ผมสั่งซื้อสายจาก eBay ครับ เลือกเอาแบบที่ Charge ได้ จะเห็นว่ามีตัวแปลงไฟเพิ่มมาด้วย
แต่ดันซื้อมาผิด... ไม่สามารถเสียบเข้าเครื่องเสียง Alpine ได้... แต่ใช้เสียบจอได้... แต่ผมยังไม่ได้รื้อแผงหลังจอเลย... ก็เลยซื้อมาใหม่
ที่หลังเครื่องเสียง Alpine จะเป็นแบบนี้ครับ ดังนั้นต้องซื้อสายให้ถูกนะครับ... หัวนี้จะใช้ต่อ iPhone หรือ iPod ซึ่งนำสัญญาณเสียง และสัญญาณควบคุม iPhone หรือ iPod จาก Alpine ได้เลย
หัวที่ถูกต้องจะเป็นสีฟ้าและเสียบเข้าพอดี สำหรับสายก็หาทางลอดออกด้านข้าง ตรงฝั้งด้านซ้าย และผมต่อ iPod มาวางตรงด้านล้างช่องเปิด ที่อยู่หน้าเกียร์ (ช่องที่มีฝาเิปิดได้)
เมื่อต่อ iPod เข้าเรียบร้อย หน้่าจอของ Alpine ก็จะขึ้นช่อง IPod ให้เราเลือกได้เลย โดยกด Mode จากสวิทช์ที่พวงมาลัย (DVD --> Tuner --> IPod)
เมื่อเลือก IPod ที่หน้าจอก็จะขึ้นชื่อเพลง หรือ ตาม Playlist ที่เราเลือก... ซึ่งสามารถเปลี่ยนเพลงได้จากสวิทช์ที่พวงมาลัยอีกเช่นกัน
ที่ผมชอบที่สุดคือเวลาเปลี่ยนเพลง เสียงจาก IPod จะเปลี่ยนได้ Smooth มาก คือค่อยๆ เบา และดังขึ้น ไม่ได้เงียบหายไปเหมือนเราเปลี่ยนเพลงจาก CD และอีกอย่าง เสียงจาก iPod ดีมากกกกกกกกกกกกกกก เทียบเท่า CD เลย...
ืัที่แน่ๆ คือ ดีกว่า MP3 ที่เล่นจาก Flash Drive มากมาย
ถ้าเราเลือกเล่นเพลงทั้งหมดจาก Playlist เราสามารถเปลี่ยน Playlist ได้โดยการกดปุ่ม เปลี่ยนเพลงค้างไว้...
เท่านี้เราก็สามารถใช้สวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัยได้อย่างคุ้มค่า...
แต่ผมเลือกแสดงเวลาที่ Alpine แทนการแสดงชื่อเพลง พอเรากด Mode ค้างไว้ Alpine ก็จะปิด แต่แสดงเวลา...
หากเราดับเครื่อง หรือปิดสวิทช์กุญแจ เจ้า iPod ก็จะดับตาม และเปิดตามทุกครั้งที่เราเปิดสวิทช์กุญแจ...
ปล. iPod ราคาไม่ไ้ด้แพงมาก ถ้าเทียบกับความคุ้มค่า ผมว่าดีเลย ในเีรื่องคุณภาพเสียง และการถอดไป Load เพลง...
ลืมไปเลยเีีรื่อง Write CD
ุ้ถ้าเพลงไหนที่ชอบมากๆ ผมจะทำเป็นไฟล์ .WAV และ้เก็บไว้ใน Playlist ที่ชอบ