มาแชร์ด้วยคนครับ แต่เป็นแนว เศษฐกิจพอเพียงนะ (ไม่มีตังนั่นเอง ฮ่าๆ) วิ่งจากป้ายแดง จวบจนเลขไมล์มหมุนวนมาแถวๆ 27xxxกม. อยู่ๆผ้าเบรคก็หมดเอาแบบดื้อๆ หมดแบบแทบไม่เหลือผ้าเบรค ก็เลยได้โอกาสจัดหาอุปกรณ์ช่วยหยุดล้อชุดใหม่เข้ามาแทนที่ของเดิมที่มีอาการ "เอาอยู่ยามปกติ แต่ไหลยามฉุกเฉิน" แล้วยิ่งพ่วงกล่องด้วยแล้ว " ไหลแบบ เทน้ำเทท่ากันเลยทีเดียว " แต่ด้วยงบประมานที่ค่อนข้างจำกัด ไม่สามารถ จัดหาอาวุธหนัก ได้แบบป๋าๆ ก็เลยมาลงเอยที่ อาวุธเบาแทน ดังนี้
- ผ้าเบรคหน้า ใช้ของ N Sport - Mu Spec ทนความร้อน 500c 1500 บาท
- จานเบรค เซาะกราววว เอ้ย ! !! เซาะร่อง เจาะรู size เท่าเดิม ของ Runstop 3300 บาท
- ค้ำหม้อลมเบรค Kiss Sport 11xx บาท
โดยเริ่มแรก ใส่เจ้า ค้ำหม้อลมเบรคก่อนเพียวๆ ไม่ต้องมีโซดา น้ำ จับคู่กับ เบรคเดิมๆ ติดรถ = ขับปกติ เบรคเบาๆไม่เห็นผล แต่กลับกันจะได้แรงเบรคช่วงย้ำลึกๆ มาพอสมควร กดหนักๆมีแรงเบรคมากกว่าเดิมๆ จังหวะฉุกเฉิน ยังมีก๊อกสองให้อุ่นใจ
ต่อมาก็มาซน จับ ผ้าเบรคหน้า N Sport - Mu Spec มาใส่ = ใส่แล้วแลดู จะดูดเท้ามากกว่าของเดิมติดรถ จังหวะแรกกดแล้วจะรู้สึกนุ่มเท้า ค่อยๆดูด จังหวะกดหนักๆ ปานกลาง ก็ยังดูดความเร็วลง "เร็ว" กว่าผ้าเบรคของเดิมติดๆ ส่วนจังหวะฉุกเฉิน กดหนักๆ ยังไม่มีโอกาสได้ลอง แต่เท่าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ช้าบ้าง รับสาวบ้าง ซิ่งบ้าง มุดบ้าง ก็ถือว่าทำได้ดีเลยททีเดียว ยังไว้ใจได้ตามสโลแกนของท่านนายกว่า " เอาอยู่" แน่นอนจ้า : )))
ต่อมา เลยขอมาลองจานเบรค จากไทยแลนด์แดนสยาม กับราคา OTOP กันบ้างจะได้ครบๆ ตามสเปคว่ากันว่า เนื้อโลหะดีีกว่าของ oem ติดรถ(เค้าว่างั้น) ระบายความร้อนดีกว่าเดิม 20% (เค้าว่างั้น) = ขับปกติ เร็วบ้างช้าบ้าง อันนี้ " เหมือนจะ " ดูดกว่าเดิม เพิ่มมาอีกนิดหน่อยเท่านั้น แต่ยังไม่มีโอกาสลองใช้หนักๆ โหดๆ สักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย ก็ยังมีร่องช่วยกวาดผงเขม่าผ้าเบรค ออกมาบ้าง ไม่ให้สะสมจนดำปี๋ + ได้ความสวยงาม จะการเจาะรู เซาะร่อง ฮ่าๆๆ
สรุปเบื้องต้น กับค่าเสียหาย ระดับหกพันมีทอนไปนั่งกินก๊วยเตี่ยวไก่ รอระหว่างทำเบรค ก็ ถือว่าคุ้มครับ สมราคาค่าตัว ประสิทธิภาพอาจจะไม่ได้ดีเกินหน้าเกินตา ราคา สักเท่าไหร่นัก แต่ก็เป็นการอัพเกรดระบบ ให้ดีขึ้นกว่าของเดิมๆ ในราคาที่ ย่อมเยาว์ เท่าที่จะสามารถหาได้ครับ : ))))
ผิดถูกประการได้ขออภัยด้วยครับ ถือว่ามาแชร์ๆกัน