เอาการบ้านมาส่งอาจารย์ครับ
เดี๋ยวจะหาว่าลูกศิษย์ขออย่างเดียวไม่ยอมทำงานมาส่งอาจารย์มั่งเลย
ก็ใช้เวลาไปทั้งหมด 3 วัน กับโปรเจคของอาจารย์ กว่าจะรวบรวมอุปกรณ์ (ตัวสวิทช์ฝากระโปรงที่คอนหวันไม่มีขาย ได้มาตอนไปกรุงเทพเที่ยวล่าสุด นั่งแมงกะไซค์ไปซื้อที่วรจักร ให้รถรอแล้ววิ่งไปถามตามร้าน กว่าจะได้ร้านที่ 3 เจ๊หยิบมาให้ดู 4 แบบ เลือกมา 2 แบบ โชคยังดีใช้ได้ตัวนึง) กลับมาคอนหวันก็ไปหาซื้อสายไฟและ สวิทช์ on-off มาเพิ่มอีกตัวนึง (สวิทช์สีแดงกลมๆในรูปที่ 1) ต่อยอดจากของอาจารย์เวลาจะไม่ใช้ก็กดที่สวิทช์ได้เลย เพราะถอดสายลำบากอยู่ แถมอุปกรณ์ก็เกรดป๊อกแป๊กเหลือเกิน จะใช้งานได้นานแค่ไหนก็ยังไม่รู้เหมือนกัน กว่าจะเริ่มทำก็ดูเหลี่ยมอยู่วันนึง จากนั้นก็รอให้วิญญาณและอารมณ์ศิลปินเข้าร่างก่อนค่อยบรรเลง แล้วก็ทดสอบแบบลอยสายดูก่อนกันเหนียว
ก็เพิ่งจะมาเสร็จจริงๆเอาตอนบ่ายแก่ๆวันนี้เอง กว่าจะจูนตำแหน่งสวิทย์ฝากระโปรงให้มันเตือนตอนเปิดฝากระโปรงจากในรถก็เกือบถอดใจไปแล้วเหมือนกัน เพราะเหลืออยู่อีกไม่กี่เกลียวให้ปรับแล้ว งานนี้มาจ้างผมไปติดเฉพาะค่าแรง 1,000 บ. ผมยังไม่เอาเลย
สรุปหลังจากทดสอบเรียบร้อยก็ใช้งานได้ดีเยี่ยมครับ เหลืออยู่แต่ว่า อายุของอุปกรณ์มันจะทนทานแค่ไหนเท่านั้นเอง เอาไว้มีเวลาคงจะหาเวลาไปสะสมอุปกรณ์แบบดีๆหน่อยมาเตรียมไว้กันเหนียว ก็ขอขอบคุณ ป๋าซีสำหรับความรู้อันสุดยอดนี้ด้วยนะครับ ทำให้ผมเริ่มคุ้นเคยกะรถมากขึ้นด้วยเพราะต้องแกะ ต้องรื้อ กันบ้าง หนุกดีครับ ถ้ามีเวลาว่าง
อนึ่ง!ตอนที่ติดสวิทช์ที่ฝากระโปรง ผมเล็งดูจุดที่สวิทช์มันจะสัมผัสกับฝากระโปรง มันดันไปชนขอบยางที่ฝากระโปรงพอดีเลยครับ ผมก็เห็นสวิท์มันเป็นแท่งโลหะอาจจะไปทิ่มเจ้าขอบยางขาดจนได้สักวัน ก็เลยหาเทปแบบหนาๆไปแปะที่ขอบยางให้เป็นด่านหน้าช่วยกันไว้หน่อยไม่รู้ว่าจะ work แค่ไหนนะครับ แล้วพอไล่ดูเจ้าขอบยางไปเรื่อยๆก็ไปเห็นรอยหัวน๊อตประทับตราไว้ (รูปที่ 2) โดยเป็นน๊อตของเจ้ากระปุกน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ครับ (รูปที่ 3) ผมก็เลยเอาเทปแปะไว้ที่ตำแหน่งนี้เหมือนกัน (รูปที่ 2) เดี๋ยวใช้ไปสักพักจะดูว่า เจ้าเทปนี้มันจะช่วยได้จริงหรือเปล่า หรืออาจจะทำให้แย่ลง ก็คงต้องติดตามผลต่อไปครับ
.... จบข่าว.....
อ้อ!ถ้ามีเวลากับหาอุปกรณ์ได้ก็จะทำตัวกันขโมยยางอะไหล่ต่ออีกโปรเจคนึงด้วยครับ...