจครับ  ข้อมูลโดยเฉลี่ย V6 Lpg ก็น่าจะ 2.00-3.00 บาท/Km. ครับ  แล้วแต่ระบบที่สมบูรณ์มากแค่ไหน

หากจะซื้อ V6 เช็คส่วนลดทุกที่  แล้วโทรไปหาหงส์ทอง  เขาจัด Package รวมติดระบบ LPG ของเขา  ประกันของเขา  ลองโทรหาข้อมูลดูครับ  ถ้าจะซื้อ V6 ติดแก็สพร้อม  หงส์ทองมี Deal ให้น่าสนใจครับ

แต่โอกาศที่ติดแก็สทั่วไปที่ไม่ดีจริงแล้ว    โอกาศปวดหัวมีมาก  จนหลายคนบ่นเลยว่า รู้งี้ไปเลือกเสี่ยงกับดีเซลดีกว่าก็มีครับ   บางรายถึงกับอยากถอดไปติดยี่ห้อใหม่ก็มีครับ  แต่บางรายก็มีความสุขดีกับรถแก็ส  อันนี้เปอร์เซนต์สูงพอควร   ลองดูระยะทางการใช้ต่อปี  แล้วมาเติมโจทย์เพิ่ม  ว่าน่าจะประมาณกี่ Km./ Year ให้ดูนิดครับ    สมาชิกจะช่วยกันแจมตามประสพการณ์ครับ     แต่ถ้าถามผมว่าตอนนี้ใช้ Lpg หรือไม่  ก็ตอบว่าใช่ครับ  เพราะผมใช้รถเยอะ และคาดว่าจะเยอะมากในอนาคต   และดูแลรถเองได้พอควร  และถนัดระบบแก็สดีมากพอควร  มันเลยเป็นตัวเลือกของผม    ตอนนี้ก็เลือกระหว่าง  ดีเซลหรือ V6 กันก่อน   พอผลออกมาแล้วมาช่วยกันแจมใหม่ครับ   เรื่องการติดแก็สที่ไหน  อย่างไร  ถึงจะมีปัญหาน้อยสุดครับ   ถ้าถามผมว่า V6 แรงเยอะไหม   ผมเห็นเวลาไปต่างจังหวัดเจอ Pajero ดีเซล ถ้าจะลองไมล์กันละก็  ไม่ต่างกันมากครับ  แต่ผมไม่เคยได้แซงรถดีเซลได้ง่ายง่ายเลยเลยสักที  หืดขึ้นคอเหมือนกัน  ถ้าจะกิน 2.5 Turbo ครับ

คิดนานหลายด้านให้ดีนะครับ  มันเป็นทางแยกที่ต้องเลือกเดิน  และถ้าชอบเปลี่ยนรถบ่อย  มองดีเซลมากนิดนะครับ  เวลาบอกขาย โทรศัพท์จะไม่ค่อยว่าง อิ......
บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2014, 08:44:11 pm »

แอบแวะมาถามสมาชิกเพื่อช่วยคิดครับ

-- เครื่องดีเซล 2.5 Turbo  ถ้าคิดแบบ 1 Km. = ? บาท
-- เครื่อง V6 3000  ถ้าคิดแบบ 1 Km. = ? บาท (ขอตั้งตุ๊กตาไว้ที่ 2.50 ค่าเฉลี่ยกลางละกัน เพราะแก็สเริ่มแพงขึ้นและอาจจะปรับไปอีกนิดเฉลี่ยล่วงหน้าเลยละกัน (แต่ของผมตอนนี้ทำได้ดีสุดก็ 6 KM/1 L = 2.33  (14 บาท/L))

สำหรับผมแล้วหากราคาต่อ km.  มันใกล้กันมาก เกือบจะเท่ากันละก็ และส่วนต่างต่อปีที่เราวิ่งตามจำนวน Km. มันไม่ได้ออกมามากละก็   ดีเซลกับการรับประกันเครื่องยนต์โดย 0 บริการ   และเรืองการเลือกระบบและร้านที่ติดตั้งแก็ส  รวมทั้ง Service ระบบแก็ส  ผมเองว่าเองนะ ดีเซลมาเหนือกว่าในหลายด้านหลักเลย   แต่ทั้งนี้ผมดูเทียบจาก ราคาเชื้อเพลิงในปัจจุบัน     ที่ทำไมรถเก๋งถึงมีข้อแตกต่างมากกว่าเพราะ  เขาเปรียบเทียบกับราคาน้ำมันเบนซินทั้งหลายกับแก็ส  ผลต่างมันเลยมากจนแก้สได้คะแนนเยอะกว่ามาก   แต่เรา Pajero มีเปรียบกับ ดีเซล โจทย์มันเลยต่างจากการเทียบเรื่องการติดแก็สกับรถเก๋งทั่วไป 

ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวครับ

และเห็นส่วนตัวอีกอันซึ่งน่าสนใจทีเดียว   โอกาศที่จะได้ระบบแก็สที่ทำงานสมบูรณ์แบบปัญหาน้อย    มันมีโอกาศที่เริ่มยากมากพอควรอีกด้วย   ลองอ่านกระทู้ห้องแก็สเราดูกก่อนนะครับ   แต่การเลือกที่ดีก็พอลดปัญหานั้นลงไปได้เยอะด้วยเช่นกัน 

และถ้าสมาชิดดีเซลพอให้ข้อมูลเรื่อง -- เครื่องดีเซล 2.5 Turbo  ถ้าคิดแบบ 1 Km. = ? บาท

หากได้ข้อมูลออกมาที่น้อยกว่า < 3.00 บาท /1 Km.  ละก็  ผมว่าโจทย์มันเริ่มชัดขึ้นมาก  และเข้าข้างไปทางดีเซลมากเลย 
--ราคาติดแก็ส V6 ออกจะแพงกว่า 4 สูบ ด้วย ราคาพื้นฐานล่างถึงกลางน่าจะ  35000-45000  ส่วนราคาที่เป็นระดับ High End นิด ก็ชนถึง 65000 ซึ่งหากจะติดก็ขอแนะนำแบบนี้ไปเลย   


บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
trirat-th
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2014, 09:12:47 pm »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
trirat-th
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 08:08:30 am »

ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ ในการตัดสินใจเลือก V6 3000 กับ 2.5 GT โดยส่วนตัวผมชอบรถที่มีแรงม้าเยอะๆ และผมมีใจรักมิตซู มาโดยตลอด ซึ่งผมมีรถใช้อยู่หนึ่งคัน เป็น รถ EVO V เครื่อง 4G 63 T / 4WD ติดแก๊สและซ่อมและบำรุงรักษาเองบางอย่างที่ซ่อมได้ หาซื้ออะไหล่เอง  แต่ด้วยเหตุผลที่ลูกชายลูกสาวเริ่มโตและเริ่มอัดอัดที่เวลานั่งรถ EVO V (แต่งหมดทุกอย่าง) จะบ่นว่าเวียนหัว จะอาเจียน เลยทำให้เวลาชวนออกไปเที่ยวไหนลูกๆผมไม่ค่อยอยากไปด้วย  และอีกเหตุผลหนึ่งคือ อยากได้รถเกียร์ ออโต้ เพราะอยากให้ภรรยาขับไปทำงาน ระยะทางจากบ้านภึงที่ทำงานไปกลับ วันละไม่เกิน 30 กิโล และครอบครัวผมเป็นคนใช้รถน้อยส่วนมากจะเที่ยวในกรุงเทพ ฯ เป็นส่วนใหญ่ ระยะทางต่อปี ไม่น่าจะเกิน 15000 กิโลต่อปี รถ EVO V ยังใช้งานเดือนละครั้ง สองครั้ง เพราะเวลาไปทำงานผมนั่งรถบริษัท ฯ จากบางบัวทอง ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ทุกวัน ส่วนเหตุผลที่ผมตั้งกระทูนี้เพราะผมมีความเข้าใจเรื่องเครื่องยนต์เบนซิน ดีพอสมควร เพระาเล่นรถ EVO V มาจะ 10 ปีเห็นจะได้ แต่เครื่องดีเซน 2.5 GT นี่ผมไม่มีความมรู้เลย อัตรากินน้ำมัน การดูแลรักษา และหากใช้ในเมือง ทุกวันเทียบกับ V6 3000 ติดแก๊ส ใครประหยัดกว่ากัน ส่วนเรื่องติดแก๊สผมมีร้านที่เชื่อถือได้ เพราะติดรถมิตซู  และรถ EVO โดยเฉพาะ แต่หากผมตัดสินใจเลือก V6 3000 ผมอาจตัดสินใจใช้บริการ หงษ์ทอง ตามที่พี่ ๆ แนะนำก็ได้นะ เพราะเรื่องราคาค่าติดตั้งผมคิดว่า ของดีย่อมแพงเป็นธรรมดา สำหรับการเลือกซื้อรถ ผมคงไม่เอาป้ายแดง เพราะผมคิดว่า ป้ายแดงก็แดงที่ป้าย พอถอดป้ายออกมาติดป้ายดำ ก็เหมือน ๆ กัน แต่ผมอยากได้ รถปีต่ำกว่าปัจจุบัน 1 ปี (2013) เป็นตัวท๊อป ของรุ่น ผมมองว่าคุ้มค่ามากกว่ากับเงินที่เสียไป เพราะอย่างไรเสียผมคงไม่ใช้บริการจากศูนย์บริการอย่างแน่นนอนครับ


      ขอบคุณครับ    suadyod  Ok..                                                                                                                                                                                         
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 10:40:35 am »

-- 15000 โล ต่อปี  คะแนนรถแก็สต้องลดลงไปเยอะมากครับ   ดีเซลมาแต้มเยอะกว่า  เพราะให้ผลต่างออกมาถึง km ละ 1 บาทเลย (เป็นตัวเลขที่ สมมุติไว้มากกว่าด้วย)   15000 บาทของผลต่างทางเชื้อเพลิงต่อปี ดูมันได้ส่วนต่างน้อยมาก
-- การได้ V6 3000 ไม่ติดแก็สมาก่อนเลยแบบมือสอง   โอกาศก็น้อยมาก กว่า

1.. V6 3000 เคยติดแก็สแต่ยกออกทั้งยวง  และจะเหลือรูปิดที่ท่อร่วมไอดีให้เห็นเป็นกาวซีเมนต์อุดไว้  แต่ไม่มีทางเปิดเห็นเพราะมันอยู่ลึก  ผมรู้จักเต็นท์รถหลายเจ้าที่  ถอดระบบแก็สออกจากรถที่เข้ามาขายในเต็นท์  ถูกถอดระบบแก็สออก  ให้ดูขายง่ายกว่า มีข้อติเตียนน้อยกว่า  และพอถอดออกอย่างดีแล้ว   ถ้าไม่รื้อดู  แทบไม่มีทางหาเจอได้ว่าติดแก็สมา

2.. V6 3000 ที่ติดแก็สแล้วยังคาอยู่ในรถให้เห็น   แต่ถ้ารถไม่ได้ใช้แก็สอย่างสมบูรณ์ดี  อัตตราสึกหรอมีมาก  คราวนี้แหละต้องเอาประสพการณ์ทั้งหมดที่มีมาพิจารณามัง
---2.1.. โอกาศที่จะมีเครื่อง 6Bฺ31 ขับหลังมาทั้งชุดทาง Japan ไม่มีเลย (เชียงกง)
---2.2.. แม้กระทั่งอะไหล่ที่พอได้จาก 6Bฺ31  ขวางลำขับ 4 (outlander) ก็ไม่ลงตัวหลายอย่าง  แทบจะใช้ด้วยกันไม่ได้   แรงอัด 9.5:1 ใน Outlander Vs 10.5:1 ใน Pajero Sport อุปกรณ์ร่วมต่างต่างก็ ซ้าย กลับขวา  ขวากลับซ้ายหลายจุด

3.. V6 3000 ไม่ติดแก็สมาก่อนเลย  หาได้ยากมากแต่อาจจะมีได้

ส่วนดีเซล 2.5  Turbo รอป๋าท่านอื่นมาแจมครับ

ส่วนเรื่องแรงม้ที่ตัวเลขมากของ v6 ก็ต้องดูแรงบิดของดีเซลตามด้วยมังครับ    พอมาอยู่บนถนนแล้ว  175 แรงม้า ดีเซล VS 210 แรงม้า เบนซิล    มันไม่ต่างกันแบบตัวเลขเลย  อาจจะออกตัวได้เร็วกว่านิดนิดในตอนออกตัว ในส่วน V6. เท่านั้น  ที่เหลือ สำหรับผมอาจจะด้อยกว่าด้วยซ้ำ  ลองหาลองขับดูทั้งสองดูครับ ถ้ามีโอกาศ  ฟังดูเหมือนผมเชียร์ดีเซล  แต่เปล่านะ อิ...... ผมใช้ V6 3000 แก็สอยู่เช่นกัน   และไม่ลงเล่มทะเบียน   แค่ถอดออกทั้งยวงก็เป็นรถไม่เคยติดแก็สแล้วครับ...  kiki kiki kiki kiki

ขอให้เจอเนื้อคู่ไวไวนะครับ   จะดีเซล  จะเบนซิล หรือ Lpg  คลับเราต้อนรับอย่างอบอุ่นครับ    suadyod
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 04, 2014, 10:49:08 am โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
trirat-th
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 11:42:20 am »

ขอบพระคุณพี่Punpun เป็นอย่างสูงครับสำหรับคำแนะนำดี ๆ และการต้อนรับน้องใหม่อย่างผมด้วยความอบอุ่น ผมมีความชอบโดยส่วนตัว รักรถ มิตซู เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  หากผมพบเนื้อคู่ที่แท้จริง ในอาทิตย์ สองอาทิตย์  ผมจะนำมาให้เพื่อน ๆ ยลโฉมให้พี่ๆ ได้ชมกันนะครับ
   ตอนนี้ติดต่อไว้คันหนึ่ง V6 ป้ายแดง เจ้าของบอกว่า ใช้วิ่งไม่ถึง 10000โล ติดแก๊สจากศูนย์มิตซู แล้วแต่ไม่ได้ใช้งานจอดไว้เฉยๆ เจ้าของตั้งไว้ 1,150,000  บาท แต่บอกผมว่า  ถ้าสนใจจะลดให้อีก  ผมจะซื้อเงินสด แต่อาทิตย์ว่าจะไปขอดูรถหน่อยก่อนตัดสินใจ  แต่ในใจก็มอง 2.5 GT (2013)ไว้เหมือนกันและยังไม่เห็นมีลงขายเท่าไร กำลังหาอยู่ ไปดูมา 2 -3 คันแต่ภายในเป็นสีครีม เลยยังไม่ถูกใจ อยากได้สีเทาดำ มากกว่า
                                                                                                                ขอบคุณมากครับ ด้วยความจริงใจ   red heart
บันทึกการเข้า
Punpun
MIVEC switch — at 4750 rpm
Hero Member
*****

like: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2652


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 12:59:59 pm »

เวลาคุณเข้ามา Club เราแล้วละก็  จะแปลกใจว่าทุกคนเรียกนามกันว่าป๋าโน่น  ป๋านี่กันทั้งหมด  Cheesy Cheesy Cheesy

ถามหน่อยครับป๋า   แอบลองไปขับรถ test ใน 0 Mitsu มาบ้างหรือยัง   อยากให้ลองขับดีเซลและ V6 ทั้งสองเลย   จะช่วยให้เรามีข้อมูลเยอะดี

แต่ case ป๋า  น่าจะเป็นต่อเหนือกว่าผู้ขายมาก   เพราะป๋าสามารถเลือกซื้อรถได้ทั้งใหม่และเก่า  เพราะไม่มีเรื่องดอกเบี้ยมาเป็นโจทย์  เพราะเงินสด  สามารถเลือกซื้อรถใหม่หรือมือสองได้แบบคุ้มทั้งหมด  เหมือนเล่นไพ่แล้วมี Joker ช่วยตอนเด็กเด็กเล่นกันป๋า

จริงแล้วก็ไม่ยากต่อความกระทู้มากไปอีก  กลัวรำคาญกัน  แต่อยากให้ข้อมูลเพิ่มแบบสมาชิกทั่วไปที่กำลังจะมาเป็น member เราได้ข้อมูลด้วยคือ

--- ความเข้าใจที่เราเข้าใจเรื่องการติดแก็สมาจาก 0 เลยมี 2 แบบ

1... ติดแก็สจาก 0 เลย เพราะเขามีอู่ในเครือเอง   ไม่เอ่ยชื่อ   อันนี้เขารับประกันเครื่องยนต์ 100000 โลเหมือนเดิม  เพราะเขามีอู่แก็สเองและ 0 Mitsu   แต่จะไม่สามารถเอาสิทธิ์นี้ไปใช้กับ 0 บริการที่อื่นได้ เรื่องรับประกัน เครื่องยนต์ 0 ที่ 100000 โล
2... ติดแก็สจาก 0 เลย เแต่ทำที่ร้านแก็ส) มีการจ่ายค่า commission  ให้จากร้านแก็ส    เรื่องประกันเครื่องยนต์  100000 โล หายไป  แต่ร้านแก็สบางที่อาจรับไว้แทนในบางที่ และไม่ได้ซ่อม 0 Mitsu   และกรณีแบบนี้คลุมเครือมาก  เวลาเจอการเคลม
3... ติดแก็สจาก 0 เลย (แต่ทำที่ร้านแก็ส) เรื่องประกันเครื่องยนต์  100000 โล หายไป  แต่ร้านแก็สจรับไว้แทน  แต่ร้านแก็สจะมีเงื่อนไขที่เกือบดีใกล้เคียงจาก 0 Mitsu มาก  คือเอารถไปซ่อม 0 เลยโดยเขาส่งไปและเขาออกค่าใช้จ่าย   แต่เงื่อนไขก็ต้องดูหนักหนักเหมือนกัน  เพราะอาจไม่เท่าแบบโดย 0 ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์

ส่วนเรื่องที่เขาโคสนากันตามสื่อทั่วไปว่า   รับประกันเท่านี้ ล้าน เท่านั้นล้านบาท   อย่าไปฟังมากเพราะผมก็ไม่รู้ว่าเขาประกันอะไรตัวเลขมันเลยค่ารถเราไปถึง 2 - 3 คันกันเลยทีเดียว  แต่เห็นแค่เคลมหัวฉีดอย่างเดียวก็หืดขึ้นคอแล้ว  ผมก็ไม่เคยเจอว่าติดแก็สแล้วพัง   ยี้ห้อไหนมาจ่ายค่าเครื่องใหม่ให้สักที    ก็มีแต่บอกว่า  ถ้าพิสูจน์ได้ว่าพังเพราะแก็สเราจะจ่าย   พอไปถึง  Mitsu ชำแหละกันแล้ว  ก็ไม่สามารถบอกได้หรือบอกโดย  Mitsu Engineer Team แล้ว ว่าพังเพราะแก็ส  ก็ไม่สามารถเคลมกันได้เลย  จนเจ้าของยอมจ่ายเป็นแสนไปเอง  แล้วก็เข็ดกันไปแบบเงียบเงียบ

ผมขอจำลองโจทย์ให้ดูนิดนึงครับ  แต่ไม่ได้เข้าข้างดีเซล   สมมุติว่าผมติดแก็สแล้วไม่เข้าใจเรื่องแก็สเลยและเครื่องยนต์    ผมเอารถไปติดแก็สมาราคาปานกลาง 45000
ผมก็เจอเคสดังนี้

---- วันแรกน้ำลดในหม้อน้ำ  วิ่งกลับไปหาร้านแก็ส  ร้านแก็สบอกติดหม้อต้มตัดต่อท่อน้ำ  ลืมเติมน้ำ  เติมน้ำไปวิ่งไปเด๋วก็ Ok
---- อีก 5 วันต่อมา  ไฟ Engine โชว์  อันนี้กลัวมากมากเพราะอาการในคู่มือถือว่าไฟนี้ขึ้นมีอันตราย   ให้รีบเข้า 0   ปรากฎว่า 0 บอกว่าติดแก็สมาไปร้านแก็สเลย
---- ไปร้านแก็สจูนให้นิกดหน่อย  บอกเอาไปขับก่อนมีอะไรมาอีก
----  ขับไป 10 วัน   มันมาอีกแล้วเลี้ยวเบาดับ  U Turn ดับ ขึ้นจอดรถในห้างดับ  ไฟแดงดับ
---- ไป ร้านแก็สจูนอีกรอบ เปลี่ยนหม้อต้มใหม่  บอกว่า หม้อต้มไม่ดี
---- ใช้งานได้ไป 2 เดือน   แก็สตัดทั้งทั้งที่ ยังมีครึ่งถัง  กลับไปร้านแก็ส  เปลี่ยนวาวล์ถังใหม่  เกจ์แก็สไม่ตรงเอามากด้วยเปลี่ยนอีก
---- ใช้งานได้ไป 1 เดือน   ไฟโชว์ตอนไปเชียงใหม่  กดวิ่งน้ำมันแล้วหาย  ก็เลยรอกลับมา กท.  ไปร้านแก็ส   จูนให้ใหม่  และไม่มีคำตอบว่าเป็นอะไร  แต่ไฟ ก็หายไปแล้ว ช่างมัน
---- ได้เวลาเปลี่ยนกรองแก็สพอดี   ไฟ Engine ก็โชว์  พอไปร้านแก็สก็ บอกว่าหัวฉีดหนืดเปลี่ยน 3 หัว ก่อน ขับต่อไปได้
---- ที่เหลือในอนาคตก็ไม่รู้จะไปยังไงต่อจินตนาการเองไม่ออก
---- และบังเอิญ  ชิ้นส่วนเครื่องยนต์มีปัญหา  พอเข้าไป 0   0 ก็บอกว่าไม่รับเคลม   ติดแก็ส  ต้องจ่ายเงินเองทั้งหมด  ก็โดนไป 18000 บาท

อันนี้แค่สร้างสถานการณ์ให้ดูแบบแย่สุดโต่งให้เห็นภาพนิด   แต่คงไม่เป็นแบบนี้หรอก   แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีในกรณีแบบนี้ให้เห็นครับ   เครื่องดีเซลก็มีปัญหาอีกแบบ  แต่มีการรองรับอย่างน้อยก็ประกันเครื่องยนต์ 100000 โล   ส่วนเบนซินแก็สถ้าระยะทางต่อปีน้อยมากละก็  จุดคุ้มทุนที่เราจ่ายเพิ่มและเวลาที่อาจต้องเสียไปจากการเข้าออกร้านแก็ส  รวมทั้งการรถเสียนอกพื้นที่  จะมีค่าเสียหายเป็นเงินและการเที่รถต้องเสียในพื้นที่ห่างไกลในการเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดมีร่วมด้วย   หากเราไม่สามารถควบคุมระบบแก็สให้นิ่งสมบูรณ์เท่าที่ทำได้มากที่สุด

ฟังดูเหมือนผมจะโจมตีเรื่องรถวิ่งน้อยติดแก็ส    แต่อดเห็นใจสมาชิกที่ผมชอบช่วยเข้าไปตอบปัญหาเรื่องรถแก็สในห้อง LPG ไม่ได้เลย     บางทีแค่ได้ยินมาว่าติดแก็สมาอย่างไรที่ไหน   ก็ใจหล่นไปตาตุ่มแล้ว   ในความรู้สึกผมซึ่งอัดอั้นมาก  อยากจะบอกว่าเลิกติดยี่ห้อนี้กันได้แล้ว   แต่ก็พูดไม่ได้  เพราะมันไม่สามารถทำแบบนั้นได้    ก็เลยลองจินตนาการเรื่องนี้ขึ้นมาให่เห็นภาพ  ซึ่งบางสมาชิกได้เจอมาแล้วอย่างน้อยก็ 2 รายการเบาะเบาะแน่นอน  หากสมาชิกท่านไหนเจอหรืออยากให้ข้อมูลสมาชิกใหม่ใหม่เราก็เข้ามาแจมนิดครับ   ไม่เป็นไรเชียร์อันไหนก็เพื่อนเราทั้งนั้น  ถึงแม้เลือกอันไหนแล้ว   พอเจอปัญหาเราก็จะช่วยกันเท่าทีทำได้ใน Board นี้ครับผม   บางทีผมก็ถามตัวเองเหมือนกัน  พอรู้เรื่องแก็สมากแล้วมันมองรถแก็สเป็นเหมือนปัญหาก้อนใหญ่เกินไปหรือไม่   แต่ผมแอบมองรถแก็สเราหลายคัน  ที่จะมาตั้งกระทู้เล่าเรื่องเสียหายอยู่  เพราะแอบติดตามดูอยู่หลายคัน    อยากเตือนอยากบอกแต่กลัวโดนเหมือนกัน  ว่าไปยุ่งไม่เข้าเรื่อง อิ.....  แต่ยังไงก็เอาใจช่วยกันอยู่นะครับ   หากแนะนำอะไรได้ตอนนั้นจะแนะนำครับ   เด๋วนี้ผมพูดตรงไปตรงมาเรื่องแก็สมากขึ้นเรื่อยเรื่อย  เพื่อส่วนรวมให้ได้ข้อมูลที่ไม่ค่อยมีใครกล้าเอามาพูด   หมูไม่กลัวน้ำร้อนอะ  Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy

รถ pajero เรรโจทย์มันแปลกว่ารถเก๋งมากเลย  และเป็นทางออกที่ดีมากให้เลือกหลากหลาย    เพราะลองคิดดู   เราสามารถเลือกได้ทั้ง   แก็ส เบนซิน  ดีเซล   ซึ่งในรถอื่น อาจเลือกได้แค่ เบนซินหรือ Lpg  ไม่มีดีเซลให้เลือก เหมือนรถเก๋ง Japan   และโจทย์เรื่องแก็สหรือน้ำมัน   คำตอบมันเลยช่วยให้คะแนนในเรื่อง LPG มากในเรื่อง  Km ละ 2 บาท กับ 4-5 บาท  ซึ่งห่างกันมาก    แต่หากจัดแบบ   2.5 Turbo ดีเซล VS V6 3000 LPG ละก็ ตัวเลขต่อ KM. กี่บาท  มันห่างกันนิดเดียว  เลยต้องเอาเรื่องรอบด้านมาคิดรวม   เพราะกินกันลงยากไม่ขาดลอย   ดีด้านหนึ่ง เสียด้านหนึ่งทีเดียว    เรื่องระยะทางการใช้กับการประกันเครื่องยนต์  จึงต้องเอามาพิจารณา ตามการใช้งานแต่ละ Case ด้วยอย่างละเอียดทีเดียว

แต่ถามว่าถ้า Punpun เลิกเล่น V6 LPG จะไปแล่นอะไร   ก็ V6 Body  ใหม่ในอนาคต + LPG อีกนั่นแหละ 




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 04, 2014, 05:05:14 pm โดย Punpun » บันทึกการเข้า

เพื่อประโยชน์โดยรวมของสมาชิก  เราจะทำต่อไป....
nu_ting
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40



อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 02:41:57 pm »

 suadyod
ป๋า punpun จัดเต็ม comment จริงๆ ครับ
บันทึกการเข้า
kong_za
Newbie
*

like: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 02:55:33 pm »

 Ok..

ป๋า PunPun ตอบไปหมดละครับ ไม่รู้จะเพิ่มเติมตรงไหนครับ

ผมก็ใช้ V6 ติดแก๊ส LPG อยู่ครับ ติดจากหงษ์ทองครับ

ใช้ดีครับ ดูแลบำรุงรักษาปกติครับ ตามระยะครับ ไม่เคยมีปัญหาอะไรรุนแรง

อัตราเร่งไม่จี๊ดจ๊าด ดึงรุนแรงหลังติดเบาะเหมือนพวกดีเซลควันดำๆนะครับ

ต้องกดเยอะๆ ให้รอบกวาดไปสูงซักหน่อย จะได้อัตราเร่งแบบไหลๆไปยาวๆจนไมล์ตัดเลยล่ะครับ

ราคาที่ป๋าได้มานั้นแพงไปครับ ผมออกรถป้ายแดงนะครับ แต่ไปแย่งชิงกับเค้ามาตอนมีส่วนลด 240000

รถผมราคาแค่ 1065000 เองครับ ดอกเบี้ย 0% 48 เดือน แต่ต้องจ่ายค่า Sub ดอกเบี้ยไปอีก 50000

รวมแล้วราคารถป้ายแดงของผม 1150000 ผ่อน 0% 48 เดือน ครับ

ถ้าดูแล้วชอบคันนั้นจริงๆก็ลองต่อเจ้าของดูครับ
บันทึกการเข้า
ป๋าตู่
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 183



« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 03:10:28 pm »

ก่อนซื้อปา ผมก็มอง V6 กะเอามาติดแก๊สเหมือนกัน เพราะเดิมใช้นิวแลนเซอร์ติดแก๊สอยู่ประหยัดมากๆๆ แต่เนื่องจากชอบความแรง มีกล่องต่างๆให้เล่นเยอะ เลยตัดใจไปคว้า 2.5 GT ซึ่งถูกกว่า V6หลายหมื่นมา ตอนนี้จ่ายค่าน้ำมันทีไหร่คิดถึงนิวแลนเซอร์ทูกที  Sad
บันทึกการเข้า

ID:3886 2.5 GT ช่วงล่าง Ozy Westcoast Monotube + สปริง Dobinson
pun191
Newbie
*

like: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 145



อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 04:08:39 pm »

ขออนุญาตเล่าแบบสั้นๆ นะครับ เพราะความรู้น้อย ออก2.5GT 4WD วิ่งไม่เร็วนักประมาณ 100-110 กม/ชม ติดกล่องคันเร่งป๋าแสบ อัตราการบริโภคน้ำมันคิดเฉลี่ยอยู่ประมาณ 1000 บาท 33ลิตร วิ่งได้350-370 กม.
บันทึกการเข้า
danupan
Jr. Member
**

like: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 438


« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 04:30:18 pm »

ถ้าใช้งานไม่มาก ผมว่าเล่น ดีเซลดีกว่าครับ ปัญหาจุ๊กจิ๊กไม่มาก เพราะถ้าเอา V6 ก็ต้องเอามาติดแก๊ส ประกันก็จะหาย แล้วก็ต้องมาคอยแก้ปัญหาเรื่องติดตั้งอีก
ไม่เหมาะสำหรับคนมีเวลาน้อย เพราะจะต้องเอาใจใส่มันมากหน่อย แต่ถ้าใช้งานมาก วิ่งเยอะ ก็แนะนำ V6 เพราะค่าเชื้อเพลิงแต่ กม. ถูกว่า

ส่วนผมมีทั้ง เก๋งเครื่อง 1.8 ติดแก๊ส และ น้องปาฯ ดีเซล ถ้าไปใหนไกลๆ เดินทาง 1-2 คน ผมจะเอา รถเก๋งไป แต่ถ้า ผู้โดยสารเยอะ ก็เอา ปาฯไป

ถ้าปาฯ มีปัญหาก็เอาเข้าศูนย์อย่างเดียว แต่ถ้า รถติดแก๊ส ระบบเครื่องยนต์มีปัญหา มันต้องมาปวดหัวกับร้านที่มักจะบอกว่า ไม่เกี่ยวกับแก๊ส แต่รถก็เคลมศูนย์ไม่ได้ ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับแก๊ส ก็ต้องไปเถียงกันอีกยาววววว



ถ้าวิ่งน้อย เอาดีเซล
ถ้าวิ่งเยอะ เอาเบนซิลติดแก๊ส
บันทึกการเข้า
Petchy
Jr. Member
**

like: 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 883



« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2014, 10:42:19 pm »

ผมใช้รถติดแก๊สมาก่อนออก v6 ตอนนี้ก็วิ่งมาจะสามหมื่นโลแล้วไม่เคยมีปัญหาเลยสักครั้ง ติดที่หงษ์ทอง ได้ประกันเครื่อง 100000 โลด้วย
ตอนติดมองว่าดีเซลเฉลี่ยกิโลละ 3 บาท  แก๊สโลละไม่เกิน 2 บาท แต่ตอนนี้ผมวิ่งได้ 1.7-1.8 บาท
ตีหยาบๆก็ห่างกันโลละบาท วิ่งเกิน 7 หมื่นโลก็เสมอตัวแล้ว ที่เหลือก็คือส่วนที่ประหยัดได้ ถ้าวิ่งสัก 300,000 โล แล้วค่อยขายเหมือนคันเก่า ก็ประหยัดค่าเชื้อเพลิงไป 230,000 บาทแล้ว เอาส่วนต่างไว้บำรุงรักษาได้สบายๆ
บันทึกการเข้า
trirat-th
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 10:08:09 pm »

หวัดดีครับป๋า ๆ ผมขอรายงานความคืบหน้า ตอนนี้ผมได้น้องปาv6/3000 สีขาว ปี2013 แล้วครับ รถวิ่งสามหมื่นกว่าๆ ภายนอกภายในสวยมาก ไม่มีรอยชนผมตรวจเช็คแล้วรถยังไม่เคยติดแก๊ส เจ้าของบอกว่ารถไม่ได้ใช้งาน ไม่ชอบติดแก๊ส และยังไม่หมดประกันศูนย์  แต่มีปัญหาที่หน้าจอสัมผัสจอด้านหน้า ใช้นิ้วกดตามเมนูและGPS แล้วใช้งานไม่ได้ แต่กดปุ่มด้านล่างใช้งานได้ GPS ใช้งานได้ เจ้าของบอกว่าไม่ค่อยได้ใช้เลยไม่รู้ว่ามันเสียแต่เจ้าของบอกผมว่าให้ไปเคลมศูนย์ได้(แต่ผมไม่รู้ว่าเคลมได้รึเปล่ารบกวนท่านผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำด้วยนะครับ) ค่าตัวน้องปา แปดแสนนิดหน่อย ส่วนเรื่องติดแก๊สผมติดต่อหงษ์ทองแล้ววันจันทร์จะเอาน้องปาไปติดแก๊ส ราคาหกหมื่นปลายๆ แต่ก็เอาเถอะจะได้สบายใจ ผมดีใจมากเลยครับที่ได้น้องปาตามความตั้งใจ.
      ขอบคุณป๋าๆในที่นี้ทุกท่านนะครับที่ให้คำแนะนำดีๆ  ผมติดแก๊สเสร็จแล้วจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบอีกครั้งครับ

                                                                                                                                                  Ok..
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 20 คำสั่ง