Languages
หน้า: 1 [2] 3   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มีใครไม่อุด egr ไหมครับ  (อ่าน 11877 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
พ่อเจ้าปั้น@133
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 41


« ตอบ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 02:42:51 pm »

คิดว่าคงไม่อุดแน่ครับ

จนกว่าข้อมูลจะชัดเจนกว่านี้
บันทึกการเข้า
darkisumi
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 836


ปาเทาดำ No.0606 ไร่ขิง-สามพราน


อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 03:42:07 pm »

กำลังคืดจะอุดครับ พร้อมกันนี้จะจัดกล่องข้าวน้อยไปด้วยเลย
บันทึกการเข้า

ใครๆก็เรียกผมว่า "น้อง" เพราะผมชื่อ "น้อง"
MY2012 2WD GT, Suspension : Tein SuperStreet with EDFC
วุธ
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 59


« ตอบ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 03:56:46 pm »

ดีใจครับที่เวปนี้มีสมาชิกตั้งหัวข้อนี้ด้วย "มีใครไม่อุด egr ไหมครับ" และมีเพื่อนสมาชิก
เข้ามาบอกว่าไม่คิดจะอุด EGR กัน (ผมเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์แล้ว) ก็ยินดีด้วยครับกับ
รถ PJS ที่ไม่อุด EGR จากใจจริงเลยครับ

ผมให้ข้อมูลเพื่อเพื่อนสมาชิกที่คิดว่าจะไม่อุด EGR แล้วกันครับ(เป็นข้อมูลที่ผมเคยตอบ
เพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งในเวปนี้ที่ post หลังไมค์มาถามผมเรื่องการอุด EGR)

เครื่องยนต์รถ PJS เขาทดสอบในห้อง LAB ด้วยระยะทางประมาณ 3แสนกิโลเมตร แล้วถอด
ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทุกชิ้นมาทำการตรวจสอบตรวจวัดและหาค่าความสึกหรอชิ้นส่วนว่าผ่าน
หรือไม่ เพื่อที่ใช้เป็นข้อมูลการออกนโยบายรับประกันเครื่องยนต์ เท่าที่ทราบมาเครื่องยนต์
รถ PJS ผ่านสบายมากครับ และถ้าเปลี่ยนชิ้นส่วนและน้ำมันต่างๆ ตามที่คู่มือรถกำหนดเปลี่ยน
เครื่องยนต์ PJS สามารถทำได้ประมาณ 5แสนกิโลเมตร หรือ 13ปี(ขับรถวันละ 100กิโลเมตร)
แบบสบายไม่มีปัญหาแต่อย่างไรครับ

เราดูแลเครื่องยนต์รถ PJS ตามที่คู่มือระบุไว้ครับ อะไรที่คู่มือไม่บอกให้ใช้เราก็ไม่ต้องไปทำ
แต่เราต้องระวังและตรวจสอบ โดยห้ามเติมน้ำมันดีเซลคุณภาพต่ำที่แอบผสมในปั้มน้ำมันบาง
ที่และตรวจสอบน้ำมันเครื่องให้ดีเวลาซื้อมาเติมหรือเปลี่ยนถ่ายครับ น้ำมันเครื่องปลอมเป็น
อันตรายกับเครื่องยนต์มาก พ่อค้า EGR มักจะเอารูปเครื่องยนต์ที่มีคราบโคลนและสิ่งสกปรก
ภายในเครื่องยนต์มาบอกว่าเป็นเพราะ EGR ทั้งที่จริงเกิดจากน้ำมันเครื่องปลอม น้ำมันเครื่อง
คุณภาพต่ำ แต่งรถมากจนเครื่องยนต์รอบจัดเครื่องยนต์ร้อนมากทำให้สารเพิ่มประสิทธิ์ภาพน้ำ
มันเครื่องยนต์ไหม้ บางท่านก็เติมน้ำมันเครื่องเกินระดับที่กำหนดจนเกิดการเผาไหม้น้ำมันเครื่อง
มากเกินจนเกิดคราบโคลนจับชิ้นส่วนต่างๆ ในเครื่องยนต์ครับ

สรุปแบบตรงไปตรงมาครับ
- PJS เปิดขายในไทยมา 4ปี ยังไม่มีรายงานว่าพบเครื่องยนต์เสียหรือสึกหรอจากระบบ EGR เลยสักคัน
- ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์ตามที่คู่มือเขียนแนะนำไว้ครับ
- ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันดีเซลที่เติม ว่าได้มาตรฐาน ยูโร4หรือไม่ และปั้มน้ำมันไม่เติมอะไรลงไป
- ระวังน้ำมันเครื่องปลอม น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำที่ปรับแต่งด้วยสารเพิ่มประสิทธิ์ภาพแล้วนำมาขาย
- หมั่นคอยตรวจระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับเส้นสีแดงตามรูปนี้ครับ



ปล.
รถ PJS ทางมิตซูบิชิเขาก็ได้กำหนดไว้แล้ว เมื่อเรานำรถเข้าเปลี่ยนชุดสายพานราวลิ้นและลูกรอกสาย
พานราวลิ้น ก็ให้ดำเนินการตรวจสอบเครื่องยนต์ไปด้วย ซึ่งเราสามารถให้ช่างถอดล้างท่อรวมไอดีและ
ชุด EGR ไปด้วยได้เลย เพราะการเปลี่ยนสายพานและลูกรอกนั้น ก็มีการเปิดฝาเครื่องยนต์อยู่แล้ว
(ปัจจุบันนิยมกันมากเปลี่ยนสายพานลูกรอกและล่างท่อไอดีในครั้งเดียวกันประหยัดเงิน ประหยัดเวลา
และช่างจะได้ตรวจสอบได้ละเอียดไปเลย อันนี้ขอแนะนำ)  และโปรดระวังน้ำมันเครื่องปลอมครับทุก
วันนี้ปลอมจนดูดีกว่าของแท้ไปเสียแล้วนะครับ 
บันทึกการเข้า

ขอให้ช่วยกันแนะนำอย่ารักรถโดยการอุด EGR, ถอด catalysts แล้วขับรถนั่งสูดดมสารระเหยมลพิษที่รถตัวเองปล่อยออกมา
คนที่คุณรักอยู่ในรถ,คนอยู่นอกรถสูดดมไปเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เป็นการรักรถโดยทำร้ายตัวเอง, คนในครอบครัวและยังทำ
ให้บ้านเมืองสกปรก ปลูกต้นไม้ให้มากช่วยไม่ได้นะ คนกับต้นไม้มันเทียบกันไม่ได้ครับ
kanapot
Jr. Member
**

like: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 653


ID : 666

sudachannet@hotmail.co.th
« ตอบ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 04:51:16 pm »

ดีใจครับที่เวปนี้มีสมาชิกตั้งหัวข้อนี้ด้วย "มีใครไม่อุด egr ไหมครับ" และมีเพื่อนสมาชิก
เข้ามาบอกว่าไม่คิดจะอุด EGR กัน (ผมเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์แล้ว) ก็ยินดีด้วยครับกับ
รถ PJS ที่ไม่อุด EGR จากใจจริงเลยครับ

ผมให้ข้อมูลเพื่อเพื่อนสมาชิกที่คิดว่าจะไม่อุด EGR แล้วกันครับ(เป็นข้อมูลที่ผมเคยตอบ
เพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งในเวปนี้ที่ post หลังไมค์มาถามผมเรื่องการอุด EGR)

เครื่องยนต์รถ PJS เขาทดสอบในห้อง LAB ด้วยระยะทางประมาณ 3แสนกิโลเมตร แล้วถอด
ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทุกชิ้นมาทำการตรวจสอบตรวจวัดและหาค่าความสึกหรอชิ้นส่วนว่าผ่าน
หรือไม่ เพื่อที่ใช้เป็นข้อมูลการออกนโยบายรับประกันเครื่องยนต์ เท่าที่ทราบมาเครื่องยนต์
รถ PJS ผ่านสบายมากครับ และถ้าเปลี่ยนชิ้นส่วนและน้ำมันต่างๆ ตามที่คู่มือรถกำหนดเปลี่ยน
เครื่องยนต์ PJS สามารถทำได้ประมาณ 5แสนกิโลเมตร หรือ 13ปี(ขับรถวันละ 100กิโลเมตร)
แบบสบายไม่มีปัญหาแต่อย่างไรครับ

เราดูแลเครื่องยนต์รถ PJS ตามที่คู่มือระบุไว้ครับ อะไรที่คู่มือไม่บอกให้ใช้เราก็ไม่ต้องไปทำ
แต่เราต้องระวังและตรวจสอบ โดยห้ามเติมน้ำมันดีเซลคุณภาพต่ำที่แอบผสมในปั้มน้ำมันบาง
ที่และตรวจสอบน้ำมันเครื่องให้ดีเวลาซื้อมาเติมหรือเปลี่ยนถ่ายครับ น้ำมันเครื่องปลอมเป็น
อันตรายกับเครื่องยนต์มาก พ่อค้า EGR มักจะเอารูปเครื่องยนต์ที่มีคราบโคลนและสิ่งสกปรก
ภายในเครื่องยนต์มาบอกว่าเป็นเพราะ EGR ทั้งที่จริงเกิดจากน้ำมันเครื่องปลอม น้ำมันเครื่อง
คุณภาพต่ำ แต่งรถมากจนเครื่องยนต์รอบจัดเครื่องยนต์ร้อนมากทำให้สารเพิ่มประสิทธิ์ภาพน้ำ
มันเครื่องยนต์ไหม้ บางท่านก็เติมน้ำมันเครื่องเกินระดับที่กำหนดจนเกิดการเผาไหม้น้ำมันเครื่อง
มากเกินจนเกิดคราบโคลนจับชิ้นส่วนต่างๆ ในเครื่องยนต์ครับ

สรุปแบบตรงไปตรงมาครับ
- PJS เปิดขายในไทยมา 4ปี ยังไม่มีรายงานว่าพบเครื่องยนต์เสียหรือสึกหรอจากระบบ EGR เลยสักคัน
- ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์ตามที่คู่มือเขียนแนะนำไว้ครับ
- ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันดีเซลที่เติม ว่าได้มาตรฐาน ยูโร4หรือไม่ และปั้มน้ำมันไม่เติมอะไรลงไป
- ระวังน้ำมันเครื่องปลอม น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำที่ปรับแต่งด้วยสารเพิ่มประสิทธิ์ภาพแล้วนำมาขาย
- หมั่นคอยตรวจระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับเส้นสีแดงตามรูปนี้ครับ



ปล.
รถ PJS ทางมิตซูบิชิเขาก็ได้กำหนดไว้แล้ว เมื่อเรานำรถเข้าเปลี่ยนชุดสายพานราวลิ้นและลูกรอกสาย
พานราวลิ้น ก็ให้ดำเนินการตรวจสอบเครื่องยนต์ไปด้วย ซึ่งเราสามารถให้ช่างถอดล้างท่อรวมไอดีและ
ชุด EGR ไปด้วยได้เลย เพราะการเปลี่ยนสายพานและลูกรอกนั้น ก็มีการเปิดฝาเครื่องยนต์อยู่แล้ว
(ปัจจุบันนิยมกันมากเปลี่ยนสายพานลูกรอกและล่างท่อไอดีในครั้งเดียวกันประหยัดเงิน ประหยัดเวลา
และช่างจะได้ตรวจสอบได้ละเอียดไปเลย อันนี้ขอแนะนำ)  และโปรดระวังน้ำมันเครื่องปลอมครับทุก
วันนี้ปลอมจนดูดีกว่าของแท้ไปเสียแล้วนะครับ 
ของจริงมาแล้ว ชักจะยังไงแล้วเราจะอุดหรือไม่อุด แต่ก็ชอบมากที่ตรงไปตรงมา  ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลดี ๆ สำหรับป๋าๆ ที่อุดแล้วว่าไงครับผมเริ่มงงงงงแล้วครับ like
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 04:53:48 pm โดย kanapot » บันทึกการเข้า

Pajero Sport MY12 Brown Edition
30 December 2011
TON.HNK
Newbie
*

like: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 236


TON.HNK


อีเมล์
« ตอบ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 09:26:38 pm »

ดีใจครับที่เวปนี้มีสมาชิกตั้งหัวข้อนี้ด้วย "มีใครไม่อุด egr ไหมครับ" และมีเพื่อนสมาชิก
เข้ามาบอกว่าไม่คิดจะอุด EGR กัน (ผมเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์แล้ว) ก็ยินดีด้วยครับกับ
รถ PJS ที่ไม่อุด EGR จากใจจริงเลยครับ

ผมให้ข้อมูลเพื่อเพื่อนสมาชิกที่คิดว่าจะไม่อุด EGR แล้วกันครับ(เป็นข้อมูลที่ผมเคยตอบ
เพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งในเวปนี้ที่ post หลังไมค์มาถามผมเรื่องการอุด EGR)

เครื่องยนต์รถ PJS เขาทดสอบในห้อง LAB ด้วยระยะทางประมาณ 3แสนกิโลเมตร แล้วถอด
ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทุกชิ้นมาทำการตรวจสอบตรวจวัดและหาค่าความสึกหรอชิ้นส่วนว่าผ่าน
หรือไม่ เพื่อที่ใช้เป็นข้อมูลการออกนโยบายรับประกันเครื่องยนต์ เท่าที่ทราบมาเครื่องยนต์
รถ PJS ผ่านสบายมากครับ และถ้าเปลี่ยนชิ้นส่วนและน้ำมันต่างๆ ตามที่คู่มือรถกำหนดเปลี่ยน
เครื่องยนต์ PJS สามารถทำได้ประมาณ 5แสนกิโลเมตร หรือ 13ปี(ขับรถวันละ 100กิโลเมตร)
แบบสบายไม่มีปัญหาแต่อย่างไรครับ

เราดูแลเครื่องยนต์รถ PJS ตามที่คู่มือระบุไว้ครับ อะไรที่คู่มือไม่บอกให้ใช้เราก็ไม่ต้องไปทำ
แต่เราต้องระวังและตรวจสอบ โดยห้ามเติมน้ำมันดีเซลคุณภาพต่ำที่แอบผสมในปั้มน้ำมันบาง
ที่และตรวจสอบน้ำมันเครื่องให้ดีเวลาซื้อมาเติมหรือเปลี่ยนถ่ายครับ น้ำมันเครื่องปลอมเป็น
อันตรายกับเครื่องยนต์มาก พ่อค้า EGR มักจะเอารูปเครื่องยนต์ที่มีคราบโคลนและสิ่งสกปรก
ภายในเครื่องยนต์มาบอกว่าเป็นเพราะ EGR ทั้งที่จริงเกิดจากน้ำมันเครื่องปลอม น้ำมันเครื่อง
คุณภาพต่ำ แต่งรถมากจนเครื่องยนต์รอบจัดเครื่องยนต์ร้อนมากทำให้สารเพิ่มประสิทธิ์ภาพน้ำ
มันเครื่องยนต์ไหม้ บางท่านก็เติมน้ำมันเครื่องเกินระดับที่กำหนดจนเกิดการเผาไหม้น้ำมันเครื่อง
มากเกินจนเกิดคราบโคลนจับชิ้นส่วนต่างๆ ในเครื่องยนต์ครับ

สรุปแบบตรงไปตรงมาครับ
- PJS เปิดขายในไทยมา 4ปี ยังไม่มีรายงานว่าพบเครื่องยนต์เสียหรือสึกหรอจากระบบ EGR เลยสักคัน
- ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์ตามที่คู่มือเขียนแนะนำไว้ครับ
- ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันดีเซลที่เติม ว่าได้มาตรฐาน ยูโร4หรือไม่ และปั้มน้ำมันไม่เติมอะไรลงไป
- ระวังน้ำมันเครื่องปลอม น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำที่ปรับแต่งด้วยสารเพิ่มประสิทธิ์ภาพแล้วนำมาขาย
- หมั่นคอยตรวจระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับเส้นสีแดงตามรูปนี้ครับ



ปล.
รถ PJS ทางมิตซูบิชิเขาก็ได้กำหนดไว้แล้ว เมื่อเรานำรถเข้าเปลี่ยนชุดสายพานราวลิ้นและลูกรอกสาย
พานราวลิ้น ก็ให้ดำเนินการตรวจสอบเครื่องยนต์ไปด้วย ซึ่งเราสามารถให้ช่างถอดล้างท่อรวมไอดีและ
ชุด EGR ไปด้วยได้เลย เพราะการเปลี่ยนสายพานและลูกรอกนั้น ก็มีการเปิดฝาเครื่องยนต์อยู่แล้ว
(ปัจจุบันนิยมกันมากเปลี่ยนสายพานลูกรอกและล่างท่อไอดีในครั้งเดียวกันประหยัดเงิน ประหยัดเวลา
และช่างจะได้ตรวจสอบได้ละเอียดไปเลย อันนี้ขอแนะนำ)  และโปรดระวังน้ำมันเครื่องปลอมครับทุก
วันนี้ปลอมจนดูดีกว่าของแท้ไปเสียแล้วนะครับ 
...ชอบมากเลยครับ ป๋าสำหรับคำแนะนำ ส่วนตัวผมคงจะไม่อุดแน่นอน ข้อมูลที่ผมหามาได้ส่วนใหญ่รถใช้ในเมือง
จะเจอปัญหา ควันดำ!+วิ่งไม่ออก จากการสันดาปไม่หมดแล้วนำกลับไปเผาไหม้ใหม่จึงน่าจะพบปัญหาได้ง่ายกว่า
แต่ถ้าใช้งานตจว.เป็นประจำ คงจะไม่จำเป็น การสันดาปเครื่องยนต์น่าจะสมบูรณ์แน่นอน...  Cheesy  Cheesy  Cheesy  Cheesy  Cheesy
บันทึกการเข้า
โต
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 142


MY11 / 2.5GT 2W


« ตอบ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 10:08:10 pm »

ดีใจครับที่เวปนี้มีสมาชิกตั้งหัวข้อนี้ด้วย "มีใครไม่อุด egr ไหมครับ" และมีเพื่อนสมาชิก
เข้ามาบอกว่าไม่คิดจะอุด EGR กัน (ผมเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์แล้ว) ก็ยินดีด้วยครับกับ
รถ PJS ที่ไม่อุด EGR จากใจจริงเลยครับ

...
เครื่องยนต์รถ PJS เขาทดสอบในห้อง LAB ด้วยระยะทางประมาณ 3แสนกิโลเมตร แล้วถอด
ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทุกชิ้นมาทำการตรวจสอบตรวจวัดและหาค่าความสึกหรอชิ้นส่วนว่าผ่าน
หรือไม่ เพื่อที่ใช้เป็นข้อมูลการออกนโยบายรับประกันเครื่องยนต์ เท่าที่ทราบมาเครื่องยนต์
รถ PJS ผ่านสบายมากครับ และถ้าเปลี่ยนชิ้นส่วนและน้ำมันต่างๆ ตามที่คู่มือรถกำหนดเปลี่ยน
เครื่องยนต์ PJS สามารถทำได้ประมาณ 5แสนกิโลเมตร หรือ 13ปี(ขับรถวันละ 100กิโลเมตร)
แบบสบายไม่มีปัญหาแต่อย่างไรครับ
...

สรุปแบบตรงไปตรงมาครับ
- PJS เปิดขายในไทยมา 4ปี ยังไม่มีรายงานว่าพบเครื่องยนต์เสียหรือสึกหรอจากระบบ EGR เลยสักคัน
- ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์ตามที่คู่มือเขียนแนะนำไว้ครับ
- ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันดีเซลที่เติม ว่าได้มาตรฐาน ยูโร4หรือไม่ และปั้มน้ำมันไม่เติมอะไรลงไป
- ระวังน้ำมันเครื่องปลอม น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำที่ปรับแต่งด้วยสารเพิ่มประสิทธิ์ภาพแล้วนำมาขาย
- หมั่นคอยตรวจระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับเส้นสีแดงตามรูปนี้ครับ

 good good good like like like
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 10:10:05 pm โดย โต » บันทึกการเข้า
gen
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 10:24:47 am »

ขอบคุณสำหรับหลายๆความคิดเห็นครับ
บันทึกการเข้า
K.T.P.at PA
Newbie
*

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 145



« ตอบ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 10:38:31 am »

ใจก็อยากอุุดเพราะเห็นความสกปรกในไอดีแล้วคงจะเหนียวเหนะน่าดู.. u...อีกใจก็คิดว่าถ้าปอดเรา ลูกหลานเราถอดออกมาล้างได้อย่างเครื่องยนต์ก็คงจะดี... ยอดเยี่ยม...แต่ที่แน่ๆรถยังไม่ได้เลยครับ....55555 Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

art8new
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 87


art_tanupong@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 11:23:43 am »

ผมก็ไม่คิดที่จะอุดอยู่แล้วครับ ตั้งแต่ขับรถคันเก่า เจ้าวีโก้แล้วครับ ในคลับนู้นเค้าก็นิยมอุดกัน
มาเจอคลับนี้ก็นิยมอุดกัน แต่ผมคิดไว้อยู่แล้วครับว่ายังไงก็จะไม่อุดแน่นอนครับ
บันทึกการเข้า
BLUEJEANS
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20



« ตอบ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 04:33:56 pm »

ไม่อุดครับ   hi hi hi
บันทึกการเข้า

ดินแดนพระอาทิตย์ไม่ตกดิน
GUNT@NERY
Hero Member
*****

like: 306
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4939


อีเมล์
« ตอบ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 08:03:36 pm »

อาจไม่สอดคล้องกับความเห็นในกระทู้นี้ส่วนใหญ่ที่ไม่อุด เป็นปัญหาโลกแตกครับ ส่วนผมอุดครับ (วันที่ 2 ของการออกรถเลย วิ่งไม่ถึง 200 ก.ม.) เพราะคิดว่าตัดปัญหาตรงนั้นไปเลย เหยียบได้ดั่งใจขึ้นตอนออกตัว  และคงต้องช่วยปลูกต้นไม่  ลดการใช้ผลิตภันต์ที่มาจากไม้แทนครับ   u u
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2012, 10:32:51 am โดย GUNT@NERY » บันทึกการเข้า
P@Kaow
ID No.0612
Jr. Member
**

like: 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 690



« ตอบ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2012, 08:16:34 am »

จะอุดหรือไม่อุดEGRลองศึกษาจาก Web Mu7 ดู เขียนอธิบายและมีรูปประกอบให้ดู
และเหตุผลในการอุดกับไม่อุด ลองอ่านดูในหัวข้อ "D.I.Y. อุด EGR กันหรือยังครับ ? : สงสัยกันไหมครับ อุด EGR กันไปทำไม ?"
ส่วนผมออกจากศูนย์วันแรกก็อุดเลย


http://www.isuzu-users.com/smf/index.php?topic=1805.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2012, 11:54:07 am โดย P@BROWN » บันทึกการเข้า

ปาขาว 2.5GT 4WD MY 2012 รามอินทรา กม.8
http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=5807.0
คิดลบก่อน แล้วคิดบวกที่หลัง
oan
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142



« ตอบ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2012, 08:24:33 am »

ไม่อุด
และคงยังไม่อุด แถมยังไม่คิดอุดในตอนนี้ด้วยครับ

จนกว่าจะเจอปัญหา

ถ้าเจอ...ก็ล้าง ศูนย์รับทำครับ
แต่ถ้าล้างแล้วก็คงอุดครับ  Wink Wink

ฮ่าๆๆ อย่าเพิ่งงงครับ
คือตอนนี้ไม่อุด เพราะไม่ได้อุดแต่แรกออกจากศูนย์

รอให้มันตันก่อน ค่อยล้าง
ถึงตอนนั้นประกันน่าจะหมดพอดี

พอล้างเสร็จใหม่ปิ๊ง ก็จัดการอุดทันทีครับ...

เฮือกกก รอให้ตันเลยเหรอครับป๋า !!!
บันทึกการเข้า
Patum370
Jr. Member
**

like: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 448



« ตอบ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2012, 10:06:13 am »

เคยอุดครับ ตั้งแต่พันกิโลนิดๆ ตอนนี้สองหมื่นโลถอดแล้วครับ คือต้องการพิสูจน์ดูระหว่างอุดกับไม่อุดครับ ตอนอุดถามว่าลื่นขึ้นมั๊ยเวลาออกตัวหรือขณะวิ่ง ยอมรับว่าดีขึ้น 25% แต่ถ้าเราไม่บำรุงรักษาเครื่องยนต์ ผลก็ไม่แตกต่างกับไม่อุด ขณะอุดท่อไอเสียอาจแห้ง เพราะอุณภูมิของไอเสียร้อนมาก อากาศเป็นพิษก็คงมีค่าเพิ่มขึ้นลองดมกลิ่นดูนะครับแถมเขม่าที่ปลายท่อก็ยังมีไม่ได้ทำให้คิดว่าอุดแล้วควันจะไม่ดำ (เวลาขับตอนเหยียบหนักๆไม่มีใครได้เห็นตัวเองตูดดำหรอกครับ นอกจากคนอื่นที่ตามมาจะบอก ก็ต้องสังเกตปลายท่อเอา) หลังเลิกอุด ตอนเช้าขณะวอร์มเครื่องยนต์ เดินมาดูปลายท่อก็เห็นว่ามีไอน้ำเกาะนั่นแสดงว่าการทำงานของเครื่องยนต์สมบูรณ์  ควันก็ไม่ได้แห้ง ความร้อนจากท่อที่ออกมาลดลงมากๆ กลิ่นก็ไม่ได้เหม็นจนทำให้คิดว่าเป็นควันพิษมากมาย ทนได้ จากนั้นผมเช็ดคราบเขม่าที่ปลายท่อ(เป็นปลายท่อสแตนเลส)ให้สะอาด แล้วจัดการทำความสะอาดแอร์โฟล์วเซนเซอร์ด้วยน้ำยาและเป่าลม  ออกวิ่งใช้งานปกติท่อยังไม่ดำเลยครับ มีเห็นแต่เป็นฟิล์มเทาๆ ยังเห็นความใสของท่ออยู่นะครับ คือปลายท่อมันดำช้ากว่าเดิม เครื่องยนต์ก็วิ่งเดินลื่นๆเหมือนกัน ผมถึงบอกว่าถ้าบำรุงรักษาเครื่องยนต์ดีๆ ไม่ต้องอุดครับ ห่วงลูกหลานในอนาคตครับว่าเขาจะต้องทนอยู่กับอากาศที่เป็นพิษยังไง  ความเห็นส่วนตัวนะครับ
บันทึกการเข้า

ขับช้าลง ใจเย็นขึ้นเยอะ
Na ratchada
Hero Member
*****

like: 126
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3345



« ตอบ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2012, 10:48:10 am »

เคยอุดครับ ตั้งแต่พันกิโลนิดๆ ตอนนี้สองหมื่นโลถอดแล้วครับ คือต้องการพิสูจน์ดูระหว่างอุดกับไม่อุดครับ ตอนอุดถามว่าลื่นขึ้นมั๊ยเวลาออกตัวหรือขณะวิ่ง ยอมรับว่าดีขึ้น 25% แต่ถ้าเราไม่บำรุงรักษาเครื่องยนต์ ผลก็ไม่แตกต่างกับไม่อุด ขณะอุดท่อไอเสียอาจแห้ง เพราะอุณภูมิของไอเสียร้อนมาก อากาศเป็นพิษก็คงมีค่าเพิ่มขึ้นลองดมกลิ่นดูนะครับแถมเขม่าที่ปลายท่อก็ยังมีไม่ได้ทำให้คิดว่าอุดแล้วควันจะไม่ดำ (เวลาขับตอนเหยียบหนักๆไม่มีใครได้เห็นตัวเองตูดดำหรอกครับ นอกจากคนอื่นที่ตามมาจะบอก ก็ต้องสังเกตปลายท่อเอา) หลังเลิกอุด ตอนเช้าขณะวอร์มเครื่องยนต์ เดินมาดูปลายท่อก็เห็นว่ามีไอน้ำเกาะนั่นแสดงว่าการทำงานของเครื่องยนต์สมบูรณ์  ควันก็ไม่ได้แห้ง ความร้อนจากท่อที่ออกมาลดลงมากๆ กลิ่นก็ไม่ได้เหม็นจนทำให้คิดว่าเป็นควันพิษมากมาย ทนได้ จากนั้นผมเช็ดคราบเขม่าที่ปลายท่อ(เป็นปลายท่อสแตนเลส)ให้สะอาด แล้วจัดการทำความสะอาดแอร์โฟล์วเซนเซอร์ด้วยน้ำยาและเป่าลม  ออกวิ่งใช้งานปกติท่อยังไม่ดำเลยครับ มีเห็นแต่เป็นฟิล์มเทาๆ ยังเห็นความใสของท่ออยู่นะครับ คือปลายท่อมันดำช้ากว่าเดิม เครื่องยนต์ก็วิ่งเดินลื่นๆเหมือนกัน ผมถึงบอกว่าถ้าบำรุงรักษาเครื่องยนต์ดีๆ ไม่ต้องอุดครับ ห่วงลูกหลานในอนาคตครับว่าเขาจะต้องทนอยู่กับอากาศที่เป็นพิษยังไง  ความเห็นส่วนตัวนะครับ



สุดยอดข้อมูลและความเข้าใจที่ถูกต้องครับ    ป๋าได้ตั้ง  25% เลยหรอ   ผมว่าเหมือนๆเดิมแหละ    ไม่ได้คาดหวังความแรง     

** หลายท่านที่จะอุด  หรือจะเปิด    ควรอ่านข้อมูลเพิ่มเติมสักนิดแล้วตัดสินใจโดยการพิจารณาเอาเองครับ      การอุดและการเปิด  มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกัน   เป้าหมายต่างกัน   ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและความทันสมัย    บางครั้งก็สวนทางกับการดำรงชีพ

**อีกหลายท่านเชื่อว่า  รถอยู่ต่างจังหวัด  ไม่ได้วิ่งเข้าในเมือง    ใช้ขับทางยาว   น่าจะไม่มีผลอะไร    / และอีกหลายท่านที่ใช้งานในเมืองเช่นผม  แต่ก็ไม่ได้ขับแบบชิวๆ    ประมาณว่า   ว่างกด  ว่างส่ง   ไม่ปาด  ไม่ฝ่า   ไม่ทับ  ไม่บี้  ไม่จี้   ไม่เบา  บูสชูท  เทอร์โบทำงานตลอด   ก็อาจจะมีแค่คราบเขม่าในระบบท่อนั้น    ไม่ถึงกับเป็นเมือกข้นดำ   

**สำหรับรถในเมือง  หรือรถที่ใช้รอบต่ำบ่อยๆ   แต่ก่อนที่ กะบะ Club.net โลเลียบก็ถอดมาอุดกัน  เห็นกัน  ส่วนใหญ่เหมือนที่ตามรูปถ่ายมาให้ดูนั้นแหละ   

***สำหรับรถที่ขับรอบสูง    ก็มีแค่คราบเขม่า

***ฉะนั้นอุดหรือไม่อุด นั้น  รบกวนพิจารณาจากข้อมูลและความสมัครใจได้เลยครับ   กระทู้นี้ถือว่าแลกเปลี่ยน  ข้อมูลกัน  เพื่อความรู้และประสบการณ์

**ส่วนรถผมนั้น  ไม่ต้องถาม.....  ตั้งแต่วันแรกที่ออกมาจากศนย์แล้วครับ   กับมือช่างหนึ่ง กะบะ xx - club .net

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 21 คำสั่ง