Languages
หน้า: 1 2 [3]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ป๋าๆ มีวิธีการแต่งรถและการขับขี่เพื่อเน้นประหยัดน้ำมันยังไงกันบ้างครับ  (อ่าน 13505 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pajerosportman
PaTu (ตู๋)
Hero Member
*****

like: 201
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7902



อีเมล์
« ตอบ #30 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 01:45:14 pm »

ของกระผมยิดตามคำโบราณขอรับ........ช้า ช้า ดีเซล(ได้)อยู่(พร้า)กับเรานานๆ(เล่มงาม) good good good
บันทึกการเข้า
<=INDY=>
Jr. Member
**

like: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 360


PJS:362 ณ.จรัญ18


เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 02:14:56 pm »

ผมว่านอกเหนือจากวิธีในการขับขี่ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมว่ามันเปลี่ยนหรือควบคุมกันได้ค่อนข้างยากสสส์ แบบแนวๆว่า แป๊บๆสันดานเดิมก็กลับมาหรือไม่ก็มีการเผลอตัวเผลอใจไปตามจังหวะและอารมณ์ อีกวิธีหนึ่งที่มีประโยชน์คือ พยายามเช็คและตรวจสภาพรถครับ เช่น ระดับแรงดันลมยาง, อย่าเอาของที่ไม่จำเป็นไว้ในรถเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็นลง, ใช้ยางให้ถูกกับสภาพถนน, ศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง, เปิดแอร์ที่อุณหภูมิที่เหมาะสม, วอร์มเครื่องยนต์ก่อนเมื่อสตารท์ ประมาณนี้ครับ  yes!!
บันทึกการเข้า

- CHRISTIAN 145 -
golf3682
GOLF ครับผม
Jr. Member
**

like: 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 920


CHONBURI F.C.


อีเมล์
« ตอบ #32 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 02:36:38 pm »

ขับความเร็วคงที่ครับ เซฟสุด ๆ

แต่ที่ประหยัดสุด ต้องงดไปเที่ยวทุกอาทิตย์แล้วผม

ออกทุกอาทิตย์ บานเลยยยยยยยยยย
บันทึกการเข้า

sathapat
Hero Member
*****

like: 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2006


Paje Gaga


อีเมล์
« ตอบ #33 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 03:33:40 pm »

เกร็งแย่เลยครับ...
ผมติด LPG ขับสบยใจ...
บันทึกการเข้า
pajerosportman
PaTu (ตู๋)
Hero Member
*****

like: 201
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7902



อีเมล์
« ตอบ #34 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 03:37:46 pm »

เกร็งแย่เลยครับ...
ผมติด LPG ขับสบยใจ...
ว.100 ขออนุญาต อิจฉา ตาร้อน lpg............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2012, 03:43:33 pm โดย pajerosportman » บันทึกการเข้า
driller
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #35 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 05:32:48 pm »

ของผมลดน้ำหนัก เอายางอะไหล่ออก  คายไอเสียให้เร็วใส่ท่อแทนแคท ต่อไปจะขยายท่อหลังหม้อพักเป็น 3 นิ้ว ตอนนี้เดินทางไกลน่าจะโลละ 3 บาท ในเมืองประมาณ 3.2 บาท
การขับขี่ เดินคันเร่งน้อยๆ พอรอบเริ่มถึง2000 ก็ถอนคันเร่งเพื่อให้เกียร์เปลี่ยนเร็วขึ้น รู้สึกว่าเกียร์1 จะใช้รอบสูงถีงเกียร์จะเปลี่ยน(แต่รถก็ไม่ได้วิ่งมากขึ้น)หลังใส่แทนแคทรู้สึกว่าเกียร์ 1 จะลากรอบน้อยลงรถวิ่งขึ้น

 like
ป๋าครับ ถ้าจะลดน้ำหนักผมเห็นร้าน Akana fiber มีฝากระโปรงคาร์บอน ขายน่ะครับ อิอิ แต่ไม่รู้จะมีแก้มข้าง + ประตูทั้ง 4 บานแบบคาร์บอนเหมือนของไทรทันหรือเปล่านะครับ
เบาทั้งตัวเบาทั้งรถเลยทีนี้ อิอิ  Cheesy Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า
pajerosportman
PaTu (ตู๋)
Hero Member
*****

like: 201
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7902



อีเมล์
« ตอบ #36 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 05:36:52 pm »

ของผมลดน้ำหนัก เอายางอะไหล่ออก  คายไอเสียให้เร็วใส่ท่อแทนแคท ต่อไปจะขยายท่อหลังหม้อพักเป็น 3 นิ้ว ตอนนี้เดินทางไกลน่าจะโลละ 3 บาท ในเมืองประมาณ 3.2 บาท
การขับขี่ เดินคันเร่งน้อยๆ พอรอบเริ่มถึง2000 ก็ถอนคันเร่งเพื่อให้เกียร์เปลี่ยนเร็วขึ้น รู้สึกว่าเกียร์1 จะใช้รอบสูงถีงเกียร์จะเปลี่ยน(แต่รถก็ไม่ได้วิ่งมากขึ้น)หลังใส่แทนแคทรู้สึกว่าเกียร์ 1 จะลากรอบน้อยลงรถวิ่งขึ้น

 like
ป๋าครับ ถ้าจะลดน้ำหนักผมเห็นร้าน Akana fiber มีฝากระโปรงคาร์บอน ขายน่ะครับ อิอิ แต่ไม่รู้จะมีแก้มข้าง + ประตูทั้ง 4 บานแบบคาร์บอนเหมือนของไทรทันหรือเปล่านะครับ
เบาทั้งตัวเบาทั้งรถเลยทีนี้ อิอิ  Cheesy Cheesy Cheesy
กระผมคิดว่า ส่วนที่จะเบาต่อมาก็คือ กระเป๋าตังค์ของเรา ขอรับ
บันทึกการเข้า
sompothe
Newbie
*

like: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2014, 10:02:26 am »

เห็นว่ามีประโยชน์ครับ

“ถึงแม้ว่ารถเชฟโรเลตจะได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ แต่ตัวรถยังคงต้องได้รับการดูแลรักษาให้มีสภาพดีอยู่เสมอเพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” คุณสรัญญา ญาติเสมอ ผู้จัดการกลุ่มงานวิศวกร ฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

คุณสุพจน์ ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มการประหยัดน้ำมันได้ด้วยการปรับพฤติกรรม การขับรถและการใช้รถเพียงเล็กน้อย อาทิ การเติมลมยางให้เหมาะสมและไม่บรรทุกสัมภาระ ที่ไม่จำเป็นไว้ในรถ”

ตรวจสอบแรงดันลมยางก่อนใช้รถ

การเติมลมยางอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ให้มากขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับมีความปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ถ้ายางทั้งสี่เส้นมีลมอ่อนเกินไปหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ เพราะยางจะมีแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อนมากขึ้นจึงต้องใช้กำลังและเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อนตัวรถ คุณสุพจน์แนะนำว่าผู้ขับขี่ควรซื้ออุปกรณ์วัดลมยางและตรวจเช็คลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ยางรถยนต์ที่มีแรงดันเหมาะสมจะทำให้รถมีการเกาะถนนดี ส่งผลต่อการตอบสนองของพวงมาลัยและเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก

หลีกเลี่ยงการปรับแต่งขนาดล้อและยาง

ล้อที่มีขนาดใหญ่เต็มซุ้มล้อและยางแก้มเตี้ยจะเพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมันให้สูงขึ้น ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่จะเพิ่มแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อน เพิ่มน้ำหนักใต้สปริง และส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ ทำให้ใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้นและส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ ในกรณีร้ายแรงอาจเป็นอันตรายต่อการเบรกและการควบคุมรถ

ไม่บรรทุกสิ่งของน้ำหนักมากที่ไม่จำเป็นไว้ในรถ

คุณสุพจน์กล่าวว่าการขับขี่ทางไกลจำเป็นต้องมีการบรรทุกสัมภาระแต่ควรระวังไม่บรรทุกมากเกินไป เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รถต้องใช้กำลัง และเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อน ดังนั้นควรทำให้รถมีน้ำหนักเบาอยู่เสมอ การบรรทุกสัมภาระที่ไม่จำเป็นจะทำให้รถทำงานหนักเพิ่มขึ้นและใช้น้ำมันมากกว่าปกติ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 45 กก. จะเพิ่มอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง 2 เปอร์เซ็นต์ และมากกว่านี้ในรถขนาดเล็ก ราวหลังคา ที่มีการบรรทุกสัมภาระจะเพิ่มการบริโภคน้ำมันขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันประมาณหนึ่งลิตรจะถูก เผาผลาญในการขับเคลื่อนตัวรถให้ผ่านแรงเสียดทานอากาศ ดังนั้นรถที่มีการบรรทุกสัมภาระไว้บนหลังคาจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง

ดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ

ที่กรองอากาศและน้ำมันเครื่องที่สกปรก เซ็นเซอร์ออกซิเจน และหัวเทียนที่ทำงานผิดปกติ รวมถึงชิ้นส่วนที่บกพร่องอื่นๆ จะทำให้การบริโภคน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น เครื่องยนต์ที่มีการดูแลรักษา อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ การซ่อมแซมปัญหาทีมีความสำคัญอย่างเซ็นเซอร์ออกซิเจนจะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้สูงขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ การเปลี่ยน ไส้กรองที่อุดตันอย่างรุนแรงจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ คุณสุพจน์แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำ เพราะจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 1 – 2 เปอร์เซ็นต์ ผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยสัญญาณไฟเตือนให้เข้ารับบริการ ผู้ใช้รถเชฟโรเลตควรนำรถเข้าศูนย์บริการของเชฟโรเลตเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเติมของเหลวต่างๆ ที่ถูกต้องและใช้ชิ้นส่วนอะไหล่แท้

ตรวจสอบฝาถังน้ำมันอยู่เสมอ

ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นไม่เพียงแต่จะทำให้ “ไฟสัญญาณเตือนรูปเครื่องยนต์” ปรากฏขึ้นเท่านั้น ข้อมูลจากดิสคัฟเวอรี่ แชนเนล ยังระบุว่าจะทำให้น้ำมันระเหยไปโดยเปล่าประโยชน์เกือบ 518 ล้านลิตรต่อปี ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 1 – 2 เปอร์เซ็นต์

พิจารณาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผสม

การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเอทานอลจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลง รถเชฟโรเลต ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่นรองรับเชื้อเพลิง E20 ขณะที่แคปติวาและโซนิครองรับเชื้อเพลิง E85 ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซลเทอร์โบ ในโคโลราโด และเทรลเบลเซอร์จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

ขับรถให้ช้าลง

การขับรถออกตัวจะใช้น้ำมันมากกว่าการรักษาความเร็วรถให้คงที่ ผู้ขับขี่ควรเหยียบคันเร่ง ออกจากทางแยกหรือสัญญาณไฟจราจรอย่างนุ่มนวล การเร่งรถอย่างรวดเร็วจะใช้ความเร็วมากเกินความจำเป็นและการเบรกอย่างรุนแรง จะทำให้การประหยัดเชื้อเพลิงลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ บนถนนหลวงทางไกล และ 5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการขับขี่ในเมือง ความเร็วที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุดสำหรับ รถส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 65 – 100 กม./ชม. อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อขับรถด้วยความเร็วเกินกว่า 96 กม./ชม.

ใช้เกียร์สูง

ถ้าขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาอย่างเกียร์ 6 สปีดในเชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ คุณสรัญญาแนะนำให้ใช้เกียร์สูงเพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำซึ่งจะบริโภคน้ำมันน้อยกว่าแต่ไม่ควรขับขี่เช่นนี้มากเกินไปจนฉุดกำลังเครื่องยนต์หรือทำให้เครื่องยนต์ดับ ถ้าขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติ ควรผ่อนคันเร่งเล็กน้อย (ไม่ควรถอนคันเร่งออกทั้งหมด) ในจังหวะที่ระบบเกียร์ “เปลี่ยน” สู่เกียร์ที่สูงขึ้น รถเชฟโรเลตที่ใช้เกียร์อัตโนมัติทุกรุ่นใช้เกียร์แบบ 6 สปีด ซึ่งมีอัตราการทดเกียร์ที่สูงกว่า ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่และประหยัดน้ำมัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้สวิทช์ “Hold” ถ้าไม่จำเป็น

ตั้งสติและขับขี่อย่างนุ่มนวล

ถ้าหากรถของคุณมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือครูสคอนโทรลอย่างในเชฟโรเลต แคปติวา (รุ่น LT และ LTZ) ให้เปิดใช้ระบบนี้โดยเฉพาะเมื่อขับรถทางไกล ระบบครูสคอนโทรลจะช่วยป้องกันไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนดและช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันด้วยการเร่งและผ่อนความเร็วอย่างนุ่มนวล ระบบครูสคอนโทรลจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเกียร์โหมดประหยัดหรือโหมดออโต และไม่ควรใช้ครูสคอนโทรลเมื่อฝนตกหนักหรือขับรถบนพื้นถนนที่เปียกลื่น

ลดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือปรับเกียร์ลงจนกระทั่งรถจอดสนิท

การขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถแล่นไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ได้เพราะรถจะแล่นช้าๆ ไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ถ้าขับรถเกียร์ธรรมดา คุณสรัญญาแนะนำให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออกขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้เนื่องจากเครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมันและเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้เชื้อเพลิงมากกว่าถ้าปล่อยให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งว่างขณะรถจอดนิ่ง

หลีกเลี่ยงการจอดรถติดเครื่องยนต์นานเกินไป

หากคุณต้องขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด คุณสรัญญาแนะนำให้ดับเครื่องยนต์ การจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้จะเผาผลาญน้ำมันอย่างไร้ประโยชน์ การสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่จะใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยแต่การจอดรถติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 15 นาที จะเผาผลาญน้ำมันเกือบหนึ่งลิตร

ใช้ระบบปรับอากาศอย่างชาญฉลาด

การเปิดใช้ระบบแอร์ลดการประหยัดน้ำมันลง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสภาพอากาศภายนอกเอื้ออำนวย ผู้ขับสามารถปรับเพิ่มแรงลมให้สูงขึ้นแทนการปรับลดอุณหภูมิลง ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 64 กม./ชม. ผู้ขับสามารถปิดแอร์และเปิดหน้าต่างแทนได้ แต่ถ้าขับด้วยความเร็วเกินกว่า 72 กม./ชม. แรงฉุดของลมที่ไหลเวียนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์
บันทึกการเข้า
azure_abb
Jr. Member
**

like: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 765



« ตอบ #38 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2014, 10:45:47 am »

กินง่ายถ่ายคล่อง เหยียบก็มาจะได้ประหยัดครับ เริ่มที่ท่อไอเสียก่อนเลยครับ kiki
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
by Pajerosport-Thailand TEAM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.04 วินาที กับ 20 คำสั่ง