บาร์เซโลนา VS เรอัล มาดริด "เอล กลาสิโก้"
วันเสาร์ที่ 21 เม.ย. นี้ครับผม... เดิมพัน “แชมป์” ฟุตบอลสเปน ระหว่างบาร์เซโลนากับเรอัล มาดริด สถิติสองทีมนี้เฉพาะในลา ลีกา โดยไม่นับรวมรายการฟุตบอลถ้วยหรือนัดอุ่นเครื่องนั้นมีจำนวน 163 นัด โดยเรอัล มาดริด ชนะ 68 เสมอ 41 บาร์เซโลนาชนะ 64 เรอัล ยิงได้ 264 บาร์ซ่ายิงได้ 255 ประตู จัดว่าเป็นเกมที่สูสี เข้มข้น และดุเดือดเป็นอย่างยิ่ง
** เกมนัดแรกที่ ซานติอาโก เบร์นาเบว ปรากฏว่าบาร์เซโลนาบุกมาถล่มเรอัล 3-1 แม้ว่า คาริม เบนเซมา ยิงนำก่อนน.1 แต่จากนั้นบาร์ซ่า
ทวงคืนสามประตูรวดจาก อเลกซิส ซานเชส, ชาบี และ เชสก์ ฟาเบรกาส
** ที่คัมป์ นู เมื่อปีที่แล้ว บาร์ซ่าชนะ 5-0 โดย ชาบี, เปโดร, บียาสองลูกและเจฟเฟรน
** โชเซ มูรินโญ ยังเอาชนะบาร์เซโลนาไม่ได้ในลา ลีกา ที่ทำได้เป็นแค่แชมป์ โกปา เดล เรย์ เท่านั้น
** ตารางคะแนนล่าสุดก่อนลงสนามแข่งขันนั้น บาร์เซโลนามี 81 แต้ม เรอัล มาดริด “จ่าฝูง” มี 85 แต้ม
** ผลงานในบ้านของบาร์เซโลนา ชนะ 15 เสมอ 1 แพ้ 0 ยิงได้ 64 เสีย 8
** ผลงานนอกบ้านบาร์เซโลนา ชนะ 10 เสมอ 5 แพ้ 2 ยิงได้ 32 เสีย 16
** ผลงานในบ้าน เรอัล มาดริด ชนะ 14 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 63 เสีย 18
** ผลงานนอกบ้านของเรอัล มาดริด ชนะ 13 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 44 เสีย 11
ฟอร์มและสภาพทีม
บาร์ซ่า- ผ่านเกมกลางสัปดาห์กับเชลซีในแชมเปี้ยนส์ ลีกแต่เมื่อดูเฉพาะลา ลีกา ตลอดเดือนมีนาคมนั้นถือว่าพวกเขาเร่งเครื่องในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเก็บชัยชนะรวด 10 นัดคว้า 30 แต้มเต็ม นั่นจึงทำให้ช่องว่างระหว่างเรอัล มาดริด ลดลงเหลือ 4 แต้มในท้ายที่สุด
นักเตะชุดล่าสุดนี้เดินทางกลับมาจากลอนดอนแล้วก็ได้โอกาสพัก 1 วัน จากนั้นซ้อมเบาๆวันศุกร์เพราะไม่มีความจำเป็นต้องซ้อมหนักอะไรเป็นเพียงการพักฟื้นร่างกายให้เข้าที่เข้าทางก่อนเจอเกมใหญ่กับเรอัล มาดริด คาดว่าตัวผู้เล่นคงเปลี่ยนไม่เกินสองตำแหน่งเท่านั้น
เรอัล มาดริด – พลาดท่าแพ้บาเยิร์น มิวนิค 2-1 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ปัญหาของพวกเขาล่าสุดคือฟอร์มตกลงไปจากเดิม โดยเฉพาะเสมอถึง 3 นัดทำให้แต้มหายไป 6 แต้ม บาร์ซ่าจึงไล่ทำคะแนนจี้มาจนมีโอกาสลุ้นแชมป์ใกล้เคียงกว่าเมื่อสองเดือนก่อนเยอะทีเดียว
ตัวผู้เล่นในเกมนี้คาดว่า โชเซ มูรินโญ น่าจะเปลี่ยนแนวรุกโดยใช้ อีกวาอิน ลงเล่นแทน เบนเซมา ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆนั้นคงเป็น มาร์เซโล ที่เล่นแบกซ้ายแทน โคเอนเทรา เปลี่ยนแค่สองตำแหน่งเหมือนกันกับบาร์เซโลนอกนั้นชุดเดิมทั้ง โอซิล, โรนัลโด และ แนวรุกอีกคนหนึ่งคือ ดิ มาเรีย
เมสซี VS โรนัลโด
มีการพูดถึงกันเยอะถึงสองนักเตะดาวยิงประจำทีมที่ทำได้ 41 ลูกเท่ากันอีกต่างหาก สองคนนี้ช่วยยิงประตูให้ทีมชนะอย่างไม่ยากลำบากอะไร โดยในจำนวนนี้มีการระบุว่า 41 ประตูนั้นได้มาจากส่วนไหนของร่างกายบ้าง ถ้านับรวมกันทั้งสโมสรและทีมชาติในหนึ่งซีซั่นนั้น เมสซี ยิงไป 63 ลูก ก่อนลงพบกับเชลซี ขณะที่ โรนัลโด ยิงไป 59 ลูกด้วยกัน
กลยุทธ์และผลที่คาด
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า – จัดว่ายอดเยี่ยมเอามากๆในการคุมทีมพบกับเรอัล มาดริด เขายังไม่แพ้ในลา ลีกา เลย โดยเฉพาะเมื่อต้องพบกับ มูรินโญ ในรอบปีที่ผ่านมาทุกเกม จะมีแค่บอลถ้วยนัดชิงชนะเลิศเท่านั้นที่แพ้ แนวคิดของ เป๊ป ที่ไม่เหมือนโค้ชคนอื่นของบาร์ซ่าคือ เน้นครองบอล...และเมื่อเสียบอลต้องแย่งคืนกลับมาเป็นฝ่ายครองบอลให้ได้เร็วที่สุด ดังนั้นจึงเห็นว่าโอกาสที่บาร์ซ่าได้ครองบอลมากถึง 70-80% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
พื้นที่อันตรายของบาร์ซ่าอยู่ที่หน้าเขตโทษคู่แข่ง..เมื่อใดก็ตามที่เปิดช่องว่าง เมสซี, ชาบี, อีเนียสต้า, อัลเวส กระทั่ง ฟาเบรกาส จะลงโทษทันที บาร์ซ่าจะเล่นแบบนี้ไม่ว่าเขาจะดัดแปลงระบบเป็น 3-4-3 หรือ 4-3-3 ก็ตาม
มูรินโญ – ยังเป็นปัญหาคาใจของ มูรินโญ ต่อไปเขายังเอาชนะบาร์เซโลนาไม่ได้ใน ลา ลีกา โอกาสมาถึงแล้วเกมนี้เขาคงวางแผนอย่างเต็มที่เพื่อหยุดบาร์ซ่าให้ได้ อย่างน้อยเสมอก็ไม่เสียเปรียบทำให้ช่องว่างไม่ลดลงและเท่ากับทำให้บาร์ซาตัดแต้มพวกเขาไม่ได้
มูรินโญ จะวางแผนระบบ 4-2-3-1 โดยเน้นการป้องกันแบบคุมโซนล่อให้บาร์ซ่าบุกเน้นผลเสมอ....จากนั้นมีเกมโต้กลับที่รวดเร็วเล่นงานกองหลังบาร์ซ่า นี้คือหัวใจสำคัญในการวางแผนการเล่นเกมนี้และไม่คิดมากกับผล ขอเสมอเท่านั้นโอกาสเข้าใกล้แชมป์ของพวกเขามีมากกว่าบาร์ซ่า เพราะถ้าแต้มไม่ลดพวกเขาคือผู้กำหนดสถานะการณ์ลุ้นแชมป์ แต่ถ้าหากแผนนี้เวิร์คถึงขั้นโต้กลับแล้วได้ประตู เป็นชัยชนะขึ้นมาเท่ากับพวกเขาทิ้ง 7 แต้ม ตรงนี้ยิ่งต้องบอกว่าการลุ้นแชมป์แทบจบ
ดังนั้น มูรินโญ วางแผนมาเล่น 1 แต้มเพื่อลุ้น 3 แต้ม โดยเน้นว่าต้อง “ไม่แพ้” เกมนี้
ผลที่คาด...บาร์เซโลนา เสมอ เรอัล มาดริด 1-1