ถ้าผมไปกล่าวพาดพิงใคร ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ
แต่ที่ผมจำความได้...ผมไม่เคยว่าร้ายใครเลยครับ
มีแต่เป็นฝ่ายถูกแอบกระทำด้านหลัง..ถ้าไม่มีพี่น้องผมมาบอกผมคงไม่ทราบอะไรเลยครับ
หวังว่าป๋ากิตติ คงเข้าใจผมนะครับ...ผมรักทุกท่านด้วยความจริงใจครับ
จากการคอมเม้นท์เรื่องเบรคของรถ ป๋าเอ๋...ผมไม่ทราบหรอกครับว่า ใครว่าอะไรยังไง
ผมก็ได้แต่ฟังข้อมูลมาอีกทีครับ....กราบขออภัย ถ้าทำให้ใครไม่พอใจ
........นิสัยผู้หญิง กระแนะกระแหน ผมและพี่น้องที่ผมรักและเคารพคงไม่มีครับ ขอบคุณป๋าโจ้ที่ให้เกียรติครับ
ผมกระโดดออกมาเร็วอย่างนี้หวังว่าคงไม่ทันที่จะมีใครไม่พอใจนะครับ
เรื่องที่ป๋าถูกกระทำลับหลัง นินทา หรือใส่ร้าย ผมก็รับรู้จากการเปรยๆของป๋าในบ้านหลังเก่าเป็นระยะๆ
และผมก็รู้ซึ้งดีถึงความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ
เนื่องจากว่าตัวเองก็เจออยู่และเรื่องก็ยังไม่จบ
ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์ให้ป๋าๆรับทราบเป็น case study แล้วกันนะครับ
ญาติผู้ใหญ่ผมท่านนึงได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากหน่วยงานราชการหน่วยงานนืง
(เพื่อกันความสับสน ต่อไปนี้ขอเรียกญาติท่านนี้ว่าญาติ A)
ญาติ A จึงได้ติดต่อหลานแกให้ช่วยเหลือ
(หลานแกท่านนี้นับญาติกันแล้วก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม ญาติๆกันทั้งน๊าน)
ขณะที่ลูกพี่ลูกน้องของผมท่านนี้วิ่งเต้นให้อยู่ ก็ได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการนั้นว่า เหตุที่ญาติ A เดือดร้อนเนื่องจากว่ามีคนแจ้ง
และชื่อของผมก็ได้ถูกพูดถึง (ผมทำธุรกิจชนิดเดียวกันกับญาติ A และมีร้านอยู่ใกล้กัน) ญาติ A เมื่อทราบข้อมูลก็โกรธแค้นผมมาก
ข่าวจริงเท็จแค่ไหนก็ไม่รู้แต่ก็ได้กลายเป็นจริงแท้ไปแล้ว และได้ถูกสื่อสารภายในเครือญาติอย่างรวดเร็ว
ผู้ต้องสงสัยถูกประหารชีวิตแล้ว
จนญาติผู้ใหญ่ของผมอีกท่านนึง (ญาติ B) ทราบเรื่อง เกิดความไม่สบายใจ จึงโทรหาผม
และถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบแกยังไง เพราะก็เพิ่งทราบเรื่องที่เราไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวจากแก
ใจก็คิดว่าในเมื่อเราไม่ได้ทำ ก็ไม่ต้องไปใส่ใจแก้ตัวอะไร อยู่เฉยๆเดี๋ยวความจริงก็ปรากฏ
แต่ญาติ B บอกว่าเรื่องมันใหญ่โตมาก ญาติ A เสียหายมาก และผู้ใหญ่อีกหลายๆท่านก็ไม่สบายใจ
ความจริงกว่าจะปรากฏก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ อยากให้ผม "ตามล่าหาความจริง"
ผมก็บอกว่างั้นก็ง่ายนิดเดียว วานให้ญาติ B ช่วยนัดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้หน่อย
เมื่อได้เผชิญหน้ากัน ยกเว้นลูกพี่ลูกน้องของผมเนื่องจากว่าแกเป็นคนที่ busy มาก วันนั้นนัดแกไม่ได้
ญาติ A startเครื่องได้ ก็ตะบี้ตะบันคันเร่งอย่างบ้าคลั่ง เกจ์วัดบู๊ทฟาดถึงขีดสุด smart guage ร้องแล้วร้องอีกเนื่องจากรอบเกิน
"ผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว หลานผมมีหลักฐาน คุณมันคนไม่มีญาติ รู้หน้าไม่รู้ใจ โหดเหี้ยมอำมหิต......"
ทั้งที่ผมทักท้วงเรื่องการสื่อสารอาจผิดพลาด อาจเข้าอะไรผิด หรืออาจเป็นการกระทำของมือที่สามก็ได้ แถวนั้นไม่ได้มีแค่เราสองคนที่ประกอบอาชีพนี้
แต่แกก็ไม่รับฟังและเชื่อมั่นในคำพูดของหลานแกมาก
(ใจผมก็คิดว่ากูก็หลานมึงเหมือนกันนะโว้ย)
จนสุดท้ายก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเสนอเรื่องสาบาน
ผมก็ ok ในขณะที่ผบท้วงว่าเราไม่ได้ทำทำไมต้องสาบานด้วย
ผมก็บอกผบไปว่า ตอนนี้แกเดือดร้อนสักขนาดนี้ แล้วถ้าเขาเชื่อถือในเรื่องอย่างนี้
ผมสาบานไปอาจทำให้จิตใจแกสงบลงบ้าง เผื่อสติแกจะได้กลับคืนมา
สรุปว่าผมก็ได้สาบานทั้งต่อหน้าสิ่งศักดิสิทธิในบ้าน และต่อฟ้าดิน Satu
ดูเหมือนญาติ A จะพอใจในระดับนึง แต่ก็ยังสังเกตุได้ชัดว่าเขาก็ยังเชื่อว่าผมเป็นคนทำ
ตอนนี้ก็เหลือแต่ต้องนัดลูกพี่ลูกน้องผมให้ได้ เพื่อหวังว่าความจริงจะมีความคืบหน้า
แต่ล่าสุดวันนี้ก็เพิ่งทราบว่าแกเดินทางไปต่างประเทศ ก็ได้แต่จองคิวนัดรอต่อไป หวังว่าคงไม่ต้องรอนานเหมือนป๋าๆที่รอน้องปา
อยากให้ปัญหามันจบ ก็ต้องหาทางแก้ครับ
หรือถ้าจะมองมันว่าไม่ใช่ปัญหา ก็ไม่ต้องไปสนใจมัน
ถ้าไม่แก้ แล้วก็ไม่เลิกสนใจ ใครทุกข์ละครับ
ส่วนเรื่องของผม มีคนทุกข์แน่ แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน