ในที่สุดน้ำมัน 95 แก็สโซฮอลล์ก็ชน 30 บาทแล้ว มาตามสัญญาเลย เด๋วเจ้าของกระทู้จะบอกว่า ไม่ยอมเชียร์ให้ติดแก็สเลย แต่เดาว่าตัดสินใจจะไปติดวันนี้พรุ่งนี้แล้วแน่เลย
วันนี้เรามาพูดกันให้ถึงรายละเอียดที่หลายคนอาจยังไม่เคยได้มองจุดนี้ในหลายจุดที่เปรียบเทียบข้อดี ข้อควรระวัง ข้อเสีย ของการติดแก็ส กับ Pa เรา ในมุมมองแบบนี้
เวลานี้ที่ 30 บาท/1 L
--- หากรถเราวิ่งแก็สได้ 7-8 km. /1L. (Lpg) ราคาสมมุติที่ 14.50 บาท ก็จะตกประมาณ 1.8 บาท/km. (อันนี้เป็นตัวเลขแบบดีมากมากไปเลย แต่รถผมแค่ 6km./1L)
--- ค่าใช้จ่ายที่กระทู้เก่าที่เลือกจากร้านดังที่กล่าวไว้น่าจะที่ 45000 ประมาณ หรือเท่าไรก็แล้วแต่ แต่เราจะเสียประกันเครื่องยนต์ที่ Mitsu ผูกพันอยู่กับเราที่ 100000 โล (within 3 years)
--- แต่ในกรณีนี้เลือกร้านดังก็อาจจะได้เงื่อนไขรถใหม่ ที่ทางร้านจะรับประกันในส่วนนี้ด้วยตนเองแทน (พูดให้ฟังง่ายก็คือเขาอาจ + ไว้นิดเหมือนกับทำประกันอื่นอื่น ซึ่งถือว่าเขา Offer ดีมากมาก หาได้ยากหรือหาไม่ได้ที่อื่น)
--- ที่ถามว่าเลือกถังแบบไหนดี ร้านนี้ส่วนใหญ่จะนิยมใส่ถัง Donut ให้เลย ก็จะมีการ Modify ตัดต่อระบบไอเสียน้อยหรือไม่แตะต้องเลยด้วยซ้ำ แนะนำให้ต่อรองเอาเหล็กกันชนหลังด้วย ในราคาแบบลดกันแหลก Promotion ในสภาวะแบบนี้เลย
--- ส่วนที่ผมเดานะ ผมว่ายี่ห้อที่บอกใบ้มา น่าจะเป็น ระบบ Prins หัวฉีด Kn9 ถัง 73 L Ener.. ถังมาจากเมืองนอก ไม่ใช่ไทย ถ้าไปต่างจังหวัดก็เอายางอะไหล่ย่อขนาดยางลงนิดก็ได้จะได้เล็กลง ใส่ท้ายรถไปด้วย
แต่การติดแก็ส สมมุติแบบดังกล่าวข้างต้น หากเป็นชุดดังกล่าว ก็อาจจะสบายใจเรื่องการเข้ามาปรับจูนได้ดี เพราะไม่ต่องดูแลตรงนั้นบ่อย แต่ต้องมาเปลี่ยนกรองตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายอีกด้วยให้สอบถามราคารอไว้ด้วยครับ เพราะกรองของระบบนี้ควรมาเปลี่ยนที่ร้านที่ติดตั้ง เพราะจะได้ดูแลเรื่องแรงดัน และดูแลในส่วนอื่นด้วย ไม่ควรเข้าร้านที่ไม่ได้ทำยี่ห้อนี้เลย เพราะแตกต่างจากระบบราคาที่ต่ำกว่ามากทีเดียว ต้องใช้ร้านที่ติดตั้งยี่ห้อนี้เลยจะดีกว่า แน่ละอย่าลืมต้นทุนในการเดินทางและเวลาที่เราต้องมาดูแลด้วย คิดออกมาเป็นตัวเงินในการประเมินผลความคุ้มด้วย เพราะเราจะต้องมีการ Service ทีนอกเหนือจาก 0 Mitsu ขึ้นมาอีกแห่ง
แต่หากเราไปติดยี่ห้ออื่นที่ราคาต่ำกว่ามากมาก เราจะไม่ได้ทั้งส่วนประกัน 100000 และคุณภาพของแต่ละ ECU ก็ต่างกัน โดยจะขึ้นอยู่กับ Human หรือช่างจูนติดตั้งเป็นเรื่องหลักทีเดียว ซึ่งต่างจากระบบที่ท่านกำลังจะไปติด และหากถูกดึงถูกชวนไปแบบนั้น อัตราเสี่ยงเรื่องเจอความผิดพลาดก็จะมีมากขึ้น ทุกที่ทุกอย่างมีอัตราเสี่ยงทั้งนั้น เสี่ยงที่จะไม่จบสมบูรณ์ทั้งระบบ และการติดตั้ง แต่เราก็จะเลือกที่จะให้มีอัตราเสี่ยงน้อยที่สุดเท่าทีทำได้ แต่ lkewise หวยยังดิ้นได้ อะไรอื่นก็น่าจะเช่นเดียวกัน เพราะเริ่มจากที่เราเลือกที่จะใช้พลังงานทางเลือก มันก็มีสัดส่วนเรื่องนี้ออกมาติดลบให้ก่อนอยู่แล้ว แต่เราก็เพียงแต่เลือกให้มีโอกาศน้อยที่สุด
ผมอ่านกระทู้ในห้อง Lpg นี้มาตั้งแต่เริ่มแรก ผมเห็นหลายคันติดมายี่ห้อไหนบ้าง และอีกไม่กี่วันก็มีการตั้งกระทู้ว่า ไฟ Engine ขึ้นแบบนั้นแบบนี้ เปลี่ยนนั่นนี่แบบนั้นแบบนี้ เข้าออกร้านเดิมอยู่หลายรอบ จนถึงขนาดไปต่อกันถึงสำนักงานเจ้าของสินค้าที่นำเข้ามาเลยก็มีเยอะ บางรายถึงขนาดอยากถอดทิ้ง เลิกกับยื่ห้อนั้นก๋เยอะ มันพูดยากเรื่องว่าติดอะไรที่ไหน ดี แต่ ก็อยากให้ข้อมูลมากกว่านี้ แต่ส่วนใหญ่มันก็เป็นความเห็นส่วนตัวไปซะหมด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบเน้นไว้นิดนึงว่า อย่างน้อยหากจะติดตอนนี้ก็ลองดูร้านที่ดังบอกใบ้มานั่นแหละก่อน ราคาแน่นอนสูงกว่าที่อื่นนิด แต่โดยรวมของเหตุผลที่ดี เรื่องส่วนต่างราคาก็ดูยุติธรรมดีสำหรับลูกค้าที่จะได้คุณภาพโดยรวม
แหม... อึดอัดจัง พอก่อนดีกว่า แต่อยากเน้นว่า เรื่องประกัน 100000 โลจากทางร้านนั้น ห้ามพลาดเด็ดขาด ไม่ว่ารถเราจะวิ่ง km. เลยกว่ากำหนดไปสักเท่าไรก็ตาม ยืนยันว่าต้องยอมให้เรา หากไม่ยอมไม่ติด ไม่งั้นจะมาจ่ายแพงกว่าทำไม
หมายเหตุ ผมเองและสมาชิกหลายท่าน ชอบถังแบบยางอะไหล่ที่ยังอยู่ที่เดิม แต่การติดถัง Donut ก็หมดปัญหาการเข้าไปแตะต้องระบบท่อไอเสียแบบ 100% ได้อย่างก็เสียอย่าง คะแนนเท่ากัน สำหรับผม แล้วแต่เจ้าของจะเลือก
แล้วห้ามบ่นว่าป๋า Punpun ทำไมมาเบรคเราไม่ให้ติดในตอนนี้นะ มีหลายอย่างที่จะแจงอีกแต่มัมีผลกระทบหลายฝ่าย ก็เอาแค่กลางกลางออกมาละกันครับ อย่ามองแค่ส่วนต่างจากการใช้ Lpg กับน้ำมันต่อ Km อย่างเดียวนะครับ มันมีค่าใช้จ่ายแฝงปนอยู่ในระบบแก็ส แะลการ Service ปรกติ และหากผิดพลาดจากระบบที่ดี และคุณภาพการติดตั้ง ค่าใช้จ่ายแฝงเหล่านี้จะเยอะตาม จากการสึกหรอของเครื่องยนต์อย่างสาหัสก็ได้ ในกรณีที่ผิดพลาดมากมากจากระบแก็ส และแน่ละการสึกหรอของเครื่องยนต์ที่มีโอกาศเกิดขึ้นจากระบบ Lpg ที่มาแทนน้ำมันก็ย่อมมีอัตตรา % สูงกว่าแน่นอน แต่หลายท่านก็รับได้เพราะใช้ Km ในการใช้งานมากมาก ส่วนต่างก็เลยวิ่งแซงค่าเสียหายเหล่านั้นมาก จนคุ้มพอ ลองคำนวณค่าเชื้อเพลิงแบบนี้นิดนะครับ
--- 1 ปี เราจะจ่ายค่าเชื้อเพลิง 95 G ที่เท่าไรโดยประมาณ ( ผมสมมุติที่ 18000 km = 18000 x 3 บาท = 54000 บาท )
--- 1 ปี เราจะจ่ายค่าเชื้อเพลิง LPG ที่เท่าไรโดยประมาณ ( ผมสมมุติที่ 18000 km = 18000 x 1.8 บาท = 32400 บาท )
ส่วนต่าง 21600 บาทต่อปี
หากตัวเลขนี้ตรงกับชีวิตประจำวันเรา ผมว่าเราหยุดเรื่อง Lpg ไว้อีกนิดนะครับ