เรื่องของน้ำมันเกียร์นี่สำคัญกว่าน้ำมันเครื่องอีกนะครับเท่าที่ทราบมา
น้ำมันเครื่องมีหน้าที่หล่อลื่นลดการเสียดสี จะเติมขาดบ้าง เกินบ้าง ใช้เกินระยะบ้างไม่มีผลเสียเท่าน้ำมันเกียร์
น้ำมันเกียร์เป็นน้ำมันไฮดรอลิคใช้สร้างแรงดันให้แผ่นคลัชทำงานในแต่ละเกียร์ เติมขาดหรือเกินมีผลต่อการทำงานของเกียร์ทันที
เราจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามกำหนด หรือเร็วกว่ายิ่งดี เพราะเมื่อเราใช้งานจะเกิดฝุ่นผงจากแผ่นคลัชและส่วนที่สึกหรอทั่วไปตามปกติ
ถ้าเราใช้เกินกำหนดมากๆฝุ่นผงต่างๆนี้จะไปอุดตันที่กรองน้ำมันผลคือ แรงดันน้ำมันจะตกจนแรงดันไม่พอกดแผ่นคลัช คลัชจะลื่น
คราวนี้ละจะเป็นตัวเร่งความเสียหายละ เมื่อคลัชลื่นก็จะเกิดการเสียดสีผลคือเกิดความร้อนสูงทำให้น้ำมันร้อนจัดผ้าคลัชก็จะไหม้
ออกมาเป็นผงดำๆจนน้ำมันเป็นโคลนเลยละ คงนึกออกนะครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นเพื่อนสมาชิกอย่าได้ขี้เหนียวกับน้ำมันเกียร์เลย ได้ไม่คุ้มเสีย
อีกเรื่องเวลารถติดนานๆ หรือติดไฟแดง ควรเข้าเกียร์ N และเข้าเบรคมือไม่ต้องกลัวว่าเข้า D และ N บ่อยเกียร์จำสึกหรอเพราะ
ข้ำมูลจากผู้รู้ 80% ของเกียร์ออโต้ที่เสียคือเกียร์ที่ใช้น้อยที่สุดครับคือเกียร์ถอยนั่นเอง
ผมเห็นด้วยครับ ต้องดูแลให้ดีครับน้ำมันเกียร์สำคัญมาก ผมใช้ 20,000 โลผมเปลี่ยนเลยครับ เพราะถ้าเกียร์พังหลายเงินครับ รถแฟนผม SUZUKI Swift ใช้มาปีที่ 3 วิ่งไปแค่ 18,000 โล
ตอนปีแรกผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ 0 ศูนย์บอกยังไม่ต้องเปลี่ยน 40,000 โล ถึงเปลี่ยน ผมบอกถ้าเกียร์พังคุณรับผิดชอบไหม 0 เลยเงียบ รถเกียร์ออตโต้ผมว่ายิ่งใช้น้อยต้องดูระยะเวลาครับ
ถ้าใช้ถึง 40,000 โล เวลาถ่ายน้ำมันเกียร์คุณน่าจะไปดูว่ามันดำสกปรกขนาดไหน เพื่อนผมที่เป็นช่างเขาบอกว่า 40,000 โล เวลาเกียร์พังบริษัทมันจะรับผิดชอบไหม รถช่างเองเขาก็ยอม
เปลี่ยนที่ 20,000 (ช่างที่กรุงเทฯ) วันหนึ่งรถวิ่งกี่ชั่วโมงมันทำงานหนักมาก